อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 90 ชาติกำเนิดของหยุนธิงธิง
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 90 ชาติกำเนิดของหยุนธิงธิง
ใครก็คิดไม่ถึง จู่ๆหยุนหว่านหนิงก็ลงมือทำร้ายหยุนธิงหลาน
นางถูกบีบคอไว้ ต่อให้หยุนธิงหลานดิ้นรน แต่ก็ดิ้นไม่หลุดจากมือของนาง ใบหน้าเรียวเล็กค่อยๆแดงก่ำ
นางเฉินหวั่นใจ ไม่กล้าพูดจาเจ้าสำนวนอีก
“เจ้าอย่าทำร้ายหลานเอ๋อร์ ข้าบอกทุกอย่าง…..”
นางคุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยสีหน้าขาวซีด พร้อมพูดขึ้นว่า “ธิงธิง ไม่ใช่ลูกสาวของข้า”
“เจ้าว่าอะไรนะ?”
คนที่หันมาเป็นคนแรกคือหยุนเจิ้นซง เขายกมือฟาดตบหน้านางเฉิน พร้อมถามขึ้นอย่างโกรธโมโหว่า “เจ้าพูดว่าอะไรนะ? เจ้าพูดมาอีกทีสิ”
เห็นได้ชัดว่าเขาลงมืออย่างรุนแรง
นางเฉินถูกฟาดตบจนล้มกองลงบนพื้น อย่างหน้ามืดตามัว
นานสักพักค่อยลุกขึ้นมาอย่างโซเซ แต่มุมปากก็มีเลือดไหลแล้ว
“นายท่านอย่าเพิ่งตื่นเต้น เรื่องนี้ข้ามีความจำเป็น”
หยุนธิงธิงร้องไห้ไม่ออกแล้ว นั่งอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าตื่นเต้น ฟังนางเฉินค่อยๆเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนั้น
“ตอนนั้นหลังจากที่นายท่านจากไป ไม่รู้ว่าทำไม จู่ๆตัวลูกก็บวมช้ำ ไม่นานก็ขาดใจ ข้ากลัวนายท่านจะรับไม่ได้ จึง…จึงไปอุ้มเด็กมาคนหนึ่งกลับมา”
เด็กคนนี้ก็คือหยุนธิงธิง
ฟังเสร็จ นางก็อึ้งตะลึงลาน
ที่แท้ นางไม่เพียงไม่ใช่ลูกนางเฉิน ยังไม่ใช่ลูกหยุนเจิ้นซงด้วยหรือ?
นางเฉินในตอนนั้น กล้าเหิมเกริมเกินไปแล้ว
ไม่กลัวหยุนเจิ้นซงจับได้หรือ?
หยุนหว่านหนิงมองดูนางอย่างตกตะลึงแวบหนึ่ง
เรื่องในคืนนี้ เดิมนางเพียงแค่ล่อนางเฉิน นางเองก็ไม่มั่นใจ หยุนธิงธิงไม่ใช่ลูกของนาง…..แต่ใครจะไปรู้ นางกลับสามารถล่อความจริงออกมาได้?
หยุนธิงหลานไม่มีลักษณะท่าทีตกตะลึง
เห็นได้ชัดว่า เรื่องรู้นี้แต่แรกแล้ว
“ข้าไม่ใช่ลูกสาวของพวกท่าน?”
หยุนธิงธิงหันมามอง พร้อมพูดขึ้นอย่างสับสนว่า “พ่อแม่ของข้าเป็นใครกันแน่?”
นางเฉินอ้ำอึ้งไม่ยอมพูด
“เจ้าไม่กลัวว่า หลังจากธิงธิงเติบโตแล้วหน้าตาไม่เหมือนยิ่งกั๋วกง คนอื่นจะสงสัยหรือ?”
หยุนหว่านหนิงถามด้วยเสียงเข้ม
นางเฉินก้มหน้าก้มตา เห็นได้ชัดว่าหลบสายตานาง ไม่กล้าที่จะตอบคำถาม ท่าทีแบบนี้ ยิ่งทำให้หยุนหว่านหนิงสงสัย
นางหยิบถ้วยน้ำชาถ้วยเปล่ามาหนึ่งใบ รินน้ำเย็นจากกาน้ำพร้อมเดินไป แล้วล้วงเอามีดสั้นออกมาจากแขนเสื้อ
เห็นนางพกมีดสั้นติดตัว ทุกคนแทบหยุดหายใจ
พระชายาหมิงคนนี้ อาจหาญมากจริงๆ
มีพระชายาคนไหนเป็นเหมือนนาง พกมีดสั้นติดตัวอยู่ตลอดเวลา
เห็นนางเดินมาใกล้เขา สายตาหยุนเจิ้นซงฉายแววหวาดกลัว ก้าวถอยหลังไปสองก้าวอย่างไม่รู้ตัว สายตาจ้องมองมีดสั้นในมือเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้า เจ้าคิดจะทำอะไร?”
หยุนหว่านหนิงไม่ตอบ
นางตวัดมีด…..ได้ยินเพียงเสียงร้องเจ็บปวดของหยุนเจิ้นซง
นิ้วมือของเขาถูกบาด เลือดไหลลงแก้วน้ำชาสองหยด
“เจ้าทำอะไร?”
หยุนเจิ้นซงกุมมือขมวดคิ้วด้วยสีหน้าเจ็บปวด
“แค่เอาเลือดของเจ้าสองหยด ไม่ถึงตายหรอก”
หยุนหว่านหนิงไม่มองเขาอีก เดินมาหาหยุนธิงธิง พร้อมพูดขึ้นอย่างอ่อนโยนว่า “ธิงธิง ขอเลือดสองหยด”
ผ่านเรื่องเมื่อคืนมา หยุนธิงธิงเชื่อมั่นในตัวนางแล้ว
นางไม่พูดอะไร หยิบมีดสั้นขึ้นมาบาดนิ้วตัวเอง แล้วเลือดก็ไหลลงไปในแก้วน้ำชา
ทุกคนมองดูนางอย่างไม่เข้าใจ
สายตาหยุนหว่านหนิง กลับจ้องมองเลือดในถ้วยน้ำชา แล้วเห็นเลือดของหยุนเจิ้นซงกับหยุนธิงธิง ผสานร่วมกันอย่างรวดเร็ว
สายตานางอึ้ง
หยุนธิงธิงเป็นลูกสาวของหยุนเจิ้นซง แต่ไม่ใช่ลูกสาวนางเฉิน
นี่หมายความว่าอย่างไร?
สายตาหยุนหว่านหนิงหันไปมองนางเฉินอย่างเฉียบคม พร้อมถามขึ้นว่า “แม่ของธิงธิง เป็นใครกันแน่?”
ตอนนี้สามารถมั่นใจได้ว่า หยุนธิงธิงน่าจะเป็นลูกนอกสมรสของหยุนเจิ้นซง แล้วนางเฉินรู้เรื่อง
แต่เขาไม่บอกหยุนเจิ้นซง
นางเฉินไม่ตอบ
จนมีดสั้นในมือหยุนหว่านหนิง จ่อไปที่คอหยุนธิงหลาน
เอาชีวิตหยุนธิงหลานมาข่มขู่นางเฉิน เป็นวิธีที่ใช้ได้ผลดีที่สุด
นางเฉินรีบก้มหน้าลง พร้อมพูดขึ้นว่า “ตอนนั้นแม่ของเจ้าเป็นผู้หญิงหอนางโลม หลังจากนายท่านไถ่ตัวกลับมา ก็อาศัยอยู่ในจวนที่นายท่านสร้างให้ข้างนอก”
“เดิมนายท่านคิดว่าข้าไม่รู้เรื่องนี้ ที่จริงข้ารู้ทุกอย่าง”
“ต่อมาข้ารู้ว่าแม่ของเจ้าตั้งครรภ์ จึงจุดไฟเผาจวนนั้น”
“แม่ของเจ้าโชคดีหนีไปได้ นายท่านกลับคิดว่านางตายไปแล้ว….ตอนนั้นนางใกล้คลอด ข้าก็ใกล้คลอด”
โชคชะตาฟ้าลิขิต มีบางเรื่องก็เกิดขึ้นอย่างบังเอิญเช่นนี้
ลูกสาวนางเฉินตายไป จึงอุ้มลูกสาวของหญิงหอนางโลมกลับมา ซึ่งก็คือหยุนธิงธิง มาเป็นลูกสาวของตน
และทุกอย่างนี้ หยุนเจิ้นซงไม่รู้เรื่องเลย
คำพูดของนางเฉินในตอนนี้ เขานิ่งอึ้งไปเลย
เขานั่งนิ่งอึ้งอยู่บนเก้าอี้ แลดูแก่ลงไปเป็นสิบปี ไม่พูดไม่จา
ส่วนหยุนธิงธิงนั้นยับยั้งไม่ไหว ลงจากเตียงมาอย่างโซเซ คว้าจับตัวนางเฉินไว้แน่น พร้อมถามขึ้นมาอย่างเจ็บปวดว่า “แล้วแม่ของข้าล่ะ? แม่ของข้าล่ะ?”
“แม่ของเจ้าตายแล้ว”
นางเฉินพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “ข้าสั่งคนไปแย่งลูกของนาง นางไล่ตามมาด้วยเท้าเปล่า”
“ตอนกลางคืนมองเห็นทางไม่ชัด พร้อมหิมะหนาทับถมถนนลื่น นางลื่นล้มตกลงไปในคลอง”
อากาศหนาวเย็นขนาดนั้น ยังเพิ่งคลอดลูกด้วย ต่อให้มีคนช่วยขึ้นมา ก็ไม่มีประโยชน์
แต่นางเฉินไม่คิดที่จะช่วย
แม่ของหยุนธิงธิงตายแล้ว ยังไงก็ไม่มีหลักฐานยืนยันว่า หยุนธิงธิงไม่ใช่ลูกสาวของนาง
นางเป็นลูกนอกสมรสของหยุนเจิ้นซง ต่อให้เติบโตแล้วหน้าตาไม่เหมือนนาง แต่ก็เหมือนหยุนเจิ้นซง….ดังนั้นหลายปีมานี้ จึงล้วนพูดว่าหยุนธิงธิงหน้าตาเหมือนหยุนเจิ้นซง
ตัวหยุนเจิ้นซงเองก็ไม่เคยสงสัย
ถึงเขาจะไม่รักหยุนธิงธิง แต่ความเป็นสายเลือดเดียวกันนั้น ฝังลึกอยู่ในใจ
เรื่องในวันนี้ ทำให้ทุกคนต่างก็อึ้ง
ใครก็คิดไม่ถึงว่า เมื่อสิบห้าปีก่อนยังมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
มองดูเท้าทั้งคู่ของหยุนธิงธิงเหยียบบนพื้น หยุนธิงหลานค่อยได้สติกลับมา พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าไม่ตาย?”
มีผีที่ไหนที่เท้าเหยียบพื้นได้?
พวกเขาถูกนังเด็กคนนี้หลอกลวง?
“ใช่ ข้ายังไม่ตาย หากข้าตายไปแล้วก็สมดั่งปรารถนาของเจ้าแล้วสิ? พวกเจ้าพยายามทำร้ายข้ามาตลอด ครั้งนี้ผิดหวังมากใช่ไหม?”
หยุนธิงธิงตะคอกพูดใส่หยุนธิงหลาน
การจู่โจมอย่างต่อเนื่อง ทำให้นางรับไม่ได้ในทันที ร่างกายอ่อนแรงพร้อมล้มลงไป
หยุนธิงธิงสลบไปแล้ว
หยุนหว่านหนิงรีบประคองนางไปบนเตียง เวลานี้ผู้ชันสูตรศพก็เข้ามารายงานอีกว่า หลังจากใช้น้ำร้อนต้มแล้ว ยาพิษบนชามลายครามขอบทองไหลออกมาหมดแล้ว
ดังนั้น เรื่องที่หยุนธิงหลานวางยาพิษหยุนธิงธิง มีทั้งพยานหลักฐานครบแล้ว
ความจริงของสิ่งที่เกิดขึ้นต่อมา ทำให้บรรยากาศในห้องหม่นลง
หยุนหว่านหนิงหายใจเข้าลึกๆ ระงับความขุ่นเคืองในใจไว้
นางยังไม่สรุปความในทันที เพียงหันไปมองหยุนเจิ้นซง พร้อมถามอย่างเย็นชาว่า “ยิ่งกั๋วกง เรื่องนี้เจ้าเห็นว่าอย่างไร?”
“ควรที่จะจัดการยังไงกับลูกสาวคนดีคนนี้?”