อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 399 พิธีแต่งงานของหัวหน้าเผ่า
ตอนที่ 399 พิธีแต่งงานของหัวหน้าเผ่า
ฤดูใบไม้ผลิเดือนตุลาคม สายลมเย็นสบายมาเยือน
ผู้คนในแถบทางเหนือเริ่มใส่เสื้อผ้ามากชิ้นแล้ว
ทางใต้กลับยังคงร้อนมากอยู่ ทางตะวันตกและตะวันออกกำลังดี
ในแผนที่โลก เผ่าหมาป่าพระจันทร์อยู่ฝั่งตะวันออก ไม่เพียงแต่จะเป็นฤดูเก็บเกี่ยวที่อุดมสมบูรณ์ ยังเป็นหนึ่งในเดือนที่สบายที่สุดของทั้งปีด้วย
ถึงแม้เดือนมีนาคมที่แสงแดดในฤดูใบไม้ผลิจะดี แต่ปริมาณน้ำฝนกลับไม่น้อย ดังนั้นสำหรับคนเดินทาง เดือนตุลาคมจะสบายที่สุด
ท้องฟ้าสีครามเมฆขาว แต่กลับไม่ร้อนเกินไป ไม่เหมือนฤดูร้อนที่ออกจากบ้านหนึ่งนาทีก็เหงื่อออกไปหนึ่งชั่วโมง
ตำหนักพระจันทร์เวลานี้เสียงผู้คนครึกครื้น สีทองอร่าม ภาพที่เข้ามาในสายตาคือสีแดงแห่งความเป็นสิริมงคล
แต่ละคนมีสีหน้ายินดี รอยยิ้มไม่หายไปจากใบหน้า
หมู่ดอกไม้ถูกจัดเป็นซุ้ม บรรดาสาวน้อยที่สดใสตามวัยล้อมรอบเจ้าสาวที่งดงามดุจนางฟ้าลงมาจุติ พากันส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดไม่หยุด แม้แต่มู่เถาเยาที่ปกติสุขุมเยือกเย็นก็ร่าเริงอยู่ไม่น้อย
อวิ๋นสุ่ยเหยามองเจ้าสาวด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย พูดชมไม่ขาดปาก “อาสะใภ้เล็กสวยมากจริงๆ ค่ะ!”
เด็กสาวคนอื่นๆ ก็พยักหน้ารัวๆ
ปกติภาพลักษณ์ของเย่ว์เลี่ยงก็เหมือนคนวัยยี่สิบต้นๆ พอแต่งองค์ทรงเครื่องจัดเต็มแบบนี้ แม้จะไม่ได้จงใจแต่งให้ดูอ่อนเยาว์ลง แต่กลับดูงามสง่าบริสุทธิ์เพราะชุดเจ้าสาวสีขาวอันโดดเด่น
ใบหน้าตุ๊กตาที่อ่อนเยาว์อย่างเห็นได้ชัด ดูสะดุดตาภายใต้อัญมณีเพชรหลากสี
ไม่เพียงแต่จะไม่ดับเพราะแสงจากเพชร ยังช่วยส่งเสริมกันและกัน ทำให้คนและเครื่องประดับยิ่งดูโดดเด่นชวนมอง
เย่ว์เลี่ยงหลุดขำ “เจ้าสาวทุกคนก็สวยที่สุดทั้งนั้น วันหน้าพวกเธอก็เหมือนกัน”
เดิมทีเธอไม่อยากจัดงานแต่งงาน แต่เธอไม่ใช่คนธรรมดา
งานแต่งงานของหัวหน้าเผ่าทำให้ทั่วโลกได้รู้ เจตนาแสดงศักยภาพทางการทหารและเศรษฐกิจของเผ่าแก่ชาวโลก เพื่อข่มพวกคนที่ทะเยอทะยานมีแผนชั่วในใจ ดับฝันของพวกเขา
และยังอาศัยการถ่ายทอดสดงานแต่งงานครั้งนี้ไปทั่วโลกบอกแก่ทุกคนว่า ถึงเผ่าจะเล็ก แต่ไม่ปล่อยให้ใครมารังแกได้ง่ายๆ
มู่หว่านยื่นนิ้วก้อยออกไป แตะเพชรหลากสีระยิบระยับที่ประดับอยู่บนชุดเจ้าสาว ถามด้วยความสงสัย “อาเย่ว์คะ บนชุดนี้มีเพชรกี่เม็ดเหรอคะ หนักไหม”
“เศษเพชรเบามากจ้ะ”
เจ้าถุงลมน้อยจับมือเย่ว์เลี่ยง พูดด้วยเสียงแบบเด็กน้อย “ไว้อันเหยี่ยโตแล้วจะไปขอย่าเล็กมาเป็นเจ้าสาวด้วยนะฮะ”
ทุกคนพากันหัวเราะ
เวลานี้พวกน้าๆ อาๆ ที่อายุห้าสิบหกสิบแต่กลับดูเหมือนคนวัยสามสิบสี่สิบพากันเดินเข้ามา
กู้เนี่ยนยิ้มพลางจิ้มศีรษะของลูกชายเล่น “เราน่ะแต่งงานกับย่าเล็กไม่ได้นะ เดี๋ยวได้โดนปู่เล็กตีหรอก!”
ถึงเจ้าถุงลมน้อยจะไม่เข้าใจ แต่กลับไม่อยากถูกตี จึงปล่อยมือเย่ว์เลี่ยงไปจับมือมู่เถาเยาแทน “งั้นแต่งกับพี่สาว”
ถึงอาเล็กจะเคยบอกว่า กว่าเขาจะโตพี่สาวก็แก่แล้ว แต่เขาไม่มีทางรังเกียจพี่สาว
ทุกคนพากันหัวเราะ
คุณนายอวิ๋นเหอลูบศีรษะเจ้าถุงลมน้อย แอบพูดในใจ อาเล็กนี่แหละจะตี!
เป่ยซีลูบผมยาวของเจ้าสาวที่เด็กกว่าเธอแปดปี เธอเห็นมาตั้งแต่เด็กจนโต ยิ้มพูด “เย่ว์เลี่ยง ได้เวลาแล้วล่ะ”
หลังเสร็จพิธีหัวหน้าเผ่าจะต้องพาสามีไปที่กองทัพ เมื่อดวงอาทิตย์ตกถึงเริ่มงานฉลองแต่งงาน
เย่ว์เลี่ยงพยักหน้า ลุกขึ้นจากเก้าอี้ “ค่ะ”
ลู่จือฉินมองเย่ว์เลี่ยง ดวงตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เธอพูดกับกลุ่มเด็กสาว “พวกเราก็ออกไปดูพิธีกันเถอะ”
“ได้ค่ะ!”
ทุกคนห้อมล้อมเจ้าสาวพาเดินออกไปด้วยสีหน้ายินดี
เวลาเก้าโมงเก้านาที พิธีเริ่มขึ้นรับแดดยามเช้า
เพลงประกอบพิธีแต่งงานถูกบรรเลงขึ้นในทุกมุมของตำหนักพระจันทร์
เย่ว์เลี่ยงคล้องแขนปู่เย่ว์เข้างาน ค่อยๆ เดินไปยังเวที
อวิ๋นไป๋มองเจ้าสาวของเขา ดีใจจนยิ้มไม่หุบ
ท่าทางซื่อบื้อแบบนั้นชวนให้คนรู้สึกทั้งขำทั้งประทับใจ
ความรักลึกซึ้งและปกป้องที่ยืนหยัดมายี่สิบปีเหมือนเพียงวันเดียว ทั่วทั้งโลกมีคนเป็นหมื่นล้าน มีแค่ไม่กี่คนที่ทำได้แบบนี้
พวกเจ้าชายกับเศรษฐีที่เคยตามจีบเย่ว์เลี่ยงมองนางฟ้าของพวกเขาที่งดงามไม่เคยเปลี่ยนเลยตลอดยี่สิบปีจากการรับชมถ่ายทอดสด แล้วมองคนที่อยู่ข้างกาย รู้สึกนึกเสียใจ
ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องอำนาจ เอาแค่ใบหน้านี้ที่เหมือนกินวัตถุกันเสียเข้าไป ผู้ชายคนไหนบ้างไม่ชอบ
ต่อให้ไม่ได้รังเกียจภรรยาข้างกาย และไม่ได้ให้ความสำคัญกับหน้าตามากนัก แต่ถ้าภรรยางดงามดุจบุปผามันก็ชวนให้รู้สึกสดชื่นเบิกบาน
เฮ้อ ใครใช้ให้พวกเขาต้านความเป็นจริงสารพัดไม่ได้ล่ะ!
นึกเสียใจไปก็ไม่มีประโยชน์ ทำได้เพียงอวยพรผ่านหน้าจออย่างเงียบๆ
หลังเสร็จพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ ช่อดอกไม้เจ้าสาวถูกโยนไปที่เหลียงจี
“เอ่อ…ฉันไม่มีแม้แต่แฟน…หรือจะแต่งฟ้าแลบกันนะ”
พวกผู้หญิงหัวเราะกันสนุกสนาน
ถังถังพูดด้วยความลังเล “พี่เหลียงจีคะ พี่ลองส่องพวกผู้ชายที่ยังโสดในงานดูสิคะ ดีไม่ดีอาจมีว่าที่สามีของพี่อยู่ก็ได้”
ปาอินพยักหน้า เธอว่าพี่ชายเธอไหวนะ!
เหลียงจีมองไปรอบๆ จริงๆ จากนั้นก็ส่ายมือ “ช่างเถอะ ไม่เห็นน่าสนใจสักคน”
“พี่ชายฉันโสดนะคะ แก่กว่าพี่สี่ห้าปีก็ไม่ถือว่ามากไป อีกทั้งเขาต้องเป็นสามีที่ดีแน่ค่ะ” ปาอินแอบร้อนใจแทนพี่ชายที่โสดมาสามสิบปี
“พี่ชายเธอต้องหาแฟนเป็นหมออยู่แล้ว อีกอย่างรู้จักกันดีแบบนั้นพี่ลงมือลำบาก ช่างเถอะๆ” เหลียงจีส่ายหน้า
“พี่ถังถัง?” สาวๆ คนอื่นอายุน้อยเกินไป ปาอินไม่กล้าคิด
ถังถังทำหน้างง “…เกี่ยวอะไรกับพี่ด้วย”
“พี่อยากหาแฟนแบบไหนเหรอ แบบพี่ชายฉันไหวไหม”
ถังถังมองปาเฝ่ยที่พูดคุยส่งเสียงหัวเราะอยู่ท่ามกลางผู้ชายวัยยี่สิบกว่าสามสิบกว่า
“พี่ชายเธอหล่อใช้ได้ รูปร่างก็ดี เพียงแต่ ครอบครัวพี่ค่อนข้างพิเศษ อาจไม่ค่อยเหมาะ” ความลำบากของผู้สืบทอด
ปาเฝ่ยต้องรับผิดชอบการแพทย์ของตระกูลปา ส่วนเธอต้องดูแลสำนักตระกูลถัง ต่างมีภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ด้วยกันทั้งนั้น แถมยังห่างกันตั้งไกล…ดูไม่ค่อยอยู่กับความเป็นจริงเท่าไร
ปาอินถอนหายใจ
เธอเข้าใจความหมายของถังถังที่บอกว่าอาจไม่ค่อยเหมาะ
มู่เถาเยารู้สึกขำ “เสี่ยวอิน กลุ้มใจมากเกินไปแล้วนะ”
“ก็เพราะคนในบ้านชอบบ่นบ่อยๆ เล่นเอาฉันรู้สึกว่าแท้จริงแล้วไม่มีใครเอาพี่ชายฉัน ทุกคนดูสิ พี่ชายฉันพอแต่งตัวแล้วหล่อขนาดไหน! ถ้าเป็นสายตาของผู้หญิงปกติ แบบนี้ไม่ควรโสดหรือเปล่า!”
เนื่องจากต้องมาร่วมงานแต่งงาน ปาเฝ่ยจึงโกนหนวดเคราจนเกลี้ยงใบหน้า เผยให้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลากรอบหน้าชัดเจน ผมก็ตัดทรงที่ดูสะอาดสะอ้าน
สวมชุดทางการ แต่งตัวสุดเนี้ยบ ท่วงท่างามสง่า ยืนกับพวกเย่ว์จือกวงผู้ชายที่โดดเด่นเป็นทุนเดิมก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเท่าไร
ถังถังละสายตา “พี่ไม่เชื่อว่าไม่มีผู้หญิงชอบพี่ชายเธอ ก็แค่วาสนายังไม่มา พี่ชายเธอไม่ชอบอีกฝ่ายล่ะไม่ว่า”
พวกสาวๆ พากันพยักหน้า
เหลียงจีอดขำไม่ได้ “เอาล่ะๆ อายุเท่านี้ อย่าคิดอะไรให้มันมากเลยน่า”
ปาอินเลิกคิ้ว “พูดถึงเรื่องคิดมาก ถ้าเสี่ยวเยาเยาบอกว่าตัวเองที่สองก็ไม่มีใครกล้าพูดว่าที่หนึ่งแล้วล่ะ”
มู่เถาเยา “…ตอนนี้ฉันไม่ยุ่งแล้ว”
“เธอยังกลุ้มเรื่องอาจารย์สามอยู่เลยไม่ใช่เหรอ! อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าระยะนี้เธอกับพี่หลันฉือแอบซุ่มทำอะไรกันอยู่”
“…ชัดเจนขนาดนั้นเลยเหรอ”
ทุกคนพร้อมใจกันพยักหน้า
มู่เถาเยา “…”
เอาเถอะ เธอกับพี่หลันฉือเป็นบ้ากันอยู่สองคน เจ้าตัวเขายังไม่รู้กันเลย!