อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 227 มีอันตรายถึงชีวิต
ตอนที่ 227 มีอันตรายถึงชีวิต
“ศิษย์พี่ใหญ่ต้องคาดไม่ถึงแน่ค่ะว่าแม่ของเจียงเย่ว์เกี่ยวข้องยังไงกับฉัน”
“เสี่ยวเยาเยารู้จักเหมียวฉีแม่ของเจียงเย่ว์ด้วยเหรอ” เฉิงหรานนึกไม่ถึงจริงๆ
สองคนนี้จะมีความเกี่ยวข้องกันยังไงได้
ปาอิน “เสี่ยวเยาเยา เธอเคยเจอแม่ของเจียงเย่ว์เหรอ ไหนว่าเหมียวฉีเป็นคนของเผ่า เธอไม่เคยไปที่เผ่าเสียหน่อย…เหมียวฉีงั้นเหรอ ทำไมฉันรู้สึกคุ้นชื่อนี้จัง”
“เหมียวฉีเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเหมียวอวี้”
ปาอินมีสีหน้าตะลึง
“เหมียวอวี้คือใครเหรอ” เหลยโจวถามด้วยความงุนงง
“เหมียวอวี้เป็นคนเลี้ยงฉันหลังจากฉันเกิดค่ะ”
เฉิงหรานกับเฉิงอันนั่วพอได้ฟังก็มีสีหน้าเคร่งขรึมทันที
“ฉันขอให้พี่ใหญ่สืบเรื่องเหมียวฉี พบว่าเธอเป็นพี่สาวที่เป็นญาติกับเหมียวอวี้ พ่อแม่ของเหมียวอวี้ทำงานที่นอกเผ่ามาตลอด จนกระทั่งเหมียวอวี้เกิดเรื่องถึงได้กลับมา เหมียวอวี้ถึงได้อาศัยอยู่บ้านลุงมาตั้งแต่เด็ก อายุห่างกับเหมียวฉีสามปี เป็นพี่น้องที่โตมาด้วยกัน”
เฉิงหรานพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “เสี่ยวเยาเยา งั้นที่เธอหายไปจะเกี่ยวข้องกับเหมียวฉีหรือเปล่า”
ไม่ใช่ว่าเขาคิดใส่ร้าย แต่เหมียวฉีเป็นพี่สาวของเหมียวอวี้พอดี ความบังเอิญแบบนี้มันทำให้อดคิดไม่ได้จริงๆ
“ยังตอบไม่ได้ค่ะ พี่ใหญ่กำลังสืบอยู่ ตอนนี้ยังไม่พบความผิดปกติอะไร ครอบครัวเหมียวอยู่ที่เผ่าก็ปกติมาก เรื่องนี้ไม่รีบค่ะศิษย์พี่ใหญ่ พวกเขาคิดเงินออกไปกันแล้ว เดี๋ยวพวกเราค่อยออกไปค่ะ”
“ได้”
เหลยโจว “รออาถิงไปส่งเจียงเย่ว์กลับมหา’ลัยเสร็จ พี่จะกะเวลาโทรหาเขา บอกให้ไปเจอที่ออฟฟิศพี่”
มู่เถาเยาพยักหน้า
เฉิงหราน “อีกเดี๋ยวพวกเธอสามคนกลับมหา’ลัยด้วยกันนะ”
ปาอิน “ฉันจะคอยสังเกตอารมณ์ของเจียงเย่ว์แล้วลองตะล่อมถามดูค่ะ”
ทุกคนพยักหน้า
สิบห้านาทีต่อมาพวกมู่เถาเยาก็ลงไปชั้นล่าง
เนื่องจากพี่ไช่ไม่ได้เอาใบเสร็จค่าอาหารมาให้ มู่เถาเยาก็เลยไปสแกนจ่ายที่เคาน์เตอร์คิดเงินโดยประมาณยอดรวมเอา
สองเถ้าแก่ต่างไม่อยู่หน้าร้าน คงมัวแต่ยุ่งอยู่ในครัว
พวกเขาสองสามีภรรยาเป็นเชฟหลักของร้าน
เหลยโจว “เดิมทีพี่จะเลี้ยงข้าวเสี่ยวเยาเยา…”
เมื่อครู่เขามองหาเถ้าแก่กับพนักงาน แต่พนักงานก็ยุ่งกันหมด เถ้าแก่ก็ไม่อยู่ แถมมู่เถาเยายังเร็วมาก…
“พี่เขยเหลยไม่ต้องเกรงใจค่ะ คนกันเองทั้งนั้น ใครจ่ายก็เหมือนกันค่ะ”
“ได้ งั้นคราวหน้ามากินบ้านพี่นะ คนแก่ที่บ้านบ่นถึงเธอบ่อยๆ”
“ได้ค่ะ”
พวกเขาแยกกันที่ลานจอดรถ
มู่เถาเยานั่งรถของเฉิงอันนั่วกลับมหาวิทยาลัย
เนื่องจากเฉิงหรานจะมาที่ออฟฟิศ เหลยโจวจึงไม่ได้ขับรถมา นั่งรถของเฉิงหรานกลับสำนักงานทนายความ
เหลยโจวกะเวลาโทรหาเหลยถิงแล้วเปิดลำโพงเพื่อให้เฉิงหรานที่กำลังขับรถได้ยินด้วย
“ครับพ่อ”
“อาถิง เดี๋ยวมาที่ออฟฟิศพ่อหน่อยนะ พ่อมีเรื่องจะคุยด้วย”
“เดี๋ยวผมว่าจะไปซื้อของขวัญให้พ่อแม่ของเจียงเย่ว์ พ่อมีเรื่องด่วนหรือเปล่าครับ”
“พวกเขาจะกลับกันแล้วเหรอ ไม่คิดจะมากินข้าวกับพ่อแม่บ้างเหรอ”
“พ่อครับ…พรุ่งนี้พวกเขาจะกลับบ้านเกิดที่เซิ่งตูกันครับ…”
“งั้นตอนเย็นลูกยังกินข้าวกับพวกเขาอีกหรือเปล่า”
“พวกเขาไม่ได้นัดผม แต่พรุ่งนี้ผมจะไปส่งพวกเขาที่สถานีรถไฟครับ”
“ในเมื่อไม่รีบ งั้นมาที่ออฟฟิศพ่อก่อนแล้วกัน เดี๋ยวค่อยไปเลือกของขวัญ”
“ครับ”
หลังจากวางสาย เฉิงหรานก็พูดขึ้น “สองคนนี้เป็นพ่อแม่ที่ดูผิดปกติ ผมชักจะพอเข้าใจแล้วว่าทำไมนิสัยเจียงเย่ว์ถึงเป็นแบบนั้น”
เหลยโจวพยักหน้า
“พี่เขยเอายาถอนพิษมาด้วยไหมครับ”
“พกมาแล้ว”
“ผมก็พกมาเหมือนกัน เมื่อกี้เสียงอาถิงไม่ผิดปกติ ก็ไม่รู้ว่าถูกวางยาหรือยัง หรือจะรอวางยาพรุ่งนี้ตอนอาถิงไปส่งที่สถานีรถไฟก็ไม่รู้นะครับ”
“หวังว่าเจียงจี๋จะไม่ถลำลึกไปมากกว่านี้สักที”
เหลยโจวไม่อยากให้ลูกชายทุกข์ทรมานอีก และก็ไม่อยากให้สังคมมีบุคคลอันตรายแบบนี้เพิ่มขึ้น
ทั้งสองคนมาถึงสำนักงานทนายความได้ประมาณครึ่งชั่วโมงเหลยถิงก็มาถึง
แอบสังเกตความเปลี่ยนแปลงในตัวเหลยถิงโดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้
แม้จะไม่มีอะไรผิดปกติ แต่ยังไม่ถึงสองชั่วโมงดี พวกเขาก็ไม่กล้าวางใจ
เหลยถิงยิ้มพลางพูด “น้าก็อยู่ด้วยเหรอครับ”
“อืม อาถิง นั่งลงคุยกัน”
“ครับ”
“อาถิง น้ากับพ่อนายเรียกนายมาเพราะอยากถามเกี่ยวกับเรื่องงาน เสี่ยวเยาเยาบอกว่ามีบริษัทด้านการลงทุนที่มีชื่อเสียงในเย่ว์ตูกำลังหานักวิเคราะห์อยู่ สนใจไหม”
“เย่ว์ตู…”
เหลยถิงลังเล
เหลยโจวขมวดคิ้วถาม “เป็นอะไร ไหนว่าอยากกลับมาทำงานที่นี่ไง ยังอยากไปเมืองหลวงอีกเหรอ”
ลูกชายเขาคงไม่ได้คิดเปลี่ยนใจอยากกลับไปเมืองหลวงเพราะคำพูดของเจียงจี๋ใช่ไหม
“พ่อครับ น้าครับ…เมื่อกี้ลุงเจียงอยากให้ผมกลับเมืองหลวง…”
เฉิงหราน “อาถิง ทำไมพ่อของเจียงเย่ว์ถึงอยากให้นายกลับเมืองหลวงล่ะ”
“อาจจะกลัวเสี่ยวเย่ว์อยู่เย่ว์ตูต่อหลังเรียนจบก็ได้มั้งครับ ลุงเจียงกับคุณป้ามีเสี่ยวเย่ว์เป็นลูกสาวแค่คนเดียว”
เหลยโจวมองลูกชายแล้วพูด “พ่อกับแม่แกก็มีแกเป็นลูกชายคนเดียวเหมือนกัน แต่ถ้าแกอยากไป พวกเราก็จะให้ไป สิ่งสำคัญคือวันหน้าแกต้องมีความสุข ลูกพ่อ เจียงเย่ว์ทำให้แกมีความสุขไหม”
เฉิงหรานพูดแฝงความนัย “อาถิง สองฝ่ายต้องมีใจให้กัน ถ้าเจียงเย่ว์รักนายเหมือนที่นายรักเธอ พวกเราจะไม่คัดค้านเด็ดขาด สองคนจะไปที่ไหนก็ตามใจ แต่ว่าอาถิง นายแน่ใจเหรอว่านายกับเจียงเย่ว์จะมีความสุข”
ถ้าเป็นคนอื่น พวกเขาไม่มีทางอยากจับแยก แต่มีเจียงจี๋เป็นพ่อตาไม่ได้เด็ดขาด เพราะเขาจะทำให้อาถิงมีอันตรายถึงชีวิต
เหลยถิงพิจารณาคำพูดของพ่อกับน้าชายอยู่สักพัก ไม่กล้ายืนยัน
เพราะพ่อแม่ของเจียงเย่ว์เย็นชามาก…อีกทั้งเจียงเย่ว์ก็เหมือนแม่…
เขาเลยไม่กล้ารับประกันว่าเขากับเจียงเย่ว์จะเป็นแบบนี้หรือเปล่า รู้เพียงว่าเขาไม่อยากมีชีวิตคู่แบบพ่อแม่ของเจียงเย่ว์
เขาอยากได้ชีวิตคู่แบบพ่อแม่ตัวเอง หรือแบบน้าชายน้าสะใภ้ แต่ก็ยังอยากพยายามต่อ เพราะเขารักเจียงเย่ว์ และก็สงสารเธอที่…มีพ่อแม่แบบนี้
“น้าครับ พ่อครับ อันที่จริงเสี่ยวเย่ว์ก็ไม่อยากกลับเมืองหลวง…”
“อาถิง น้าว่านะ พวกเธอต้องตกลงกันให้ดีก่อน ยังไงซะเจียงเย่ว์ก็ยังต้องเรียนอยู่ทางนี้ นายเองก็ไม่ต้องรีบร้อนตัดสินใจ”
พอเห็นหลานชายดูลำบากใจ เฉิงหรานก็ไม่อยากบีบคั้น
เหลยโจว “อาถิง ถ้าเจียงเย่ว์ยังอยากเรียนดอกเตอร์ งั้นก็ต้องใช้เวลาอีกหลายปี ถ้าแกไปอยู่เมืองหลวง ไม่เท่ากับเลิกกันเหรอ”
เฉิงหรานพูดต่อ “อาถิง พ่อนายหมายความว่า นายหางานทำที่นี่ก่อน อาศัยช่วงเวลาระหว่างนี้กระชับความสัมพันธ์กับเจียงเย่ว์ ไว้ถึงเวลาอยากไปอยู่ที่ไหนกันก็ไม่มีใครขวางหรอก”
เขาพูดแบบนี้ย่อมเป็นวิธีรับมือเหตุการณ์เฉพาะหน้า
หลานชายกับเจียงเย่ว์ไม่น่าลงเอยกันได้
“น้าครับ พ่อครับ อันที่จริงผมก็คิดแบบนั้น ก่อนหน้านี้ที่จะกลับมาเสี่ยวเย่ว์ก็บอกว่าอยากเรียนดอกเตอร์ที่นี่ ระหว่างนี้ผมจะอยู่ที่เมืองหลวงคนเดียวก็ไม่ได้…แต่ว่าลุงเจียง…”
เหลยถิงลำบากใจทั้งสองทาง
เฉิงหราน “อาถิง พ่อแม่ของเจียงเย่ว์ไม่พอใจในตัวนายเหรอ”
“ก็ไม่เชิงไม่พอใจ แค่…จะพูดยังไงดี พ่อของเธอคัดค้านที่เธอมาเรียนเย่ว์ตู…ส่วนแม่ ก็ดูเหมือนจะไม่สนใจเธอเท่าไร…ผมไม่ค่อยได้ยินเธอพูดถึงพ่อแม่มากนัก…แต่เพราะครั้งนี้พ่อแม่จะมาถึงได้เล่าให้ฟังบ้าง…”
เหลยโจวจับประเด็นได้ “พ่อของเจียงเย่ว์ไม่รู้ว่าลูกเป็นคนเย่ว์ตูเหรอ ไหนว่าเคยเจอกันแล้วไม่ใช่เหรอ”
“เสี่ยวเย่ว์ไม่ได้บอกครับ ลุงเจียงก็ไม่ได้ถาม พวกเขามาครั้งนี้ ผมรู้สึกว่าพ่อของเธอ…เหมือนจะไม่ค่อยชอบเย่ว์ตูเท่าไร…”
เฉิงหรานกับเหลยโจวมองหน้ากัน
ตอนต่อไป