CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

อัศวินดำ - ตอนที่ 24

  1. Home
  2. อัศวินดำ
  3. ตอนที่ 24
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

◆นักปราชญ์ผมดำ จิยูกิ

[ สคิเกอร์ที่เหลือรอดมาได้เหรอ… ]

ฉันจัองมองเรย์จิด้วยสายตาเย็นชาสุดๆ

แต่ใบหน้าไร้ความกระตือรือร้นของเรย์จิก็ดูจะไม่สะเทือน

เขาน่าจะหัดรู้สึกตัวซะบ้างนะ ว่าอย่าไปทำตามที่คนอื่นขอร้องไปซะอย่างน่ะ

อยากน้อยฉันก็อยากให้เขาหัดรู้สึกตัวสักที

[ เพราะศพของกอบลินกับออร์คมันกลายเป็นซอมบี้แล้วมารวมตัวกันแถวกำแพงเมืองเมื่อวานนะสิ แปลว่าอาจจะมีบางอย่างเกี่ยวข้องกัลสคิเกอร์ที่เหลือรอดอยู่ใช่มั้ยล่ะ? ]

สคิเกอร์เป็นมอนสเตอร์ที่ผสมกันระหว่างผู้หญิงกับนกฮูก

ซึ่งเมื่อหนึ่งเดือนก่อน เราน่าจะกวาดล้างพวกมันไปหมดแล้ว

ตอนนั้นเอง ก็ใช้ความสามารถของนาโอะเพื่อค้นหาตัวที่รอดชีวิตอยู่ที่รังพวกมันแล้วนะ

แต่ตอนนี้กลับมีอันเดดที่ถูกสร้างขึนมาเกิดขึ้น

เป็นไปได้มั้ยว่าอันเดดพวกนั้นจะออกมาจากหอคอย?

แต่อันเดดไม่น่าจะเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเองถ้าไม่มีคำสั่ง

พอฉันคิดดู อาจจะเพราะสคิเกอร์ตัวนั้นไม่ได้อยู่ที่หอคอยแต่แรกแล้วไม่ก็มันซ่อนตัวจากการรับรู้ของนาโอะด้วยวิธีการบางอย่าง

เดิมที สคิเกอร์พวกนั้นก็ผิดเองนะ

แต่จากเรื่องที่เรย์จิเล่า ดูเหมือนจะยังสรุปไม่ได้ซะทีเดียวว่าคนร้ายเป็นสคิเกอร์จริงรึไม่

[ แล้วจะทำยังไงล่ะ? ]

ฉันถามเขาอย่างเย็นชา

[ อา… ก็ต้องไปปราบสคิเกอร์เพื่ออาณาจักนี้แน่อยู่แล้ว ]

เรย์จิพูดแล้วยิ้มออกมา

[ หืมม เพื่ออาณาจักรนี้เหรอ…. นั่นคงเป็นคำขอของเจ้าหญิงอัลมีนาล่ะสิ? ]

เรย์จิพยักหน้ากับคำพูดของฉัน

ดูเหมือนเมื่อวานเรย์จิจะไปเดินเที่ยวงานเทศกาลกับอัลมีนาตอนที่เรากำลังแช่น้ำพุร้อนกันอยู่

แล้วเธอก็ขอร้องให้เขาจัดการซอมบี้พวกนั้นให้

แต่ฉันดูก็รู้ว่าเขากำลังโกหก ถ้าแค่เที่ยวงานเทศกาลกับเธอก็ไม่เห็นจำเป็นต้องปิดบังเลย

ยิ่งปิดบังความผิดมันยิ่งเพิ่มขึ้นนะ  ฉันจินตนาการถึงสถานการณ์ที่ชายหญิงทั่วไปจะทำกัน ดังนั้นฉันถึงได้มองเขาด้วยสายตาอันเย็นชา

[ แล้วบอกมาสิ ว่าสคิเตอร์ที่ว่ามันอยู่ที่ไหน? ]

[ ไม่รู้สิ? ]

เรย์จิยกมือขึ้นแล้วแสดงท่าทางว่าเขาเองก็ไม่รู้

[ นี่นาย…. ]

ฉันเอามือจับหน้าผาก

ครั้งก่อนพวกสคิเตอร์มันฝ่ายผิดเองที่มาโจมตีเรา เราเลยไปจัดการรังมันที่อยู่ใกล้ๆ ซะ

แต่คราวนี้ไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของสคิเกอร์จริงรึเปล่านะสิ

[ โถ่… งั้นถ้าไม่รู้ตัวจริงของคนร้าย แล้วจะไปทำอะไรได้ล่ะ ]

ไม่อยากเชื่อจริงๆ ผู้ชายคนนี้รับคำขอจากเจ้าหญิงมาโดยไม่รู้สถานการณ์เลยเนี่ยนะ

ก่อนอื่นเราต้องตามหาตัวคนร้ายก่อนสินะ? เดี๋ยวก่อนเลย เราไม่มีเวลามาทำแบบนั้น เพราะเรื่องของไดร์ฮาร์ดก็เยอะมากพออยู่แล้ว

[ ดีล่ะ เอาแบบนี้แล้วกัน ]

เรย์จิยิ้มแบบมั่นใจ

ฉันจ้องมองไปที่ดาบของเรย์จิ

[ เรย์จิคุง เพราะนายรับงานนี้มาเอง งั้นก็จริงจังหน่อยแล้วรับผิดชอบซะ ]

[ ฉันจริงจังตลอดนั้นแหละ รู้มั้ย ]

เรย์จิตอบมาอย่างไม่สนใจ

ดูไม่เห็นจะจริงจังเลยสักนิด

[ แต่ตอนนี้ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะตามหาตัวคน้รายได้ยังไงนะสิ ]

เรย์จิรู้สึกตกใจเมื่อได้ยิน

[ ค้นหา? ]

ฉันพยักหน้าแล้วถามเรย์จิไปอีกครั้ง

[ จะไม่ค้นหาคนร้ายเหรอ? ]

เรย์จิพยักหน้า

[ งั้นจะทำยังไง? ]

ฉันถามเขา ส่วนคำตอบของเขาก็คือตามนี้…

[ เพราะช้าหรือเร็ว อีกไม่นานคนร้ายก็จะโผล่หัวออกมาเอง ตอนที่คนร้ายกำลังสั่งซอมบี้พวกนั้นมาโจมตี ฉันจะลงมือตอนนั้นล่ะ ]

ฉันเข้าใจแผนการของเขาแล้ว

[ คนร้ายต้องปรากฏตัวออกมาแน่นอน… ]

แน่นอนล่ะนะ รอให้เกิดเรื่องก่อน

คงจะเร็วกว่าออกไปค้นหาคนร้ายด้วยตัวเอง

ดูเหมือนคำตอบของเรย์จิจะมีความหมายมากอะไรนักหรอก

ก็แค่เขาเกลียดงานพวกรวบรวมข้อมูลหรือตรวจสอบน่ะนะ

เขาไม่เคยคิดจะเลือกตัวเลือกป้องกันไว้ดีกว่าแก้เลย เวลาเกิดเรื่องก็ชอบดาหน้าเข้าไปใส่ปัญหาเสมอ

เพื่อแลกกันกับการที่ให้เรย์จิเคลื่อนไหวก็คือต้องรอให้เกิดเรื่องก่อน

ปัญหาก็คืออาจจะมีผู้ตกเป็นเหยื่อก่อนนะสิ

ไม่เลือกวิธีที่จะป้องกันไว้ก่อน แต่เลือกที่จะจัดการหลังเกิดเรื่องแล้ว บางทีการกระทำของผู้กล้าในความหมายของเขาคงเป็นแบบนั้น และการที่เขาถูกคนอื่นๆ ยกย่องก็เพราะการกระทำแบบนี้ด้วยสิ

[ ถ้างั้นก็รอจนกว่าจะเกิดเรื่องแล้วกัน ]

ฉันคิดว่า [ เอาแบบนั้นเหรอ? ] หลังจากได้ยินคำพูดของเขา

[ เดี๋ยวก่อน คุณจิยูกิ ถ้าพูดถึงสคิเกอร์ละก็…. หมายถึงหอคอยนั้นใช่มั้ยคะ? ]

ชิโรเนะขัดการคุยกันของฉันกับเรย์จิ

หอคอยที่เธอหมายถึงคือหอคอยที่สคิเกอร์พวกนั้นใช้เป็นรัง

[ อืมม บางทีคนร้ายอาจจะอยู่ที่นั้นก็ได้แต่ว่า… ]

[ ในกรณีนี้เราควรไปออกสำรวจที่นั้นกันเถอะค่ะ ]

[ ก็นะ มันทำให้เรารู้เรื่องได้เร็วขึ้นด้วยสิ ]

ฉันตอบกลับด้วยประโยคสั้นๆ

[ มันค่อนข้างเป็นปัญหาจังเลยนะ…. นี่คงดีกว่าสินะที่ตอนนั้นเลือกจะทำลายหอคอยนั้นไปซะ ]

เรย์จิพูดประโยคที่ดูสุดโต่งออกมา แม้ว่าถ้าเป็นพลังของเรย์จิอาจจะไม่มีปัญหาในการทำลายหอคอยนั้น แต่มันก็สุดโต่งเกินไปแล้ว

[ เรย์จิคุง เราไม่รู้หรอกนะว่าสคิเกอร์อยู่ที่หอคอยนั้นจริงรึเปล่านะ ถ้าทำลายหอคอยนั้นไป รับรองว่าหลังจากนั้นไม่มีอะไรให้ตรวจสอบเลยนะสิ ]

ถ้าหอคอยพังยับเยิน แล้วจะตรวจสอบเหตุการณ์ได้ยังไงกันล่ะ?

เราคงต้องไปตรวจสอบกันให้ดีหน่อยแล้ว แต่หอคอยนั้นก็ค่อนข้างน่ารำคาญเพราะด้านในมันคล้ายกับเขาวงกต อีกอย่างฉันไม่อยากเข้าไปในที่ที่มีแต่ซอมบี้พลุกพล่านหรอกนะ

แม้ว่าจะไม่มีเรย์จิ เราก็สามารถทำลายหอคอยนั้นได้เองอยู่แล้ว

[ งั้นวันพรุ่งนี้ไปที่หอคอยนั้นกันมั้ย? ]

ชิโรเนะเสนอ

[ คุณชิโรเนะ ฉันคิดว่าเรื่องการตรวจสอบให้นาโอะจัดการจะดีกว่านะ ]

เรื่องการตรวจสอบชิโรเนะไม่เก่งเท่าไหร่นั้นล่ะ ดังนั้นให้นาโอะทำจะเหมาะกว่า

พอมองไปที่นาโอะ เธอส่ายหัวเพื่อบอกว่าไม่อยากไป ดีเหมือนกัน ฉันเองก็ไม่อยากไปเหมือนกัน

[ พอคิดดูแล้วช่วงนี้ ฉันก็อยากออกเรี่ยวออกแรงสักหน่อยด้วยสิ… ]

นั่นคงเป็นใจจริงของเธอ หลังจากที่เสียเส้นทางกลับไปสู่โลกเดิมเพราะไดร์ฮา์ด ชิโรเนะที่ก็ร่าเริง สงสัยคงอยากจะระบาดความเครียดล่ะนะ

[ เห็นด้วย ฉันเองก็เหมือนกัน ]

เรย์จิเห็นด้วยกับเธอ

[ เอาเป็นว่าครั้งนี้ฉันจะให้ความร่วมมือแล้วกัน คุณชิโรเนะ… ฉันไม่อยากให้คุณเจออันตรายอีก ถ้าเจอเรื่องอันตรายให้หนีให้เร็วที่สุดเลยนะคะ ]

แม้ว่าคราวนี้มันจะไม่มีอันตรายเลยก็เถอะ

[ ใช่ๆ ถ้าคราวนี้ชิเรื่องอันตรายตะโกนออกมาเลยนะชิโรเนะ แล้วฉันจะไปช่วยทันทีเลย ]

เรย์จิบอกให้ชิโรเนะ เรียกถ้าต้องการได้เลย

แม้เรย์จิเขาจะใช้เวทมนตร์เคลื่อนย้ายแบบปกติไม่ได้เหมือนฉัน แต่เขาก็ยังสามารถใช้เวทมนตร์เคลื่อนย้ายที่เคลื่อนย้ายตัวเองไปยังเป้าหมายที่กำหนดได้

สิ่งที่มันแตกต่างจากเวทมนตร์เคลื่อนย้ายปกติก็คือมันสามารถเคลื่อนย้ายได้ทีละคนและจะล้มเหลวหากเป้าหมายต่อต้าน

เรย์จิมักจะช่วยเวทมนตร์นี้ช่วยเราไว้จากอันตรายเสมอ

ยกเว้นตอนที่ไดร์ฮาร์ดบุกไปที่วิหาร ดูเหมือนจะมีเวทมนตร์ป้องกันการเคลื่อนที่ในวิหาร ทำให้ในช่วงเวลานั้นเขาไปช่วยชิโรเนะไม่ได้

ซึ่งไม่ว่าชิโรเนะจะอยู่ไกลขนาดไหน เรย์จิก็ยังไปได้ทันตราบใดที่เวทมนตร์ไม่ถูกปิดกั้น

[ อือ เข้าใจแล้วล่ะ ]

ชิโรเนะยิ้มหลังจากได้ยินคำพูดของเรา

[ นี่~ เรื่องนั้นช่างมันเถอะน่า ]

ฉันมองไปยังที่มาของเสียง ที่ตรงนั้นมีริโนะกำลังทำแก้มป๋องอยู่

[ ถ้าไม่รีบมากัน อาหารจะเย็นหมดแล้วนะ! ]

อาหารถูกจัดเตรียมวางเสิร์ฟบนโต๊ะข้างหน้าเรา อาหารพวกเราเป็นฝีมือของซาโฮโกะและพ่อครัวหลวงของร็อก

[ ใช่แล้ว อาหารอร่อยๆ ที่คุณซาโฮโกะอุตส่าห์ทำจะเย็นหมดนะคะ มาทานกันเถอะ ]

สุดท้าย เรย์จิก็ไม่ได้ตัดสินใจให้แน่วแน่ว่าอะไรคือสิ่งที่พวกเราควรทำ แล้วชอบทำเป็นเล่นเสมอ

ฉันคัมไปกับทุกคน

จากนั้นงานเลี้ยงเล็กๆ ของเราก็เริ่มขึ้น

◆ อัศวินของอาณาจักรร็อก เร็มเบอร์

[ มีอะไรงั้นเหรออัลมีนา? ]

ขณะที่ข้ากำลังเดินข้างๆ อัลมีนา ข้ารู้สึกว่าท่าทางของเธอพักนี้แปลกไป

[ ไม่เป็นไร… แค่เหนื่อยนิดหน่อยนะ ]

อัลมีนาต้องไปมากับท่านผู้กล้าเสมอเพราะเป็นหน้าที่ของเธอ เป็นธรรมดาที่เธอจะเหนื่อย

ท่านผู้กล้าคงกำลังสนุกกับงานเลี้ยงกับเหล่าภรรยาของเขาอยู่ล่ะมั้ง

เป็นเรื่องธรรมดาที่อัลมีนาจะไม่ถือวิสาสะเข้าไปร่วมด้วย อัลมีนาบอกว่าไม่มีทางที่เธอจะเข้าไปรวมกลุ่มกับสาวสวยพวกนั้นได้หรอก

ซึ่งมันคอยย้ำเตือนใจข้าเสมอว่ามันเป็นเรื่องปกติ เพราะอัลมีนาไม่มีทางไปแทรกกลางสาวงามระดับนั้นได้หรอก กาลิอุสกังวลมากเกินไปแล้ว

[ โอ๊ะ นั่นเร็มเบอร์ไม่ใช่เหรอ? ]

ขณะที่เรากำลังหลบทางให้ผู้คน สามีภรรยากาลิอุสก็เดินตรงมาหาเรา

[ พี่ครับ รุ่นพี่ ทั้งสองคนก็มาเที่ยวงานเทศกาลเหมือนกันเหรอ? ]

[ ไม่รู้สิ พวกเราก็แค่รู้สึกยังไม่อยากกลับบ้านตอนนี้เท่านั้นเอง… ]

[ เอ๊ะ งั้นเหรอครับ มีอะไรงั้นเหรอครับ… ]

กาลิอุสและเพเนโรอายิ้มแบบมีเลศนัยบนหน้า

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

[ จะว่าไปแล้วเร็มเบอร์ล่ะ เป็นยังไงบ้าง? ]

เขาคงกำลังหมายถึงเรื่องของอัศวินแห่งวิหาร

เมื่อตอนเย็น เราเจออัศวินแห่งวิหารห้าคนนอนสลบอยู่ในซอยฝั่งตะวันตก

คนที่พบพวกเขาคนแรกคือชายที่มีบาดแผลบนแข้ง เขาบอกกับกาลิอุสว่าพวกคนคุ้มกกันโดนเล่นงานจนสลบ

หลังจากนั้นกาลิอุสและเพื่อคนนั้นก็พาเหล่าอัศวินไปหาหมอออโรร่าที่อาศัยอยู่ใกล้ๆ แถวนั้น จากนั้นเขาจึงมาแจ้งให้ข้าและทางคฤหาสน์ของผู้กล้าได้รับรู้ด้วย

บางทีกาลิอุสคงอยากรู้ว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง

[ ไม่มีปัญหาอะไรหรอก ตอนนี้พวกเขากลับไปที่คฤหาสน์ของท่านผู้กล้าแล้ว ]

[ งั้นเหรอ แต่ทำเอารู้สึกใจคอไม่ดีเลย ที่มีคนระดับที่จัดการอัศวินพวกนั้นได้อยู่ ]

กาลิอุสขบคิดขณะที่สัมผัสที่คาง

นี่ก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่ข้ากังวลเหมือนกัน

อัศวินแห่งวิหารของสาธารณรัฐลีนาเรีย ถูกกล่าวว่าเก่งที่สุดในทวีปฝั่งตะวันออก

แต่ละคนมีฝีมือด้านศิลปะการต่อสู้ นอกจากนี้ส่วนใหญ่ยังเป็นผู้ใช้เวทมนตร์ แม้กาลิอุสหรือข้าก็ไม่อาจสูสีกับพวกเขาได้เลย นั่นแหละคือความแข็งแกร่งของอัศวินแห่งวิหาร

คนที่ชนะอัศวินพวกนั้นได้อยู่ในอาณาจักรแห่งนี้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะกังวล

[ น่าเป็นห่วงจังนะ… แต่ถึงจะห่วงไปเราก็ทำอะไรไม่ได้ ]

[ นั่นมันก็จริงล่ะนะ ]

กาลิอุสหัวเราะออกมาเต็มที่เมื่อได้ยินคำพูดของข้า

แล้วอย่างเราจะไปทำอะไรศัตรูที่จัดการอัศวินพวกนั้นแบบสบายๆ ได้ล่ะ?

แต่ก็ดูเหมือนคนที่ทำร้ายอัศวินพวกนั้นจะไม่ใช่คนอันตรายอะไร

เพราะหากพูดถึงบาดแผลแล้ว พวกเขาก็แค่บาดเจ็บนิดๆ หน่อยๆ และคนร้ายก็ไม่ได้ขโมยอะไรไปเลย

บางทีคนๆ นั้นอาจจะแค่สั่งสอนนิดหน่อยเท่านั้น

หากคนร้ายเป็นตัวตนอันตรายอย่างพวกปีศาจล่ะก็คงฆ่าพวกเขาไปแล้ว

ข้ากังวลว่าชายคนนั้นจะมาทำอะไรข้ามั้ยนะ

จากนั้นเราก็แยกจากพวกกาลิอุส

[ ไปกันเถอะอัลมีนา ]

[ ค่ะ เร็มเบอร์ ]

เรายังคงเดินเล่นกันต่อ

แต่ยังไงข้าก็ยังสงสัยเรื่องคนร้ายคดีคราวนี้อยู่ดี ปฏิกิริยาของเมดตอนที่เราพาคนพวกนั้นไปส่งที่คฤหาสน์ของผู้กล้าก็ทำให้ข้าหนักใจไม่น้อย

ถ้าจำไม่ผิด เมดคนนั้นจะชื่อว่าท่านคายะ เธอสวยมากแต่แทบไม่แสดงความรู้สึกเลย จนข้าสงสัยว่าใบหน้าสวยๆ นั้นอาจจะเป็นหน้ากากรึเปล่านะ

การแสดงออกของเมดชื่อคายะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เมื่อเธอเห็นบาดแผลของอัศวินที่วิหาร

เป็นไปได้มั้ยว่าเธออาจจะมีเบาะแสของคนร้ายที่ก่อเรื่องคราวนี้?

แม้ว่าข้าจะอดสงสัยไม่ได้ แต่ก็อยากสนุกกับช่วงนี้กับอัลมีนา

◆ปราชญ์ผมดำ จิยูกิ

[ เรย์จิคุง นี่ดื่มเหล้าอีกแล้วเหรอ?!! ]

ไม่ว่าจะตักเตือนเขาไปกี่ครั้ง เขาก้ไม่ยอมฟัง

เหล้าที่เรย์จิดื่มยังเป็นเหล้ากลั่นอีก

[ ไม่เป็นไรหรอกน่าจิยูกิ เอิ๊กก!! นี่มันเป็นสินค้าใหม่ที่ยอดไปเลยว่ามั้ย? ]

[ ดูเหมือนจะชอบสินะคะเรย์คุง ]

เรย์จิและซาโฮโกะยังคงดื่มด่ำกับการดื่มเหล้าต่อไป

ดูเหมือนพวกเขาจะทำหูทวนลมคำพูดของฉันซะอย่างนั้น

แน่นอน ว่าอาหารของซาโฮโกะอร่อย

ซึ่งเธอทำอาหารญี่ปุ่นสูตรใหม่ขึ้นมา โดยใช้ปลาทะเลที่คล้ายกับปลาซาร์ดีนของโลกเรา

ซาโฮโกะทำอาหารให้เรย์จิโดยใช้ซอสจากปลานั้น

[ ไม่ต้องห่วงหรอกคุณจิยูกิ ถึงเรย์จิคุงจะดื่มเหล้าไปมากแค่ไหนเขาก็ไม่เป็นไรหรอก ]

ชิโรเนะปลอบใจฉัน

แม้ว่าฉันจะพยายามกลั้นหายใจก็ยังได้กลิ่นแอลกอฮอล์เลย

จะเมาเกินไปแล้ว ฉันอยากตอบชิโรเนะออกไป

แต่ชิโรเนะบอกว่า เรย์จิไม่เคยเมาไม่ว่าจะดื่มเหล้าไปมากแค่ไหน ที่โลกเดิมเองก็เหมือนกัน นี่เรย์จิจะมีพลังกายล้นเหลือจนผิดปกติไปแล้วนะ

เพราะเจ้าอาการผิดปกตินั้นหลังจากมาโลกนี้ ทำให้การดื่มระดับนี้ ไม่ใช่ปัญหาเลยสำหรับเขา

ความจริงการทำงานของร่างกายเรามันก็ผิดปกติตั้งแต่มาที่โลกนี้แล้วล่ะนะ

ไม่ว่าเราจะดื่มเราไปเท่าไหร่ก้ไม่มีอาการพิษแอลกอฮอล์แบบเฉียบพลันเลย ที่เขาดื่มไปขนาดนั้นคงอยากอยากแก้แค้นตัวเองสมัยที่ยังอยู่ที่โลกเดิม

ไม่ใช่แค่เหล่า แต่อาหารเองก็ด้วย เราไม่อ้วนขึ้นเลยแม้จะกินไปมากแค่ไหนก็ตาม

หลังจากมาที่โลกนี้เราก็สวยขึ้นกว่าเมื่อก่อนซะอีก

งั้นบางทีความเป็นห่วงของฉันอาจจะไร้ค่าก็ได้

เพราะเดิมทีที่ห้ามเด็กที่ไม่บรรลุนิติภาวะดื่มเหล้าก็เพราะไม่อยากให้ส่งผลเสียต่อร่างกายที่กำลังโตเป็นผู้หญิง ในทางตรงกันข้าม ถ้ามันไม่มีผลเสียต่อร่างกายจะดื่มเข้าไปเท่าไหร่ก็ได้

นอกจากนี้ บางประเทศของโลกเดิม ยังอนุญาตให้เด็กอายุเท่าพวกเราดื่มแอลกอฮอล์ได้อีกด้วย

เป็นธรรมดาที่มีคนที่เป็นข้อยกเว้นเสมอ เช่นเคียวกะเป็นตัวอย่าง ร่างกายของเธอเข้ากันไม่ค่อยได้กับเหล้าตั้งแต่เมื่อโลกเดิมแล้ว พี่น้องคู่นี้ต่างกันจริงๆ เลยนะ สรุปก็คือมันขึ้นอยู่กับการเผาผลาญร่างกายของแต่ละคนด้วย

ร่างกายของเราแตกต่างกันอยู่นิดหน่อยขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคน

ดูเหมือนเคียวกะกำลังกังวลเรื่องบางอย่างอยู่

ฉันสังเกตว่าว่ามันแปลกนิดหน่อยที่ไม่เห็นคายะอยู่ข้างตัวเธอ

คายะไม่เคยร่วมโต๊ะอาหารกับเราเลย หรือมันจะเป็นความสัมพันธ์ของนายกับคนรับใช้? เธอมักจะทานอาหารคนเดียวหลังจากที่คนอื่นทานกันเสร็จไปแล้ว

พูดได้ว่า นอกจากตอนที่ทานอาหาร เธอก็ไม่เคยออกห่างเคียวกะเลย แต่ตอนนี้เธอกลับหายไป  แล้วเธอไปอยู่ไหนกันนะ?

[ นี่ คุณเคียวกะ… คุณคายะไปไหนเหรอคะ? ]

ฉันถามไปเคียวกะ เพราะเห็นว่าท่าทางคายะแปลกๆ ไป

[ คายะกำลังคอยดูแลอัศวินแห่งวิหารที่ถูกพาตัวมานะคะ ]

[ อา ที่นั้นเองเหรอ… ]

อัศวินแห่งวิหารที่แคลคูลัสกำลังเป็นห่วงถูกพบนอนหมดสติตอนเย็นของวันนี้

ดูเหมือนพวกเขาจะถูกใครสักคนจัดการ อัศวินพวกนั้นจึงถูกแบกมาที่นี่เพราะพวกเขาขยับตัวไม่ได้ แต่ก็ยังพูดได้อยู่

ซึ่งดูเหมือนคายะจะอยากรู้ว่าพวกเขาถูกใครจัดการ

หลังจากนั้นคายะก็กลับมาอธิบายสถานการณ์

[ ผลเป็นยังไงบ้างคะคุณคายะ? เจออะไรบ้างมั้ย? ]

คายะเบนสายตามาทางฉัน

[ ดูเหมือนบุคคลที่ก่อเหตุคราวนั้น ตอนนี้จะมาอยู่ในอาณาจักรนี้แล้วค่ะ ]

ทุกคนต่างจดจ้องไปที่คายะ หลังจากได้ยินเธอพูด

[ พูดถึงเรื่องอะไรคะ คุณคายะ? ]

ฉันอยากได้รายละเอียดน่ะ

[ จากสภาพบาดแผลแล้ว คนที่จัดการอัศวินเหล่านั้นได้ดูจะเป็นยอดฝีมือ บางทีแม้เป็นฉันก็คงสู้กับเขาไม่ได้ ]

จากนั้นคายะก็เล่าถึงสภาพบาดแผลของพวกอัศวิน

อัศวินแห่งวิหารเหล่านั้นพ่ายแพ้อย่างหมดท่าแล้วโดนสะกัดจุดแต่ก็ยังไม่ตาย ปัญหาคือคนที่จัดการพวกเขาได้คือผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อสู้เป็นอย่างมาก เป็นงานยากทีเดียวแม้จะเป็นคายะ แต่ก็ไม่มีบาดแผลที่เห็นได้ชัดเจน ดูเหมือนอัศวินหนึ่งในนั้นจะพอขยับได้บ้างแล้ว หลังจากใช้เวทรักษาไป

ซึ่งจากการสรุปของคายะ คนที่จะทำได้มีอยู่ไม่มากและคนร้ายในเหตุการณ์นี้น่าจะมีเพียงคนเดียว

[ เอ่อ… คนร้ายที่คุณคายะหมายถึงคือคนที่นวดหน้าอกคุณเคียวกะเหรอคะ? … ]

คายะพยักหน้าตอบรับคำตอบของริโนะ

[ มีความเป็นไปได้สูงค่ะ ]

ทุกคนแสดงสีหน้าตกใจ

[ เป็นธรรมดาที่จะคิดล่ะนะ เพราะหมอนั่นต้องตามเรามาแน่… ]

ชิโรเนะตั้งคำถามด้วยสีหน้าหนักใจ ความจริงฉันเองก็หนักเหมือนกัน

[ ดูเหมือนแผนการคอสเพลย์จะได้รับการพิสูจน์แล้วนะ ว่าประสบผลสำเร็จ… ]

[ อืม ดูเหมือนจะใช่นะ…. ดูเหมือนแผนการนี้จะได้ผลจริงๆ ]

ฉันตกใจจริงๆ นะขอบอก

ดูเหมือนเจ้าโรคจิตที่ถูกอัญเชิญมาโลกนี้ จะมีฝีมือเทียบเท่ากับคายะ

[ งั้นเราจะทำยังไงกันต่อดีคะ? ]

คายะถามทุกคน

[ อืมม… เอาไว้ไปตามหาเขาพรุ่งนี้แล้วกัน… ]

ทุกคนต่างส่งเสียงไม่พอใจออกมาตอนที่ฉันบอกไป ฉันก็ไม่อยากเจอเจ้าโรคจิตนั้นเหมือนกันแหละน่า

แต่เขาคือเส้นทางที่เราจะกลับไปยังโลกเดิมได้นะ

[ เอ่อ… ฉันขอไม่เข้าร่วมการค้นหาเขาคงได้นะ? เพราะพรุ่งนี้จะไปที่หอคอยนะ ]

คำพูดของชิโรเนะพูดด้วยเสียงเบาๆ 

นี่เธอคิดจะหนีล่ะสิ การค้นหาเจ้าโรคจิตนั้นต้องให้ความสำคัญสูงสุดแต่เรื่องการใช้ความรุนแรงอยู่ในระดับต่ำสุด 

[ ช่วยไม่ได้นะ… ]

ฉันตอบรับเธอไป

[ อ๊าาา ขี้โกงง!! ]

[ ชิโรเนะเป็นคนขี้โกง!! ฉันเองก็จะไปหอคอยด้วย!! ]

ริโนะกับนาโอะกำลังร้องเรียน

[ ไม่ได้หนีสักหน่อยนะ ไม่ใช่ว่าพรุ่งนี้เราจะเจอเขาทันทีซะที่ไหน ถ้าไม่มีอะไรคืบหน้า ยังไงชิโรเนะก็ต้องมาออกค้นหาร่วมกับพวกเราอยู่แล้ว ]

ขนาดพวกเราพยายามตามหาเขาทั่วทั้งลีนาเรียยังตามหากันไม่เจอเลย นี่มันก็แค่การยืดเวลาออกไปเท่านั้นเอง

อีกอย่าง ตอนนี้เราก็ยืนยันได้แล้วว่าเจ้าโรคจิตนั้นอยู่ใกล้ตัวพวกเรา ยังไงก็มีให้หวังล่ะนะ

[ อย่าห่วงเลยริโนะ นาโอะ ถ้าเจ้านั้นโผล่มาฉันจะซัดให้หมอบเลย ]

เรย์จิยิ้มออกมาอย่างกล้าหาญ

[ เรย์จิคุง… ]

[ รุ่นพี่เรย์จิ… ]

ริโนะกับนาโอะคล้อยตามคำพูดของเรย์จิ

นี่รู้มั้ย ว่าเป้าหมายของเราไม่ใช่การไปซัดเจ้าโรคจิตนั้นหรอกนะ

[ ว่าแต่คุณคายะ อัศวินพวกนั้นเห็นหน้าเจ้าโรคจิตนั้นมั้ยคะ? ]

ฉันสังเกตเห็นใบหน้าของคายะเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นคายะก็ตอบคำถามของฉัน

[ ดูเหมือนจะมีใครบางคนไปทำอะไรสักอย่างกับจิตใจพวกเขานะคะ ]

ฉันรู้สึกตกใจเล็กน้อยที่ได้ยินเรื่องนั้นจากคายะ

ถ้าเป็นเวทมนตร์ควบคุมจิตใจ ซึ่งมีผลทั้งด้านความทรงจำและยังสามารถทำให้ความทรงจำหายไปได้

การจะทำให้ความทรงจำบางส่วนหายไปนั้นยากมาก จึงถือเป็นเวทมนตร์ที่ยากที่สุด

[ หมายความว่าความทรงจำของพวกเขาถูกลบไปงั้นเหรอ? ]

 คายะพยักหน้า

เป็นไปได้ว่าเจ้าโรคจิตนั้นอาจจะลบความทรงจำพวกเขา หลังจากที่จัดการไป

[ เป็นไปได้มากเลยค่ะ แม้พวกเขาจะสามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้แล้ว แต่ดูเหมือนความทรงจำในวันนั้นจะหายไปหมดเลยค่ะ ]

คายะพูดด้วยเสียงเศร้า

[ น่า ก็มันเป็นเวทมนตร์ที่ทำให้สูญเสียความทรงจำนี่นะ แต่ว่า… ]

ฉันไม่แน่ใจว่ามันเป็นผลจากเวทมนตร์ควบคุมความทรงจำหรือเวทมนตร์ลบความทรงจำกันแน่ เพราะผลของมันคล้ายคลึงกัน

เวทมนตร์ควบคุมความทรงจำนั้นจะสามารถควบคุมของทรงจำได้ มีความยากกว่าเวทมนตร์ลบความทรงจำ เพราะมีผลแค่บิดเบือนความทรงจำอีกฝ่าย แต่จะไม่ได้ผลหากเป้าหมายมีพลังเวทมากกว่า

นั่นคือเหตุผลว่าที่ความทรงจำของพวกเขาหายไปเพราะกรณีไหนกันแน่

ในกรณีของเวทมนตร์ลบความทรงจำ มีความเป็นไปได้สูงว่าอัศวินแห่งวิหารจะเห็นหน้าอีกฝ่าย

เราทำอะไรกับข้อมูลพวกนั้นไม่ได้เลยรึไงนะ?

[ บางทีคงไม่มีทางเลือกนอกจากพึงพาคุณริโนะ… ]

ฉันมองไปทางริโนะ

ริโนะสามารถใช้เวทมนตร์เพื่อแทรกเข้าไปในจิตใจของเป้าหมายได้ด้วยเวทมนตร์เข้าไปในจิตใจ 

จากนั้นเธอก็จะรู้ข้อมูลที่ลืมไปได้ด้วย ตราบใดที่เข้าใจไปในจิตใจลึกพอ

[ เอ๋~ ไม่เอาด้วยหรอก… ]

แต่ดูเหมือนริโนะจะไม่เห็นด้วยกับไอเดียนี้

ดูเหมือนเธอจะไม่ชอบพวกอัศวินนั้น งั้นก็มไม่มีทางเลือก

เวทมนตร์เข้าไปในจิตใจเป็นเวทที่ส่งผลอย่างมากต่อผู้ใช้ โดยเฉพาะริโนะที่นิสัยค่อนข้างพิเศษ เธอจึงไม่ชอบที่จะเข้าไปในจิตใจของคนที่เกลียด

การเข้าไปในจิตใจคนอื่นมันก็เป็นเรื่องของอารมณ์ล่ะนะ มันดูใกล้ชิดกันยิ่งกว่าการมี *** กันซะอีก ดูเหมือนเธอจะไม่อยากทำนัก ถ้าไม่ใช่กับคนที่ตัวเองรัก

สุดท้ายเราก็ตามรอยเจ้าโรคจิตนั้นจากความทรงจำไม่ได้

[ งั้นก็ช่วยไม่ได้ ถ้าคุณริโนะไม่อยากล่ะก็ไปออกค้นหาแทนแล้วกัน ]

การเข้าไปในจิตใจมันได้ผลมากเลยนะ แต่หากคนที่จะเข้าไปไม่ยินยอม ก็ช่วยไม่ได้

แต่ฉันสงสัยจริงๆ ว่าเจ้าโรคจิตนั้นเป็นคนยังไงกันแน่? ทำไมถึงต้องซ่อนตัวด้วย?

แล้วตอนนี้หมอนั่นกำลังทำอะไรอยู่?

เวลายามค่ำคืนก็ยังคงไหลไปเรื่อยๆ แต่สุดท้ายฉันก็ไม่เข้าใจสถานการณ์อยู่ดี

 

◆ อัศวินดำคุโรกิ

ยามค่ำคืนผ่านไปและรุ่งเช้าได้มาเยือนแล้ว

เมื่อผมลืมตาตื่น ผมก็รู้สึกว่าตัวเองขยับตัวไม่ได้

เหตุผลเพราะข้างบนตัวผมมีใครบางคนกำลังนอนอยู่

คนที่นอนทับผมอยู่คือเทพธิดาที่มีใบหน้าอันงดงามและเส้นผมอันเปล่งประกาย

จากนั้นใบหน้าของผมก็เปลี่ยนเป็นสีแดง เมื่อนึกถึงเรื่องราวเมื่อคืน

เทพธิดาคนนั้นลืมตาตื่นขึ้น

[ ฟุ คุโรกิ- เอ๋~ ทำไมล่ะ? ]

พูดตามตรงผมไม่กล้ามองหน้าเธอเลย

ผมนึกถึงเมื่อคืน ที่จู่ๆ เรน่าก็แปลกไปแล้วเธอกับผมก็…

[ เอ๋~ … กรี๊ดดดดดด~ !!! ]

ดูเหมือนในที่สุดเธอก็เงียบไปแล้ว เธอร้องคร่ำครวญด้วยใบหน้าแดงแจ๋

[ เอ่อ เร- บุอั๊กกก!? ]

จู่ๆ เธอก็ต่อยใส่ผมขณะที่ผมพยายามจะพูดกับเธอ

ผมเองก็รับมือกับเรื่องกระทันหันแบบนั้นไม่ได้หรอกนะ

ผมแอบเหลือบมองเรน่า ขณะที่กำลังลูบหน้าที่โดนเธอต่อยเข้ามา เธอจ้องมาที่ผม

จากนั้นเธอก็เอาหน้าเข้ามาใกล้ผม

[ มองตาฉันซะคุโรกิ!!! ]

[ อะ เอ๋ !! ]

หัวของผมยังคงสับสนแต่ก็มองไปในดวงตาของเธอ ตามที่เธอบอก

ดวงตาจองผมที่จ้องมองสายตาอันงดงามของเธอ มันทำให้ผมใจเต้นแรง

ดวงตาของเธอกำลังส่องประกาย แสงนั้นกำลังตกกระทบร่างกายผม ผ่านสายตาดวงนั้น

แม้ผมจะรู้ดีว่าเธอพยายามจะใช้เวทมนตร์อะไรสักอย่าง แต่ผมก็ต้านทานเธอไม่ได้

[ จงลืมมมม~~ ทุกอย่างที่เกิดขึ้น~~ ให้หมดซ๊าาาาา ~~ !!! ]

เสียงกรีดร้องของเรน่าดังขึ้น

เวทมนตร์ลบความทรงจำ?

ในที่สุดผมก็รู้แล้วว่าเธอกำลังจะใช้เวทมนตร์แบบไหน

จิตใต้สำนึกของผมลืมจางลง

[ ฟุเอ๋! ! ! !  ]

แม้ผมจะได้ยินเสียงเรน่ากำลังทำอะไรสักอย่าง ขณะที่ร้องไห้อยู่ แต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้

◆นักปราชญ์ผมดำ จิยูกิ

เราต้อนรับแขกมาเยือนที่ไม่พบได้ไม่บ่อยนัก ในตอนเช้า

ดวงตาฉันเบนสายตาไปยังปีกที่อยู่ข้างหลังเธอ

นางฟ้า

เผ่านางฟ้าไม่ค่อยลงมาที่พื้นโลกนักหรอก จึงเป็นเหตุผลที่พบได้ไม่บ่อยนัก

ฉันถูกปลุกก็เพราะแขกคนนี้นี่ล่ะ

[ ขอโทษที่รบกวนตอนเช้านะ จิยูกิ ]

นางฟ้าคนนี้ดูจะไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรเลย ดูจากน้ำเสียงเธอ

เผ่านางฟ้าเป็นเผ่าที่มีปีกสวยงามติดที่ข้างหลัง แต่ฉันไม่ค่อยชอบพวกเขาเท่าไหร่เพราะพวกเขามองมนุษย์ด้วยสายตาเย่อหยิ่ง

[ น่า ก็ไม่สำคัญหรอก … แล้วมีเรื่องอะไรล่ะเนียร์? ]

ความจริง ฉันไม่อยากมาคุยกับเธอหรอกนะ แต่ก็ช่วยไม่ได้เพราะดูเหมือนจะเป็นเรื่องเร่งด่วน แม้จะง่วงอยู่ก็เถอะ

เนียร์เป็นหัวหน้าของวาลคีเรียที่คอยคุ้มครองเรน่า ฉันเองก็เคยเจอเธอแค่ครั้งเดียว

แค่เคยคุยกันในการประชุมเท่านั้น สงสัยจังนะว่ามันเป็นเรื่องสำคัญแค่ไหน

ฉันได้ยินเสียงจากในคฤหาสน์ ดูท่าเพราะนางฟ้าลงมาที่พื้นโลกเลยทำให้ส่งเสียงโวยวายกัน

จริงๆ ก็อยากให้ซ่อนตัวกันหน่อยนะ แล้วไอ้การเอะอะแบบนี้นี่ไม่ไหวเอาซะเลย

[ ดูเหมือนท่านเรน่าจะไม่ได้มาที่นี่สินะคะ? ]

เนียร์พูดเชิงคำถาม

[ เอ๊ะ เรน่าอะไรน่ะ? ]

ตั้งแต่มาอาณาจักรนี้เราก็ยังไม่ได้เจอเรน่าเลยนะ

[ ค่ะ ที่จริงแล้วเราขาดการติดต่อกับท่านเรน่าตั้งแต่เมื่อคืน เลยนึกว่าท่านมาที่นี่ แต่ว่า… ]

เนียร์บอกสถานการณ์ด้วยสีหน้าทุกข์ใจ

[ เรน่า? ยังไม่เห็นเธอมาที่นี่เลยนะ? ]

ฉันตอบกลับไป แล้วใบหน้าของเนียร์ก็ซีดลงกว่าเดิม

[ อย่าบอกนะ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับท่านเรน่า… ]

ตัวของเนียร์สั่นไปหมด ดูเหมือนเธอจะกำลังจินตนาการอยู่ น่าเป็นห่วงแฮะ

แค่เรน่าหายไปแค่คืนเดียว เธอก็เป็นห่วงซะขนาดนี้ อีกอย่างเรน่าไม่ใช่เด็กแล้วนะ

[ งั้นต้องรีบออกค้นหาโดยทันที!! ]

[ เอ่อ…. เนียร์… ]

ฉันพยายามบอกให้เนียร์สงบใจไว้

ในเวลานั้นเอง ฉันก็รู้สึกถึงพลังเวทอันทรงพลังจากข้างนอก

เมื่อมองผ่านหน้าต่างก็เห็นแสงที่กำลังบินอยู่บนฟ้า

[ เอ๊ะ ท่านเรน่า!! ]

เนียร์ตะโกนเสียงดัง

วัตถุที่ส่องแสงนั้นคือสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงเอลีอัส

[ หวา!! พวกเราไล่ตามท่านเรน่าไปเร็ว!! จิยูกิ!! ไว้คุยกันทีหลังนะคะ!! ]

หลังจากนั้นเนียร์ก็ออกไปจากห้องฉันเมื่อเห็นแสงที่ผ่านหน้าต่างไป

ฉันถูกทิ้งคนเดียวไว้ในห้องตามลำพังเช่นเดิม

[ นี่มันเกิดอะไรขึ้นล่ะเนี่ย? ]

◆ อัศวินดำคุโรกิ

พอผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ก็รู้สึกเจ็บที่หน้าแบบสุดๆ

ทำไมผมถึงมานอนอยู่ตรงนี้?

ผมน่าจะนอนอยู่บนเตียงสิ

ผมพยายามนึกถึงเรื่องเมื่อคืน

[ เอ๊ะ !! เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นกันนะ? ]

ผมจำไม่ได้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้าง

[ ใช่แล้ว จู่ๆ เรน่าก็เข้ามาจูบผม… แล้วก็จากนั้น~ …. จำไม่ได้เลย ]

ผมจำใบหน้าอันงดงามของเรน่าที่เข้ามาใกล้ผมได้

แต่พอนึกถึงเรื่องเมื่อคืนก็ปวดหัวขึ้นมา

เป็นไปได้มั้ยว่าเธอจะให้ผมดื่มยานอนหลับตอนที่จูบผมน่ะ?

จากนั้นเธอก็พยายามทำอะไรสักอย่าง หลังจากที่ผมหลับไป?

เรน่าออกไปจากห้องแล้ว

ผมรู้สึกเหมือนสิ่งสำคัญหายไป เมื่อตื่นมาแล้วไม่เจอเรน่า

แม้ผมจะไม่รู้เหตุผล แต่ใหน้าของเรน่ายังคงล่องลอยอยู่ในหัวของผม

ใครก็ได้ช่วยผมบอกทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น?

[ คิดไม่ออกเลยสักนิด~!! นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!! ]

ผมม้วนตัวอยู่บนเตียงขณะที่กุมหัว

พอผมหมุนไปรอบๆ ร่างกายของผมก็ไปสะดุดกับอะไรบางอย่าง

[ เอ๊ะ? ]

ผมมองดูขวดเล็กๆ ที่ตกอยู่บนเตียงของผม

[ นี่มันอะไรกันนะ? ]

ข้างในขวดดูเหมือนจะเคยใส่อะไรบางอย่างไว้ แต่ดูเหมือนมันจะหกใส่เตียงผมหมดแล้ว

บางทีเรน่าอาจจะเผลอทำตกไว้โดยไม่ได้ตั้งใจ

มันเป็นจะเป็นยาเวทมนตร์ แต่ผมไม่รู้ว่ามันคือยาอะไร เพราะมันว่างเปล่าไปแล้ว

บางทีมันอาจเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เป้าหมายของเรน่าก็ได้

ผมพยายามค้นหาเบาะแสเพิ่ม

ผมพยายามมองไปรอบข้าง ห้องของผมดูรกนิดหน่อย

[ อืม… ก็ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นอยู่ดี… แต่คงต้องทำความสะอาดแล้วล่ะ… ]

ผมเลยทำการทำความสะอาดเตียงด้วยเวทมนตร์ ที่เตียงมีสองอย่างตกอยู่

หนึ่งคือผ้าอะไรสักอย่าง

เมื่อผมมองไปที่ผ้านั้น มันมีขนาดเล็กมาก 

ในใจผมเตือนว่าให้เอาไปด้วย

[ เก็บไว้ก่อนแล้วกัน… พกติดตัวไปก็ไม่เสียหาย ]

ไม่รู้หรอกนะ แต่สัญชาตญาณของผมบอกให้ทำอย่างนั้น

อีกชิ้นหนึ่งเป็นวัตถุ

พอผมลองหยิบขึ้นมาดู

มันคือสร้อยคอที่มีอัญมณีสีดำอยู่ตรงกลาง

[ นี่มันสร้อยคออะไรกันนะ? ]

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 24"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์