อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 94 หยุนหว่านหนิง เจ้าช่างไร้ยางอายนัก
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ ตอนที่ 94 หยุนหว่านหนิง เจ้าช่างไร้ยางอายนัก
เมื่อเห็นสุราขวดนี้ โม่เยว่ก็ผงะไปเล็กน้อย
มีแม่นางบ้านไหนเป็นเยี่ยงนางบ้าง ที่จะพกขวดสุราติดตัวไว้!
สุราขวดนี้ ดูแตกต่างจากปกติ
บรรจุภัณฑ์สุรานี่ ไม่ใช่ไหสุราหรือ
ทำไมรูปร่างขวดแปลกประหลาดเช่นนี้…แล้วขวดนี่ ยังโปร่งแสงอีกด้วย!
โม่เยว่รับมาดู เห็นสามคำที่เด่นชัดเขียนไว้ด้านบน เอ้อร์โกโถว
คือชื่อของสุรารึ
ช่างแปลกประหลาดนัก!
ใต้สายตายิ้มไม่คล้ายยิ้มของหยุนหว่านหนิง เขาค่อย ๆ บิดฝาขวดออก เดิมทีเขาคิดว่าจุกขวดนี่ต้องดึงออก แต่ดึงอยู่ครู่หนึ่งก็รู้สึกมีบางอย่างไม่ถูกต้อง ถึงได้พบว่ามันต้องบิดเอา
หลังจากบิดฝาแล้ว กลิ่นฉุนของสุราโชยมาแตะจมูก!
เดิมโม่เยว่ก็คออ่อนอยู่แล้ว
แค่ได้กลิ่นสุราฉุน ๆ โชยมาแตะจมูก ก็เกือบจะทำให้เขาหน้ามืดแล้ว
เขาอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน ใช้สายตามองหยุนหว่านหนิงอย่างสงสัย “สุรานี่ดื่มได้จริงหรือ เจ้าไม่ได้วางยาในนี้ เพื่อฆ่าข้าใช่ไหม”
หยุนหว่านหนิง “…”
ไม่แปลกเลยที่เขากับโม่เฟยเฟยเป็นพี่น้องกันแท้ ๆ เหตุใดถึงกลัวนางวางยาขนาดนี้เล่า
ในสายตาพวกเขาพี่น้องหยุนหว่านหนิงอย่างนาง เป็นนางอสรพิษหรือไรกัน
“ดื่มแล้วเจ้าไม่ตายหรอก”
หยุนหว่านหนิงกลอกตา
เพื่อจะได้รู้พื้นเพของหยวนเป่า โม่เยว่ก็ถือว่าสู้จนถึงที่สุด เนื้อที่เพิ่งย่างร้อน ๆ และกลิ่นย่างหอมกรุ่นที่โชยออกมา โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวเอ้อร์โกโถวขวดหนึ่งก็ลงท้องไปแล้ว
ขณะหยุนหว่านหนิงย่างเนื้อให้เขา ก็ดื่มกับเขาด้วย
นานแล้วที่ไม่ได้ร่ำสุรา
เอ้อร์โกโถวแกล้มกับเนื้อย่าง ยิ่งกินยิ่งอร่อย และยิ่งดื่มก็ยิ่งมึนหัว
สุดท้าย…ทั้งคู่ก็เมามายไป
ฤทธิ์เดชสุราค่อนข้างมาก โดยเฉพาะกับโม่เยว่อย่างยิ่ง
เดิมทีเขาก็ดื่มไม่เก่งอยู่แล้ว
เมื่อถูกหยุนหว่านหนิงมอมเหล้า ตอนตื่นขึ้นมาทั้งคู่ก็นอนอยู่บนเตียงเดียวกัน…ที่เรือนข้างเรือนชิงหยิ่ง เมื่อคืนเป็นหรูเยียนที่ดูแลหยวนเป่าเข้านอน
เห็นทั้งคู่ดื่มกันอย่างมัวเมา จึงทิ้งทั้งสองคนลงบนเตียงเดียวกันโดยพลการ
ตอนหยุนหว่านหนิงตื่นขึ้นมา ก็เป็นเวลารุ่งสาง
นางใต้ผ้านวมลืมตาขึ้นอย่างงุนงง นึกถึงอย่างละเอียดว่าเมื่อคืนเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง
แต่ไม่ว่าจะคิดอย่างไร ก็นึกไม่ออกว่ามีเกิดอะไรขึ้นกับโม่เยว่บ้างหรือเปล่า
ไม่คาดคิดว่านางจะภาพตัด!
นางจำได้แค่ว่าเราทั้งสองคนดื่มหนักกันอยู่ นางเล่น “เกมนับมือคู่คี่” กับโม่เยว่ และถูกโม่เยว่ดีดหน้าผาก จนฟุบลงกับโต๊ะแล้วหัวเราะเฮฮา
หากบอกว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น ตัวนางก็ไม่ได้รู้สึกไม่สบายสักนิด
หากบอกว่าไม่ได้มีบางอย่างเกิดขึ้น…
ใต้ผ้านวม คนทั้งคู่เปลือยกาย นี่มันเกิดเรื่องอะไรกันขึ้น!
เป็นไปได้ไหม ที่เมื่อคืนพวกเขาสองคนเปลื้องผ้า แค่ห่มผ้านวมแล้วพูดคุยกันเฉย ๆ
หยุนหว่านหนิงจับผ้านวมที่ปิดอกไว้แน่น ค่อยๆ หันศีรษะไปมองอย่างระมัดระวัง…โม่เยว่ยังไม่ตื่น แพขนตายาวหนาและดกดำ ราวกับพัดอันเล็ก ๆ สองอัน
หยวนเป่าย่อมได้รับสืบทอดมาจากเขา แพรขนตาที่งอนยาวดกดำ
เป็นวลานานแล้วที่นาง ไม่ได้สังเกตเขาใกล้ชิดขนาดนี้
ไม่ใช่!
นางไม่เคยอยู่ใกล้ชิด กับเขาด้วยกันมาก่อน โดยเฉพาะการนอนบนเตียงเดียวกัน!
แม้แต่คืนแรกที่ส่งตัวเข้าหอ นางก็ถูกเขาข่มเหงจนเกือบตายไป
พอเขาปลีกตัวออกไป ก็ถูกเขากักบริเวณสี่ปีเต็ม ๆ
ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกของทั้งสองคน นอนร่วมกันอย่างคลุมเครือ โดยไม่มีหยวนเป่านอนคั่นตรงกลาง
หยุนหว่านหนิงกะพริบตา แล้วผ่อนลมหายใจแผ่วเบา
นางพินิจรูปลักษณ์ของโม่เยว่อย่างถี่ถ้วน
หน้าผากของเขากว้าง ขนคิ้วดกดำ ตอนนี้คิ้วเหยียดตรง ไม่ได้ผูกกันเป็นปมที่ชอบทำเหมือนตอนปกติ ขณะนอนหลับดวงตาก็อ่อนโยนขึ้นหลายส่วน แล้วมองนางด้วยความไม่พอใจน้อยกว่าตอนปกติ
ดั้งจมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางเฉียบแฝงไปด้วยความใจจืดใจดำเล็กน้อย แต่กลับมีเสน่ห์ดึงดูดคนเหลือร้าย!
หยวนเป่าเป็นดั่งสำเนาของเขาจริง ๆ
หยุนหว่านหนิงอดไม่ได้ที่จะจินตนาการ หยวนเป่าในอีกยี่สิบปีข้างหน้าจะเติบโตมาเป็นเช่นนี้หรือไม่
แล้วบังเอิญว่า นางตั้งใจจะยื่นมือออกไปสัมผัสกรอบหน้าเซ็กซี่ของเขา
โดยไม่คาดคิดว่าเพิ่งยื่นมือออกไป ก่อนที่จะสัมผัสถูกเขา ฉันได้ยินโม่เยว่พูดอย่างเย็นชาว่า “เอากีบหมูของเจ้าออกไป! อย่าแม้แต่จะคิดลวนลามข้า ขณะนอนหลับ”
หยุนหว่านหนิง “…”
บุรุษผู้นี้มีดวงตาข้างหรือไรกัน!
แต่เมื่อเห็นเขาหลับตาแน่น…ในใจนางร้อนรน ด้วยการ “ปัด” มือหดกลับมา แล้วสอดกายเปลือยไว้ใต้ผ้านวม
“หยุนหว่านหนิง เจ้าช่างไร้ยางอายนัก”
โม่เยว่ดุนางอย่างไม่เกรงใจ
เขาลืมตาขึ้นช้า ๆ
ตอนนี้เอง หยุนหว่านหนิงตกตะลึง
เห็นได้ชัดว่าบุรุษผู้นี้ตื่นก่อนนางเสียอีก!
“ตื่นอยู่ชัด ๆ ยังแสร้งทำเป็นหลับอีก ใช้ความงามยั่วยวนข้า!ไม่แน่ว่าเป็นเพราะเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ของเจ้า ต้องการฉวยโอกาสทำให้ข้าอับอาย!”
หยุนหว่านหนิงตะคอกกลับทันที “บางที เจ้าอาจคิดที่จะลวนลามข้านั่นแหละ!”
“เพียงถูกข้าชิงนำก่อน ส่วนเจ้าก็เป็นพวกจกตา คิดให้ข้าเป็นฝ่ายเริ่มก่อน!”
ตลกแล้ว!
ชื่อของนางหยุนปากเก่ง ไม่ใช่ชื่อเรียกที่มีเอาไว้เฉย ๆ!
แม้แต่เต๋อเฟยก็บอกว่านางช่างพูดไม่ใช่หรือ
ในการโต้เถียงวาจา ใครจะสามารถเหนือกว่านางได้กัน!
เมื่อได้ยินคำพูดของนาง โม่เยว่อดไม่ได้ที่จะหันไปมองนาง
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ส่ายหัวเล็กน้อย ด้วยสายตาเหยียดหยาม และน้ำเสียงจริงจังอย่างยิ่ง “หยุนหว่านหนิง เจ้าช่างไร้ยางอายจริง ๆ”
“เหอะ ๆ เช่นกัน ๆ ”
หยุนหว่านหนิงหน้ายิ้มตาไม่ยิ้ม
แม้ว่าทั้งสองจะแต่งงานแล้ว แต่ในช่วงสี่ปีที่ผ่านมาทั้งคู่ไม่แม้แต่จะจับมือ สำหรับโม่เยว่แล้ว หยุนหว่านหนิงเป็นเหมือนคนแปลกหน้า เพียงอยู่ในนามพระชายาของเขาเท่านั้น
แม้ว่าตอนนี้ทั้งคู่จะตื่นแล้ว แต่ก็ยังซุกอยู่ใต้ผ้านวม…
เมื่อบังเอิญสัมผัสกัน ก็กับเหมือนไฟฟ้าสถิต ทั้งสองรีบแยกออกอย่างรวดเร็ว เว้นช่องว่างอย่างห่างไกล
“ทำไมเจ้ายังไม่ลุกอีก เจ้าไม่ไปประชุมราชกิจหรือไร”
หยุนหว่านหนิงขมวดคิ้วมองเขา
“แล้วทำไมเจ้าก็ยังไม่ลุกล่ะ เจ้าไม่ต้องไปจับชีพจรให้เสด็จพ่อหรือ”
โม่เยว่ดึงสายตากลับ
ทั้งคู่ไม่ยอมลุกจากเตียงก่อน แล้วให้อีกฝ่ายเห็นว่าตัวเองเปลือยเปล่า
ในใจโม่เยว่ ทั้งหรูเยียนและหรูยี่…แม้แต่หรูโม่ทั้งสามคนก็โดนด่าทอสาดเทสาดเสีย!
ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าสามตัวนี้ ใครจะกล้าถอดเสื้อผ้าเขาออกกัน!
ในเมื่อเปลือยล่อนจ้อนขนาดนี้ แล้วเอาเขาและหยุนหว่านหนิงไว้ใต้ผ้านวมผืนเดียวกัน เป็นความอัปยศอดสูอย่างใหญ่หลวง!
สีหน้าของโม่เยว่เขียวคล้ำไปด้วยความโกรธ
ด้านนอกประตู
หรูยี่กับหรูโม่แนบหูติดบานประตูหรูเยียนด้านข้างหอบชุดของหยุนหว่านหนิงไว้ในอ้อมแขน “พวกเจ้านี่จริง ๆ เลย จะไม่เอาเสื้อผ้ามาให้ท่านอ๋องหรือ”
“เอาเสื้อผ้ามาทำไม เปิดโอกาสให้ท่านอ๋องกับพระชายาสายสัมพันธ์กันตามลำพังไม่ดีหรือ”
หรูโม่เลิกคิ้ว “พวกคู่เป็นคนรักที่มองเห็นแต่คนรักตัวเองเท่านั้นชัด ๆ!แต่ดันไม่ยอมทำให้ชัดเจน พวกข้าช่วยจัดการให้ไม่ดีหรือไร”
“ใช่แล้ว!ปล่อยให้พวกเขาสายสัมพันธ์กันตามลำพังอย่างเปลือยเปล่า แค่คิดก็น่าตื่นเต้น!”
หรูยี่บิดกายไปมา เหมือนไส้เดือน
หรูโม่เตะเข้าไป “เจ้าช่างน่ารังเกียจเสียจริง!”
“แต่ว่า ท่านอ๋องต้องเข้าวังไปประชุมราชกิจ พระชายาก็ต้องเข้าวังไปจับชีพจรให้ฮ่องเต้”
หรูเยียนมุ่นคิ้ว สีหน้าเป็นกังวล
“ไม่รีบร้อน…”
หรูโม่ยังไม่ทันพูดจบ เสียงกัดฟันกรอด ๆ ของโม่เยว่ดังมาจากในห้อง “หรูโม่หรูยี่!พวกเจ้าสองตัว รีบไสหัวเข้ามา!”
“ท่านอ๋องเหมือนจะโกรธมาก”
หรูยี่ช้อนตามองหรูโม่ขอความเห็นเขาว่า “ทำอย่างไรดี”
หรูโม่กลอกตา สายตามุ่งร้ายจับจ้องบนร่างหรูยี่…