อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 1090 อวสาน
ตอนที่ 1090 อวสาน
ตอนที่ 1090 อวสาน
ไป๋หลิวอี้ลดสายตาลง เพียงแต่ตอบรับเสียงต่ำไป แต่ก็ยังไม่กล่าวสิ่งใดทั้งนั้น
ไป๋หลิวเจวี๋ยเห็นเขายังทำท่าทางเช่นนั้นก็อดไม่ได้ที่จะกัดฟัน “เจ้าอย่าใช้อารมณ์เลย ตอนนี้เจ้าเป็นบุตรของตระกูลไป๋ ถึงแม้ท่านแม่ข้าจะไม่ชอบเจ้า แต่เมื่อออกมาอยู่นอกบ้าน บนร่างเจ้าก็มีตราของตระกูลไป๋ประทับอยู่ หากมีอะไรพลาดไปเพียงเล็กน้อย คนที่จะถูกเฆี่ยนตีก็จะเป็นตระกูลไป๋แห่งอาณาจักรเทียนอวี่ เจ้าเข้าใจหรือไม่ ยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่ก็เป็นตำหนักอ๋องซิว ไม่ใช่บ้านคนธรรมดานะ”
มุมปากของไป๋หลิวอี้ตึงแน่น อย่างไรก็กล่าวไปคำหนึ่ง “ข้ารู้แล้ว”
ไป๋หลิวเจวี๋ยอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ไม่สนใจเขาอีก เดินหน้าไปอย่างรวดเร็วสองสามก้าว ตามหลังหนานหนานไป
หนานหนานกำลังพูดคุยกับเย่หลานเวยอยู่ แต่ประสาทการได้ยินของเขาเฉียบคมนัก ความจริงก็คือเขาได้ยินบทสนทนาระหว่างไป๋หลิวอี้และไป๋หลิวเจวี๋ยสองพี่น้องชัดเจนทั้งหมด
เพียงแต่ในใจรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย ไป๋หลิวอี้ผู้นี้โตกว่าไป๋หลิวเจวี๋ย เหตุใดจึงกลายเป็นน้องชายสั่งสอนพี่ชายไปได้?
กลุ่มคนมาถึงงานเลี้ยงทีละคนๆ และคนในครอบครัวก็พาแต่ละคนไปนั่งที่นั่ง
ไป๋หลิวอี้มองโต๊ะหลักจากระยะไกลๆ เห็นว่าเด็กหญิงตัวเล็กในชุดสีชมพูดูอ่อนหวานผู้นั้นก็อยู่ด้วย และหนานหนานที่มีท่าทางจริงจังเมื่อครู่ ในตอนนี้กลับเบียดร่างทั้งร่างไปอยู่ต่อหน้าเด็กหญิง คอยเอาอกเอาใจนางไปทุกที่พร้อมรอยยิ้ม
ไป๋หลิวเจวี๋ยเรียกเขาสองครั้งกลับไม่มีใครตอบ จึงได้มองไปตามทิศทางสายตาของเขา จากนั้นก็ยิ้มออกมา “ข้ารู้แล้ว นั่นจะต้องเป็นเนี่ยนเนี่ยน น้องสาวของหนานหนานเป็นแน่ คิดไม่ถึงว่ายิ่งโตก็ยิ่งสวย ข้าเคยพบนางตอนนางยังเป็นทารก ตอนนั้นก็น่ารักอย่างมากแล้ว”
คำพูดนี้ของเขาแฝงไปด้วยท่าทางภาคภูมิใจ แสดงออกอย่างตื่นเต้นมาก
เนี่ยนเนี่ยนหรือ?
ไป๋หลิวอี้ไม่ได้กล่าวอันใดอีก ละสายตากลับมา เริ่มกินอาหารอย่างเงียบๆ
พวกเด็กๆ กินเร็ว ไม่นานนักก็มีเด็กซนๆ ที่กินเสร็จแล้วลงจากโต๊ะ อวี้ชิงลั่วมักจะสบายๆ อย่างมากกับเหตุการณ์เช่นนี้เสมอ ให้เด็กเหล่านั้นกินเสร็จแล้วก็ไปเล่นเสีย
แต่ไป๋หลิวอี้นั้น ต่อให้กินเสร็จแล้ว ก็ยังคงนั่งอยู่บนโต๊ะอย่างเป็นระเบียบมาก ไป๋หลิวเจวี๋ยอยากจะลากเขาไป เขาก็ไม่ไป
เนี่ยนเนี่ยนเองก็กินเร็ว เพียงหนานหนานเห็นนางลงจากโต๊ะก็ราวกับว่าเป็นผู้พิทักษ์คอยปกป้องนางกลับไป
แต่อย่างไรก็ยังช้าไปก้าวหนึ่ง เขานำเนี่ยนเนี่ยนกำลังจะออกจากที่จัดงาน กลับไปที่ห้องโถงด้านหลังเพื่อล้างปาก เย่หลานเวย เย่หลานหลี่ อวี้เป่าเอ๋อร์ หรือแม้แต่เย่หลานผิงที่โตแล้ว ต่างก็พากันเข้ามาทั้งหมด ด้านหลังยังมีพวกเด็กๆ ไป๋หลิวเจวี๋ยอีกสองสามคน
หนานหนานเพียงเห็นภาพเช่นนั้น ในใจก็เย็นเยียบขึ้นมา รีบดึงเนี่ยนเนี่ยนมาไว้ข้างหลังตน
“พวกเจ้าทำอะไรกัน?” หนานหนานมองทุกคนอย่างระแวดระวัง
เย่หลานเวยคุ้นเคยกับเขามากแล้ว ได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวด้วยรอยยิ้มระรื่น “หนานหนาน เหตุใดเจ้าต้องซ่อนเนี่ยนเนี่ยนมาโดยตลอดด้วย พวกข้าล้วนมากันทั้งวันแล้ว ก็ยังไม่ได้คุยอะไรกับเนี่ยนเนี่ยนเลยนะ”
หนานหนานส่งเสียงฮึดฮัด “จะคุยอันใด ไม่มีอะไรให้คุย พวกเจ้ามีช่องว่างระหว่างวัย คุยกันไม่รู้เรื่องหรอก”
เย่หลานเวยกระตุกมุมปาก “เช่นนั้นเจ้ากับนางเองก็มีช่องว่างระหว่างวัยนะ”
“พูดจาไร้สาระ ข้าเป็นพี่ชายของนาง พวกเราดีกันจะตาย ใช่หรือไม่ เนี่ยนเนี่ยน?” หนานหนานหันหน้าไปถามน้องสาวประโยคหนึ่ง
เนี่ยนเนี่ยนเหม่อลอย “ก็ดี” จริงๆ แล้วสิ่งที่นางสนใจนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่ เมื่อครู่นางปีนขึ้นเก้าอี้ยาว มองเห็นท่านพ่อท่านแม่มาที่นี่จากทางหน้าต่าง
หนานหนานพอใจอย่างมาก “ได้ยินหรือไม่ พวกเจ้ารีบไปเสีย กินดื่มอิ่มแล้วก็อย่ามัวแต่อยู่ที่บ้านข้า อีกอย่างวันนี้ตัวเด่นของงานก็คือเย่ฉิงเป่ย ไม่ใช่เนี่ยนเนี่ยน พวกเจ้าไปดูเย่ฉิงเป่ยนู่นไป”
“เย่ฉิงเป่ยมาแล้ว” ทันทีที่หนานหนานกล่าวจบ ด้านนอกประตูก็มีเสียงหัวเราะแจ่มชัดดังขึ้นมา
ต่อจากนั้นทุกคนก็เห็นไป๋อีเฟิงอุ้มทารกน้อยเย่ฉิงเป่ยเดินเข้ามา ด้านหลังของเขายังมีอวี้ชิงลั่วและเย่ซิวตู๋ตามมาด้วย
หนานหนานกะพริบตา แปลกใจอย่างบอกไม่ถูก งานเลี้ยงจบแล้วหรือ? ท่านพ่อท่านแม่มาที่นี่กันหมดได้อย่างไร?
ขณะกำลังคิด ก็เห็นเย่ซิวตู๋ส่งสายตาเล็กน้อยให้ไป๋อีเฟิง กล่าวออกมา “เจ้าให้พวกข้ามาที่นี่ มีเรื่องอันใดกันแน่?”
“ฮ่าๆ” ไป๋อีเฟิงส่งเย่ฉิงเป่ยให้อวี้ชิงลั่วอีกครั้ง จากนั้นก็กระแอมเบาๆ ครั้งหนึ่ง ดังไป๋หลิวเจวี๋ยที่อยู่ข้างๆ มาแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คืออย่างนี้ เจวี๋ยเอ๋อร์ของพวกข้านั้น ตั้งแต่สามปีก่อนที่ได้พบเนี่ยนเนี่ยน กลับไปก็เอาแต่พูดถึง ดังนั้นข้าจึงคิดว่าเมื่อมาในครั้งนี้ ก็จะเป็นพ่อสื่อให้เขาเสีย ให้เด็กทั้งสองคนหมั้นหมายกันไว้ ว่าอย่างไ?ร”
เขาเรียกว่าเก็บของดีไว้ในครอบครัวอย่างไรเล่า เนี่ยนเนี่ยนคนนี้ทั้งสวยและน่ารัก ทั้งยังมีคนรักใคร่มากมายเพียงนี้ ต่อไปหากแต่งงานเข้าสู่อาณาจักรเทียนอวี่ ก็จะมีฮ่องเต้และองค์ชายรองคอยคุ้มกัน จะไม่มีทางได้รับความไม่เป็นธรรมไปได้
อีกอย่าง เนี่ยนเนี่ยนเด็กคนนี้หากต่อไปโตขึ้น จะต้องมีหลายคนแย่งกันเป็นแน่ ดังนั้นไม่ว่าอย่างไรก็ต้องจองเอาไว้ก่อน
แน่นอน เรื่องนี้พี่ใหญ่และพี่สะใภ้ใหญ่ก็ไม่ได้คัดค้านอันใด
เย่ซิวตู๋และอวี้ชิงลั่วล้วนตะลึงไป หมั้นหมายเด็กๆ อย่างนั้นหรือ?
“ไม่ได้!!” หนานหนานเป็นคนแรกที่ระเบิดอารมณ์คัดค้าน แววตาจ้องมองไป๋หลิวเจวี๋ยเขม็ง
อีกฝ่ายเดิมทียังมองเนี่ยนเนี่ยนอย่างยินดี ตอนนี้เมื่อถูกหนานหนานมองก็ขนลุกขึ้นมาแล้ว
ไป๋อีเฟิงหัวเราะฮ่าๆ “หนานหนาน เรื่องนี้ให้พ่อกับแม่เจ้าตัดสินใจเถิด อีกอย่าง นี่ก็เป็นเหตุการณ์สำคัญชั่วชีวิตของเนี่ยนเนี่ยน ก็ต้องถามเนี่ยนเนี่ยนจึงจะใช้ได้”
หนานหนานส่งเสียงฮึดฮัด ส่ายหัว “น้องสาวข้าไม่มีทางหมั้นหมายตั้งแต่เด็กแน่ อย่าแม้แต่จะคิด”
กล่าวจบเขาก็หมุนตัว ถามน้องสาว “เนี่ยนเนี่ยน ใช่หรือไม่?”
เนี่ยนเนี่ยนกำลังเอนกายพิงอยู่ตรงหน้าต่าง ไม่รู้ว่ากำลังทำสิ่งใด ราวกับว่าไม่ได้ยินพวกเขาพูดคุยกันเลย เพียงแต่หนานหนานถามคำถามนาง นางก็ตอบอย่างเคยชินหนึ่งประโยค “ก็ดี”
หนานหนานตกตะลึงไป ไป๋อีเฟิงรีบกล่าว “หนานหนาน เจ้าก็ได้ยินแล้ว เนี่ยนเนี่ยนก็บอกแล้วว่าก็ดี เห็นได้ชัดว่านางไม่ปฏิเสธแม้แต่น้อย”
หนานหนานเม้มปาก จ้องมองไป๋อีเฟิงเขม็ง
ไป๋อีเฟิงไม่สนใจเขา จากนั้นก็ดึงไป๋หลิวเจวี๋ยเดินหน้ามาสองสามก้าว โน้มตัวมาตรงหน้าเนี่ยนเนี่ยน “เนี่ยนเนี่ยน ต่อไปต่อไปมาเป็นภรรยาของพี่เจวี๋ยดีหรือไม่?”
สายตาของทุกคนจับจ้องไปยังเนี่ยนเนี่ยน เนี่ยนเนี่ยนกะพริบตา ในที่สุดก็เข้าใจว่าพวกเขากำลังพูดถึงตนอยู่
คิ้วเล็กๆ ขมวดแน่น แววตาของนางเลื่อนไปมองที่ไป๋หลิวเจวี๋ย ผ่านไปครู่ใหญ่ก็ส่ายหน้า “ไม่ดี”
รอยยิ้มบใบหน้าของไป๋อีเฟิงแข็งทื่อไปในทันใด ไป๋หลิวเจวี๋ยเองก็มีสีหน้าคับข้องใจเช่นกัน
อวี้ชิงลั่วและเย่ซิวตู๋กระตุกมุมปากสองครั้ง ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
เย่หลานเวยที่อยู่อีกด้านสนอกสนใจ เขาโน้มตัวเข้าไปใกล้ ยิ้มให้เนี่ยนเนี่ยน “เช่นนั้นเนี่ยนเนี่ยน ต่อไปเจ้ามาเป็นภรรยาข้าดีหรือไม่?”
จริงๆ แล้วเย่หลานเวยก็เข้าใจว่าเนี่ยนเนี่ยนและเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ต่อไปไม่มีทางแต่งงานเป็นสามีภรรยาได้แน่ ถึงแม้เมื่อก่อนเขามักจะพูดว่าอยากแต่งงานกับเนี่ยนเนี่ยน แต่ตอนนี้โตแล้ว ก็รู้ความแล้ว ตอนนี้ที่พูดเช่นนี้ก็เพียงแค่รู้สึกว่าสนุกเท่านั้น
เนี่ยนเนี่ยนยังคงส่ายหน้า “ไม่ดี”
เย่หลานเวยกุมหน้าอกทำท่าทางผิดหวังอย่างมาก “เช่นนั้นหากเป็นภรรยาของเย่หลานจ้าวเล่า?”
“ไม่ดี”
“แล้วท่านพี่ผิงเล่า?”
“ไม่ดี”
“เนี่ยนเนี่ยน เช่นนั้นต่อไปเจ้าอยากเป็นภรรยาใครหรือ?”
เนี่ยนเนี่ยนขมวดคิ้ว นางคิด เหตุใดนางต้องเป็นภรรยาของผู้อื่นด้วย? นางไม่ทำไม่ได้หรือ? ช่างโง่เง่ายิ่งนัก
นางหันหน้าหนี ไม่สนใจเหล่าคนที่นางคิดว่าไม่ปกติ หมุนร่างเล็กๆ มานั่งอยู่ตรงเก้าอี้ยาว สัมผัสขวดที่อยู่ตรงเอว
ใครจะรู้ว่าเพียงนั่งลง ก็เห็นไป๋หลิวอี้เดินเข้ามา
เนี่ยนเนี่ยนมองเขาแวบหนึ่ง มือเล็กชี้ไปที่เขา “เขา…”
ดูคุ้นตาเล็กน้อย เหมือนว่าเคยพบที่ไหนสักแห่ง
แต่เย่หลานเวยกลับหวาดหวั่น ชี้ไปยังไป๋หลิวอี้แล้วถามเนี่ยนเนี่ยน “ต่อไปเนี่ยนเนี่ยนอยากเป็นภรรยาเขาหรือ?”
เนี่ยนเนี่ยนตะลึงไป จากนั้นก็คิดอีกครั้ง รู้สึกว่าคนผู้นี้ไม่เหมือนเหล่าลูกพี่ลูกน้องที่เอะอะโวยวาย เหมือนว่าจะเงียบมาก น่าจะไม่เลวเลย
ดังนั้นนางจึงพยักหน้าอย่างแรง
ต่อจากนั้น… คนทั้งห้องก็ล้วนพากันขวัญผวา
ไป๋หลิวอี้เดินเข้ามาด้วยใบหน้าบอกไม่ถูก เนี่ยนเนี่ยนกลับลงมาจากเก้าอี้ยาว นำหยกละมุนที่สวมไว้ในคอยื่นให้เขา “รับเอาไว้”
กล่าวจบ นางก็เริ่มเดินเตาะแตะออกจากห้อง นางยังไม่ได้จัดการงูตัวนั้นของตนให้ดี ต้องกลับไปที่เรือนของตนแล้ว
ส่วนที่ว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องหลังจากนั้น นางก็ไม่ได้สนใจอะไรมากแล้ว
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
อย่าบังคับเนี่ยนเนี่ยนเลย โตขึ้นถ้าน้องชอบใครน้องก็บอกเองแหละ
ในที่สุดเรื่องนี้ก็ดำเนินมาถึงตอนจบแล้ว ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามกันมาจนจบเรื่องนะคะ หากมีจุดใดที่ผู้แปลผิดพลั้งไปก็ขออภัยด้วยค่ะ จะพยายามแก้ไขให้สมบูรณ์ที่สุดนะคะ
ไหหม่า(海馬)
ปล. อ้อ เรื่องนี้ยังไม่จบนะคะ ยังมีตอนพิเศษอีกหลายตอนเลย จะเป็นเรื่องราวของใครนั้น ก็มาร่วมเดินทางกันต่อนะคะ