อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่294 เอาใจหนิงเอ๋อร์
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่294 เอาใจหนิงเอ๋อร์
โม่เยว่รู้สึกงง “ทำไมต้องเป็นหรูอวี้?”
แต่เมื่อเห็นสีหน้าของหยุนหว่านหนิงไม่ค่อยดี เขาก็รีบหุบปากอย่างรู้อะไรควรอะไรไม่ควร “อืม งั้นก็ให้หรูอวี้ส่งเจ้ากลับไป”
“ข้าจะอยู่จัดการสถานการณ์ที่กำลังพังพินาศย่อยยับนี้”
หยุนหว่านหนิงชำเลืองมองโม่ฮั่นอี่ว์ที่หมดสติไป โดยไม่เหลือบมองโม่เยว่เลย และให้หรูเยียนพยุงนางออกไป
โม่เยว่ขมวดคิ้ว ในใจรู้สึกขมขื่นมาก
ในสายตาของหนิงเอ๋อร์ ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ผิด!
หลังจากออกจากจวนอ๋องฮั่น หรูอวี้ก็ถือตะเกียงอย่างประจบสอพลอ เดินไปทางด้านขวาของหยุนหว่านหนิง “พระชายา ท่านพอใจกับการแสดงในคืนนี้ของข้าน้อยหรือไม่?”
“ก็พอได้ มีรางวัลให้”
หยุนหว่านหนิงมองดูบาดแผลบนศีรษะของเขา
“ไม่ ไม่ ไม่ ข้าน้อยไม่ได้หมายความว่าเช่นนี้ขอรับ”
เป็นเรื่องยากที่หรูอวี้จะไม่ขอเงิน “ข้าน้อยเพียงแค่อยากช่วยนายท่านของข้า พูดสักสองสามคำ”
ยอมไม่เอาเงิน ก็จะช่วยนายท่านตัวเองพูด
เห็นได้ว่าแม้ปกติหรูอวี้จะเลวทรามไปหน่อย แต่ไม่จำเป็นต้องสงสัยความจวรักภักดีที่เขามีต่อโม่เยว่
“เจ้าพูด”
หยุนหว่านหนิงให้โอกาสเขาได้พูด
หรูอวี้โล่งอกลง “พระชายามิทราบ! เดิมทีคืนนี้นายท่านก็มีเรื่องอัดแน่นอยู่ในใจและไม่มีทางที่จะระบาย ฝ่าบาทสั่งให้ข้าน้อยว่า เชิญนายท่านไปพูดคุยด้วย”
“แต่แท้จริงแล้วเป็นเพราะคุณชายน้อยไปฟ้องนายท่านต่อหน้าฝ่าบาท……”
หยุนหว่านหนิงประหลาดใจ “อ้อ? หยวนเป่าฟ้องอะไรโม่เยว่?!”
“คุณชายน้อยบอกว่า นายท่านดุท่าน”
หรูอวี้อับอายจนเหงื่อตก “ฝ่าบาทได้ยินเช่นนี้ ก็รีบสั่งให้ข้าน้อยไปเชิญนายท่านไปพบเขาทันที”
“นายท่านโดนดุว่าไป โดยไม่ได้เถียงกลับใดๆเลย และยอมรับผิดตรงไปตรงมาอย่างเปิดเผย โดยบอกว่าต่อจากนี้ไปเขาจะปฏิบัติต่อพระชายาอย่างดี นายท่านเป็นห่วงพระชายา จึงรีบกลับมาที่จวนอ๋องหมิงทันที ใครจะไปรู้ว่ากลับมาก็……”
โดนหยุนหว่านหนิงดุว่าอีกครั้ง!
แถมยังถูกไล่ออกจากเรือนชิงหยิ่ง……
จึงทำให้ความโกรธในใจของโม่เยว่นั้นยากที่จะหายไป
ดังนั้นจึงคิดที่จะระบายความโกรธใส่โม่ฮั่นอี่ว์
ในใจของหยุนหว่านหนิงก็ไม่สามารถสงบลงได้เลย
โม่เยว่เมื่อสี่ปีต่อมาแตกต่างจากโม่เยว่เมื่อสี่ปีที่แล้วกันอย่างคนล่ะคนกันเลย……หากไม่ใช่เพราะ นางเห็นทัศนคติที่โม่เยว่มีต่อนางนั้นเปลี่ยนแปลงไปทีละวัน
นางคงคิดว่า ในใจของเขาก็เปลี่ยนคนไปแล้ว!
เมื่อเห็นสีหน้าที่ซับซ้อนของนาง และไม่พูดอะไร หรูอวี้ก็พูดอย่างระมัดระวังว่า “พระชายา”
“ข้าน้อยไม่ใช่ร้องขอความเป็นธรรมแทนนายท่าน เพียงแค่ว่าข้าน้อยรู้สึกว่า ตอนนี้นายท่านดีกับท่านมากแล้วจริงๆ! ข้าน้อยแค่ขอพระชายา ปฏิบัติต่อนายท่านดีหน่อย……”
อาจเป็นเพราะเห็นหยุนหว่านหนิงขมวดคิ้ว
กลัวว่านางจะโกรธ หรูอวี้ก็รีบพูดว่า “ไม่ต้องมากนัก! แค่นิดหน่อย นิดหน่อยก็พอแล้ว”
เขาคิดในใจว่า นายท่านของเขาเป็นคนหยิ่งผยองเพียงใด?
ในสายตาของผู้อื่น นายท่านนั้นสูงศักดิ์และเย็นชา
แต่ต่อหน้าพระชายา นายท่านต่ำต้อยราวกับฝุ่นบนพื้น!
แต่นายท่านกลับเปลี่ยนแปลงไปมากเพื่อพระชายา แต่พระชายากับปฏิบัติต่อนายท่านแย่ขึ้นกว่าเดิม……
คนอื่นไม่รู้เหตุผล แต่หรูอวี้พวกเขา จะไม่รู้ได้อย่างไร? !
เมื่อเห็นว่านายท่านทิ้งความเย่อหยิ่งและเย็นชาต่อหน้าพระชายา เหลือแต่ผ่าหัวใจของเขาออกมาให้พระชายาดูเท่านั้น แต่พระชายา กลับไม่หวั่นไหวแม้แต่สักนิด!
หรูอวี้สงสารนายท่านตัวเอง
หยุนหว่านหนิงหยุดเดินอย่างกะทันหัน
หรูเยียนเห็นสีหน้านางไม่ค่อยดี ก็รีบส่งสายตาให้หรูเยียน ให้เขาหยุดพูดได้แล้ว
หรูอวี้ก้มหน้าลงเหมือนเด็กที่ทำผิด
แต่หยุนหว่านหนิงไม่ได้พูดอะไร นางแค่ถอนหายใจแรงๆ และกลับไปที่จวนอ๋องหมิงอย่างมีเรื่องหนักอกหนักใจ
นอนอยู่บนเตียง คำพูดของหรูอวี้ยังคงดังก้องอยู่ข้างๆหู
หยุนหว่านหนิงคิดในใจว่า นางปฏิบัติกับโม่เยว่แย่ขนาดนั้นเลยหรือ?
อาจถึงเวลาที่พวกเขาสองคนต้องคุยกันดีๆหน่อยแล้ว……
ในขณะที่กำลังคิดอยู่ เสียงที่ร่าเริงของหยวนเป่าก็ดังมาจากนอกประตู “พ่อปลอม! ท่านแม่เห็นแล้วคงต้องดีใจมากแน่เลย ท่านเข้าไปอย่างไว้ใจได้เลย”
ประตูถูกเปิดออก โม่เยว่ถูกผลักเข้ามา
เขาเอามือไขว้หลัง โดยไม่รู้ว่าถืออะไรอยู่ในมือ
แต่หยุนหว่านหนิงก็ได้กลิ่นหอมของดอกไม้ได้อย่างเฉียบแหลม
โม่เยว่เดินเข้ามาใกล้ช้าๆ “หนิงเอ๋อร์ เจ้ายังโกรธข้าอยู่หรือไม่?”
“ไม่”
หยุนหว่านหนิงละสายตาออก ไม่มีความสุข
โม่เยว่เดินไปที่ข้างเตียง ลังเลไปครั้งแล้วครั้งเล่าสุดท้ายก็ยื่นของในมือออกมา “นี่คือดอกไม้ที่ข้าเด็ดมาให้เจ้า เจ้าชอบหรือไม่?”
ดอกไม้ช่อนี้ ไม่ราบเรียบเสมอกัน ใบก็ยุ่งเหยิง
ยุ่งเหยิงไปหมด
หยุนหว่านหนิงเพียงมองครั้งหนึ่งก็รู้ว่า ดอกไม้ช่อนี้ทำมาจากลูกชายของนางอย่างแน่นอน……
นางไม่ได้พูดออกมา เพียงแค่รับดอกไม้มาแล้วดม “อืม หอมมาก”
“แล้วเจ้าชอบหรือไม่?”
โม่เยว่นั่งลงข้างเตียงและถามอย่างตื่นเต้น
“ชอบ”
สีหน้าของหยุนหว่านหนิงเฉยชา น้ำเสียงก็ฟังไม่ออกว่าดีใจ “ขอบคุณท่านอ๋อง ดึกเช่นนี้แล้ว ยังช่วยข้าเตรียมดอกไม้อย่างยากลำบากเช่นนี้”
ท่าทีและน้ำเสียงแบบนี้ ดูท่าแล้วเขากำลังจะจบแล้ว……
โม่เยว่ขมวดคิ้ว “หนิงเอ๋อร์ คืนนี้เป็นความผิดของข้าเอง”
“ข้าไม่ควรไปตีพี่รอง”
“ไม่ควรขู่หมอหลวงหยางว่าตัดมือเขา และแขวนเขาไว้ที่ประตูเมือง”
เขาสารภาพผิดอย่างไม่สุ่มสี่สุ่มห้า + สัญญาว่า: “ต่อไป ข้าจะไม่ดีไม่ดีก็พูดว่าจะตัดมือและตัดเท้าคนอื่น และจะไม่ทำเรื่องที่หนิงเอ๋อร์ไม่ชอบ”
“หนิงเอ๋อร์บอกว่าหนึ่ง ข้าจะไม่บอกว่าสองเด็ดขาด”
“หนิงเอ๋อร์ให้ข้าไปทางไหน ข้าก็จะไปทางนั้น”
“หนิงเอ๋อร์บอกให้ข้ายืน ข้าจะไม่นั่งเด็ดขาด”
“หนิงเอ๋อร์……”
ยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกหยุนหว่านหนิงขัดจังหวะ “ท่านกำลังท่องเรียงความหรือ?”
“อืม?”
โม่เยว่กะพริบตา “เจ้ารู้ได้อย่างไร เพื่อสารภาพผิดต่อเจ้า ข้าได้เขียนบทความหนึ่งบทอย่างเรียบร้อยแล้ว”
ในใจของหยุนหว่านหนิงซับซ้อน
โม่เยว่ที่นางรู้จัก ไม่ใช่ผู้ชายคนตรงที่ยับยั้งความเฉียบขาด ซ่อนกรงเล็บอันแหลมคม ละทิ้งความโหดร้ายทั้งกาย และยอมรับความผิดพลาดของเขาตรงไปตรงมาอย่างเปิดเผย……
เขาเป็นสัตว์ร้ายในกลางคืน ไม่ใช่แมวตัวใหญ่ที่ถูกตัดกรงเล็บ
นางไม่ชอบเขาที่เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม แต่โม่เยว่ที่อ่อนหวานนุ่มนวลตรงหน้านางนี้ ก็ทำให้นางลำบากใจเช่นกัน
ระหว่างสองอย่างนี้ นางจะหาจุดสมดุลได้อย่างไร?
หลังจากคิดไปคิดมา นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
หยุนหว่านหนิงก้มหน้ามองดูดอกไม้ในมือ ดวงตาอ่อนโยนลง “ดอกช่อนี้ ข้าชอบมาก”
“ขอบคุณ”
คำว่าขอบคุณนี้ ดูจริงใจไม่น้อย
โม่เยว่ดีใจ “หากเจ้าชอบ! พรุ่งนี้ข้าจะสั่งให้คนรับใช้ปลูกดอกไม้ในเรือนชิงหยิ่งนี้ของเจ้าให้เต็ม! ปลูกดอกไม้ของทุกฤดูกาล ตลอดทั้งปีดอกไม้ในสวนนี้ก็จะไม่มีวันเหี่ยวเฉาลง”
“หนิงเอ๋อร์ เจ้าคิดว่าอย่างไร?”
เมื่อเห็นทัศนคติของนางดีขึ้น โม่เยว่ก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
หยุนหว่านหนิงหัวเราะจางๆ “ถ้าอย่างนั้นเรือนชิงหยิ่งของข้า ก็คงจะต้องเปลี่ยนชื่อเป็นดอกไม้เต็มสวนแล้ว?”
ช่างเถอะ!
ไม่ว่าเขาจะเป็นโม่เยว่ผู้โหดร้ายหรือเหี้ยมโหด หรือเป็นโม่เยว่ที่ผู้อ่อนโยนและน่ารัก เขาก็เป็นตัวของเขาเอง!
ทำไมนางต้องเสียงแรงไปเปลี่ยนแปลงคนคนหนึ่งด้วย? !
โม่เยว่คิดเมื่อไหร่ว่า จะเปลี่ยนให้นางเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยน?
เขายอมรับตัวจริงของนางที่สุด
หยวนเป่าสามารถยอมรับเขา ทำไมนางต้องหากระดูกในไข่……พูดตามตรง ตอนนี้โม่เยว่โปรดปรานและเอาใจพวกนางแม่ลูกทั้งสองมากแล้ว (หากระดูกในไข่=พยายามหาข้อตำหนิติเตียนคนหรือสิ่งของ ทั้งที่ไม่มีข้อให้ตำหนิ)
ขอแค่เขายอมเป็นสามีที่ดี และเป็นพ่อที่ดีก็พอแล้ว!
นางเชื่อว่า เขาหัวใจของโลก ไม่จำเป็นต้องเสแสร้งตลอดเวลา และจะไม่ฆ่าผู้ที่ไม่มีโทษไม่มีความผิดไปมั่วอย่างแน่นอน!
สายตาที่นางมองดูเขานั้น อ่อนโยนขึ้นไม่น้อย
หัวใจของโม่เยว่เต้น และเขาเข้าใกล้นางโดยไม่รู้ตัว เสียงของเขาแหบแห้งเล็กน้อย “หนิงเอ๋อร์……”
ในขณะนี้ เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน!
ด้านหลังของโม่เยว่มีเสียงดัง “ตูม”!