อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 556 รับประกันว่าเจ้าสามารถทำทุกอย่างที่เจ้าต้องการได้
- Home
- อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว
- ตอนที่ 556 รับประกันว่าเจ้าสามารถทำทุกอย่างที่เจ้าต้องการได้
ตอนที่ 556 รับประกันว่าเจ้าสามารถทำทุกอย่างที่เจ้าต้องการได้
ตอนที่ 556 รับประกันว่าเจ้าสามารถทำทุกอย่างที่เจ้าต้องการได้
อวี้ชิงลั่วตกตะลึงครู่หนึ่ง และหมัดที่กำแน่นของนางก็คลายออกทันที
น้ำเสียงสุภาพของกวนอู๋ดังมาจากข้างนอก “องค์หญิงเทียนฝู ถึงเรือนรับรองแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
ถึงแล้วหรือ? อวี้ชิงลั่วตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อยกม่านรถม้าขึ้นก็เห็นประตูเรือนรับรองของอาณาจักรจิงเหลยจริง ๆ
กวนอู๋ดึงที่วางเท้าตรงขอบรถม้าลง และรับหงเย่ลงไปก่อน จากนั้นก็ยื่นมือออกไปรับอวี้ชิงลั่ว และค่อย ๆ เดินตามไป
ขณะที่หนานหนานเดินตามหลังอวี้ชิงลั่ว เขาก็กวาดสายตามองไปรอบ ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เขามาในเรือนรับรองของอาณาจักรจิงเหลย แต่หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เขารู้สึกว่าบรรยากาศของเรือนรับรองแห่งนี้ ให้ความรู้สึกสง่างามคล้ายกับอุปราชซ่างกวนจิ่นที่เขาเคยเห็นครั้งล่าสุด
อวี้ชิงลั่วรีบเดินอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ว่านางจะเดินเร็วเพียงใด นางก็ยังรู้สึกได้ถึงสถานการณ์รอบกายนาง
ความรู้สึกนี้…จะอธิบายอย่างไรดี? ดูเหมือนว่าไม่มีใครกังวลใจเรื่องที่ซ่างกวนจิ่นกำลังจะตายเลย
สถานการณ์นี้แตกต่างจากครั้งที่แล้วอย่างสิ้นเชิง คนรับใช้ในเรือนรับรองยังคงทำสิ่งต่าง ๆ อย่างเป็นระเบียบโดยไม่รู้สึกตื่นตระหนกแม้แต่น้อย เป็นไปได้หรือไม่ว่าคนเหล่านี้ยังไม่รู้ว่าซ่างกวนจิ่นป่วยหนัก?
อวี้ชิงลั่วหรี่ตา หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ทุกคนก็เดินเข้าไปในที่พำนักของซ่างกวนจิ่น
เมื่อหมอหลวงหลูเห็นนาง ความเกลียดชังในตอนแรกก็หายไป สายตาของซ่างกวนจิ่นยังคงเฉียบแหลม แม้หมอหลวงหลูจะค่อนข้างเย่อหยิ่งและดูถูกนางในตอนแรก ทว่าเมื่อเขาเห็นทักษะที่แท้จริงของนาง ทัศนคติที่ดีของเขาก็ทำให้เรียนรู้ที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนมาก
เมื่อเห็นว่าอวี้ชิงลั่วกำลังมา หมอหลวงหลูก็หลีกไปด้านข้างเล็กน้อย แล้วปล่อยให้นางเข้าไป
ทว่าเมื่อเขาเห็นแม่นมเซียว หงเย่และหนานหนาน เขาก็เข้ามาขวางไว้
“ท่านอ๋องอนุญาตให้นางเข้าไปคนเดียว”
ท่านอ๋องอนุญาตให้นางเข้าไปคนเดียวหรือ? อนุญาตหรือ? ดังนั้นอาการของซ่างกวนจิ่นจึงไม่ได้สาหัสหรอกหรือ?
อวี้ชิงลั่วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วโบกมือให้ทั้งสามคนรอข้างนอก
แม่นมเซียวและหงเย่มองหน้ากัน ก่อนจะรับคำด้วยความเคารพ แต่หนานหนานที่อยู่ด้านข้างรู้สึกไม่พอใจ
เขาไม่มีการดูแลเป็นพิเศษสำหรับเด็กหรือ? ไม่น่าแปลกใจที่จู่ ๆ เขาก็ป่วยหนัก และมีคนต้องการวางยาพิษเพื่อลอบสังหารเขา เขาเป็นคนที่ไม่มีความเมตตา ความเห็นอกเห็นใจ ความอ่อนโยนและไม่น่ารักเลย ฮึ่ม เป็นเรื่องปกติจริง ๆ ที่เขาต้องเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ นี่คือเวรกรรมที่ตามสนองเขา หนานหนานมีความคิดมืดมนยิ่ง
องครักษ์พยัคฆ์ไม่ยอมให้เขาเข้าไป หนานหนานจึงได้แต่นั่งเล่นอย่างเบื่อหน่ายบนขั้นบันไดที่ประตู หลังจากนั่งเล่นไปสักพักหนึ่ง ดวงตาของเขาก็เริ่มกลอกกลิ้งไปมา จากนั้นก็วิ่งไปทางซ้ายและขวาอย่างรวดเร็ว โดยไม่หยุดพักแม้แต่วินาทีเดียว เดิมทีเขาก็เป็นปรมาจารย์ผู้ไม่สามารถนั่งนิ่ง ๆ ได้อยู่แล้ว ซึ่งองครักษ์พยัคฆ์ก็ไม่ทันได้สังเกตว่าเขาวิ่งหนีไปแล้ว
ผ่านไปครู่ใหญ่กวนอู๋และคนอื่น ๆ ถึงได้มีปฏิกิริยาโต้ตอบ เจ้าตัวเล็กนั่นหายไปไหน? จากนั้นก็รีบส่งคนไปตามหาทันที
หวังว่าซื่อจื่อน้อยแห่งตำหนักอ๋องซิวจะไม่สร้างปัญหาใด ๆ มิฉะนั้นเขาจะสามารถขอโทษท่านอ๋องได้ด้วยความตายเท่านั้น
กวนอู๋เหลือบมองเข้าไปในห้อง แล้วรีบหันหลังกลับไปทันที
ภายในห้องตอนนี้ อวี้ชิงลั่วกำลังมีสีหน้าบูดบึ้งอย่างยิ่ง
นางจ้องไปยังชายที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างอย่างเกียจคร้านและกำลังพลิกหนังสืออ่านเงียบ ๆ นางเม้มปากแน่น และตระหนักได้อย่างลึกซึ้งว่าตนถูกหลอก ชายผู้นี้กำลังปั่นหัวนางเล่น!!!
“ท่านอุปราชช่างอารมณ์ดียิ่งนัก ป่วยหนักแทนที่จะนอนพักผ่อนอยู่บนเตียง แต่กลับมานั่งเล่นรับลมอยู่ตรงหน้าต่างงั้นหรือ? ไม่กลัวว่าอาการจะทรุดลงจนถึงแก่ชีวิตจริง ๆ หรืออย่างไร?”
ซ่างกวนจิ่นวางหนังสือลง ก่อนหรี่ตามองนาง แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เหตุใดคำพูดของแม่นางชิงจึงฟังดูมีความแค้นเคืองเช่นนั้นเล่า? พูดราวกับว่าต้องการให้เราตายเร็วกว่านี้ เราช่วยเจ้าไว้ ไม่คิดจะขอบคุณกันบ้างหรือ?”
ช่วย ข้า หรือ???
สีหน้าของอวี้ชิงลั่วมืดมนลงอย่างชัดเจน ขณะถามว่า “ท่านไม่ได้พูดไปเรื่อยเพราะอาการป่วย หรือถูกลาเตะหัวมาใช่หรือไม่?”
สีหน้าของซ่างกวนจิ่นกลายเป็นหมดคำจะพูดทันที ก่อนพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา แล้วพูดว่า “เจ้าไม่รู้จริง ๆ สินะว่าเกิดอะไรขึ้น ความเมตตาของเราช่างไร้ประโยชน์นัก หากตอนนั้นเราไม่เรียกเจ้าออกมา เย็นนี้เจ้าคงถูกกินจนไม่เหลือแม้แต่กระดูกไปแล้ว”
อวี้ชิงลั่วตกตะลึงไปครู่หนึ่ง และจ้องมองเขาด้วยความสงสัย “ท่านรู้หรือว่ามีคนจะทำร้ายข้า?”
“เจ้าคิดว่าทุกคนโง่เหมือนเจ้าหรือ? เราไม่เชื่อว่าเหมิงกุ้ยเฟยจะไปวัดหลิงไท่ เพื่อทำพิธีสวดอ้อนวอนยิ่งใหญ่เช่นนี้ เพราะเรื่องที่เราถูกลอบสังหาร และยังยืนกรานให้เจ้าไปด้วย เรารู้ความคิดของสตรีในวังเหล่านี้ดีกว่าเจ้า ช่วงนี้เจ้าเป็นที่สนใจมากเกินไป”
อวี้ชิงลั่วเม้มริมฝีปาก และดวงตาของนางก็สงบลง นางไม่เคยคิดว่าซ่างกวนจิ่นจะช่วยนางให้ออกมาจากวัดหลิงไท่ด้วยการปล่อยข่าวว่าเขาป่วยหนัก
อันที่จริงหากให้คนอื่นช่วยนางออกจากวัดหลิงไท่ด้วยเหตุผลอื่น ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ซ่างกวนจิ่นเป็นอุปราชแห่งอาณาจักรจิงเหลย และเขาถูกแทงเมื่อไม่กี่วันก่อน ด้วยเหตุผลนี้ ฮ่องเต้ย่อมไม่กล้าปล่อยให้เขาทำอย่างอื่น
“ว่าอย่างไร เจ้ารู้แล้วสินะว่าเจ้าเข้าใจเราผิด ต้องการจะขอบคุณเราหรือยัง?” เป็นการดีที่จะไตร่ตรอง
ซ่างกวนจิ่นมองไปยังสายตาของนางที่กำลังหลบตาเขาอยู่เงียบ ๆ และค่อนข้างรู้สึกพอใจ
อวี้ชิงลั่วส่งเสียง “เฮ้อ” ออกมา ก่อนเงยหน้าขึ้นทันที แล้วพูดอย่างไร้เดียงสาว่า “แต่ท่านอ๋องยังช้าไปหนึ่งก้าว พวกนางได้ลงมือทำไปแล้ว”
“อะไรนะ?” รูม่านตาของซ่างกวนจิ่นหดตัว และสายตาของเขาก็มืดมนลงเล็กน้อย “เจ้าบาดเจ็บหรือ? พวกนางทำอะไรเจ้า?”
“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับข้า ข้าจะยังมายืนอยู่ต่อหน้าท่านในตอนนี้ได้หรือ?” อวี้ชิงลั่วเลิกคิ้วขึ้น การแสดงออกของนางกลายเป็นสิ่งที่เข้าใจยาก
เมื่อเห็นว่านางสบายดี ซ่างกวนจิ่นก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะพ่นลมหายใจออกมา แล้วพูดเย้ยหยันว่า “สุดท้ายเย่ซิวตู๋ก็ไร้ประโยชน์ การสวดมนตร์อธิษฐานเช่นนี้เป็นเรื่องแปลกมาก เขาไม่น่าปล่อยให้เจ้าไปเลย”
อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้ว นางไม่พอใจมากที่ซ่างกวนจิ่นเอ่ยตำหนิเย่ซิวตู๋ ระหว่างเขากับเย่ซิวตู๋นั้น เย่ซิวตู๋มีความรอบคอบและมีความคิดเป็นของตัวเอง ดังนั้นภาพลักษณ์ของเย่ซิวตู๋ในหัวใจของนางจึงสูงกว่าเขามาก
“แม่นางชิง เราเห็นว่าเจ้าอยู่ในอาณาจักรเฟิงชางนี้ เจ้าไม่ค่อยร่าเริงและไม่ค่อยสบายใจนัก มีคนมากมายที่ไม่ชอบเจ้า และพยายามจัดการและเล่นงานเจ้า แม้ว่าครั้งนี้เจ้าจะสามารถป้องกันได้ แต่เจ้าอาจป้องกันไม่ได้ในครั้งที่สอง เย่ซิวตู๋ไร้ความสามารถและปกป้องเจ้าไม่ได้ เจ้าจะเสียชีวิตที่นี่เมื่อใดก็ได้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เป็นการดีกว่าที่จะติดตามเรากลับไปยังอาณาจักรจิงเหลย เรารับประกันว่าในอาณาจักรจิงเหลย เจ้าจะสามารถขึ้นฟ้าดำดิน และสามารถทำทุกสิ่งที่เจ้าต้องการได้ เจ้าว่าอย่างไร?”
มุมปากของอวี้ชิงลั่วกระตุก นี่เป็นครั้งที่สามหรือสี่แล้วที่ซ่างกวนจิ่นโน้มน้าวให้นางไปอาณาจักรจิงเหลย เขาช่างดื้อรั้นเสียจริง
“ฮึ่ม ถ้อยคำของอุปราชไม่อาจเชื่อถือได้” เสียงเข้มดังมาจากนอกประตู “หากอุปราชมีความสามารถเช่นนั้นจริง ๆ แล้วจะได้รับบาดเจ็บสาหัส จนต้องรบกวนชิงเอ๋อร์ให้รีบมาช่วยชีวิตไว้เช่นนี้หรือ?
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
อุปราชนี่ก็ไม่เลิกเต๊าะชิงลั่วนะ มาแผนสูงด้วย แต่เสียใจ ชิงลั่วเขามีวิญญาณเฮี้ยนตามติดอยู่ สลัดไม่หลุดด้วย
ไหหม่า(海馬)