อัศวินดำ - ตอนที่ 54
◆ สตรีแห่งดาบชิโรเนะ
พวกเรามาถึงที่สาธารณรัฐอาเรียดิน่าได้แบบง่ายๆ
เพราะคุณจิยูกิได้ตั้งวาร์ปเคลื่อนที่ไว้ให้ในวิหารเรน่าไว้ให้แล้ว
นี่เป็นครั้งแรกเลยล่ะที่สร้างประตูเคลื่อนย้ายจากที่อื่นนอกจากลีนาเรีย
เนื่องจากจำเป็นต้องวาร์ปกลุ่มคนขนาดใหญ่จึงต้องเปลี่ยนจากวงเวทเปลี่ยนเป็นประตูแทน
แต่ประตูนี้ตั้งได้เฉพาะในประเทศที่มีวิหารเรน่า
ดังนั้นถ้าเป็นประเทศที่ไม่มีวิหารเรน่าก็ไม่สามารถตั้งประตูเคลื่อนย้ายได้
แต่ฉันคิดว่าเราควรสร้างประตูเคลื่อนย้ายในเวรอสและประเทศอื่นๆ ด้วย
พอไปถามเหตุผลจากคุณจิยูกิ ว่าทำไมไม่ขยายประตูเคลื่อนย้ายไปหลายๆ ประเทศ เธอก็ตอบกลับมาว่าเพราะพฤติกรรมของเรย์จิ
ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเรื่องอะไรเช่นกัน
ส่วนเหตุผลที่จะสร้างประตูเคลื่อนย้ายที่อาเรียดิน่าก็เพราะอาเรียดิน่าเป็นประเทศที่ร่ำรวยและเป็นศูนย์กลางของทวีป
ดูเหมือนว่าคุณจิยูกิจะตั้งใจทำให้อาเรียดิน่าเป็นฐานทัพนอกลีนาเรีย
[ ค่ะ พวเราแยกกับท่านเรย์จิที่ชั้นสี่ …. ]
[ ใช่แล้วค่ะ ท่านชิโรเนะ ]
ฉันกำลังฟังเรื่องราวจากผู้หญิงที่ชื่อลีเรีย
มันรู้สึกแปลกๆ นะที่คนอายุมากกว่ามาคุกเข่าให้ฉันนะ
ลีเรียเป็นบักบุญของวิหารเรน่าในสาธารณรัฐอาเรียดิน่า ตอนนี้ฉันอยู่ในห้องพักที่วิหารเรน่าของอาเรียดิน่า
เพราะอิทธิพลของเรน่าค่อนข้างน้อยในอาเรียดิน่า ขนาดวิหารจึงเล็กเมื่อเทียบกับวิหารโอดิส
และอาเรียดิน่ายังเป็นเมืองใหญ่
เป็นประเทศที่ใหญ่ว่าโดยในรัฐเดียวก็มีประชากรกว่า 100,000 คนแล้ว
นอกจากนี้ในวิหารยังมีนักบุญและผู้ศรัทธามาทำงานให้อีกมากมาย
มีนักบุญนับสิบคนในวิหารเรน่าที่อาเรียดิน่าและมีนักบุญระดับสูงคอยทำหน้าที่ชี้นำ
ลีเรียก็เป็นหนึ่งในนั้น
ลีเรียเป็นนักบุญ แต่ไม่ได้ทำงานให้วิหารหรอก
นั่นก็เพราะลีเรียเป็นสาวก เรน่าเป็นเทพที่คอยปกป้องมนุษย์จากปีศาจ เหล่าสาวกก็คือผู้ที่ออกไปกำจัดเหล้าปีศาจไม่ต้องมาทำงานที่วิหารก็ได้
ดูเหมือนเธอจะเป็นทหารรับจ้างและคอยกำจัดปีศาจอยู่
ตามปกติแล้วจะอาศัยอยู่ในเทสซาเซีย เมืองอิสระทางเหนือของอาเรียดิน่าแห่งนี้
แต่ที่เธอมาที่นี่
ก็เพราะได้ยินเสียงจากนางฟ้าบอกว่าสตรีแห่งดาบผู้อยู่ใต้อาณัติของเรน่ากำลังจะมา
จงร่วมมือกับเธอคนนั้นซะ
และเมื่อเรามาที่อาเรียดิน่าก็ได้พบกับลีเรีย
เธอบอกว่าพวกเรย์จิเข้าไปในเขาวงกตปีศาจแล้ว
ขณะนี้นักบุญระดับสูงและลีเรียกำลังคุกเข่าให้พวกเราอยู่
[ ถ้างั้นช่วยพาพวกเราไปที่เขาวงกตชั้นสี่หน่อยได้มั้ยคะ? ]
ฉันถามลีเรีย
[ รอเดี๋ยวก่อนค่ะท่านชิโรเนะ!! ]
คุณคายะที่อยู่ข้างๆ จู่ๆ ก็ส่งเสียงเตือน
[ อะไรเหรอคะคุณคายะ? ]
ฉันตกใจมากเลยนะที่เห็นคุณคายะที่ปกติเงียบๆ พูดขึ้นมานะ
[ กับอีกฝ่ายที่จับตัวท่านเรย์จิได้ การเข้าไปในเขาวงกตโดยไม่มีแผนการใดๆ มันอันตรายกับคุณหนูและท่านชิโรเนะมากเลยค่ะ ]
[ แต่คุณคายะ! ถ้าไม่รีบไปช่วยมีหวังชีวิตของพวกเรย์จิคุงมีหวัง… ]
[ ใช่แล้วคายะ ท่านพี่กำลังตกอยู่ในอันตรายนะคะ ดังนั้นเราต้องรีบไปช่วยแล้ว ]
คุณเคียวกะเองก็เห็นด้วย
แต่คุณคายะกลับส่ายหัว
[ ไม่มีประโยชน์ค่ะคุณหนู ตอนนี้ท่านเรย์จิเองก็ยังไม่เป็นไร เรายังพอมีเวลาอยู่ จึงต้องคิดแผนการก่อนค่ะ ]
[ ที่พูดแบบนั้น…. งั้นแล้วคุณคายะมีแผนของรึไงกันคะ? ]
ฉันต้อนคุณคายะ
ที่จริงฉันเองก็รู้เหตุผลที่คุณคายะพูด แต่มันก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี
[ เดิมทีมันก็เห็นได้ชัดเลยค่ะ ว่าการจะไปช่วยมันเป็นไปไม่ได้ด้วยพลังของแค่พวกเรา เพราะฝ่ายตรงข้ามถึงขนาดจับท่านเรย์จิกับท่านจิยูกิได้ ถ้าเราไปแบบไม่ได้ตั้งตัวก็คงจะโดนจับเหมือนกันค่ะ ]
คุณคายะพูด
มันก็จริง
เรย์จิคุงน่ะแข็งแกร่งมาก
ถ้าเป็นคนที่ถึงขนาดจับเรย์จิคุงได้ พวกเราเข้าไปแบบไม่ดูหน้าหลังก็คงโดนจับไม่ต่างกัน
ถึงจะรู้อยู่แล้ว แต่ก็ห้ามตัวเองไม่ได้
ฉันมักจะเป็นแบบนี้เสมอ
อยู่เฉยๆ ไม่ได้ ตอนที่กังวลเรื่องของคุโรกิเองก็เช่นกัน
[ ถ้างั้น…. แล้วควรทำยังไงดีล่ะคายะ? ]
คุณคายะส่ายหัวให้คำพูดของคุณเคียวกะ
[ แค่กำลังของพวกเราเป็นไปไม่ได้ค่ะ ดังนั้นควรจะขอความร่วมมือจากคนนอก ]
เมื่อพูดขึ้น คุณคายะก็มองไปยังคุณเรจิน่า
ด้วยบางเหตุผล คุณคายะเลยพาตัวคุณเรจิน่ามาด้วย
[ อะ อะไรเหรอคะ? ]
เรจิน่าที่จู่ๆ ก็มุ่งความสนใจไปทางเธอก็เกิดความสับสน
[ คุณเรจิน่าช่วยขอร้องให้ท่านคุโรกิมาช่วยจะได้มั้ยคะ? ]
คุณเคียวกะและฉันต่างอึ้งกันไปหมด
งั้นเองเหรอ เพราะงั้นถึงพาคุณเรจิน่ามาด้วย เพราคุณคายะคิดไว้อยู่แล้วว่าการจะช่วยพวกเรย์จินั้นเป็นไปไม่ได้สินะ? เลยคิดจะยืมพลังของคุโรกิตั้งแต่แรกแล้ว
มันก็จริงที่คุโรกิแข็งแกร่งมาก ถ้ามีพลังของเขาจะช่วยคนได้นับร้อยคน
และคุณเรจิน่ายังสามารถติดต่อกับคุโรกิได้
ทำไมฉันถึงคิดไม่ถึงนะ?
ก่อนหน้านี้
ในหัวของฉันไม่มีความคิดอย่างนี้เลย
[ ขอยืมพลังของนายท่าน… ไม่ได้หรอกค่ะ เรย์จิคือศัตรูของนากอลและนายท่าน ไม่มีทางที่ฉันจะยอมช่วยศัตรูเด็ดขาดเลยค่ะ ]
เรย์จิน่าปฏิเสธ
[ ศัตรูอะไรกัน…. คุโรกิไม่ใช่ศัตรูสักหน่อย คุโรกิก็แค่โดนแม่มดที่ชื่อคุนะจับตัวไว้ต่างหาก ดังนั้นถึงคุโรกิจะมาช่วยก็ไม่เสียหายอะไรนี่ ]
ฉันพูดอย่างนั้น แต่คุณเรจิน่าส่ายหัวปฏิเสธ
[ ท่านชิโรเนะ มันไม่ใช่แค่นั้นหรอกค่ะ ฉันยังได้ยินว่าเขาวงกตนั้นอันตรายมาก ไม่มีวันที่ฉันจะปล่อยให้นายท่านเข้าไปในนั้นเด็ดขาด ]
คุณเรจิน่าหันหน้าหนี
แต่คุณคายะกลับยิ้มเมื่อเห็นคุณเรจิน่าเป็นอย่างนั้น
เป็นรอยยิ้มที่ดูน่ารังเกียจ
[ นี่คุณเรจิน่า คุณเองก็จะได้พบกับท่านคุโรกิด้วย? ไม่ใช่ว่านี่เป็นประโยชน์ต่อคุณงั้นเหรอคะ? ]
คุณเรจิน่าเปิดตาโพล่งเมื่อได้ยินคำพูดของคุณคายะเมื่อกี้
[ อุ๊…. ฉลาดใช้คำพูดจริงๆ เลยนะคะ …. ช่วยไม่ได้… เข้าใจแล้วค่ะ ฉันจะลองติดต่อให้… ]
คุณเรจิน่ายอมรับแบบไม่เต็มใจ
[ ฮุฮุ ขอบคุณมากค่ะคุณเรจิน่า ]
คายะรู้สึกดีใจที่ได้คำตอบจากเธอ
พอมองดูแล้วฉันก็รู้สึกเจ็บใจ
ทำไมถึงมีแค่คุณเรจิน่าที่รู้วิธีติดต่อกับคุโรกิล่ะ?
ทำไมไม่บอกฉัน? นั่นล่ะที่น่าเจ็บใจ
ถึงจะเขี้ยวลากดินขนาดไหน ก็ต้องให้คุโรกิสอนฉันให้ได้
งั้นก็แปลว่าจะได้เจอคุโรกิอีกครั้งแล้ว
ตอนนี้ฉันกลับรู้สึกดีใจมากที่จะได้เจอกับเขา ถึงไม่ดีต่อเรย์จิคุงกับคุณจิยูกิที่กำลังลำบากอยู่ก็เถอะ
◆ อัศวินดำคุโรกิ
ผมไปยังบ้านของเทพเฮย์บอสที่เอลีอัส
เมื่อผ่านบ้านของเทพโทโทน่าก็จะมองเห็นบ้านของเทพเฮย์บอส
แต่ผมไม่ได้เรียกเขาหรอก เพราะเฮย์บอสเกลียดการคุยกันโดยไม่จำเป็น
เรื่องที่นัคถูกจับได้ ผมจึงต้องมาฟังจากโทโทน่าแทน
ห้องรับแขกของเฮย์บอสข้าวของกระจัดกระจายจนคิดว่าอาจจะเป็นห้องเก็บของ เพราะมีของมากมายวางอยู่
ที่กลางห้องมีผมและเฮย์บอสอยู่
[ งั้นเหรอ ราชวังใต้ดิน…. ไม่สิ ตอนนี้กลายเป็นเขาวงกตไปแล้ว … จะไปที่นั่นงั้นเหรอ? ]
เฮย์บอสมองดูด้วยความรังเกียจ
จากข้อมูลของกระดานคริสตัล สำหรับเฮย์บอสเขาวงกตนั้นคือความอัปยศ
เพราะเป็นสถานที่ที่เคยขังเฮย์บอสเอาไว้
เหตุการณ์ของเฮย์บอสไม่ได้ถูกกล่าวถึงนักในเอลีอัส
ขนาดในหมู่คนแคระก็มีเพียงไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้
บันทึกของเอลีอัสนั้นเป็นสิ่งที่จะไม่ให้คนภายนอกดูเด็ดขาด
ผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมโทโทน่าถึงให้ผมดูมันได้เป็นกรณีพิเศษ
[ ครับ ผมจะต้องไปช่วยนัค ด้วยเหตุนั้นขอยืมพลังของท่านเฮย์บอสด้วยเถอะครับ ]
ผมก้มหน้าลง
นัคถูกพวกเรย์จิจับตัวไปและพวกเรย์จิก็ถูกจับตัวอยู่ในเขาวงกตที่มินอน
เฮย์บอสเป็นผู้สร้างเขาวงกตนั้นจึงน่าจะคุ้นเคยกับมันดี
[ ย่อมได้ ข้าเองก็ได้นัคช่วยอะไรหลายอย่างเหมือนกัน จะพยายามช่วยเท่าที่ทำได้แล้วกัน ]
[ ขอบคุณครับท่านเฮย์บอส ]
ผมก้มหน้าลง
[ อัศวินดำ ข้าน่ะเดิมทีสร้างแค่ราชวังใต้ดิน แต่ภายหลังเลวิลรุสได้ปรับปรุงมันจนกลายเป็นเขาวงกต ตัวข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันมีอะไรบ้างหลังจากกลายเป็นเขาวงกต ]
เฮย์บอสทำสีหน้าลำบากใจ
จากนี้ไปผมต้องเข้าไปในเขาวงกตแต่นั่นเป็นเขาวงกตที่ผมไม่รู้จักเลย
มันกลายเป็นเขาวงกตปีศาจไปแล้วด้วยฝีมือของเลวิลรุส เพราะเลวิลรุสกลัวโมเดสมากจนเปลี่ยนมันไปเป็นเขาวงกตนั้นล่ะ
[ อย่างน้อยผมคิดว่ามันก็ไม่น่าเปลี่ยนแปลงมากนัก บอกแค่ที่คุณรู้ให้ผมก็ได้ครับ ]
[ ถ้าอย่างนั้น… ข้าจะให้แผนที่เขาวงกตแล้วกัน ]
[ แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ขอบคุณมากครับ ]
ผมขอบคุณอีกครั้ง
เฮย์บอสส่งแผ่นหินที่ทำจากอัญมณีจากตู้ด้านหลังให้
ดูเหมือนมันจะเป็นกระดานคริสตัลล่ะนะ
ผมรับกระดานคริสตัลจากเฮย์บอสและก้มหัวลง
[ เพียงแต่มันยังมีปัญหาอยู่ ในเขาวงกตนั้นเลวิลรุสจะแข็งแกร่งมาก เจ้าจะชนะเขาได้เหรอ? ]
เพราะคำพูดของเทพเฮย์บอสทำให้ผมเริ่มกังวล
[ เลวิลรุสแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยเหรอครับ… ]
[ ใช่แล้ว ขนาดที่ว่าโมเดสต้องมาต่อสู้เพื่อช่วยข้าออกมาเองเลย ]
[ งั้นเหรอครับ…. ]
เทพเฮย์บอสพยักหน้า ดูท่าว่าจะแข็งแกร่งมากจริงๆ
ผมไม่เคยต่อสู้กับโมเดส แต่บางทีโมเดสคงจะแข็งแกร่งกว่าผม
บางทีถ้าสู้กันผมอาจจะแพ้ก็ได้
ถ้าถึงขนาดโมเดสต้องต่อสู้โดยเอาชีวิตเข้าแลก เลวิลรุสก็คงแข็งแกร่งมาก
ชักน่าเป็นห่วงแล้วสิ
[ ยิ่งกว่านั้น เขาวงกตนั้นยังมอบพลังอย่างไม่มีที่สิ้นสุดให้กับเลวิลรุส ตราบใดที่เขาอยู่ในเขาวงกตก็จะฟื้นฟูตัวเองได้เรื่อยๆ แล้วเจ้ามีแผนจะทำยังไง? ]
เมื่อได้ยินคำพูดนั้น ผมก็คิด
ถึงโมเดสจะโล่งใจแล้วบอกว่าไม่เป็นไร แต่นี่มันต่างกันเลย
ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะชนะได้มั้ย
[ ท่านเฮย์บอส…. พอจะมีแผนดีๆ บ้างมั้ยครับ? ]
[ บางทีหากเป็นในเขาวงกตคงไม่มีใครชนะเลวิลรุสได้เลย เว้นแต่จะเป็นโมเดส แต่ข้าไม่อยากให้เขาใช้พลังแห่งหายนะนั้น ]
เฮย์บอสพูดแบบตรงไปตรงมา
ดูเหมือนโมเดสจะเข้าไปในเขาวงกตเพื่อจัดการเลวิลรุส
แต่แน่นอนว่าการต่อสู้ของโมเดสกับเลวิลรุสตัดสินผลกันไม่ได้ หากโมเดสใช้พลังเต็มที่ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
เพราะพลังของโมเดสแข็งแกร่งเกินไป เทพเฮย์บอสจึงตัดสินใจว่าอย่าใช้พลังนั้นจะดีกว่า
ทั้งที่ความเป็นจริง เฮย์บอสอยากจะใช้ประโยชน์จากเขาอยู่
หากเป็นพลังนั้นคงใช้เหล่าคนแคระและเฮย์บอสทำของต่างๆ ได้มากมาย
แต่ดูเหมือนเพราะเฮย์บอสฝังใจกับการที่เหล่าคนแคระมากมายถูกฆ่าตายต่อหน้า
[ ดังนั้นคงดีกว่าหากใช้วิธีช่วยเหลือนัคได้โดยไม่ต้องสู้ ]
[ มีวิธีเหรอครับ? ]
[ ดูเหมือนนัคจะอยู่ที่ชั้นห้า เดิมมันเป็นสวนใต้ดิน แต่เลวิลรุสได้เปลี่ยนมันเป็นคุกเพื่อขังมนุษย์ไว้ข้างใน มันคุกที่เอาไว้จับตัวคนภายนอกที่เข้ามา ]
จากนั้นเฮย์บอสก็เล่าว่ามิโนทอร์จะคอยลักพาตัวผู้คนและจับตัวมาเป็นทาส
[ แล้วรู้วิธีที่จะปลดปล่อยคนพวกนั้นจากคุกมั้ยครับ? ]
[ เรื่องนั้นข้าเองก็ไม่รู้… เดิมทีข้าไม่ได้สร้างมันให้เป็นคุกจึงไม่รู้วิธีนั้น ]
[ งั้นเหรอครับ… ]
[ แต่ตราบใดที่มันยังไม่ใช่คุกที่สมบูรณ์แบบก็น่าจะมีทางออกอยู่ที่ไหนสักแห่ง ]
คงต้องลองไปตรวจสอบดู
[ งั้นคงต้องลองไปตรวจสอบดูแล้ว ]
เมื่อได้ยินคำพูดของผม เทพเฮย์บอสก็พยักหน้า
[ อีกอย่างนัคเองก็ใช่ว่าจะถูกประหารเหมือนกับพวกผู้กล้าของเรน่า มันจะไม่ดีกว่าเรอะหากไปช่วยหลังจากผู้กล้าถูกปล่อยตัวหรือตายไปแล้วนะ? ]
ใช่แล้ว
การจะไปช่วยหลังจากพวกเรย์จิถูกจัดการก่อนหรือถูกปล่อยตัวก่อนก็ได้
เลวิลรุสเองก็คงไม่ทำอะไรกับนัคหรอก เพราะคงคิดว่านัคเป็นแค่หนูตัวหนึ่ง
[ มันก็จริงนะครับ… ขอบคุณที่บอกอะไรหลายอย่างครับท่านเฮย์บอส ผมจะลองไปคิดดู ]
[ ระวังตัวด้วยล่ะอัศวินดำ ]
เทพเฮย์บอสโบกมือให้ผม
ผมก้มหัวและออกจากห้องไป
เมื่อออกจากห้อง ผมก็เจอกับวัตถุขนาดใหญ่อยู่ข้างประตู
ใช่แล้ว วัตถุบางอย่าง
สิ่งบาดเบ็ดเตล็ดมากมายถูกวางทิ้งไว้อย่างไม่เป็นระเบียบไปทั่ว
[ เลิกซ่อนอยู่ตรงกันได้แล้วล่ะ? ]
ผมพูดกับคนที่ซ่อนอยู่หลังข้าวของพวกนั้น
ผมรู้ว่ามีใครบางคนกำลังแอบฟังอยู่ที่นอกประตู
เมื่อผมพูด จากนั้นผมก็เอาผ้าที่คลุมออก
[ อย่างที่คิดเลยคุโรกิ ที่รู้เพราะพลังแห่งรักสินะ? ]
ผู้ที่อยู่ใต้ผ้าคลุมนั้นมีใบหน้างดงามมาก
[ รัก…? พบกันอีกแล้วนะครับเทพธิดาเรน่า ]
ใช่ คนที่แอบฟังอยู่ก็คือเรน่านั่นเอง
ผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่
นี่เป็นครั้งที่สามแล้วที่ผมพบกับเธอ
ครั้งแรกที่สาธารณรัฐลีนาเรีย
ครั้งที่สองอาณาจักรร็อก
แต่ว่าคราวนี้บรรยากาศของเธอแตกต่างจากที่เธอเจอครั้งก่อนๆ
ผมรู้สึกเหมือนเธอกำลังมองผมด้วยสายตาระยิบระยับต่างจากเมื่อก่อน
นอกจากนี้ยังใส่เสื้อผ้าหนาแตกต่างจากครั้งก่อน
[ แล้วรู้ได้ยังไงมาผมมาที่นี่ล่ะ เรน่า? ]
ผมสงสัยมาตลอด เหมือนเธอรู้ว่าผมจะมาที่นี่เลยซุ่มรออยู่ก่อนแล้ว
แถมผมยังไม่รู้สึกว่าตัวเองโดนจับตามองอยู่ด้วย แล้วเธอรู้การเคลื่อนไหวของผมได้ยังไง?
[ แหม ทำไมกันน้า? ]
เรน่าหัวเราะฮุฮุ
เทพธิดาคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่? ผมไม่เข้าใจจริงๆ
[ นี่ คุโรกิจะไปที่เขาวงกตใช่มั้ย? งั้นฉันขอไปด้วย ]
เธอพูดอย่างนั้นออกมาแล้วขอไปด้วย
[ ผมไม่ได้ไปช่วยพวกเรย์จิหรอกนะ ]
ผมหันหน้าหนีแล้วตอบไปอย่างเย็นชา
ตามที่ข่าวลือบอก เรน่ากับเรย์จิดูเหมือนจะเป็นคนรักกัน
ถึงตอนที่เจอกับเธอคราวก่อนผมจะไม่รู้สึกแบบนั้น
แต่นี่เป็นข่าวที่ได้จากนัคดูเหมือนจะไม่ผิดแน่
และข่าวลือนั่นยิ่งดูจะเป็นยิ่งเขาไปใหญ่ เพราะเธอต้องการจะไปช่วยเรย์จิ
ให้ตายสิ เรย์จินี่น่าอิจฉาชะมัด มีทั้งสาวงามอย่างชิโรเนะรายล้อมและยังมีเทพธิดาที่สวยขนาดนี้เป็นคนรักอีก
น่าอิจฉาโว้ยยย
ผมเองก็อยากีสาวสวยรายล้อมบ้าง
แต่ตอนนี้ก็ดีแล้ว ผมมีคุนะอยู่แล้ว ถึงแม้มันจะน่าอิจฉาอยู่ดีก็เถอะ
และผมก็ไม่อยากไปช่วยเรย์จิด้วย
หากจะเห็นว่าผมใจแคบก็ช่วยไม่ได้นะ
ก็คนมันไม่อยากช่วยนี่หว่า
พวกเขาเองก็แข็งแกร่งอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่เรย์จิ สาวๆ รอบตัวเรย์จิต่างเก่งกันทั้งนั้น
ดังนั้นผมไม่คิดหรอกว่าเรย์หรือชิโรเนะจะต้องการความช่วยเหลือจากผม
ก็ถึงขนาดบอกว่า ไม่ต้องห่วงมีเรย์จิอยู่แล้ว เลยนี่นะ
มันทำให้ความกังวลของผมสูญเปล่าล่ะนะ
ดังนั้นไม่เห็นจะต้องไปห่วงอะไรเลย
ก็แค่ปล่อยให้พวกเขาจัดการด้วยตัวเองซะ
[ ฮุฮุ ฉันไม่ได้สนใจเรย์จิหรอก แค่อยากจะไปกับคุโรกิเ่านั้นเอง ]
เรน่าเอาหน้าเข้ามาใกล้ผมขณะที่กำลังส่งรอยยิ้มให้
ใกล้! ใกล้เกิน! ใกล้เกินไปแล้ว!!
ถึงตอนนี้จะสวมหมวกเกราะอยู่ แต่นี่มันติดกับหมวกเกราะเลยนะ กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือหน้ากำลังประกบกัน
ใบหน้าที่สวยงามของเรน่าเข้าใกล้มากและกำลังทำหน้าหมาน้อยน่ารัก
นี่คิดจะหลอกใช้ผมให้ช่วยเรย์จิให้สินะ?
แถมยังไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมต้องให้เรน่าไปด้วยสักหน่อย
[ เด็กคนนั้นน่ะบ้าเอง เพราะดันทุรังถึงได้กลายเป็นแบบนี้ จนนอนซม ถ้าฉันพลาดโอกาสนี้ก็ไม่รู้จะหาโอกาสจะจากไหนอีกแล้ว ]
เมื่อเรน่าพูดก็มาควงแขนของผม
[ หว่า… เรน่า!!? ]
ผมรู้สึกสับสน
เด็กคนนั้นที่ว่าหมายถึงคุนะ?
ก็จริงที่คุนะตอนนี้อยู่กำลังนอนซมอยู่ที่คฤหาสน์ของผมที่นากอล
หากจะพาเธอไปด้วยก็คงจะอันตรายเกินไป
หวังว่าเธอจะยอมเชื่อฟังแล้วเป็นเด็กดีอยู่บ้านนะ
แต่ทำไมเรน่าถึงได้รู้เรื่องนี้ล่ะ?
[ ไปกันเลยคุโรกิ ถ้าใช้ประตูเคลื่อนย้ายที่จิยูกิตั้งไว้แปบเดี๋ยวก็ถึงแล้ว ไปกันๆ ]
เรน่าดึงแขนผมขณะที่พูดออกมา
ผมยังไม่ได้บอกเลยนะว่าจะไปด้วย แต่ทำไมถึงปฏิเสธเธอไม่ได้เลยล่ะ
สุดท้ายผมก็เหมือนวัวที่กำลังโดนลาก
◆ ทหารรับจ้างหญิงชิสุเฟย์
[ ฮา!! ]
ฉันกำลังฝึกดาบไม้กับโนวิค
[ ย๊ากกก!! ]
แต่ดาบไม้ของฉันถูกปัดทิ้งอย่างง่ายดายเพราะดาบไม้ของโนวิค
[ โด่!! ]
พี่เคย์น่าใช้ร็อดโจมตีโนวิคจากข้างๆ
แต่โนวิคหลบได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว
ฉันกับพี่เคย์น่าทิ้งระยะห่างจากโนวิค
ถึงแม้ฉันจะพี่เคย์น่าจะฝึกต่อสู้กันมาตั้งแต่เด็ก แต่ตอนนี้กลับไม่ใช่คู่ต่อสู้ของโนวิคแล้ว
นี่สินะ ผู้ที่ถูกเรียกว่าผู้กล้าแห่งไฟ
[ เลิกเถอะ… ]
จากนั้นโนวิคก็เลิกตั้งท่า
[ เดี๋ยวสิ คิดจะทำอะไรนะโนวิค!! ]
[ ไม่ไหว ชิสุเฟย์อ่อนหัดเกินไปที่จะเป็นคู่ซ้อม… ]
[ เดี๋ยวจะเสียมารยาทไปแล้วนะ! นายมาขอให้ฉันฝึกดาบด้วยเองไม่ใช่เหรอ ]
เดิมทีคนที่มาขอให้ฉันและพี่เคย์น่าเป็นคู่ซ้อมให้ก็คือโนวิคเอง
[ เพราะมันช่วยไม่ได้… มีแต่ชิสุเฟย์นี่นา ที่พอจะมีฝีมือดาบแต่ท่าทางจะไม่ไหวแฮะ แบบนี้มีหวังไม่ได้ฝึกจริงจังสักที ]
โนวิคพูดด้วยเสียงน่าผิดหวัง แต่ถึงจะพูดมาแบบนั้นฉันก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอก
[ โถ่…. ก็ถึงได้ถามนี่ไงเล่า ทำไมต้องมาขอให้ฉันเป็นคู่ฝึกให้ด้วย แล้วจู่ๆ ทำไมถึงได้อยากแข็งแกร่งขึ้นจนต้องมาฝึกด้วยล่ะ? ]
ฉันสงสัย
ทำไมถึงมาอยากให้ฉันมาเป็นคู่ซ้อมให้และอยากแข็งแกร่งแบบกระทันหันขนาดนั้น ทั้งที่ตอนนี้มันก็ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นสักหน่อย
แต่โนวิคไม่ตอบคำถามฉัน
[ นี่คงเพราะเห็นผู้กล้าแห่งแสงสินะ… ]
[ เดี๋ยวสิพี่เคย์น่า… ]
พี่เคย์น่ากอดโนวิคจากข้างหลังขณะที่หัวเราะ
ฉันถอนหายใจเมื่อได้ยิน
เห็นได้ชัดเลยว่าเขายังคิดจะไปสู้กับท่านเรย์จิอยู่ แต่ไม่ว่าโนวิคจะพยายามแค่ไหนก็เอาชนะท่านเรย์จิไม่ได้หรอก
แต่ความพยายามที่อยากแข็งแกร่งมันก็เป็นเรื่องดีอยู่หรอกนะ
มาเดียเองก็พุ่งเป้าไปที่ท่านนักปราชญ์ผมดำ เธอบอกว่าตัวเองต้องพยายามมากกว่านี้และไปศึกษาเวทมนตร์จากสมาคมผู้ใช้เวทที่อาเรียดิน่า เลยไม่ได้อยู่ที่นี่
ตอนนี้เรากำลังฝึกดาบอยู่ในหลังสวนของวิหารอิชเทีย
เดิมทีที่นี่เป็นสถานที่สำหรับตากผ้าและยังเป็นวิหารของเทพธิดาอิชเทียผู้เป็นเทพธิดาแห่งความรักและความงาม ปกติแล้วผู้ชายจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาที่นี่หรอกนะ
แต่ฉันเคยรับคำขอของวิหารอิชเทียมาหลายครั้ง จนได้กลายเป็นเพื่อนกับสตรีศักดิ์สิทธิ์ทำใช้ที่นี่ได้เป็นกรณีพิเศษ
วิหารอิชเทียเองก็ใหญ่เหมือนกันเพราะมีผู้ศรัทธาอยู่มากพอควร
วิหารเฟย์เรียเองก็อยู่ใกล้กับที่นี่ด้วย
แต่หากจะพูดกันตามตรง ท่านเฟย์เรียกับท่านอิชเทียไม่มีความเกี่ยวโยงกันหรอกนะ
เพราะท่านเฟย์เรียเป็นคนที่รักเดียวใจเดียวไม่เหมือนกับอิชเทีย
ตามหลักคำสอนของท่านเฟย์เรีย เทพธิดาแห่งการสมรสนั้นกล่าวกันว่าให้รักเดียวกับสามีและท่านเฟย์เรียก็รักโอดิสเพียงคนเดียว
ในทางตรงกันข้ามเทพธิดาอิชเทียนั้นงดงามมากจนทำให้ผู้ชายมากมายหลงรัก
ซึ่งนั้นขัดกับคำสอนของท่านเฟย์เรีย
ด้วยเหตุนี้ผู้ศรัทธาของท่านเฟย์เรียจึงเกลียดของจากศาสนาอิชเทีย
นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นเมืองอิสระจึงไม่เหมือนในอาเรียดิน่า อำนาจของท่านอิชเทียจึงไม่มั่นคงนัก
แต่หากไม่สนใจเรื่องหลักคำสอนอะไร ศาสนาของท่านอิชเทียนั้นเปิดให้ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายกว่า
เมื่อตอนที่ฉันยังเด็กและมาเมืองนี้ ฉันเองก็เป็นหนี้บุญคุณของสตรีศักดิ์สิทธิ์ของวิหารอิชเทียเช่นกัน
ดังนั้นจึงพูดอะไรไม่ได้มากนัก
ตอนนี้ที่คนที่อยู่ที่สวนด้านหลังก็มีท่านสตรีศักดิ์สิทธิ์ คุณนอร่า พี่เคย์น่า โนวิคแล้วก็ฉัน
ดูเหมือนเหล่าสตรีศักดิ์สิทธิ์จะมาที่นี่เพื่อดูโนวิค
โนวิคเองก็เก่งเหมือนกันแต่ไม่ถึงขนาดท่านเรย์จิ ฉันคิดว่าเขาไม่น่าจะฝืนตัวเองขนาดนั้นเลย
[ เอ่อ… ถึงไม่รู้ว่าจะชนะท่านเรย์จิได้มั้ย แต่ไม่ลองฝึกในแบบตัวเองแล้วฝึกจากปรมาจารย์ตัวจริงไปเลยล่ะ? ]
เมื่อได้ยินคำพูดของฉัน โนวิคก็หันหน้ามา
[ เรื่องนั้นก็คิดอยู่เหมือนกัน แต่ฉันจะหาปรมาจารย์ดาบที่เก่ง… กว่าฉันได้จากที่ไหนกันล่ะ? ]
[ โอ๊ะ นั่นมันก็จริงล่ะนะ ไม่มีใครที่เก่งดาบ… อยู่แถวๆ นี้เลยนี่นะ ]
ก่อนหน้านี้โนวิคได้ไปถล่มสำนักดาบมาแล้วมากมาย
ดูเหมือนสำนักดาบแถวนี้จะไม่ค่อยได้เรื่องนัก ไม่มีใครเก่งพอจะสอนโนวิคได้เลย
[ งั้นไม่ลองขอให้ผู้กล้าแห่งแสงสอนให้ซะเลยล่ะเจ้าหนู เขาเองก็แข็งแกร่งและคงจะสอนเจ้าหนูได้ด้วยสิ ]
คุณนอร่าที่มองดูอยู่ออกความเห็น
[ อย่ามาเรียกว่าเจ้าหนูนะคุณนอร่า ข้าไม่ได้ใช่เด็กแล้วนะ ]
[ อ่ะ โทษที…. ข้าลืมไปว่ามนุษย์เติบโตเร็วนี่นะ ขอโทษด้วย ]
ฉันไม่รู้ว่าคุณนอร่าอายุเท่าไหร่แล้ว แต่น่าจะมากกว่า 100 ปีแล้วล่ะ
ดังนั้นสำหรับคุณนอร่า ทุกคนก็คือเจ้าหนู
[ แต่โนวิค ฉันคิดว่าที่คุณนอร่าพูดก็ดูเข้าท่านะ ]
ใช่แล้ว ฉันคิดว่าที่คุณนอร่าพูดเป็นความเห็นที่ดีนะ
เพราะท่านเรย์จิเองก็แข็งแกร่งคงจะสอนได้แน่
[ มันก็จริงอยู่หรอก… แต่ก็นะ ]
ดูเหมือนโนวิคจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่
[ เหตุผลนั่นก็เพราะไม่อยากให้คนที่เกลียดมาสอนดาบให้ใช่ม๊า ~♪ แล้วถ้าเป็นสตรีแห่งดาบล่ะว่ายังไง~♪ ]
พี่เคยน่าพูดด้วยเสียงช้าๆ
ฉันไม่เข้าใจเลยทำไมเขาถึงได้เกลียดท่านเรย์จิขนาดนั้นนะ
[ สตรีแห่งดาบ? นั่นมันใครเหรอครับพี่เคย์น่า? ]
[ นี่โนวิคไม่รู้จักหรอกเหรอ เธอเป็นหนึ่งในพรรคพวกของผู้กล้าแห่งแสงนั้นแหละ ในตอนนั้นดูเหมือนเธอไปในเขาวงกตด้วยล่ะนะ แต่ฝีมือดาบของเธอเหนือกว่าผู้กล้าแห่งแสงซะอีก ]
[ จริงเหรอครับพี่เคย์น่า!! ]
เสียงประหลาดใจของโนวิค
จะว่าไปก็ได้ยินจากท่านจิยูกิมานี่นา ว่ากลุ่มของท่านเรย์จิยังมีสตรีแห่งดาบที่ไม่ได้เข้าไปเขาวงกตด้วยกันอยู่
รู้สึกว่าจะชื่อท่านชิโรเนะล่ะมั้ง
ผู้หญิงคนนั้นก็ต้องเป็นคนสวยแน่ๆ แถมยังมีข่าวลือว่าฝีมือดาบของเธอราวกับกำลังร่ายรำอยู่
แต่ได้ยินว่าคนๆ นั้นไปที่อื่นอยู่
รู้สึกจะอยู่ทางเหนือล่ะนะตอนนี้
[ แต่ … จะขอให้เธอสอนได้ยังไงล่ะ? ถ้าเธออยู่ตั้งห่างไกลขนาดนั้น? ]
[ เธอคนนั้นมาที่นี่แล้วล่ะชิสุเฟย์ ดูเหมือนลิเรร่าจะไปรับสตรีแห่งดาบคนนั้นแล้ว ]
[ หืม งั้นเหรอคะ? ]
ลีเรียเป็นสาวกของวิหารเรน่า ตอนนี้คงกำลังอยู่ที่อาเรียดิน่า
แต่เรื่องนี้ฉันไม่รู้มาก่อนเลย ว่าเธอจะไปรับคนสำคัญแบบนั้นอยู่
[ หืม สตรีแห่งดาบงั้นเหรอ คงจะเป็นสาวสวยสินะ ]
โนวิคพูดขณะที่จมูกยื่นออกมาอย่างเห็นได้ชัด
นี่กำลังคิดอะไรอยู่กันยะ ฉันโกรธนิดหน่อย
ยังไงเธอก็เป็นพรรคพวกของท่านเรย์จินะ อย่างโนวิคน่ะไม่มีโอกาสหรอก
แต่ที่ฉันสนใจคือเธอคนนั้นจะเป็นคนแบบไหนกันนะ?
ไม่ใช่แค่โนวิค ฉันเองก็อยากเรียนดาบด้วย
ฉันอยากแข็งแกร่งขึ้น เพราะรู้สึกสมเพซในความอ่อนแอของตัวเอง
ท่านชิโรเนะ… สตรีแห่งดาบเหรอ? อยากเจอเร็วๆ จังนะ
[ โนวิค!! ]
ทันใดนั้นฉันก็ได้ยินเสียงดังขึ้น
เป็นเสียงของคุณที่คุ้นเคย
[ [ จัสตี้!! ] ]
เสียงของฉันและโนวิคดังขึ้นพร้อมกัน
พวกเรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก
ชื่อจริงๆ ของเธอคือจัสเทีย แต่เราย่อมาเป็นชื่อจัสตี้ เธอเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ของวิหารอิชเทีย
เพราะเป็นเด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน จึงเคยเล่นกับมาเดียและโนวิคคกับฉันตอนเด็กๆ
ดูท่าทางจัสตี้จะสบายดีนะ
[ ถ้ากลับมาแล้วทำไมไม่บอกฉันสักคำเลยล่ะโนวิค!! ]
เธอวิ่งมาและกอดโนวิค เพราะจัสตี้ยังไม่ได้เจอกับโนวิคเลยตั้งแต่เขากลับมา
[ อึก!! ]
โนวิคดูอึดอัด
จัสตี้ดูจะเป็นคนที่ค่อนข้างอวบนิดหน่อยและตัวใหญ่หากดูในมุมมองผู้หญิง แถมยังแรงเยอะจนผู้ชายยังอาย โนวิคถูกกอดจนรู้สึกอึดอัด แทนที่ปกติเขาน่าจะดีใจนะที่มีผู้หญิงมากอด
ซึ่งความจริงแล้วเธอเป็นน้องสาวของโกดอล ผู้กล้าแห่งดิน ฉันเองก็เพิ่งรู้เรื่องนี้ไม่กี่วันก่อนนี่ล่ะ
ตอนที่จัสตี้บอกให้ฟังฉันตกใจมากเลยล่ะ
จะว่าไปทั้งสองคนก็ดูคล้ายกันที่ตรงไหนสักแห่งล่ะนะ
[ อ่ะ ชิสุเฟย์อยู่ด้วยเหรอ? ]
จัสตี้พูดขณะที่กำลังกอดโนวิคอยู่
ตั้งแต่เด็กๆ แล้วจัสตี้ชอบโนวิคมากจนแสดงความเป็นศัตรูมาที่ฉันอย่างชัดเจน
ซึ่งดูเหมือนจัสตี้จะคิดว่าฉันชอบโนวิค แต่ไม่มีทางหรอก
แต่ยังไงก็ไม่สบอารมณ์เวลาโดนมองแบบนั้นอยู่ดี
[ เหรอ จะไม่สังเกตเห็นฉันก็ช่วยไม่ได้นี่นะ โอ๊ะ ขอโทษนะ ที่ฉันไม่ได้ใหญ่เท่าจัสตี้นะ ]
ฉันหัวเราะแล้วมองไปที่พุงของจัดตี้
[ ใช่แล้วย่ะ ก็หน้าอกของชิสุเฟย์เล็กลงจนไม่สังเกตเลย! ]
[ หน๊อย! ]
หน้าอกฉันไม่ได้เล็กนะ ขนาดใหญ่กว่าของมาเดียกับคุณนอร่าซะอีกนะ จัสตี้ต่างหากที่ใหญ่เกินไป
หน้าอกของจัสตี้ใหญ่มาก แต่ใหญ่ขนาดนั้นมันน่าอึดอัดไม่ใช่รึไงกัน
[ ว่าไงนะ ที่มันใหญ่ขนาดนั้นก็เพราะหล่อนอ้วนไงเล่า!! ]
[ อย่ามาฉันอ้วนนะ! ฉันแค่อวบต่างหาก ]
ฉันกับจัสตี้จ้องหน้ากัน
[ เดี๋ยวๆ ทั้งสองคนหยุดเลยนะ! ]
พี่เคย์น่าที่มองดูอยู่เข้ามาห้าม
จากนั้นโนวิคที่ถูกจับอยู่ก็ถูกปล่อย
[ กรี๊ดดด โนวิค! ]
เพราะจัสตี้กอดโนวิคไว้นานไปหน่อย โนวิคจึงน็อคไปแล้ว
นี่จัสตี้ทำการฆาตกรรมโนวิคผู้กล้าแห่งไฟไปซะแล้วสินะ ฉันคิดแบบนั้นในใจ