อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 345 ผิดพลาดตลอดชีวิต
ตอนที่ 345 ผิดพลาดตลอดชีวิต
เช้าวันจันทร์ บ้านครอบครัวเจียงที่เมืองหลวง
สมาชิกครอบครัวเจียงสามคนนั่งอยู่ที่โซฟาคนละมุม
ไม่มีใครพูดอะไร บรรยากาศตึงเครียดชวนให้หายใจไม่ออก
สุดท้ายเจียงจี๋ก็พูดขึ้นก่อน “เจียงเย่ว์ ลูกมีเรื่องอะไรจะพูดกับพ่อแม่เหรอ ไม่อย่างนั้นพ่อกับแม่จะออกไปทำงานแล้วนะ”
พวกเขาถามเรื่องที่ลูกสาวผอมแห้งจนเหลือแต่เนื้อติดกระดูกตั้งแต่เมื่อวานแล้ว
เจียงเย่ว์ข่มความเสียใจภายในจิตใจ แสร้งทำเป็นสงบนิ่ง “พ่อคะแม่คะ ปิดเทอมที่ผ่านมาหนูไม่ได้ไปเย่ว์ตูค่ะ แต่อยู่โรงแรมแถวบ้าน”
เจียงจี๋กับเหมียวฉีต่างอึ้ง จากนั้นก็มองหน้ากัน
“หนูรู้ความลับของคลินิกพ่อแล้วนะคะ…”
สองสามีภรรยาเงียบลงไปอีกครั้ง
ผ่านไปอีกสักพักเจียงจี๋ถึงถามขึ้น “เจียงเย่ว์ ลูกสังเกตเห็นได้ยังไง”
“ตั้งแต่พ่อวางยาเหลยถิง เหลยถิงก็ถูก…น้าของเขาช่วยถอนพิษให้ เมื่อก่อนหนูก็แค่สงสัยคลินิกของพ่อ แต่ไม่รู้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหน พ่อคะ พ่อทำอะไรอยู่กันแน่! ทำไมถึงไม่อยากใช้ชีวิตดีๆ !” ทันใดนั้นเจียงเย่ว์ก็ระเบิดอารมณ์ออกมา
“ชีวิตดีๆ งั้นเหรอ” เจียงจี๋แสยะยิ้ม “พ่อเคยอยากลืมอดีต เคยเฝ้ารอวันเวลาดีๆ แต่แม่ของลูกไม่เคยให้โอกาสพ่อเลยสักนิด”
เขาอายุปูนนี้แล้ว เป็นครั้งแรกที่เจอคนจิตใจเย็นชาได้ขนาดนี้ หัวใจที่เหมือนก้อนหินผ่านมาสิบกว่าปีก็ไม่มีความอบอุ่นขึ้นเลย
เจียงเย่ว์เค้นถามเหมียวฉี “แม่คะ หนูรู้ว่าแม่ไม่ชอบหนูกับพ่อ แต่ในเมื่อมีแล้วทำไมไม่รับผิดชอบล่ะคะ” บกพร่องในหน้าที่ภรรยาและแม่ต่อสามีกับลูก
เหมียวฉีมองลูกสาวด้วยสายตาเรียบเฉย ไม่พูดอะไร
“แม่คะ แม่เป็นคนที่ไหน ทำไมไม่กลับบ้านตัวเองบ้าง ทำไมคุณตาคุณยายไม่เคยมาเลย”
เหมียวฉี “…เจียงเย่ว์ ต่อไปดูแลตัวเองดีๆ นะ อย่าพลั้งผิด เรื่องบางอย่างพอผิดพลาดแล้วมันกลับตัวไม่ได้อีก เจียงจี๋…”
“แม่เรียกพ่อทำไมคะ แล้วตกลงแม่ทำความผิดอะไรกันแน่”
“…แม่พลาดทำผิดไปเมื่อตอนอายุยี่สิบ…สิบแปดปีก่อนก็ทำเรื่องที่ยิ่งให้อภัยไม่ได้เข้าไปใหญ่…เพื่อหนีโทษตามกฎหมาย…หลังจากมาอยู่ประเทศเหยียนหวงแม่ก็ไม่ได้กลับไปอีก…”
ตอนอายุยี่สิบ เพราะความอิจฉาที่เหมียวอวี้ในวัยสิบเจ็ดปีฉลาดกว่าเธอ แถมยังสวยกว่า จึงจงใจใช้วาจายั่วอารมณ์เหมียวอวี้ บังคับให้ลงไม้ลงมือกับเธอแล้วฉวยโอกาสทำร้าย…
ฝีมือต่อสู้ของเธอดีกว่าเหมียวอวี้มาก…จากนั้นก็พาเหมียวอวี้ที่เจ็บหนักไปโยนทิ้งในป่าพิษหมาป่า…
ต่อมาเธอเองก็รู้สึกผิด แต่เนื่องจากกลัว จึงไม่กล้าบอกพ่อแม่
จากนั้นได้ยินว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลเป่ยช่วยชีวิตเหมียวอวี้กลับมา เธอยิ่งกลัวเข้าไปใหญ่
เคยแอบไปหาเหมียวอวี้ อยากขอให้ยกโทษ ขอให้กลับบ้าน ทั้งยังรับประกันดิบดีว่าต่อไปจะไม่แกล้งอีก
แต่เหมียวอวี้ไม่ยอมกลับ…บอกว่าต่อไปไม่ต้องติดต่อกันอีก เรื่องในอดีตให้เลิกแล้วต่อกัน
เธอยอมตกลง
พ่อแม่เค้นถาม เธอก็เลยเล่าไปตามจริง
เรื่องนี้ทำให้อารองกับพ่อแตกหักกัน ต่อให้ตายก็ไม่ติดต่อกันอีก
เธอเองก็สงบเสงี่ยมไปมากเพราะเรื่องนี้ อีกทั้งยังตั้งใจว่าจะเปลี่ยนตัวเองเสียใหม่…แต่ว่า โชคชะตาก็เล่นตลก
ใครจะคาดคิดว่าจะบังเอิญเจอ…
เจียงจี๋กับเจียงเย่ว์ขมวดคิ้ว เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ยินเหมียวฉีเล่าเรื่องชีวิตตัวเอง แต่กลับไม่บอกว่าทำผิดอะไรไว้
“แล้วพ่อล่ะคะ”
“อืม เมื่อก่อนพ่อก็ชื่อเจียงจี๋แต่เขียนอีกแบบ เคยเป็นลูกศิษย์ของหมอเทวดาหยวนสำนักแพทย์โบราณ…ในเมื่อลูกรู้เรื่องแล้วงั้นเดี๋ยวลูกก็ไป…” ผลักลูกออกไปจากเรื่องนี้เป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาจะทำเพื่อลูกได้
โชคดีที่เขาไม่เคยให้เจียงเย่ว์ไปที่คลินิก ไม่เคยให้เธอเข้ามามีส่วนด้วย
“พ่อคะ…” ทันใดนั้นเจียงเย่ว์ก็ร้องไห้ออกมา
“พ่อไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้ว อยู่ไปก็ไร้ความหมาย เสี่ยวเย่ว์ พ่อขอโทษ…”
เจียงจี๋หมดหวังกับชีวิต แต่เขารู้สึกผิดต่อลูกสาวเพียงคนเดียว
“พ่อเสียใจที่ลงมือกับเหลยถิง…เดิมทีลูกควรมีอนาคตที่ดี…และพ่อก็เสียใจที่ตอนนั้นไม่เชื่อฟังอาจารย์ อาจารย์ให้โอกาสพ่อได้กลับตัว แต่พ่ออิจฉาริษยาพวกศิษย์พี่ศิษย์น้อง…เห็นๆ อยู่ว่าเปลี่ยนชื่อเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่…”
เดิมทีเขาควรมีอนาคตที่โชติช่วง
“พ่อ…” เจียงเย่ว์เสียใจมาก
“พ่อเสียใจที่เจอกับเหมียวฉี…ถ้าไม่ใช่เพราะ…ช่างเถอะ พูดได้แค่ว่า พ่อกับเหมียวฉีเป็นคนแบบเดียวกัน”
เจียงจี๋มีสีหน้าสิ้นหวัง แววตาหม่นหมอง เห็นได้ชัดว่าหมดความอาลัยอาวรณ์แล้ว
เหมียวฉีเหลือบมองเจียงจี๋แล้วหันไปพูดกับเจียงเย่ว์ “เจียงเย่ว์ เงินที่แม่ทิ้งไว้ให้เพียงพอที่จะให้ลูกได้อยู่สุขสบาย อีกสองวันแม่จะกลับเผ่า…ยอมรับการลงโทษ บทลงโทษที่ช้าไปหลายสิบปี”
“พ่อ แม่…”
เจียงเย่ว์ร้องไห้เหมือนคนเสียสติ
เหมียวฉี “เจียงเย่ว์ ไม่ต้องร้อง ใครที่ทำผิดก็ต้องรับผล ไม่ว่าจะช้าไปนานเท่าไรก็ตาม…แม่ทำผิดต่อลูกกับพ่อ ขอโทษนะ”
เจียงเย่ว์วิ่งเข้าไปกอดเหมียวฉีร้องไห้จนเกือบสลบ
เหมียวฉีเกร็งเล็กน้อย จากนั้นก็ยกมือตบบ่าของเจียงเย่ว์เบาๆ “เจียงเย่ว์ ถ้าวันหนึ่งลูกมีโอกาสเจอเหมียวอวี้กับเจ้าหญิงน้อย…ช่างเถอะ พวกเขาน่าจะไม่อยู่แล้ว” ไม่อย่างนั้นทำไมถึงไม่มีข่าวคราวของว่าที่หัวหน้าเผ่าเลย
“แม่คะ เหมียวอวี้กับเจ้าหญิงน้อยคือใครเหรอคะ หนูอยากรู้”
“เหมียวอวี้…คือน้องสาวที่เป็นญาติกัน เรื่องที่แม่ทำผิดตอนอายุยี่สิบก็คือทำร้ายเหมียวอวี้เพราะความริษยา…เจ้าหญิงน้อยเป็นลูกสาวของคุณหนูใหญ่ตระกูลเป่ย…”
“เหมียวฉี…คุณหนูใหญ่ตระกูลเป่ยเป็นสะใภ้ของตระกูลเย่ว์” เจียงจี๋ดวงตาเบิกโพลง
แม้เขาจะไม่เคยไปที่เผ่า แต่เขาเป็นผู้ชาย ผู้ชายย่อมสนใจเรื่องการเมือง
“ใช่ เจ้าหญิงน้อยคือว่าที่หัวหน้าเผ่า ดังนั้น…พวกคุณไม่ต้องเสียใจเพราะฉัน”
เจียงจี๋หายใจถี่เร็ว “คุณ…พวกเขายังไม่รู้ คุณไม่ต้องกลับไปแล้ว”
เหมียวฉียิ้มเล็กน้อย “เจียงจี๋ หลายปีมานี้ฉันไม่เคยมีความสุขเลยสักวัน คุณก็รู้ ตอนนี้มาคิดดู ฉันในตอนนั้นน่ากลัวเหลือเกิน…”
เจียงจี๋ “…”
ที่แท้ภายในใจของเหมียวฉีก็กดเรื่องใหญ่ขนาดนี้เอาไว้ มิน่า…
ถ้าตอนนั้นรู้…ช่างเถอะ ต่อให้รู้แล้วยังไงล่ะ ตอนนั้นเธอเป็นรักแรกพบของเขา ต่อให้รู้เขาก็แต่งอยู่ดี…
“ไม่ถูกสิ! เหมียวฉี คุณจะเข้าถึงตัวเจ้าหญิงน้อยได้ยังไง คุณหนูใหญ่ตระกูลเป่ย…เหมียวอวี้…” ดูเหมือนเจียงจี๋จะปะติดปะต่อเรื่องได้ แต่ก็ไม่เข้าใจ
“อืม หลังจากที่คุณหนูใหญ่ช่วยชีวิตเหมียวอวี้ เหมียวอวี้ก็อยู่ที่บ้านตระกูลเป่ยนับแต่นั้น พอเจ้าหญิงน้อยถูกคลอดออกมา เหมียวอวี้ก็ไปดูแลเจ้าหญิงน้อยที่ตำหนักพระจันทร์”
“…แล้ว คุณบอกว่ากลับตัวเป็นคนใหม่แล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมเจ้าหญิงน้อย…เธอไปทำอะไรให้เหรอ”
เหมียวฉีมองดวงอาทิตย์ที่กำลังโผล่ขึ้นตรงนอกหน้าต่าง พูดเสียงเบา “ตอนนั้นเจ้าหญิงน้อยเพิ่งเกิด จะทำอะไรฉันได้ ฉันพาลต่างหาก”
“พาลคนตระกูลเย่ว์เหรอ ทำไมล่ะ”
“เจียงจี๋ คุณรู้ว่าในใจฉันไม่มีคุณ เพราะในใจของฉันมีผู้ชายที่ทำให้ฉันทำผิดพลาดไปตลอดชีวิตอยู่นานแล้ว…”
เจียงจี๋เงียบไป
“เจียงเย่ว์ แม่หวังว่าลูกคบกับเหลยถิงจะไม่หลงจนขาดสติ…อย่าให้เหมือนแม่ ทำเรื่องที่บ้าคลั่งไร้สติเพียงเพราะคนที่ไม่รู้จักตัวเองด้วยซ้ำ เด็กทารกผิดอะไร แต่กลับถูกแม่…”
ถ้าเธอไม่เคยเจอผู้ชายคนนี้ เรื่องทุกอย่างหลังจากนั้นก็คงไม่เกิด
เหมียวอวี้เป็นคนจิตใจดี ตอนที่มาอยู่บ้านของเธอก็ยอมให้พี่สาวคนนี้มาตลอด…
ถ้าไม่มีเขา เธอคงเป็นเหมือนคนทั่วไปที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายไปตามประสา
“แม่คะ…”
“เหมียวฉี…”