อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 181 ข้าจะดูว่าใครกล้าแตะต้องนาง
ตอนพิเศษ 181 ข้าจะดูว่าใครกล้าแตะต้องนาง
ตอนพิเศษ 181 ข้าจะดูว่าใครกล้าแตะต้องนาง
เมื่อเงยหน้าขึ้น ก็เห็นสาวใช้สองคนขององค์หญิงสิบสามกำลังเดินตรงไปหาเนี่ยนเนี่ยน
สีหน้าของโม่เพียวเปลี่ยนไป นางไปยืนขวางหน้าเนี่ยนเนี่ยน“ข้าจะฆ่าทุกคนที่กล้าแตะต้องคุณหนูของข้า ออกไป ออกไปให้พ้น”
“…” ทุกคนในห้องตกใจกับสถานการณ์ปัจจุบันทันด่วนเช่นนี้ และมองโม่เพียวที่โผล่เข้ามาด้วยความประหลาดใจ
วินาทีต่อมา ฮูหยินเฒ่าไป๋เงยหน้าขึ้นทันที โม่เพียวพูดว่าอะไรนะ? คุณหนูงั้นหรือ?
ชื่อของนางคือคุณหนูอวี้ซีหรือ?
องค์หญิงสิบสามไม่ได้สนใจคำพูดของนางเลย เมื่อเห็นว่ามีคนกล้ามายืนขวางหน้าคนที่นางจะประหาร รอยยิ้มที่มุมปากของนางก็ยิ่งเย็นชา “คนไม่กลัวตายมาอีกคนแล้ว ดี เช่นนั้นก็ลากมันออกไปด้วยเลยแล้วกัน”
นางพูดจบก็ขยิบตาให้หญิงสาวทั้งสอง
ทั้งสองกระโจนเข้าหาโม่เพียวทันทีราวกับหมาป่าและเสือ แต่โม่เพียวพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ แล้วเตะพวกนางกระเด็นไปทีละคน
นัยน์ตาขององค์ชายเก้าหรี่ลงทันที หญิงคนนี้มีรากฐานวรยุทธ์มั่นคง การเคลื่อนไหวรวดเร็วว่องไว สามารถเตะคนจนกระเด็นออกไปได้ด้วยการเตะเพียงครั้งเดียว หากสาวใช้ที่ดูอ่อนแอคนนี้ไม่มีกำลังภายใน นางจะไม่สามารถทำเช่นนี้ได้เลย
องค์หญิงสิบสามมองนางกำนัลที่ถูกเตะล้มลงกับพื้นพลางกุมหน้าอกร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด ก่อนหันไปมองโม่เพียวด้วยความประหลาดใจ จากนั้นใบหน้าของนางก็กลายเป็นแดงก่ำทันที “ชั่วร้ายนัก กล้าดีอย่างไรมาทำร้ายคนของข้า”
นางชี้หน้าโม่เพียวด้วยนิ้วอันสั่นเทา ราวกับว่ากำลังจะระเบิดอารมณ์ครั้งใหญ่
ทันใดนั้นนางก็หันไปมองฮูหยินเฒ่าไป๋ “ท่านฮูหยินเฒ่า คนเหล่านี้เป็นคนรับใช้ของจวนซูกั๋วกงหรือเจ้าคะ? พวกนางกล้าเผชิญหน้ากับราชวงศ์เลยหรือเจ้าคะ?”
ฮูหยินเฒ่าไป๋เม้มปาก แต่ในขณะนี้นางสงบลงมาก นางรู้สึกว่าท่าทางเมินเฉยและไร้ความเกรงกลัวของอวี้ซี ไม่ได้ดูเหมือนว่านางไม่รู้ตัวหรือไม่รู้สถานการณ์ แต่ดูเหมือนนางจะมีแผนการที่คิดมาอย่างดี และมีวิธีจัดการอยู่แล้ว
นางจึงทำเพียงเหลือบมองโม่เพียว แล้วพูดว่า “โม่เพียว รีบขอโทษองค์หญิงสิบสาม”
แต่หลังจากพูดเช่นนี้ สายตาสงสัยของนางก็จับจ้องไปที่เนี่ยนเนี่ยนอีกครั้ง นางได้ยินถูกต้องแล้ว โม่เพียวเรียกอวี้ซีว่าคุณหนูจริง ๆ
เมื่อหลิ่วซื่อเห็นฮูหยินเฒ่าไป๋เปิดปากพูด นางจึงรีบพูดตาม “โม่เพียว ใครอนุญาตให้เจ้าทำร้ายคนขององค์หญิง? เจ้ามันไร้มารยาท คนอย่างเจ้าไม่สมควรเป็นคนรับใช้ในจวนซูกั๋วกงของเรา จากนี้ไปเจ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับจวนซูกั๋วกง ไม่ว่าเจ้าจะอยู่หรือตาย ก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับจวนนี้”
มุมปากของโม่เพียวกระตุก ไม่ว่านางจะอยู่หรือตายก็ไม่เกี่ยวอะไรกับจวนซูกั๋วกง นางเป็นคนของตำหนักอ๋องซิวแห่งอาณาจักรเฟิงชาง นางจึงไม่สนใจสถานที่แห่งนี้อยู่แล้ว
ตั้งแต่ตอนที่โม่เพียวเข้ามา เนี่ยนเนี่ยนก็เอามือออกจากในแขนเสื้อ
เมื่อได้ยินคำว่า “คุณหนู” จากโม่เพียว นางก็รีบมองไปที่ฮูหยินเฒ่าไป๋ ส่วนฮูหยินเฒ่าไป๋ก็หรี่ตามองมาที่นาง
เนี่ยนเนี่ยนถอนหายใจ เอาล่ะ วันนี้นางพาหงหยามาที่นี่ ตั้งแต่วินาทีที่นางสัญญาว่าจะช่วยหงหยา นางก็วางแผนจะหยุดปกปิดตัวตนของนางแล้ว
เพียงแต่นางปกปิดฮูหยินเฒ่าไป๋มานาน เพราะกลัวว่านางจะไม่พอใจ
หลิ่วซื่อที่อยู่ตรงนั้นตะโกนใส่คนรับใช้ข้างนอกอย่างเกรี้ยวกราด “พวกเจ้ายังไม่เข้ามาอีก เหตุใดไม่เข้ามาจับสตรีหยิ่งยโสเหล่านี้ออกไปให้องค์หญิง? ต้องการให้องค์หญิงลงมือเองหรืออย่างไร?”
ถือได้ว่าเป็นการหาโอกาสให้นางกำจัดคนทั้งสองที่ไม่ทราบที่มาได้ในคราวเดียว
ฮูหยินเฒ่าไป๋ขมวดคิ้ว นี่คือจวนซูกั๋วกง นางเป็นฮูหยินเฒ่า และนางมีราชโองการจากฮ่องเต้ องค์หญิงจะได้รับอนุญาตให้ทำทุกอย่างที่ต้องการในจวนของนางเองได้อย่างไร? แม้ว่าจะต้องลงโทษ แต่ก็ไม่ใช่หน้าที่ของนาง เถียงกันมานานก็น่าจะพอแล้ว หลิ่วซื่อคนนี้ก็กลัวว่าโลกจะไม่วุ่นวายพอ
ฮูหยินเฒ่าไป๋ก้าวไปข้างหน้า ขณะที่นางกำลังจะส่งเสียง ทันใดนั้นนางก็เห็นหงหยาที่ตัวสั่นขณะคุกเข่าบนพื้น เข้าไปกอดขาขององค์หญิงสิบสาม พลางร้องไห้และพูดว่า “องค์หญิง องค์หญิงโปรดสงบสติอารมณ์ก่อนเพคะ เรื่องนี้เป็นความผิดของบ่าวเองเพคะ เป็นบ่าวเองที่ทำลายหยกหรูอี้ของไท่จื่อ ท่านควรจะประหารชีวิตบ่าวเท่านั้นเพคะ อวี้ซีและโม่เพียวต่างเป็นผู้บริสุทธิ์ พวกนางไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย องค์หญิง เป็นหนี้ต้องจ่าย เป็นคนร้ายต้องชดใช้กรรม ได้โปรดประหารชีวิตบ่าวแล้วปล่อยคนอื่นไปเถิดเพคะ”
องค์หญิงสิบสามตกตะลึง จากนั้นจึงเตะหงหยาออกไปด้วยความรังเกียจ แล้วถอยหลังไปสองสามก้าว “หุบปาก ใครอนุญาตให้เจ้าแตะต้องตัวข้า? ไม่ต้องกังวล เจ้าคิดว่าคนที่ทำหยกหรูอี้ของเสด็จพี่แตกจะปลอดภัยหรือ? หลังจากที่ข้าจัดการกับสองสาวผู้เย่อหยิ่งนี้แล้ว ข้าจะจัดการกับเจ้าทีหลัง ตอนนี้จงคุกเข่าลงอย่างเชื่อฟัง หากเจ้ายังกล้าแตะต้องข้าอีก ข้าจะตัดมือของเจ้าเสียก่อน”
“องค์หญิง โปรดไว้ชีวิตอวี้ซีและโม่เพียว บ่าวขอร้ององค์หญิง บ่าวทำให้พวกนางต้องรับเคราะห์ไปด้วยเพคะ” หงหยาถูกองค์หญิงที่สิบสามเตะออกไป เมื่อนางได้สติก็รีบหมอบลงกับพื้นทันที
เนี่ยนเนี่ยนขมวดคิ้ว เมื่อเห็นว่ามีสีเลือดปรากฏขึ้นที่หน้าผากของนาง สีหน้าของเนี่ยนเนี่ยนก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นจึงขยิบตาให้โม่เพียว
โม่เพียวรีบก้าวเข้าไปประคองศีรษะของหงหยาทันที “เจ้ากำลังทำอะไร?”
เหตุใดหญิงคนนี้ถึงดื้อรั้นกว่านาง?
หงหยาน้ำตาไหลพราก ขณะบ่นพึมพำว่า “ข้าขอโทษ ทั้งหมดเป็นความผิดของข้า เป็นความผิดของข้าทั้งหมด ข้าขอโทษ เป็นข้าเองที่ทำให้พวกเจ้าต้องเดือดร้อน โม่เพียว ข้าคือคนที่สมควรตาย เมื่อครู่ เมื่อครู่นี้ข้าไม่ควรถูกชุบชีวิตขึ้นมา จะได้ไม่ทำให้พวกเจ้าต้องเดือดร้อน”
“ไม่เป็นอะไร ข้าไม่กลัวที่จะต้องยุ่งเกี่ยว อย่างไรเสีย ถ้านางต้องการฆ่าข้าก็ต้องถามคุณหนูของข้าก่อน”
หงหยาตกตะลึง “คุณหนูหรือ?”
“เจ้าอย่าทรมานตัวเอง คุณหนูของข้าสัญญาแล้วว่าจะปกป้องเจ้า นางจะทำ” โม่เพียวหยิบผ้าเช็ดหน้าที่พกติดตัวออกมา แล้วเช็ดคราบเลือดบนหน้าผากของนาง น่าสงสารมาก เสียงยังแหบแห้งอยู่เลย แต่ยังทำร้ายตัวเองด้วยการเอาหน้าผากโขกพื้นอีก
ตอนนี้ติงเซียงที่อยู่ด้านข้างไม่ได้พูดอะไรสักคำ นางได้ยินชัดเจนว่าโม่เพียวเรียกอวี้ซีว่า… คุณหนู คุณหนูงั้นหรือ?
อวี้ซีเป็นสาวใช้ไม่ใช่หรือ? นางเป็นสาวใช้ที่เข้ามาในจวนพร้อมกับโม่เพียวไม่ใช่หรือ? ตอนนี้โม่เพียวพูดจริง ๆ แล้วว่านางเป็นคุณหนูของนาง เป็นไปได้หรือไม่ว่านางเป็นลูกสาวของครอบครัวที่ร่ำรวย?
ติงเซียงไม่เข้าใจ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง นางรู้สึกสบายใจขึ้นอย่างอธิบายไม่ถูก นางยื่นมือออกไปจับมือหงหยา แล้วพูดเสียงเบาว่า “เจ้าหยุดพูดก่อนเถอะ”
บัดนี้คนรับใช้ทั้งสองที่หลิ่วซื่อเรียกได้เข้ามาแล้ว
ด้วยการสนับสนุนขององค์หญิงและหลิ่วซื่อ หลิ่วยางยางชี้ไปที่เนี่ยนเนี่ยนทันที แล้วพูดอย่างหงุดหงิดว่า “พวกเจ้ารีบจับตัวนางไปส่งให้องค์หญิงเร็วเข้า”
เนี่ยนเนี่ยนหรี่ตามองถังหมิ่นหยาง “องค์หญิง ท่านจะจับข้าจริงหรือ?” มือของนางเอื้อมเข้าไปในแขนเสื้ออีกครั้ง
องค์หญิงสิบสามไม่สนใจที่นางพูดเลย พ่นลมหายใจอย่างเย็นชา
สาวใช้หยาบกระด้างทั้งสองเดินไปหาเนี่ยนเนี่ยน แต่ก่อนที่พวกนางจะทันได้แตะต้องตัวนาง ทันใดนั้นก็มีเสียงดังมาจากข้างนอก “ข้าจะดูว่าใครกล้าแตะต้องนาง”
หลังจากนั้นไม่นาน ผ้าม่านก็ถูกเปิดออกและมีคนก้าวเข้ามา
ทุกคนในห้องมองไปข้างนอก สีหน้าของหลิ่วยางยางและองค์หญิงสิบสามเปลี่ยนไปเล็กน้อย ในไม่ช้าพวกนางก็เขินอายแล้วค่อย ๆ ก้มหน้าลง
………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
เนี่ยนเนี่ยนเป็นยิ่งกว่าบุตรีตระกูลร่ำรวยอีกค่ะ ถ้าไม่กลัวว่าจะกลายเป็นการประกาศศึกสองอาณาจักรก็เชิญลงมือทำร้ายเนี่ยนเนี่ยนเลย
ไหหม่า(海馬)