อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 220 เก็บสดมาปรุงยา
ตอนที่ 220 เก็บสดมาปรุงยา
มู่เถาเยาเพิ่งมาถึงบ้านตระกูลตี้ก็ได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์ ตี้อู๋เปียน อวิ๋นสุ่ยเหยา พ่อบ้าน พวกบอดี้การ์ดออกไปรอรับคนและยังมีฉือซานกับสามีอีกด้วย
เธอรู้ว่าครั้งนี้ราชาตี้กับคุณนายอวิ๋นเหอตั้งใจเดินทางจากตี้ตูเพื่อมาเยี่ยมอาจารย์ใหญ่ของเธอ
“พ่อครับ แม่ครับ”
“คุณลุงคุณป้า”
“คุณอา อาเขย”
ตี้อู๋เปียน มู่เถาเยา และอวิ๋นสุ่ยเหยาแทบจะทักทายพร้อมกัน
“ท่านราชา คุณนาย” อาซานกับสามีทักทาย
คุณนายอวิ๋นเหอยิ้มพูด “ฉือซานกับจิงเทามาเย่ว์ตูได้ยังไง”
คุณนายอวิ๋นเหอก็ค่อนข้างสนิทสนมกับคนของทางบ้านน้องสะใภ้
“ชิงเฉวียนบอกว่าทางนี้มีเด็กสาวอยากเข้าวงการบันเทิงอยู่คนหนึ่ง ทั้งยังบอกว่าถ้าฉันมาอาจมีเซอร์ไพรส์ ฉันก็เลยมาค่ะ แล้วก็มีเซอร์ไพรส์จริงๆ ด้วยค่ะ!”
ฉือซานมองมู่เถาเยาด้วยสีหน้าเอ็นดูและตื้นตันใจ
คุณนายอวิ๋นเหอยิ้มพูด “ยังดีที่พวกเธอไม่ถอดใจ”
“ใช่ค่ะ เดิมทีพวกเราเลิกหวังแล้ว แต่ชิงเฉวียนเกลี้ยกล่อมฉัน เสี่ยวเยาเยารักษาฉันกับสวีจิงเทาให้หายได้จริงๆ ค่ะ!”
คุณนายอวิ๋นเหอมองเด็กสาวที่ยืนข้างลูกชายคนเล็กด้วยความเอ็นดู เด็กสาวที่งดงามดุจภาพวาด “เสี่ยวเยาเยา วิชาการแพทย์ของหนูล้ำเลิศจนป้าไม่รู้จะใช้คำไหนมาบรรยายแล้วนะ”
“คุณป้าคะ อาซานกับอาเขยอาจนึกไม่ถึงว่ามารักษากับแพทย์แผนโบราณก็ได้ อย่าว่าแต่อาจารย์หนูเลยค่ะ ต่อให้เป็นพวกศิษย์พี่ของหนูก็รักษาได้เหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้นศิษย์พี่รองของหนูยังอยู่เจียงตูด้วย”
ฉือซานมีสีหน้านึกเสียใจ “เสี่ยวเยาเยา พวกเราไม่เคยไปหาแพทย์แผนโบราณเลยจริงๆ”
พวกเขาได้รับการศึกษาสมัยใหม่ ไม่ค่อยเข้าใจศาสตร์แพทย์แผนโบราณ ถึงขั้นที่ว่ามีความเข้าใจแบบผิดๆ ด้วยซ้ำ
ใครๆ ต่างก็รู้ว่าการรักษาแผนโบราณเห็นผลช้า เลยคิดว่าไม่ได้ผล ไม่มีความอดทนมากพอที่จะกินยาตลอดการรักษา
มู่เถาเยาเข้าใจพวกเขา
อย่างไรเสียสำหรับยุคปัจจุบัน แพทย์แผนโบราณก็…ล้าหลังไปแล้ว
สมัยนี้คนเราใจร้อน ทำอะไรก็อยากได้ผลลัพธ์เร็วๆ ถึงขั้นที่ไม่คำนึงถึงผลข้างเคียงด้วยซ้ำ
แพทย์แผนปัจจุบันได้เปรียบเรื่องการช่วยชีวิตคนไข้ ช่วยบรรเทาอาการได้อย่างรวดเร็ว แต่ในด้านการรักษาโรคเรื้อรังกลับได้ผลไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไร
แพทย์แผนโบราณรักษาคนโดยให้ความสำคัญกับภาพรวม ระบบร่างกาย ความสัมพันธ์ของแต่ละส่วนกับทั้งหมด ถนัดเรื่องการปรับสมดุลเลือดลม รักษาแบบหยินหยาง
ส่วนการรักษาแผนปัจจุบันจะเน้นการผ่าตัด หลักการของโรค กายวิภาค เป็นต้น หรือความผิดปกติของอวัยวะหรือเนื้อเยื่อต่างๆ
เนื่องจากแพทย์แผนโบราณจะให้ความสำคัญกับการรักษาสมดุลหยินหยาง จึงเป็นการรักษาที่ยาวนานมากในสายตาของแพทย์แผนปัจจุบัน
คุณนายอวิ๋นเหอ “แพทย์แผนปัจจุบันกับแพทย์แผนโบราณต่างดีกันคนละแบบ แพทย์แผนโบราณสืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้ได้ก็ย่อมมีดีในตัว พวกเราจะมองแค่ด้านเดียวไม่ได้”
ฉือซานพูดด้วยความรู้สึกผิด “พวกเราความคิดคับแคบเองค่ะ”
สวีจิงเทาก็พยักหน้าเห็นด้วย
ราชาตี้มองลูกชายที่สีหน้าดีขึ้นมาก “อู๋เปียน รู้สึกเป็นไงบ้าง”
“มีเรี่ยวแรงขึ้นแล้วครับ ซาลาเปาน้อยบอกว่าอีกไม่กี่เดือนผมก็เหมือนคนทั่วไปแล้ว”
“ดีมาก ดี”
พ่อกับแม่ต่างน้ำตาคลอ
อวิ๋นสุ่ยเหยาคล้องแขนอวิ๋นเหอพูดออดอ้อนอยู่สักพัก ทำเอาทั้งสองคนเปลี่ยนอารมณ์
ราชาตี้ยิ้มถาม “เสี่ยวเยาเยา อาจารย์ใหญ่ของหนูอยู่ตำหนักพระจันทร์ไหม”
“อยู่ค่ะ”
และก็เพราะสามีภรรยาที่สูงศักดิ์ที่สุดของประเทศเหยียนหวงจะมา อาจารย์ใหญ่ถึงยอมมาพักที่นี่ ไม่อย่างนั้นลำพังแค่ตำราโบราณก็ยังไม่พอเหนี่ยวรั้งให้เขาพักที่ตำหนักพระจันทร์ได้ อย่างมากก็แค่เอาหนังสือกลับไปอ่านด้วย
คุณนายอวิ๋นเหอจับมือมู่เถาเยาพลางพูด “งั้นพวกเราเข้าไปเก็บสัมภาระเสร็จก็ไปเยี่ยมอาจารย์ของหนูกันนะ”
“คุณป้าคะ ที่ตำหนักพระจันทร์มีคนอยู่เยอะ ครอบครัวของพวกศิษย์พี่หนู…”
“ไม่เป็นไรจ้ะ คนที่เข้าไปในตำหนักพระจันทร์ได้ก็แสดงว่าคนกันเองทั้งนั้น”
“ค่ะ”
มู่เถาเยาขึ้นรถไปพร้อมราชาตี้ อวิ๋นเหอ ตี้อู๋เปียน อวิ๋นสุ่ยเหยา พ่อบ้านจงสั่งให้คนขนพวกของฝากไป
ฉือซานกับสามีกลับพร้อมพ่อบ้านจง
มู่เถาเยาเอายาให้สวีจิงเทาในจังหวะที่ราชาตี้กับอวิ๋นเหอขึ้นไปเก็บของเล็กน้อย
“เหยาเหยา ช่วยเอากระดาษกับปากกามาหน่อยสิ พี่จะเขียนใบสั่งยา”
“ได้ค่ะ”
หลังจากให้เด็กสาวออกไปแล้ว มู่เถาเยาถึงพูดกับสวีจิงเทา “กินก่อนนอนหนึ่งชั่วโมงทุกวัน ระหว่างที่กินยานี้ก็แยกกันนอนดีกว่าค่ะ”
ตี้อู๋เปียน “…”
คำพูดสองแง่สองง่ามแบบนี้ซาลาเปาน้อยก็พูดออกมาได้
“…โอเค”
เด็กสาวที่เพิ่งอายุสิบแปดมาพูดเรื่องนี้กับพวกเขา ฉือซานกับสามีก็รู้สึกอายอยู่บ้าง แม้เด็กสาวคนนี้จะเป็นหมอก็ตาม
“กระดาษกับปากกามาแล้วค่ะ”
มู่เถาเยาพูดขอบใจแล้วรับไป
“อาซานคะ หนูจะเขียนใบสั่งยาให้ ต้มสองเที่ยว แบ่งกินสองครั้ง หลังอาหารเช้ากับเย็นครึ่งชั่วโมง…”
มู่เถาเยาเขียนใบสั่งยาเสร็จก็กำชับเรื่องต่างๆ ให้สองสามีภรรยาฟัง
“เข้าใจแล้ว ขอบใจนะจ๊ะเสี่ยวเยาเยา”
“พรุ่งนี้เช้าหนูจะฝังเข็มให้ตี้อู๋เปียน เช้าวันจันทร์หนูจะไปเก็บสมุนไพรมาทำยาให้อาเขยอีก แบบนี้ก็จะพอกินหนึ่งเดือนแล้วค่ะ วันสุดท้ายพวกคุณอาค่อยมาให้หนูจับชีพจรอีกรอบก็พอค่ะ”
“เสี่ยวเยาเยาจ๊ะ ยาของสวีจิงเทาต้องให้หนูไปเก็บด้วยตัวเองจริงๆ เหรอ”
เธอรู้มาจากพวกเด็กสาวว่าเสี่ยวเยาเยางานยุ่งมาก
“ก็ไม่ถึงกับต้องไปเองค่ะ แต่ยาตำรับนี้ต้องเก็บสมุนไพรมาทำเป็นยาก่อนเก้าโมงเช้า ถ้าให้คนอื่นไปก็ต้องรีบตื่นแต่เช้าขึ้นเขา ฟ้ายังไม่สว่างไปเก็บสมุนไพรค่อนข้างยากพอสมควรค่ะ”
“เสี่ยวเยาเยา…”
ฉือซานเกรงใจเด็กสาวคนนี้ แต่โรคของพวกเขาจะไม่รักษาก็ไม่ได้
“ไม่เป็นไรค่ะอาซาน ก็แค่ตอนเช้าสองวัน เดือนหน้าเปลี่ยนตำรับยาหนูก็ไม่ต้องไปเก็บเองแล้วค่ะ ใช้สมุนไพรแห้งได้”
“เข้าใจแล้ว ขอบใจนะเสี่ยวเยาเยา”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
เวลานี้ราชาตี้กับคุณนายอวิ๋นเหอลงมาจากชั้นบนแล้ว
“อาซานกับอาเขยก็ไปด้วยกันสิคะ ที่บ้านมีพวกศิษย์พี่กับพี่สะใภ้ด้วยค่ะ”
“จ้ะ งั้นพวกเราตามไปทำความรู้จักหน่อย”
“ค่ะ”
พ่อบ้านจงส่งพวกเขาออกจากบ้าน ถามก่อนขึ้นรถ “ท่านราชาครับ ท่านกับคุณนาย คุณชายเล็ก คุณหนู จะกินข้าวเย็นที่ตำหนักพระจันทร์เลยไหมครับ”
ราชาตี้พยักหน้า
“งั้นเดี๋ยวอีกสักพักผมจะให้พ่อครัวเอาวัตถุดิบไปช่วยทำอาหารครับ”
“อืม”
“ตอนนี้อยากให้ส่งคนไปหน่อยก่อนไหมครับ”
พ่อบ้านพูดประโยคนี้กับราชาตี้และคุณนายอวิ๋นเหอเสร็จก็หันไปมองมู่เถาเยา
มู่เถาเยา “ไม่ต้องหรอกค่ะ พวกเราทำกันเองได้ค่ะ”
ตำหนักพระจันทร์ไม่มีคนรับใช้
ข้อแรกเป็นเพราะไม่ค่อยมีคนมาพัก ข้อสองเพราะเธอไม่ชอบให้ใครรบกวน
จึงมีแค่คนรับใช้ของตระกูลตี้ที่เคยมาช่วยทำความสะอาดครั้งใหญ่ก่อนเธอเข้าอยู่
ราชาตี้ “พวกเราเอาตามเสี่ยวเยาเยา”
“ได้ครับ งั้นผมจะไปเก็บผักผลไม้สดๆ ที่ด้านล่างเขาส่งไปให้นะครับ ตกปลาอีกสักสองสามตัวไปต้มซุปหรือเอาไปนึ่ง”
“ไปเถอะ ฉันจำได้ว่าลุงหยวนชอบกินปลา”
คุณนายอวิ๋นเหอยิ้มพูด “เสี่ยวเยาเยาก็ชอบกินปลา” ลูกชายคนเล็กเคยบอก
“งั้นผมจะตกไปเยอะหน่อย คนเยอะ ไม่กลัวกินไม่หมดครับ” พ่อบ้านจงยิ้มหน้าบาน
“อืม”
มู่เถาเยาไม่รู้ว่าเหลียงจี ปาอิน เฉิงอันนั่ว ออกไปจ่ายตลาดกันแล้ว ถ้ารู้จะต้องห้ามทางนี้แน่นอน
พวกเขาเพิ่งถึงตำหนักพระจันทร์ชิงหลินศิษย์พี่หญิงห้ากับเยี่ยหนานเฉินก็มาถึงไล่เลี่ยกัน
เด็กสาวสองคนก็ลงมาจากชั้นบน
มู่เถาเยาแนะนำคนที่ไม่รู้จักกันให้รู้จัก จากนั้นเธอก็ไปร่วมวงสนทนาระหว่างราชาตี้ คุณนายอวิ๋นเหอ ตี้อู๋เปียน และหยวนเหยี่ย ส่วนคนอื่นๆ แยกย้ายกันไปหลายกลุ่ม บ้างก็นั่งคุยกัน บ้างก็อ่านหนังสือ เพลิดเพลินในแบบของตัวเอง
ตอนต่อไป