อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 426 การหายตัวไปของหยวนเป่า เขาเป็นคนวางแผน
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 426 การหายตัวไปของหยวนเป่า เขาเป็นคนวางแผน
เห็นเพียงสิ่งที่หยุนหว่านหนิงยื่นมา คือทองคำหนึ่งแท่ง!
ทองคำที่เหลืองอร่าม!
ทองคำที่จริงแท้แน่นอน!
สีหน้าของเถ้าแก่เปลี่ยนไปอย่างมาก มองดูนางด้วยความประหลาดใจ “แม่นาง ท่านหมายความว่าอย่างไร?”
เขารีบร้อนโบกไม้โบกมือ “นี่มันมีค่าเกินไปแล้ว! ไม่รู้ว่าแม่นางต้องการจะถามเรื่องอะไร? ท่านถามมาได้เลย หากเป็นสิ่งที่ข้ารู้จะตอบไปตามความจริงแน่นอน!”
เพียงแค่สอบถามเรื่องหนึ่ง ก็จะให้ทองคำหนึ่งแท่งเป็นการตอบแทน……
การค้าขายนี้ มันไม่ได้แตกต่างกับการโดนทองคำฟาดหัว เถ้าแก่ไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย
หรูอวี้เข้าไปใกล้ “ท่านนี้คือพระชายาของเรา พระชายาหมิงแห่งเมืองหลวง”
เสียงของเขาเบามาก เถ้าแก่กลับได้ยินอย่างชัดเจน!
แม่นางท่านนี้ ก็คือพระชายาหมิง? !
มารดาผู้ให้กำเนิดของพระนัดดาองค์โตเตี้ยนเซี่ย? !
ทันใดนั้น เถ้าแก่ก็รู้เจตนาการมาของหยุนหว่านหนิงแล้ว……หลังจากความตกตะลึงเขาก็เคารพนบนอบมากยิ่งขึ้น “พระชายามาเพราะเหตุใด ข้าน้อยทราบแล้ว”
เขามองดูนักดื่มสองสามคนที่ยังดื่มสุรากันอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พาหยุนหว่านหนิงขึ้นชั้นบนไปด้วยความเคารพนบนอบ
ไม่รอให้หยุนหว่านหนิงสอบถาม เขาก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ให้กับนาง
“ข้าสังเกตเห็นความผิดปกติ จึงรีบไปแจ้งทางการทันที! ใครจะรู้ว่าชายร่างใหญ่คนนั้นจะระมัดระวังตัวมาก ตอนที่ข้ากลับมาอีกครั้งพวกเขาก็จากไปแล้ว”
เถ้าแก่สีหน้าละอายใจ “เป็นเพราะข้าไม่ดีเอง”
“หากข้าสามารถสังเกตเห็นความผิดปกติเร็วกว่านี้หน่อย ไม่แน่ว่าอาจจะขวางพวกเขาเอาไว้ได้……”
ขณะที่พูดไป เถ้าแก่ก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่
สีหน้าของเขาไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่ ใต้ดวงตายังดำคล้ำ แสดงให้เห็นว่าไม่ได้นอนทั้งคืนเพราะความละอายใจ
ได้ยินคำพูดของเขา หยุนหว่านหนิงมีความมั่นใจถึงร้อยละแปดสิบสามารถยืนยันได้ว่า เด็กคนนี้ก็คือหยวนเป่า!
ร่างกายของนางสั่นเทาเล็กน้อย ตื่นเต้นจนพูดอะไรไม่ออก!
สีหน้าท่าทางของหรูอวี้ก็ตื่นเต้นผิดปกติเช่นกัน “พระชายา เด็ก เด็กคนนั้นต้องเป็นเตี้ยนเซี่ยแน่นอน! โจรลักพาตัวที่สมควรตายนั่น ต้องแปลงโฉมให้คุณชายน้อยแน่นอน!”
ดังนั้นพลทการตรงหน้าประตูเมือง ถึงไม่ทันสังเกตเห็นความผิดปกติ!
“พระชายา คุณชายท่านนี้กล่าวถูกแล้ว! ข้าก็สังเกตเห็นตอนที่ยกอาหารมาให้ สีผิวตรงด้านข้างริมฝีปากของเด็กคนนั้นแตกต่างออกไป”
เถ้าแก่กล่าวเสียงเบา “ถึงได้เกิดความสงสัยในใจ”
สีเหลืองเต็มใบหน้านั่น แค่เห็นก็เหมือนเอาอะไรมาทาขึ้นไป
สีดูผิดไปจากปกติมาก!
ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งเถ้าแก่ก็กล่าวเสริมขึ้นมาอีก “ใช่แล้ว พระชายาหมิงโปรดวางใจ! พระนัดดาองค์โตเตี้ยนเซี่ยดูแล้วปกติดีทุกอย่าง สภาพจิตใจก็ไม่เลวเช่นกัน!”
หยุนหว่านหนิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆเฮือกหนึ่ง ถึงได้ฝืนสงบสติอารมณ์ลงมา “เถ้าแก่ ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านทำ”
“ความเมตตาจิตของท่านต้องได้รับการตอบแทนที่ดีแน่นอน ตอนนี้ข้าไม่มีเวลาพูดมากแล้ว รอให้ข้ากลับมาค่อยขอบคุณท่านเป็นอย่างดีอีกครั้ง”
พูดจบ นางก็หันหลังจากไปเลย
นางสั่งให้หรูอวี้ไปรายงานโม่เยว่ ตัวเองไล่ตามออกไปนอกเมืองตามลำพังก่อน!
ระหว่างทาง นางมองหาเบาะแสอยู่ตลอด
โม่เยว่บีบบังคับผู้หญิงที่ถูกชายร่างใหญ่ทิ้งเอาไว้ให้รับสารภาพ ภายในระยะเวลาที่สั้นที่สุดแล้ว
ไม่ใช่เพราะหญิงนางนั้นเจตนาไม่ยอมสารภาพ แต่เป็นเพราะชายร่างใหญ่ตีหัวของนางจนบาดเจ็บ นางสูญเสียความทรงจำไป!
ดังนั้นสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ นางไม่รู้อะไรเลย……
หากหยุนหว่านหนิงอยู่ด้วย ยังสามารถคิดหาวิธีทำให้นางนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้
แต่โม่เยว่ไม่มีทักษะทางการแพทย์
เขาได้แต่สั่งการหยางกว่างเซิง กุมขังหญิงนางนั้นเอาไว้ในคุกใต้ดินต่อไป
ตอนที่โม่เยว่ไล่ตามหยุนหว่านหนิงทัน นางก็มาถึงที่ที่หยวนเป่าใช้ดินโคลนดับไฟแล้ว ในมือของนางถือก้อนหินที่มีรูปวาดเสือน้อยเอาไว้ และถูมันเบาๆ
นางเชื่อว่า หยวนเป่าจะต้องปลอดภัยอย่างแน่นอน!
นางเก็บก้อนหินเข้าไปในช่องว่าง น้ำเสียงแน่วแน่ “เดินหน้าต่อไปทางทิศทางนี้ คือสถานที่อะไร?”
หยางกว่างเซิงก็ตามหลังมาติดๆเช่นกัน
เขามองไปตามนิ้วมือของหยุนหว่านหนิง ครุ่นคิดอย่างละเอียดครู่หนึ่ง “พระชายา ข้างหน้าไม่ไกลออกไปเป็นหน้าผาแห่งหนึ่ง และใต้หน้าผาก็เป็นแม่น้ำใหญ่”
ดังนั้นข้างหน้า คือทางตัน
“ในเมื่อเป็นทางตัน พวกเขาจะต้องเดินอ้อมแน่นอน”
หยุนหว่านหนิงกำลังครุ่นคิด
นึกถึงคำกล่าวของเสวียนซันเซียนเซิง ชายร่างใหญ่คนนั้นเปลี่ยนทิศทางอยู่ตลอด
เบาะแสที่หยวนเป่าทิ้งไว้ตลอดทางก็ยืนยันข้อเท็จจริงนี้เช่นกัน
ชายร่างใหญ่คนนั้นเปลี่ยนทิศทางตลอด เส้นทางก็ซับซ้อน
หยุนหว่านหนิงหยิบแผนที่หนานจวิ้นออกมาจากช่องว่าง หลังจากที่ตรวจดูอย่างละเอียดแล้ว “ตามแม่น้ำสายนี้ขึ้นไป ก็จะกลับไปยังทิศทางเมืองอี้ ตามแม่น้ำสายนี้ลงเป็น คือเมืองเซียง”
ไม่ดูแผนที่ นางยังไม่สังเกตเห็นความผิดปกติ
แต่ทันทีที่ดูแผนที่ ถึงได้พบว่าสถานที่ที่ห่างไกลที่สุดของเมืองเซียง คือเขาซีเซียง!
ความคิดที่น่าตกใจอย่างหนึ่งแวบเข้ามาในหัวของนาง……
หยุนหว่านหนิงมองไปทางโม่เยว่ด้วยสายตาประหลาดใจ
“เป็นอะไรไปหนิงเอ๋อร์? สังเกตเห็นอะไรเข้าหรือ?”
โม่เยว่เห็นสีหน้าท่าทางของนางผิดปกติ รีบร้อนกล่าวถามขึ้นมา
หยุนหว่านหนิงมองไปที่หยางกว่างเซิงและคนอื่นๆครู่หนึ่ง ยื่นแผนที่ให้เขาด้วยมือที่สั่นเทา ใบหน้าของนางตึงเครียดไม่ได้พูดอะไร แต่นิ้วมือชี้ไปยังสถานที่แห่งหนึ่งแล้ว: เขาซีเซียง!
โม่เยว่เข้าใจความหมายของนางทันที
หรือว่าคนที่ลักพาตัวหยวนเป่าไป คือคนที่โม่หุยเฟิงส่งมา? !
ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ เป็นการกระทำของโม่หุยเฟิง? !
ทั้งสองมองหน้ากันครู่หนึ่ง มองเห็นความตกตะลึงในดวงตาของอีกฝ่าย
ไม่รอให้หยุนหว่านหนิงเอ่ยปาก โม่เยว่ก็ออกคำสั่งแล้ว “หรูโม่ พาคนมุ่งหน้าไปยังเมืองเซียง รวมไปถึงเขาซีเซียงทันที รักษาการณ์หน้าประตูเมืองเอาไว้ พบร่องรอยของหยวนเป่าเมื่อไหร่ให้ลงมือทันที!”
พลทหารคนนั้นก็บอกแล้วว่า ชายร่างใหญ่บอกว่าพวกเขาจะมุ่งหน้าไปขอพึ่งพาอาศัยญาติที่เมืองเซียง
ปลายทางสุดท้ายของพวกเขา ถึงแม้จะไม่ใช่เมืองเซียง ก็มีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะเป็นเขาซีเซียง!
หากทำทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นการกระทำของโม่หุยเฟิง……
ชายร่างใหญ่คนนี้จะต้องพาหยวนเป่าไปที่เขาซีเซียงแน่นอน!
เฝ้าเมืองเซียงกับเขาซีเซียงเอาไว้ เป็นไปได้อย่างมากว่าจะได้ตัวชายร่างใหญ่ ก่อนหน้าโม่หุยเฟิง!
หรูโม่รับคำสั่งทันที
หรูอวี้กล่าวถามด้วยความลังเล “นายท่าน หากได้ตัวชายร่างใหญ่แล้ว ควรจัดการอย่างไร? ข้าน้อยคิดว่า ชายร่างใหญ่นั่นต้องไม่ยอมรับสารภาพแต่โดยดีแน่”
“เก็บชีวิตมันเอาไว้ ข้าจะสอบสวนด้วยตัวเอง!”
โม่เยว่กล่าวออกมาทีละคำ
ความเย็นยะเยือกในดวงตาของเขา ราวกับน้ำแข็งพันปี ทำให้คนเกิดความรู้สึกหวาดกลัว!
เพียงแค่ประโยคเดียว หรูอวี้ก็เข้าใจแล้ว หากชายร่างใหญ่นั่นตกอยู่ในเงื้อมมือของนายท่านตัวเอง……เกรงว่าคงจะอยากตายก็ตายไม่ได้ อยากอยู่ก็อยู่ไม่ได้!
หรูโม่นำกำลังคนจากไปแล้ว
หรูอวี้ก็นำกำลังคน ไล่ตามชายร่างใหญ่กับหยวนเป่าไปตามแม่น้ำทันทีเช่นกัน
ความตึงเครียดในหัวของหยุนหว่านหนิง ก็ไม่กล้าผ่อนคลายลงแม้แต่ชั่วครู่เดียว
นางกับโม่เยว่ เดินทางต่อไป
แยกจากลูกชายมาสองวันสองคืนแล้ว
ไม่รู้ว่าในสองวันสองคืนนี้ ลูกชายต้องเจอกับเรื่องอะไรบ้าง……
นางไม่สามารถควบคุมความคิดฟุ้งซ่านของตัวเองได้ ในหัวเต็มไปด้วยความคิดที่ว่าหากลูกชายตกอยู่ในเงื้อมมือของโจรลักพาตัว กินไม่อิ่มใส่เสื้อผ้าไม่อบอุ่น ยังจะถูกทุบตีดุด่า
ไม่แน่ว่า ยังจะถูกตัดอวัยวะอะไรเช่นนี้
ไม่อย่างนั้นก็ถูกแก๊งค้ามนุษย์ขายทิ้ง……
อย่างไรเสีย ความเป็นไปได้ที่น่ากลัวทุกประเภทนางล้วนเคยคิดถึงแล้ว
ตอนนี้คาดเดาว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นการกระทำของโม่หุยเฟิง นางกลับรู้สึกโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง
อย่างน้อยภายในระยะเวลาอันสั้นนี้ โจรลักพาตัวนั่นไม่กล้าทำอะไรหยวนเป่า!
ขอเพียงชิงตัดหน้าช่วยหยวนเป่าเอาไว้ให้ได้ก่อน ไม่ให้เขาตกไปอยู่ในเงื้อมมือของโม่หุยเฟิงทุกอย่างก็ราบรื่นแล้ว
แผนการของโม่หุยเฟิงในครั้งนี้ ไม่รู้ว่าเหตุใดหยุนธิงหลานถึงไม่เขียนจดหมายมาบอกนางก่อน แต่ความโกรธแค้น เกลียดชังที่นางมีต่อโม่หุยเฟิง มันเข้ากระดูกดำไปแล้ว!
โม่เยว่กับโม่หุยเฟิง ก็จะแตกหักกันอย่างสิ้นเชิงเช่นกัน!
……
หยุนหว่านหนิงคาดเดาได้ถูกต้อง ชายร่างใหญ่พาหยวนเป่าเปลี่ยนเส้นทางจริงๆ เปลี่ยนไปใช้เส้นทางน้ำแทน
หลังจากขึ้นเรือ ลอยอยู่บนผิวน้ำแล้ว หยวนเป่าก็ตกที่นั่งลำบาก
เขาควรจะทิ้งเบาะแสให้ท่านแม่และคนอื่นๆอย่างไร? !
มองดูคลื่นซัดสาดที่ขยายวงกว้างออกไปบนผิวแม่น้ำ หยวนเป่าคิดพิจารณาซ้ำไปซ้ำมา
ไม่ช้า เขาก็คิดวิธีดีๆได้……