อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 167 เลือดของผู้อาวุโส
ตอนที่ 167 เลือดของผู้อาวุโส
เที่ยงวันพุธ เจียงเฉาอยากกินข้าวกับมู่เถาเยา
มู่เถาเยาจึงพาเขามาด้วย
เฉิงอันนั่วยิ้มถาม “อาจารย์ก็จะไปโรงพยาบาลผิงคังด้วยกันเหรอครับ”
“ทำไม ไม่ได้เหรอ พวกเธอมีเรื่องปิดบังฉันหรือไง”
“ที่ไหนกันล่ะครับ ไปได้อยู่แล้ว! เรื่องน่ะมี แต่ว่ามันเป็นเรื่องของครอบครัวคุณป้าผม ถ้าอาจารย์อยากทราบก็ย่อมได้ครับ”
“เสี่ยวเยาเยา มีเรื่องอะไรกันเหรอ”
“เหลยถิงพี่ชายที่เป็นญาติของอันนั่วถูกพิษค่ะ”
คนกันเอง บอกได้
“ถูกพิษเหรอ พิษอะไร ถอนพิษหรือยัง ถูกคนวางยาหรือตัวเองเผลอไปโดนพิษเข้า”
เจียงเฉายิงคำถามต่อเนื่อง น้ำเสียงร้อนรน
“เหมือนเป็นฝีมือคนทำค่ะ ตัวเหลยถิงเองคงไม่ทราบ ไม่ใช่พิษร้ายแรง ถอนง่าย แต่พวกเราอยากจับตัวการให้ได้ก่อน ไม่อย่างนั้นถอนพิษไปก็อาจมีการวางยาซ้ำอีก เกิดควบคุมปริมาณไม่ดีอาจถึงแก่ชีวิตได้ค่ะ”
“ตราบใดที่ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต ควรทำยังไงก็ว่าไปตามนั้น ลำบากหน่อยไม่เท่าไรหรอก พวกเธอสงสัยใครบ้างไหม”
“มีคนที่น่าสงสัยเป็นพิเศษอยู่คนนึงค่ะ แต่ก่อนหน้านี้เหลยถิงทำงานที่เมืองหลวง พวกเราไม่รู้ความสัมพันธ์ของเขากับคนอื่น เลยยังฟันธงไม่ได้ว่ามีใครน่าสงสัยอีกค่ะ”
“เสี่ยวเยาเยา ไม่งั้นให้อาจารย์ส่งคนไปสืบที่เมืองหลวงดูดีไหม”
“เดี๋ยวเจอศิษย์พี่ใหญ่ค่อยปรึกษากันดีกว่าค่ะ”
ถึงแม้จะเจตนาดี แต่การไปตรวจสอบเรื่องส่วนตัวของคนอื่นก็ไม่ค่อยดีเท่าไร อย่างไรเสียเธอกับอาจารย์อาเล็กก็ไม่ได้สนิทกับครอบครัวเหลยถิง
“ได้ ไว้ค่อยว่ากัน”
พอไปถึงห้องอาหารของโรงพยาบาลผิงคัง เฉิงหรานถึงได้รู้ว่ามีคนเพิ่มขึ้นมาอีกคน
“อาจารย์อาเล็กก็มาด้วย”
“อืม ทำไมเมื่อคืนนายไม่บอกฉัน”
“เมื่อคืนมันดึกมากแล้วครับ”
มู่เถาเยา “พวกเรากินข้าวกันก่อนค่ะ เดี๋ยวค่อยกลับไปคุยในห้องทำงาน”
ในห้องอาหารมีคนอยู่เยอะ ไม่สะดวกคุยเรื่องพวกนี้
ทุกคนพยักหน้า ก้มหน้าก้มตากินข้าว
เนื่องจากมีเรื่องในใจ อาหารมื้อนี้จึงกินกันอย่างรวดเร็ว แค่ประมาณครึ่งชั่วโมง
พอกลับถึงห้องทำงาน เฉิงอันนั่วก็เทน้ำใส่แก้วกระดาษมาให้ทุกคนที่นั่งคุยกัน
“เสี่ยวเยาเยา วันนี้ฉันลองคิดดูแล้ว พรุ่งนี้ฉันว่าจะให้พ่อแม่กับทุกคนในครอบครัวเหลยมาตรวจสุขภาพ เดิมทีก็ใกล้ถึงเวลาต้องตรวจแล้ว แบบนี้จะได้ไม่ถูกสงสัย”
“ได้ค่ะ พรุ่งนี้ฉันจะมาอีกรอบ”
อาจารย์อาเล็กกับเฉิงอันนั่วพูดขึ้นพร้อมกัน
“ผมก็จะมาด้วย”
“ฉันก็จะมาด้วย”
“ฉันกับอันนั่วก็จะตรวจสุขภาพด้วย แบบนี้จะยิ่งเนียนเข้าไปใหญ่”
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
เฉิงหราน “เสี่ยวเยาเยา เธออธิบายพิษตัวนี้อีกหน่อยสิ”
“อันที่จริง กลับสู่ถิ่น เป็นพืชมีพิษที่ค่อนข้างพบได้บ่อย สัตว์หลายชนิด หรือแม้กระทั่งคนก็ล้วนเข้าใจผิดกินผลของมัน เพียงแต่ผลสดไม่เหมือนกับยาพิษที่ถูกสกัดออกมาแล้ว ผลสดมีพิษเพียงเล็กน้อย อย่างมากก็แค่ทำให้ท้องเสีย”
คนที่นั่งอยู่ตรงนี้เป็นหมอกันหมด พอมู่เถาเยาพูดแบบนี้ก็เข้าใจแล้ว
เมื่อพิษถูกสกัดออกมา นั่นต่างหากที่จะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
มู่เถาเยา “ศิษย์พี่ใหญ่รู้ไหมคะว่าเหลยถิงคบกับเจียงเย่ว์มานานเท่าไรแล้ว”
อาจารย์อาเล็ก “เจียงเย่ว์เหรอ ใช่เจียงเย่ว์ที่เพิ่งย้ายมาจากมหาวิทยาลัยแพทย์เมืองหลวงนั่นหรือเปล่า”
เขาจำนักศึกษาที่เป็นตัวแทนประเทศเหยียนหวงเข้าร่วมแข่งขันทักษะทางการแพทย์ได้หมดทุกคน
มู่เถาเยาพยักหน้า “ใช่ค่ะ เมื่อวานหนูเจอเธอตอนไปกินข้าวที่บ้านพี่สาวศิษย์พี่ใหญ่ค่ะ”
เฉิงหรานคิดแล้วพูดขึ้น “อาถิงกับเจียงเย่ว์น่าจะคบกันได้สองปีแล้วมั้ง เขาเรียนจบจากมหาวิทยาลัยในเมืองหลวง พอเรียนจบก็อยู่ทำงานที่เมืองหลวงต่อ”
เฉิงอันนั่วพยักหน้า “ใช่ครับ ผมจำได้ว่าพี่บอกกับคนในครอบครัวว่ามีแฟนตอนหยุดวันชาติหลังจากทำงานได้สองปี เมื่อไม่กี่วันก่อนเพิ่งพากลับมาครั้งแรก”
อาจารย์อาเล็กขมวดคิ้วพลางพูด “ในเมื่อพวกเขาคบกันมาแล้วสองปี งั้นทำไมไม่วางยาตั้งแต่สองปีก่อน แต่มาวางยาเอาตอนนี้ล่ะ ระยะเวลาสองปี เดิมทีก็ไม่มีความระแวงต่อกันแล้วนะ มีโอกาสให้วางยาเยอะแยะ”
มู่เถาเยา “อืม นี่ก็คือจุดสงสัยที่ใหญ่สุด ถ้าคนร้ายเป็นเธอ ทำไมเมื่อก่อนไม่ลงมือแต่มาทำเอาตอนนี้ แต่ถ้าไม่ใช่เธอ งั้นก็ต้องถามเหลยถิงแล้วล่ะค่ะว่าไปบาดหมางกับใครหรือเปล่า”
เฉิงหราน “เมื่อก่อนอาถิงอยู่เมืองหลวง พวกเราไม่รู้ว่าเขามีมนุษย์สัมพันธ์เป็นยังไงบ้าง”
มู่เถาเยา “ถ้าศิษย์พี่ใหญ่ว่างก็ลองตะล่อมถามเขาหน่อยนะคะ ถ้าไม่ไหวก็บอกเขาตรงๆ เลย ถ้าไม่กำจัดตัวการทิ้ง ทุกคนคงไม่เป็นสุข”
ทุกคนพากันพยักหน้า
มู่เถาเยา “เหลยถิงเพิ่งถูกพิษได้ไม่นาน ฉันสงสัยว่าน่าจะเป็นช่วงที่กลับมาครั้งล่าสุดแล้วกลับไปเมืองหลวงอีกครั้ง ตอนนี้ถ้าไม่ลองจับชีพจรดูก็สรุปได้ยากค่ะ”
“เสี่ยวเยาเยา จะเป็นไปได้ไหมว่าเจียงเย่ว์อยากมาเย่ว์ตู แต่อาถิงกลับไม่อยากทิ้งงานที่เมืองหลวง จากนั้น…” เฉิงหรานขมวดคิ้วแน่นขึ้น
มู่เถาเยาส่ายหน้า “ไม่น่าจะเพราะเรื่องแค่นี้นะคะ ถ้าคนร้ายเป็นเจียงเย่ว์ งั้นก็มีความเป็นไปได้ว่าถูกพิษหลังจากกลับมาบ้านครั้งล่าสุด ตรงจุดนี้จะต้องมีชนวนอะไรแน่นอนค่ะ”
ทุกคนต่างอยู่ในห้วงคิดหนัก
เฉิงอันนั่ว “อันที่จริงพวกเรามัวแต่เดามั่วอยู่ตรงนี้ก็ไม่มีประโยชน์ ไว้พรุ่งนี้ผมจะลองถามพี่ก่อนว่ามีเพื่อนสนิทบ้างไหม หรือเคยขัดแย้งกับใครไหม”
เฉิงหราน “งั้นรอพรุ่งนี้ตรวจสุขภาพ ตะล่อมถาม ค่อยตัดสินใจว่าจะบอกไปตรงๆ ดีหรือเปล่า กลัวแค่ว่าเขาไม่ยินดีจะสงสัยแฟนตัวเอง”
มู่เถาเยามองทุกคนแล้วพูดขึ้น “ฉันมีวิธีที่โหดร้ายสักหน่อย แต่จะรู้ได้เร็วว่าใช่เจียงเย่ว์หรือเปล่าค่ะ”
เฉิงหราน “ไหนลองว่ามาสิเสี่ยวเยาเยา”
“ถ้าเหลยถิงไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร งั้นเจียงเย่ว์จะน่าสงสัยหนักที่สุด แวดวงเพื่อนฝูงของเหลยถิงอยู่เมืองหลวงกันหมด ถ้าเป็นเพียงการแข่งขันในที่ทำงาน ตอนนี้เขาลาออกกลับมาแล้ว อาจไม่มีการวางยาอีกเป็นครั้งที่สอง”
เฉิงอันนั่วพูดต่อ “ถ้าถูกวางยาเป็นครั้งที่สอง อีกทั้งไม่มีบุคคลต้องสงสัยมาเย่ว์ตู งั้นก็ต้องเป็นเจียงเย่ว์แน่นอนแล้ว”
มู่เถาเยาพยักหน้า
อาจารย์อาเล็ก “แต่ว่าเสี่ยวเยาเยา เจียงเย่ว์จะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร ต่อให้ไม่รัก เหลยถิงก็ไม่ได้บังคับเธอหรือเปล่า เลิกกันก็จบ ถึงขนาดต้องวางยากันเลยเหรอ”
“ถึงได้บอกไงคะว่ามันต้องมีชนวน แต่ว่าชนวนนั้นคืออะไร ตอนนี้พวกเรายังไม่รู้ ไว้รอพรุ่งนี้ตรวจชีพจรยืนยันช่วงเวลาที่ถูกพิษ พวกเราค่อยมาคุยกันเรื่องนี้ค่ะ”
เฉิงหราน “เสี่ยวเยาเยา งั้นพวกเราแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องไปก่อน ลองดูว่าคนร้ายจะวางยาอีกครั้งหรือไม่ ดีไหม”
“ตราบใดที่ผู้ใหญ่อย่างพวกศิษย์พี่ใจแข็งพอ ยังไงก็ได้ค่ะ”
วิธีโหดร้ายที่เธอหมายถึงเมื่อครู่ก็คือแบบนี้
ยอมทนทรมานสักหน่อยเพื่อกำจัดต้นตอคือวิธีที่เร็วที่สุด
เฉิงหราน “ลำบากหน่อยเพื่อกระชากตัวคนร้ายออกมา แบบนั้นยอมใจแข็งได้ ขอแค่ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตเป็นพอ”
“วางใจได้ค่ะ ฉันช่วยเขาได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ รับรองว่าสุขภาพกลับมาดีเยี่ยมกว่าเดิมแน่นอน!”
มู่เถาเยาเปิดกล่องยาใบน้อยของตัวเอง หยิบพวกขวดสีขาวขนาดเล็กออกมาให้ทั้งสามคน
“ในหนึ่งขวดมียาถอนพิษสามเม็ด เก็บกันไว้ให้ดีนะคะ โดยพื้นฐานสามารถกำจัดพิษได้ทุกชนิด”
เฉิงหราน “งั้นฉันจะให้อาถิงพกไว้หนึ่งเม็ด”
“ค่ะ ถ้าสถานการณ์วิกฤตก็กินได้เลย” แบบนี้ก็ไม่ต้องกังวลว่าเธอจะมาช่วยไม่ทันแล้ว
มาช่วยได้ทันย่อมเป็นเรื่องดี ต่อให้ไม่ทันก็ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่ มิฉะนั้นเธอไม่มีทางเสนอวิธีนี้
ชีวิตคนเรื่องใหญ่ จะใช้เป็นเหยื่อล่อไม่ได้
มู่เถาเยาเตือน “ศิษย์พี่ใหญ่ต้องให้เหลยถิงปิดบังเจียงเย่ว์เรื่องยาถอนพิษนะคะ”
“เข้าใจแล้ว เสี่ยวเยาเยา เธอขอเลือดผู้อาวุโสถังกลับมาด้วยหรือเปล่า”
“ค่ะ เดี๋ยวตอนบ่ายฉันจะเอาไปตรวจ”
“งั้นตอนบ่ายฉันจะไปศูนย์วิจัยด้วย”
“ค่ะ”
อาจารย์อาเล็กกับเฉิงอันนั่วก็แสดงท่าทีว่าอยากไปดูด้วย
มู่เถาเยาย่อมไม่ห้ามอะไร