อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 74 ศึกษาเกี่ยวกับสูตินรีเวชวิทยา
ตอนที่ 74 ศึกษาเกี่ยวกับสูตินรีเวชวิทยา
หลังเลิกเรียนมู่เถาเยากลับไปที่เขตเรือนอุ่นรัก หลังจากใส่ผลนมหมาป่าลงในถุงขนาดใหญ่สองถุง เธอก็ออกไปขึ้นแท็กซี่ที่นอกเขตวิลล่า มุ่งหน้าไปยังที่พักของศิษย์พี่หญิงห้าที่อยู่ในย่านศิลปะทางตอนใต้ของเมือง
เดิมที่ศิษย์พี่หญิงห้าทำงานอยู่ในโรงพยาบาลผิงคังที่ตั้งอยู่บนทางแยกระหว่างฝั่งทิศตะวันออกและทิศเหนือ ต่อมาเมื่อแต่งงานกับพี่เขยห้า เพื่อความสะดวกเธอจึงย้ายมาประจำอยู่ที่แผนกแพทย์โบราณของโรงพยาบาลประชาชนที่ตั้งอยู่ระหว่างทิศตะวันตกและทิศใต้แทน
ตอนที่มู่เถาเยาไปถึง ศิษย์พี่หญิงห้าและสามีของเธอ รวมถึงศิษย์พี่หกและภรรยาของเขาก็อยู่ที่นั่นทั้งหมด
“ศิษย์พี่หญิงห้า พี่เขยห้า ศิษย์พี่หก พี่สะใภ้หก”
หลายคนขานตอบเธอด้วยรอยยิ้ม
ศิษย์พี่หกเว่ยฉางหย่วนและพี่เขยเยี่ยหนานเฉินก็ลุกขึ้นมารับกระเป๋าใบใหญ่สองใบจากมือมู่เถาเยา
ศิษย์พี่หญิงห้าชิงหลินพูดด้วยความโกรธว่า “เสี่ยวเยาเยา เด็กคนนี้ทำไมเธอถึงขนของมามากมายแบบนี้ล่ะ! ฉันเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าถ้าจะมาที่นี่ให้โทรบอกจะได้ให้พี่เขยของเธอไปรับ แต่เธอก็ยังนั่งแท็กซี่มาเอง!”
“ไม่เห็นเป็นไรนี่คะ นั่งแท็กซี่สะดวกจะตาย”
“เอ๊ะ หอมมาก! เสี่ยวเยาเยาซื้อขนมมาด้วยเหรอจ๊ะ อืม แต่กลิ่นไม่เหมือนขนมเลย!” พี่สะใภ้หกอันเย่ว์ที่เป็นนักปรุงน้ำหอมซึ่งมีประสาทการรับกลิ่นดีเป็นพิเศษเอ่ยถามขึ้น
“ไม่ใช่ขนมหรอกค่ะพี่สะใภ้หก แต่เป็นผลนมหมาป่า”
ศิษย์พี่หญิงห้า “ผลนมหมาป่า? ใช่ผลไม้ที่มีเฉพาะในเขตของเผ่าหมาป่าพระจันทร์หรือเปล่า เสี่ยวเยาเยา เธอ…”
มู่เถาเยายิ้มพลางพูดว่า “ศิษย์พี่หญิงห้า คนตระกูลเย่ว์ดีมาก”
“…เอาเถอะ ตราบใดที่เสี่ยวเยาเยาของเรามีความสุขก็พอ!”
พี่สะใภ้หก “เสี่ยวเยาเยาอุตส่าห์มาตั้งไกลก็เพื่อเอาผลไม้มาส่งให้พวกเราเท่านั้นเหรอ”
“ใช่ค่ะ แต่ฉันก็อยากมาหาศิษย์พี่หญิง พี่เขย ศิษย์พี่ และพี่สะใภ้ด้วย”
“เสี่ยวเยาเยา ถ้าเธอคิดถึงศิษย์พี่และศิษย์พี่หญิงแค่โทรมาบอกพวกเราก็จะไปหาเธอที่เขตเรือนอุ่นรักเอง เธอไม่มีรถ ไปๆ มาๆ แบบนี้ไม่สะดวก” ศิษย์พี่หญิงห้าดึงมู่เถาเยาให้นั่งลงบนโซฟาด้วยสีหน้าที่เหมือนกับคุณแม่จอมขี้บ่น
เดิมทีเธอและสามีเป็นหนึ่งในครอบครัวที่ไม่ต้องการมีลูก แต่พอมู่เถาเยามาที่เย่ว์ตูและพวกเธอได้ลองใกล้ชิดสนิทสนมด้วย จู่ๆ สองสามีภรรยาก็คิดอยากจะมีลูกสาวสักคน
ตอนนี้พวกเธอจึงกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์อยู่
ศิษย์พี่หญิงห้าและสามีของเธออายุมากกว่าสี่สิบปีแล้ว พี่เขยห้าไม่ต้องการให้ภรรยาของเขาตั้งครรภ์เพราะด้วยอายุยิ่งมากความเสี่ยงที่ตามมาก็ยิ่งมากขึ้น แต่เขาไม่สามารถห้ามเธอที่ใส่ชุดชั้นในเซ็กซี่มายั่วยวนล่อลวงเขาทุกวันได้…
“ศิษย์พี่หญิงห้า ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เขตเรือนอุ่นรักเรียกแท็กซี่ได้สะดวกอยู่”
ศิษย์พี่หกที่ผละไปล้างผลนมหมาป่าก่อนจะเดินถือจานออกมาแล้วพูดกับผู้หญิงทั้งสามด้วยรอยยิ้ม “พวกเธอกินกันไปก่อนนะ เดี๋ยวฉันกับพี่เขยจะไปทำอาหาร…”
ชิงหลินโบกมือของเธอ ไล่ผู้ชายทั้งสองคนไปที่ห้องครัว
พี่สะใภ้หกควานหาบางอย่างจากในกระเป๋าถือของเธอและหยิบกล่องน้ำหอมออกมา “เสี่ยวเยาเยา นี่เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ฉันทำขึ้น เป็นกลิ่นที่เด็กสาวส่วนใหญ่ชอบ เธอลองดูสิว่ามีจุดไหนที่ยังต้องปรับปรุงอีกหรือเปล่า”
“ได้ค่ะ” มู่เถาเยารับมันมา
อันที่จริงเธอไม่ชอบฉีดน้ำหอม แต่เทคโนโลยีการผลิตน้ำหอมนั้นน่าสนใจมากสำหรับเธอ
บนแผ่นดินจงโจวไม่มีน้ำหอม พวกเขาใช้แต่เครื่องหอมในการปรับอากาศหรือรมเสื้อผ้าให้มีกลิ่นหอม ส่วนที่พกติดตัวก็มีถุงหอม และยังมีน้ำดอกไม้ที่ใช้ในการผสมน้ำเพื่ออาบ
พี่สะใภ้หกเป็นนักปรุงน้ำหอม เธอจบจากคณะวิทยาศาสตร์สาขาเคมี ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับน้ำหอมของหมู่บ้านเถาหยวนซานทั้งหมดก็มาจากฝีมือของเธอ
ในตอนแรก เมื่อเธอเผอิญไปได้ยินสามีของเธอคุยโทรศัพท์กับอาจารย์และรู้ว่ามู่เถาเยาต้องการผลิตน้ำหอม ตอนนั้นสัญญาของเธอใกล้จะหมดลงพอดี เธอจึงลาออกจากบริษัทน้ำหอมที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกโดยไม่ลังเลแล้วเก็บกระเป๋ามุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านเถาหยวนซานเพื่อไปหามู่เถาเยา
ด้วยตำแหน่งของเธอในอุตสาหกรรมนี้ เงินเดือนจึงไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดอีกต่อไป ทำไมเธอถึงไม่ช่วยครอบครัวของเธอเองล่ะ
ใครจะคิดว่าเสี่ยวเยาเยาตัวน้อยจะทำให้เธอประหลาดใจได้มากขนาดนี้!
เด็กคนนี้เกิดมาเพื่อกินข้าววงการนี้ชัดๆ!
น่าเสียดายที่อาชีพหลักของเธอคือหมอ แต่ก็นั่นแหละอาชีพนั้นทำประโยชน์ให้สังคมได้มากกว่า
แม้ว่าคนดังบางคนจะเคยกล่าวว่า สิ่งที่มีค่าที่สุดในโลกนี้คือผู้หญิง เด็ก และนักปรุงน้ำหอม กลิ่นหอมสามารถช่วยให้คนเรามีความสุข แต่การแพทย์ช่วยชีวิตคน
เห็นได้ชัดเลยว่าอะไรสำคัญกว่ากัน
ศิษย์พี่หญิงห้ายื่นมือของเธอออกมา “เสี่ยวเยาเยาช่วยจับชีพจรให้ศิษย์พี่หน่อยได้ไหม”
มู่เถาเยาตกตะลึงเล็กน้อย “ศิษย์พี่หญิงไม่สบายเหรอคะ”
“เปล่าจ้ะ ฉันแค่อยากรู้ว่าเป็นไปได้ไหมที่ผู้หญิงที่อายุมากอย่างฉันจะตั้งครรภ์และคลอดเด็กสักคน”
พี่สะใภ้หกตกตะลึงไปครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะพูดว่า “ศิษย์พี่หญิงวางแผนที่จะมีลูกเหรอคะ ไม่ใช่ว่าพวกคุณไม่ต้องการมีลูกเหรอ อันที่จริงฉันเองก็กำลังคิดอยู่เหมือนกันว่าจะคลอดลูกคนที่สองดีหรือเปล่า หลิงอีไปเรียนต่อเมืองนอก ที่บ้านไม่มีเด็กสักคนก็เหงาอยู่เหมือนกัน แต่พวกเราตั้งครรภ์ในวัยนี้จะอันตรายหรือเปล่า…”
“ประจำเดือนและการตกไข่ของฉันเป็นปกติดี ตามหลักการแล้วฉันก็น่าจะยังตั้งครรภ์ได้ ส่วนเรื่องอันตราย ปัจจุบันวิทยาการทางการแพทย์ก้าวหน้าไปมาก ดังนั้นแม้คุณแม่จะอายุมากแล้วแต่ก็ไม่ต้องกังวลมากนัก”
ศิษย์พี่หญิงห้าเป็นหมอ ดังนั้นเธอจึงเชื่อในการแพทย์มาก
“อันที่จริงผู้หญิงในวัยสี่สิบที่ตั้งท้องและคลอดลูกก็มีไม่น้อย ถ้าศิษย์พี่หญิงอยากมีลูก ฉันจะไม่ยอมให้เกิดอุบัติเหตุใดๆ ขึ้นอย่างแน่นอน” มู่เถาเยาวางนิ้วของเธอลงบนแอ่งชีพจรบนข้อมือของศิษย์พี่หญิงห้า
เสด็จแม่…อาของเธอเองปีนี้ก็อายุสี่สิบปีแล้ว หากเธออยากให้อาคลอดน้องชายให้สักคนในอนาคต เธอก็จะไม่ยอมให้มีอุบัติเหตุใดๆ เกิดขึ้นเหมือนกัน
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเธอจะเรียนเกี่ยวกับสูตินรีเวชวิทยา!
“ศิษย์พี่หญิงร่างกายแข็งแรงดีค่ะ ไม่ต่างกับสาวๆ เลย ถ้าทางด้านพี่เขยเองก็ไม่มีปัญหาอะไร คิดจะตั้งครรภ์ไม่ใช่เรื่องยาก อย่างไรก็ตามศิษย์พี่หญิงต้องผ่อนคลายด้วย การคิดมากเกินไปบางครั้งก็ส่งผลเสีย”
ศิษย์พี่หญิงห้ายิ้มและพูดว่า “ศิษย์พี่หญิงรู้ พี่เขยของเธอก็มีสุขภาพดีเหมือนกัน แต่พวกเราเองก็ไม่ได้บังคับ มีก็ดี ไม่มีก็ไม่เป็นไร”
พี่สะใภ้หกยื่นมือไปหามู่เถาเยาอย่างกระตือรือร้น “เสี่ยวเยาเยาช่วยดูให้พี่สะใภ้หกด้วย”
มู่เถาเยาขมวดคิ้วหลังจากจับชีพจรให้พี่สะใภ้หกของเธอ
“เสี่ยวเยาเยา ร่างกายฉันมีปัญหาอะไรหรือเปล่า”
“พี่สะใภ้หกต้องควบคุมการหลั่งฮอร์โมนแล้วล่ะค่ะ”
“ควบคุมการหลั่งฮอร์โมน? รับประทานกาบา (GABA)?”
มู่เถาเยาพยักหน้า “ใช่ค่ะ กาบา (GABA) เป็นกรดอะมิโนธรรมชาติชนิดหนึ่งที่ไม่ได้ประกอบด้วยโปรตีน มันมีอยู่ทั่วไปในธรรมชาติ เช่นในสัตว์และพืช”
ศิษย์พี่หญิงห้า “กรดแกมม่าอะมิโนบิวทีริกเป็นสารสื่อประสาทที่ทำงานเป็นตัวต้านกระแสประสาท ช่วยลดการกระตุ้นการทำงานของเซลล์สมอง สามารถแทรกแซงการหลั่งฮอร์โมนในระบบต่อมไร้ท่อ จึงส่งผลต่อการหลั่งฮอร์โมนเพศจากต่อมใต้สมอง”
มู่เถาเยา “อืม กาบา (GABA) ยังเกี่ยวข้องกับกิจกรรมการเผาผลาญพลังงานที่หลากหลาย มันมีบทบาทสำคัญในเปลือกสมอง ฮิปโปแคมปัส ทาลามัส เบซัลแกงเกลีย และซีรีเบลลัมของมนุษย์ แถมยังมีบทบาทในการควบคุมการทำงานส่วนต่างๆ ของร่างกายและมีฤทธิ์ทางชีวภาพที่สูงมาก”
จู่ๆ พี่สะใภ้หกก็นึกขึ้นได้และพยักหน้า “งั้นที่ช่วงนี้ฉันค่อนข้างวิตกกังวลและเหนื่อยง่าย เป็นเพราะฉันขาดสารกาบา (GABA) สินะ”
ความวิตกกังวลและความเหนื่อยล้าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ดังนั้นเธอจึงไม่ได้บอกสามีของเธอ
ศิษย์พี่หญิงห้ายิ้มพลางพูดว่า “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่การมีลูกบางครั้งก็เป็นเรื่องของโชคชะตาด้วย พวกเราต้องปล่อยวาง” เธอไม่ได้คิดว่าตัวเองจะต้องมีลูกให้ได้ เธอเพียงอยากมีลูกสาวสักคนที่เหมือนกับเสี่ยวเยาเยาก็เท่านั้น
แต่เธอก็รู้ดีว่าเสี่ยวเยาเยาไม่เหมือนกับคนทั่วไป แม้ว่าเธอจะให้กำเนิดลูกสาว เด็กคนนั้นก็ไม่อาจเหมือนเสี่ยวเยาเยา
ดังนั้นจะคลอดหรือไม่คลอด คลอดเด็กหญิงหรือเด็กชาย ทั้งหมดนี้ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของโชคชะตาเถอะ
นอกจากนี้ ก่อนหน้านี้ก็เป็นเธอและสามีที่ตกลงกันแล้วว่าจะไม่มีลูก
“นั่นสินะคะ เรื่องลูกคนที่สอง ต่อให้ไม่มี ค่อยเร่งให้หลิงอีแต่งงานเร็วหน่อยแล้วคลอดหลานออกมาให้พวกเราอุ้มสักคนสองคนก็ได้นี่นา”
ศิษย์พี่หญิงห้าหัวเราะ “หลิงอีปีนี้เพิ่งอายุยี่สิบเองรึเปล่า ถ้าเขารู้ว่าเธอวางแผนแบบนี้ ได้วิ่งมาบ่นกับเธอแน่!”
พี่สะใภ้หกก็หัวเราะเช่นกัน “ช่างเถอะๆ ยังไงสภาพร่างกายของเราก็แทบไม่ต่างจากผู้หญิงวัยสามสิบต้นๆ เรายังเด็กอยู่ ไม่รีบร้อน”
“ถ้าหากศิษย์พี่หญิงห้าและพี่สะใภ้หกต้องการเด็กลงกว่านี้ ฉันสามารถใช้ทักษะฝังเข็มหุยหยางปรับสภาพร่างกายให้ทั้งสองคนได้นะคะ” นัยน์ตาสีเข้มของมู่เถาเยาฉายแววอบอุ่นจนทำให้ผู้คนรู้สึกอยากเข้าใกล้
พี่สะใภ้หกจับมือเล็กๆ ที่ดูเหมือนต้นหอมของมู่เถาเยาและกุมไว้ในฝ่ามือของเธอ มองเด็กสาวตรงหน้าด้วยสายตาเอ็นดูพลางพูดว่า “เสี่ยวเยาเยา เธอเองก็มีธุระมากมายต้องทำในช่วงนี้ เพราะงั้นรอเรียนจบว่างๆ ค่อยมาฝังเข็มให้พวกเราก็ได้ เบื้องต้นพวกเราออกกำลังกายและทานอาหารบำรุงกันไปก่อน”
ศิษย์พี่หญิงห้าพูดต่อทันทีว่า “นั่นสิ เมื่อเร็วๆ นี้ศิษย์พี่หญิงเพิ่งค้นพบวิธีรักษาสุขภาพใหม่ๆ เธอยังมีเรื่องที่ยิ่งใหญ่กว่าต้องทำ เพราะงั้นอย่ามาเสียเวลากับเรื่องเล็กน้อยแบบนี้เลย”
มู่เถาเยายกยิ้มเบาๆ
ตราบใดที่เป็นสิ่งที่คนที่เธอห่วงใยต้องการ สำหรับเธอล้วนเป็นเรื่องสำคัญทั้งนั้น