อัศวินดำ - ตอนที่ 57
◆ อัศวินดำคุโรกิ
[ ท่านร่างสถิตมังกรผู้ยิ่งใหญ่ พวกเราน้อมรับคำสั่ง ]
ใช่แล้ว ที่ลิซาร์ดแมนโจมตีมนุษย์ก็เพราะพวกมันหิวแค่นั้นเอง
เหล่าทาสลิซาร์ดแมนที่หนีออกจากสนามต่อสู้มีทั้งหมด 8 ตัว
ในตอนเช้าผมมาที่เขาวงกต
แน่นอนว่าเข้าไปแค่ส่วนพื้นดินเท่านั้น
ที่ส่วนพื้นดินตรงนี้ เดิมทีเคยเป็นเมืองของมิโนทอร์มาก่อน
แต่ว่าหลังจากการโจมตีของราชาปีศาจโมเดสทำให้พวกมิโนทอร์หนีลงไปใต้ดินกัน
เป็นผลทำให้พื้นดินตรงนี้พังทลายไปหมด
แต่ก็ยังปรากฏตึกที่สวยงามที่มาจากฝีมือของเทพเฮย์บอสอยู่
มีเมืองสร้างอยู่รอบๆ และที่เนินเขาเล็กๆ ก็มีวิหารอยู่
เดิมอาคารพวกนี้คงเป็นอาคารบ้านเรือนแบบสมัยเก่า
เป็นอาคารหินที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามและดูจะเจริญรุ่งเรืองมาก
แต่นั่นมันเป็นเรื่องเมื่อก่อน
ผมใช้เวทบินและลงจอดที่ใจกลางเมือง
แต่พวกชิโรเนะไม่ได้มาด้วยหรอกนะ
ชิโรเนะเองก็อยากจะมาด้วย แต่มันอาจจะมีความเป็นไปได้ว่าเลวิลรุสจะรู้ว่าอัศวินดำและพรรคพวกของผู้กล้าร่วมมือกันก็ได้
เพื่อเป็นการช่วยเรย์จิ คงจะดีกว่าหากปิดไว้เป็นความลับ
และชิโรเนะยังยืนอยู่ฝ่ายมนุษย์ ผมจึงไม่สามารถยืมมือของชิโรเนะที่เป็นคนของผู้กล้ามาช่วยได้
ผมจะต้องลงมือคุยกับลิซาร์ดแมนด้วยตัวเอง
ผมสวมชุดเกราะอัศวินดำเต็มตัว
เรจิน่าเองก็อยากมาด้วย แต่ถูกชิโรเนะห้ามเอาไว้
เมื่อคืนเรจิน่ากับชิโรเนะทะเลาะกัน เพราะเรจิน่าจะมานอนด้วยกันกับผม
สุดท้ายเรจิน่าจึงต้องไปนอนห้องของคายะ ส่วนคายะก็ไปนอนห้องเดียวกับเคียวกะที่เป็นเจ้านาย
เหตุผลที่ผมต้องมาในร่างอัศวินดำ ก็เพราะเผื่อจะคุยกันไม่รู้เรื่องจนอาจต้องบังคับกันบ้าง
แต่ความกังวลนั้นก็หายไปอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่พวกลิซาร์ดแมนเห็นผม พวกเขาก็ยอมเชื่อฟังผมอย่างรวดเร็ว
ดูเหมือนพวกลิซาร์ดแมนจะรู้สึกถึงพลังมังกรในร่างของผมล่ะนะ
เช่นเดียวกับลิซาร์ดแมนที่นากอล พวกเขาเองก็นับถือมังกรเหมือนกัน
ลิซาร์ดแมนคนหนึ่งสาบานว่าจะจงรักภักดีกับผมจากนั้นก็พาพรรคพวกลิซาร์ดแมนคนอื่นๆมา
และทุกคนก็ก้มหัวให้ผม
[ ผมต้องขอโทษด้วยนะ แต่… อยากให้พวกคุณออกไปที่นี่ไปสักพักนะ เพราะจากนี้ผมจะไปจัดการกับเทพผู้ชั่วร้ายของเขาวงกตนี้ ]
กับพูดกับริซารืดแมนทั้งห้าคนที่กำลังก้มหัวอยู่
พวกคุณไม่ใช่ผู้ศรัทธาหรืออะไรของผมสักหน่อย
ไม่จำเป็นต้องก้มหัวก็ได้
[ ท่านร่างสถิตมังกร ผู้ที่ควบคุมเขาวงกตข้างหลังนี้คือศัตรูของท่านรึครับ? ]
หนึ่งในลิซาร์ดแมนถามผม
[ ครับ ถ้ายังไงช่วยย้ายออกไปจากที่นี่สักพักได้มั้ย? ]
เมื่อผมพูดอย่างนั้น เหล่าลิซาร์ดแมนก็เงยหน้าขึ้น
[ ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ง่ายแบบนั้นหรอกครับ ]
ผมประหลาดใจเล็กน้อยกับคำพูดของเขา
[ หมายความว่ายังไง? ]
[ ทางแม่น้ำที่เชื่อมต่อกับเขาวงกตนี้ ดูเหมือนมันจะถูกใช้ทำอะไรสักอย่างด้วยครับ ]
ผมฟังลิซาร์ดแมน
และก็จำได้ถึงแบบแปลนเขาวงกตของเทพเฮย์บอส
ว่าในเขาวงกตชั้นห้าที่พวกเรย์จิถูกขังอยู่มีทะเลสาบอยู่ด้วย แต่น้ำนั้นมาจากไหน
แต่แบบแปลนเขียนไว้แต่โครงสร้างภายในเขาวงกตไม่ได้บอกโครงสร้างด้านนอกไว้ เพราะภูมิประเทศอาจจะเปลี่ยนไปตามสภาพเวลา
ดูท่าว่าเทพเฮย์บอสคงใช้แม่น้ำใกล้ๆ แถวนี้มาสร้างสวนขึ้น
และผ่านไปร้อยปีที่มันถูกเปลี่ยนเป็นเขาวงกต
แต่สภาพแวมภูมิประเทศแถวนี้ก็คงไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก
สงสัยผมคงต้องฟังที่พวกลิซาร์ดแมนเล่าแล้วเอาข้อมูลมาเทียบกับแบบแปลนก่อนซะแล้ว
[ มันเป็นไปได้มั้ยที่จะเข้าไปในเขาวงกตได้ผ่านทางแม่น้ำนะ? ]
ผมถามแต่พวกลิซาร์ดแมนส่ายหัว
[ ไม่ได้ครับ ดูเหมือนจะมีบาเรียที่มองไม่เห็นทำให้เข้าไปทางแม่น้ำไม่ได้ ]
จากที่ลิซาร์ดแมนบอกมา ดูท่าว่าจะมีบาเรียอยู่สินะ
เพราะเขาวงกตชั้นห้ามันเป็นคุก
แต่เดิมมันไม่ใช่คุก ดังนั้นต้องมีช่องโหว่ที่ไหนสักแห่งแน่
และบาเรียที่ล้อมรอบแม่น้ำคิชอยู่คงจะถูกสร้างมาทีหลัง
อาจจะดีกว่าถ้าไปปรึกษากับพวกชิโรเนะ
ขณะที่ผมกำลังใช้ความคิดอยู่นั้นเอง
ก็รู้สึกถึงอากาศที่สั่นสะเทือนเล็กน้อย
[ ความรู้สึกนี่มัน…? ]
[ ท่านร่างสถิตมังกรมีเรื่องผิดปกติครับ ]
ลิซาร์ดแมนอธิบาย
เขาวงกตนี้ที่ผิวดินเองก็มีบาเรียที่แข็งแกร่ง
ดังนั้นเมื่อมีคนนอกเข้ามาจะทำให้อากาศสั่นไหว
เพียงแค่การสั่นไหวของอากาศนิดเดียวก็ทำให้รู้ได้แล้วว่ามีคนกำลังเข้ามา
ลิซาร์ดแมนมีประสาทการรับรู้เหนือกว่ามนุษย์มาก ทำให้แม้แต่การสั่นไหวของอากาศเพียงเล็กน้อยก็รู้สึกได้
ตราบเท่าที่ยังอยู่ในเขาวงกตนี้ พวกลิซาร์ดแมนก็รู้ตำแหน่งของผู้บุกรุกได้ล่วงหน้า
นอกจากนี้ลิซาร์ดแมนบางตัวยังสามารถเปลี่ยนสีร่างกายเพื่ออำพรางกับสภาพแวดล้อมได้ด้วย
ทำให้สามารถดักซุ่มโจมตีเหล่าทหารรับจ้างได้
[ เข้าใจแล้วล่ะครับ… ]
เมื่อผมพูดออกมาก็ใช้เวทสำหรับมอง
และผมก็เห็น
นั่นคือพวกเดียวกับทหารรับจ้างที่เจอเมื่อวานและยังมีโนวิคอยู่ด้วย
แต่จำนวนผู้ชายในกลุ่มมันเพิ่มขึ้นจากที่เจอเมื่อวานนิดหน่อย
ชายที่มีธนูและชายที่มีหอก ดูๆ แล้วน่าจะมีฝีมือพอๆ กับโนวิค
[ ทำไมพวกเขาถึงมาอยู่ที่นี่? ]
บางทีคงจะมากำจัดพวกลิซาร์ดแมน
[ ท่านร่างสถิตมังกร ช่วยร่วมจัดการพวกทหารรับจ้างพวกนั้นกับเราได้รึไม่? ]
ผมรู้สึกได้ถึงความโกรธของลิซาร์ดแมนจากน้ำเสียงนั้น
เพราะพวกเขาโดนมนุษย์จับมาเป็นทาสและพวกมนุษย์ยังใช้วิธีสู้แบบสกปรกทำให้พวกเขาพ่ายแพ้
และลิซาร์ดแมนยังต้องมาต่อสู้กันเองในสนามต่อสู้
ผมเข้าใจถึงความโกรธที่เขามีแต่มนุษย์ดี
ใช่ ผมเข้าใจ….
แต่ผมไม่สามารถแบ่งเบาความโกรธนั้นได้
แม้ว่าพวกเขาจะบอกว่าอยากแก้แค้นมนุษย์ แต่ผมก็ให้ยืมพลังไม่ได้
ผมไม่ได้อยู่ทั้งฝั่งของมนุษย์และฝั่งของปีศาจ
แต่แค่ทำตามสถานการณ์
ผมเป็นประเภทที่เชื่อจากการกระทำ บางทีตัวผมคงอาจจะเลวสุดๆ ก็ว่าได้
ทำตามความยุติธรรมของตัวเอง ไม่มีความคิดอื่น
ผมเป็นคนที่เห็นแก่ตัวและยังเป็นอัศวินดำผู้รับใช้ราชาปีศาจที่ทำตามใจตัวเอง
ซึ่งที่อยากช่วยพวกลิซาร์ดแมน ก็เพราะผมอยากช่วยแค่นั้นเอง
[ ไม่ล่ะ พวกนายถอยไปดีกว่า เดี๋ยวผมจัดการเอง…. ]
ผมสายหัวแล้วตอบลิซาร์ดแมน
[ โอ้! ท่านร่างสถิตมังกรจะลงมือเองเลยรึครับ! ]
จากนั้นพวกลิซาร์ดแมนก็ก้มหัวให้ผม
ผมไม่ต้องการหรอกนะ ดังนั้นไม่ต้องก้มหัวให้ก็ได้
ผมเดินไปทางโนวิค
จะว่าไป เมื่อไม่นานนี้ผมเพิ่งเรียนเวทมนตร์มาใหม่นี่นะ
ผมเดินไปขณะที่คิดแบบนั้น
พูดตามตรงผมก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้าง
ผู้ชายพวกนั้นกับโนวิคเองก็ดูแข็งแกร่ง
ลิซาร์ดแมนที่เอาชีวิตรอดจากสนามต่อสู้เองก็คงเก่งไม่น้อย
ถ้าพวกเขาต่อสู้กันผลจะออกมายังไงก็ไม่รู้
ผมเดินตรงไปทางพวกโนวิค
แต่ตอนนี้ผมกล้าพูดได้เลยว่าลิซาร์ดแมนเป็นเพื่อนของผม
โชคดีที่ว่างานเดิมของอัศวินดำก็คือการก่อกวนพวกผู้กล้าอยู่แล้ว
แหงล่ะ การไปช่วยผู้กล้าต่างหากที่แปลก
สงสัยผมคงต้องกลับไปทำงานเดิมแล้วล่ะนะ
◆ ทหารรับจ้างหญิงชิสุเฟย์
ฉันตื่นสาย ขณะที่มาถึงทุกคนก็อยู่กันครบแล้ว
เพราะเมื่อคืนเหล่า 4 ผู้กล้าฉลองกันทำเอาฉันแทบจะไม่ได้นอน
จากนั้นพวกเราก็มุงหน้าไปที่เขาวงกตด้วยการนำของผู้กล้าทั้ง 4
นอกจากพวกผู้กล้าแล้วก็มีฉัน พี่เคย์น่า มาเดีย คุณนอร่า และลีเรีย
แต่คราวนี้จัสตี้เองก็มาด้วย
ถึงจัสตี้จะไม่ใช่นักรบแต่ก็พอสู้ได้
โดยเธอเอาอาวุธสำรอง-มอร์นิ่งสตาร์(ค้อนที่มีลูกตุ้ม)ของพี่ชาย-โกดอลมาใช้
มอร์นิ่งสตาร์หนักมากทำให้ฉันถือไม่ไหวและขนาดพี่เคย์น่ายังแบกไม่ไหวเลยล่ะ
แต่จัสตี้กลับถือมันได้อย่างเหมาะมือ บางทีเธออาจจะเหมาะเป็นทหารรับจ้างยิ่งกว่าฉันซะอีก
จากความรู้สึกที่มองดู ไม่นึกเลยว่าจะเป็นผู้ศรัทธาของเทพธิดาอิชเทียไปได้
สตรีศักดิ์สิทธิ์ของท่านอิชเทียก็เห็นว่าจะใช้วิชาลับที่เรียกว่าระบำสงครามได้ด้วย
โดยสตรีศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นจะใช้ดาบร่ายรำ ไม่ก็พัดในการต่อสู้หรือกระทั่งเครื่องดนตรีที่ทำจากเหล็ก
แต่ในนั้นมันไม่มีมอร์นิ่งสตาร์อยู่สักหน่อย
เพราะการร่ายรำด้วยมอร์นิ่งสตาร์…. ดูยังไงก็ไม่ไหว
ไม่เหมาะกับผู้ศรัทธาเทพธิดาอิชเทียที่แสวงหาความงดงามเลยสักนิด
ถึงยังไงก็ไปพูดต่อหน้าเธอไม่ได้แน่ เพราะเธอเป็นผู้ศรัทธาตัวจริงเลยนี่นะ
ขณะที่ฉันกำลังใช้ความคิด เราก็มาถึงด้านหน้าส่วนผิวดินของเขาวงกต
[ จากตรงนี้ให้ข้านำเอง ]
เซฟาร์-ผู้กล้าแห่งลมบอก ภารกิจครั้งนี้เขาเป็นหัวหน้า
พวกเราพยักหน้าแล้วเข้าไปในประตู
บรรยากาศเปลี่ยนไปเมื่อผ่านบาเรียเข้ามา
แตกต่างจากเมื่อก่อนหน้านี้ มันเงียบมาก
ครั้งก่อนที่นี่ฉันโดนก็อบลินและครอกกาไทรส์โจมตี
แต่ครั้งนี้ไม่รู้สึกถึงสัญญาณชีวิตใดๆ เลย
[ แล้วผู้กล้าแห่งลม พอจะหาลิซาร์ดแมนเจอมั้ย? ]
โกดอลพูดขณะที่มองไปยังพื้นที่เขาวงกตอันกว้างขวาง
มันใหญ่กว่าเมืองเทสซาเซียซะอีก
ที่นี่มีลิซาร์ดแมน 8 ตัวที่หนีไปอยู่ แต่การจะหามันให้เจอมันยากมาก
[ ไม่ หาไม่เจอเลย สงสัยคงต้องรอให้พวกเราโผล่ออกมาเอง ทุกคนเตรียมอาวุธให้พร้อมไว้ด้วย ]
เซฟาร์พูดขณะที่ถือลูกธนูไว้เพื่อพร้อมจะยิงได้ตลอดเวลา
เนฟิมเองก็ถือหอกไว้เตรียมแทงได้ทุกเมื่อ
[ เดี๋ยว หมายความว่ายังไง!! ]
โนวิคถามเซฟาร์
[ อย่ารีบร้อนไปผู้กล้าแห่งไฟ ตามที่ตรวจสอบมา เหล่าทหารรับจ้างที่มาต่างถูกลิซาร์ดแมนซุ่มโจมตีทั้งนั้น แปลว่าอีกไม่นานมันต้องโผล่มาแน่ แน่นอนพวกมันต่างหากที่ผิดพลาดที่มาสู้กับเรา เพราะไม่รู้ซะแล้วว่าพวกเราเป็นใคร ]
เซฟาร์พูดขณะที่มองไปรอบๆ
[ อืม เข้าใจล่ะ ชิสุเฟย์ ทุกคนเตรียมอาวุธไว้ให้พร้อมต่อสู้ได้ทุกเมื่อ ]
พี่เคย์น่าสั่งจากนั้นทุกคนก็เตรียมอาวุธครบมือ
ฉันดึงดาบออกมา
จากนั้นพวกเราก็ก้าวไปข้างหน้า
มาเดีย คุณนอร่า และเซฟาร์อยู่ตรงกลางระหว่างโกดอล โดยมีจัสตี้อยู่ข้างๆ ฉัน โนวิคและเนฟิมอยู่ด้านขวา พี่เคย์น่าและคุณลีเรียอยู่ด้านซ้าย
[ จะมาจากที่ไหน… ]
มาเดียพูดออกมาด้วยความกังวล
[ อย่าพึ่งพาสายตามากเกินไป ลิซาร์ดแมนสามารถเปลี่ยนสีให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้ ดังนั้นนี่คงต้องขึ้นอยู่กับฉันและความสามารถของนอร่าที่เป็นเอลฟ์ ]
เซฟาร์บอกกับคุณนอร่า
[ เป็นความรับผิดชอบที่หนักอึ้งจังนะ…. ]
คุณนอร่าตอบขณะที่พร้อมจะปล่อยลูกธนูได้ทุกเมื่อ
หูยาวๆ ของคุณนอร่าสามารถจับการเคลื่อนไหวได้ดี ดังนั้นจึงไม่น่าจะพลาดได้
เพราะประสาทสัมผัสของคุณนอร่าไวมาก
แต่ฉันได้ยินว่าเซฟาร์-ผู้กล้าแห่งลมเองก็เป็นเรนเจอร์ที่ยอดเยี่ยมเหมือนกัน
[ เฮ้ เซฟาร์! เราจะเอาชนะมันได้จริงๆ เหรอ! คงไม่พลาดเหมือนคราวเซนทอร์อีกหรอกนะ! ]
พี่เคย์น่าถามด้วยความไม่สบายใจ ขณะที่เซฟาร์ส่งเสียงร้อง [ อึก!! ] ออกมา
[ อย่าไปพูดถึงมันสิเคย์…. คราวนี้ฉันเตรียมพร้อมมาอย่างดีไม่แพ้แน่ พวกมันเป็นถึงปีศาจที่รอดมาจากสนามต่อสู้ได้ ตอนนั้นฉันคิดอะไรตื้นไปหน่อย แต่คราวนี้มันต่างกัน ข้าตรวจสอบมาอย่างรอบคอบแล้ว ดังนั้นคราวนี้ล่ะ… ]
เซฟาร์มองไปยังเนฟิม โกดอล และโนวิค
[ คราวนี้ไม่แพ้แน่นอน ]
จากนั้นเซฟาร์ก็หัวเราะสดใสออกมา
เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของเขา เหล่าผู้กล้าก็หัวเราะออกมาด้วย
พอคิดดูก็น่าขำล่ะนะ
ฉายาผู้กล้า นักรบที่เก่งที่สุดของมนุษย์มารวมตัวกันอยู่ที่นี่ถึงสี่คน
เรียกได้ว่าการรวมตัวกันของผู้แข็งแกร่งยกเว้นท่านเรย์จิคนเดียวก็ว่าได้
โกดอล ผู้กล้าแห่งดินที่มีพละกำลังมหาศาลและโล่เวทมนตร์ที่สามารถรับการป้องกันทั้งหมดได้
โนวิค ผู้กล้าแห่งไฟที่สามารถใช้การโจมตีกายภาพและเวทมนตร์จัดการศัตรูได้
เนฟิม ผู้กล้าแห่งน้ำที่สามารถใช้เวทมนตร์และต่อสู้ได้ สามารถใช้เวทรักษาคนได้ทั้งกลุ่ม
เซฟาร์ ผู้กล้าแห่งลมที่มีความสามารถในการตรวจจับอันยอดเยี่ยมพอๆ กับเอลฟ์และยังมีฝีมือการยิงธนูอันยอดเยี่ยม คอยช่วยเหลือพรรคพวกในสนามรบ
ถ้าทั้งสี่คนร่วมมือกัน ไม่ว่าปีศาจแข็งแกร่งขนาดไหนก็เอาชนะได้แน่
[ ถึงดูเหมือนจะไม่เป็นไรแต่ว่า… ]
พี่เคย์น่าพูดออกมาราวกับจะรดไฟที่กำลังลุกของพวกเขา
และเพราะบางเหตุผล ตัวฉันเองก็คิดว่าเซฟาร์ไม่น่าชื่นชมเลยสักนิด
แต่เดิมพี่เคย์น่าก็ไม่ได้สนใจการกำจัดลิซาร์ดแมนเหมือนกับฉัน
นอกจากผู้กล้า 4 คนนั้น คนที่เหลืออย่างเราจัดการได้มากสุดก็แค่ก็อบลินแค่นั้นเอง แค่นั้นก็ถือว่ายากแล้ว
แต่การกำจัดลิซาร์ดแมนครั้งนี้หากพวกมันมีมากๆ เป็นไปได้ว่าจะตายกันหมด
แต่ที่ฉันเข้าร่วมกับโนวิค ก็เพราะอยากหาทางช่วยท่านเรย์จิด้วยอีกแรง
เพราะการที่จะให้คนที่สุดยอดและเท่ขนาดนั้นตายมันถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของโลก
ทันทีที่ได้พบกับเขาโลกของฉันก็เปล่งประกาย แม้จะเข้าใกล้ไม่ได้ แต่แค่มองดูเขา ตัวฉันก็มีความสุขแล้ว
[ ช่วยหยุดอยู่แค่นั้นจะได้มั้ย? ]
ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
ทุกคนมองไปยังด้านหน้า
ที่ตรงนั้นมีอัศวินที่สวมเกราะสีดำกำลังเดินขึ้นบันไดมา
อัศวินดำคนนั้นมีชุดเกราะที่ดูหนักและสวมผ้าคลุมสีดำ
แม้จะเห็นจากไกลๆ ก็รู้ได้ทันทีว่านั่นเป็นเกราะเวทมนตร์ที่สุดยอดขนาดไหน
เขาเดินมาออกมาราวกับความมืดยามค่ำคืนกำลังมาเยือน
อัศวินเกราะดำเดินตรงมาหาพวกเรา
ทันทีที่ฉันเห็นอัศวินดำคนนั้นเหงื่อที่ไหลท่วมหลังไปหมด ทั้งที่อากาศเองก็ไม่ได้ร้อน
ทุกคนเองต่างก็ตกใจกันไปหมด
[ บ้าน่า… ทั้งที่เมื่อกี้…. ยังไม่เห็นรู้สึกถึงอะไรเลย ]
เซฟาร์พึมพำ
เขาสามารถหลุดรอดความสามารถในการตรวจจับของเซฟาร์ได้ ทั้งที่เซฟาร์คอยระวังอยู่ตลอดเวลา
เมื่อฉันมองไปทางคุณนอร่าก็เห็นสีหน้าของคุณนอร่ากำลังทำหน้าราวกับไม่อยากเชื่อสายตา
[ มันอะไรกัน? ไม่รู้สึกถึงอะไรเลย แต่ทันทีที่เขาปรากฏตัวออกมา บรรยากาศก็บิดเบี้ยวไปหมด ]
คุณนอร่าส่ายหัวและหน้าซีด
ฉันเองก็เหมือน ไม่ทันสังเกตเลยจนกระทั่งเขาเข้ามาใกล้แล้ว
เหมือนมีออร่าปล่อยออกมาจากอัศวินดำคนนั้น
[ ความรู้สึกนี้มันอะไรกัน…? ]
รู้สึกสะอิดสะเอียน ราวกับเป็นความมืดที่ของโลกนี้ทั้งใบ
อัศวินดำตรงหน้าฉัน ตรงกันข้ามกับท่านเรย์จิ ทันทีที่ฉันเห็นการดำรงอยู่ของเขาก็ทำให้โลกของฉันมืดมิดไปถนัดตา
[ เขาเป็นใคร? ดูเหมือนจะไม่ใช่พวกลิซาร์ดแมน ]
พี่เคย์น่าพูด ใช่แล้ว ลิซาร์ดแมนน่ะไม่ใส่เกราะหรอก เพราะมันจะทำให้ความสามารถในการพรางตัวเสียไปเปล่าๆ
งั้นแล้วเขาเป็นใครกัน?
เพราะเขาสวมหมวกเกราะอยู่ฉันเลยไม่เห็นหน้าเขา ดวงตาของหมวกเกราะของเขามีอัญมณีสีแดงอยู่ ดวงตาสีแดงนั้นกำลังจ้องมองตรงมาที่พวกเรา
[ เฮ้ ผู้กล้าแห่งลม! ดูสัญลักษณ์ที่แขนเสื้อเขาสิ! ]
คุณนอร่าชี้ไปยังอัศวินดำ
แต่เพราะมันไกลเกินไปทำให้ฉันมองไม่เห็น
[ นั่นมัน…. สัญลักษณ์ของกองทัพราชาปีศาจ? ]
เซฟาร์พึมพำ
ดาวแปดเหลี่ยมที่แขนเสื้อบ่งบอกว่าเขาเป็นคนของกองทัพราชาปีศาจ จะบอกว่าคนที่สวมเกราะนั้นอยู่เป็นปีศาจระดับสูงงั้นเหรอ?
[ สัญลักษณ์ของกองทัพราชาปีศาจ… หรือว่าเขาจะเป็นอัศวินดำแห่งนากอลในตำนาน… ]
มาเดียพูดออกมาด้วยเสียงกังวล
อัศวินดำของนากอลที่ปรากฏตัวออกมาเฉพาะในตำนาน
มีเรื่องเล่ากันว่า ภัยพิบัติจะบังเกิดหากได้เจอกับอัศวินดำ
[ จะเป็นอัศวินดำหรืออะไรก็ไม่รู้ล่ะ แต่ฉันจะจัดการมันเอง! ]
โนวิคพูดอย่างนั้นแล้วกระโดดออกไป
[ เจ้าเด็กบ้า! อย่ารีบร้อน! ]
เซฟาร์พยายามห้าม แต่โนวิคไม่ฟังและกระโดดเข้าหาอัศวินดำในพริบตา
[ รับไปซะ เบิร์ส(ระเบิด)!! ]
เวทมนตร์ระเบิดที่มีพลังทำลายสูงที่สุดของโนวิคถูกใช้ออกมา แม้แต่โอเกอร์ก็โดนจัดการได้ในครั้งเดียวหากโดนเข้าไป
เป็นเวทมนตร์ที่แม้แต่ผู้ใช้เวทอย่างมาเดียก็ใช้ไม่ได้ นี่แสดงให้เห็นว่าโนวิคเป็นนักรบเวทที่เก่งขนาดไหน
ลูกบอลสีแดงถูกปล่อยออกมาจากมือซ้ายของโนวิค บอลสีแดงพุ่งเข้าใส่อัศวินดำและเกิดการระเบิดครั้งใหญ่
[ สำเร็จมั้ย? ]
พี่เคย์น่าถามออกมา เมื่อควันจากระเบิดจาง ที่ตรงนั้นก็ยังมีอัศวินดำยืนอยู่
ไม่มีความเสียหายที่ได้รับจากแรงระเบิดอยู่เลยสักนิด ดูเหมือนเขาจะป้องกันไว้ได้
[ ย๊ากกก! คมดาบเพลิง!! ]
แม้แต่เวทมนตร์ที่พลังทำลายสูงที่สุดของโนวิคก็ถูกป้องกันไว้ได้ โนวิคใช้ดาบที่อาบด้วยไฟเวทมนตร์ฟันใส่อัศวินดำ
ดาบของโนวิคนั้นสามารถจัดการออร์คง่ายๆ
แต่อัศวินดำกลับรับไว้อย่างง่ายดายด้วยมือเปล่า
[ บัดซบ ]
โนวิคพยายามฟันอีกหลายต่อหลายครั้ง
แต่อัศวินดำก็สามารถกันได้อย่างสบาย
โนวิคไม่ยอมแพ้และยังฟันไปอีกหลายครั้ง
เขาส่งคลื่นของความเปลวเพลิงเข้าใส่อัศวินดำ
แต่มันก็ส่งไปไม่
[ อะไรกัน! ]
เสียงโนวิคตกใจ
อัศวินดำรับดาบของโนวิคด้วยช่องว่างระหว่างนิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือ
[ บัดซบ! ]
แม้โนวิคจะพยายามดึงดาบออกแต่มันก็ไม่ขยับแม้แต่น้อย
[ การฟันสะเปะสะปะไปหมด…. พูดไม่ได้ว่าฝีมือดีเลยด้วยซ้ำ ไปหัดมาซะใหม่ตั้งแต่พื้นฐานซะเถอะ ]
อัศวินดำพูดออกมาจากนั้นก็ใช้แขนซ้ายชกโนวิค
[ อึก!! ]
โนวิคส่งเสียงประหลาดและปลิวไป
โนวิคกระเด็นไปเหนือพื้นดินและกลิ้งไปสองตลบจากนั้นก็ไม่เคลื่อนไหวอีกเลย
[ โนวิค!! ]
จัสตี้พยายามวิ่งไปหาโนวิค
[ คุณลีเรีย! ฝากรักษาโนวิคด้วย!! ]
ลีเรียพยักหน้าจากนั้นก็วิ่งไปหาโนวิค
[ จะเอายังไงล่ะ? ถ้ายอมหนีไปตั้งแต่ตอนนี้ ผมจะไม่วิ่งตามไปนะ ]
อัศวินดำโยนดาบของโนวิคมาทางพวกเราและพูดออกมา เสียงนั้นเงียบเชียบ แต่ก็ดังฟังชัด
[ บ้าเอ้ย แกเป็นใครกัน!! แข็งแกร่งขนาดนี้หรือว่าะเป็นอัศวินดำแห่งนากอลในตำนานจริงๆ ? ]
เสียงของเซฟาร์ดังก้องไปทั่วซากปรักหักพัง
โนวิคน่ะแข็งแกร่ง ถึงก่อนหน้านี้ตอนที่สู้กับครอกกาไทรส์จะสู้ไม่ไหว เพราะความเข้ากันไม่ดีนัก แต่หากเป็นอีกฝ่ายที่นอกจากครอกกาไทรส์ เขาก็ไม่แพ้หรอก
แต่นี่โนวิคกลับสู้เขาไม่ได้เลย นี่เขาแข็งแกร่งขนาดไหนกัน?
บางทีอาจจะแข็งแกร่งพอๆ กับท่านเรย์จิเลยก็ได้
[ มัวทำอะไรอยู่กันผู้กล้าแห่งลม? เราต้องหนีแล้วนะ? ]
[ อย่ามาตลกน่าผู้กล้าแห่งดิน! คิดจะหนีไปแบบนี้งั้นเหรอ! เนฟิม! ]
[ ข้าเข้าใจแล้ว! กระสุนน้ำ! ]
เนฟิมร่ายเวท จากนั้นก็มีเวทออกมาจากมือซ้ายของเขา
[ ข้าเองก็ด้วย! สายลมจงร่ายรำ!! ]
เซฟาร์ปล่อยลูกธนูออกไปห้าลูกในคราวเดียว
กระสุนน้ำพุ่งตรงเข้าหาอัศวินดำ
และลูกธนูเองก็อ้อมไปดักทำให้อัศวินดำไปไหนไม่ได้
แต่ลูกธนูทั้งหมดถูกลบให้หายไปด้วยเปลวเพลิงสีดำก่อนที่จะถึงตัวเขา
และทันทีที่กระสุนน้ำโดนตัวอัศวินดำ มันก็เปลี่ยนทิศทางกลับไปหาเนฟิม
[ สะท้อนเวทงั้นเหรอ!! นั่นมันอะไรกัน? ]
มาเดียส่งเสียงตกใจ
[ อันตราย!! ]
โกดอลพยายามปกป้องเนฟิมไว้ด้วยโล่
กระสุนน้ำหายไปเมื่อโดนโล่เวทมนตร์ของโกดอล
[ ขอบคุณที่ช่วยไว้ ผู้กล้าแห่งดิน… ]
เนฟิมขอบคุณโกดอล
[ ไม่มีปัญหา ]
โกดอลตอบออกมาอย่างอ่อนน้อม
[ เฮ้ เซฟาร์ คิดจะทำอะไร! ดูก็รู้ว่าเราสู้อีกฝ่ายไม่ได้เลยสักนิด! ]
พี่เคย์น่าตะโกน
[ มันยังไม่จบเคย์! ยังหรอก…. อั๊กกก! ]
จากนั้นก็เหมือนมีบางอย่างจับคอของเซฟาร์ไว้ทำให้เขาทรมานมาก
เซฟาร์ลอยขึ้นไปกลางอากาศ
[ โกหกน่า! มือเวทมนตร์งั้นเหรอ!? จากระยะที่ไกลขนาดนั้น?!! ]
มาเดียตะโกน
มือเวทมนตร์คือเวทมนตร์ที่จะทำให้ใช้มือที่โปร่งใสที่สร้างขึ้นจากเวทมนตร์ได้
หากมีพลังเวทมากพอก็จะสามารถยกสิ่งของจากระยะไกลๆ ได้และยังบดขยี้หัวใจได้โดยตรง
มาเดียเองก็ใช้มือเวทมนตร์ได้เหมือนกัน แต่ระยะก็ไม่ได้ไกลมากนักและยกวัตถุหนักๆ ก็ไม่ได้ แน่นอนว่ายกร่างคนขึ้นไปไม่ได้
แต่อัศวินดำกลับทำได้
ร่างของเซฟาร์ถูกยกลอยขึ้นด้วยมือเวทมนตร์ของอัศวินดำ
[ กุ๊ อั๊กก!! ]
ร่างของเซฟาร์แกว่งไปมาจากนั้นก็ถูกปล่อยกระแทกลงพื้น
[ ถอย! หนีไปเร็วเข้า! ]
โกลดอลตะโกนจากนั้นก็ใช้ค้อนยักษ์ในมือทุบลงพื้น
พื้นดินแตกและเกิดฝุ่นฟุ้งไปทั่ว
ที่โกดอลทำก็เพื่อปกปิดวิสัยทัศน์ของอีกฝ่ายเพื่อให้เราหนีไปได้
โกดอลอุ้มเซฟาร์ ขณะที่จัสตี้อุ้มโนวิค
[ พี่เคย์น่า! ขอร้องล่ะฝากมาเดียด้วย!! ]
[ ได้เลย!! ]
เพราะมาเดียนิ่งไปเพราะความตกใจ จึงต้องให้พี่เคย์น่าพาหนีไป
ฉันมองไปเพื่อหาทางหนีไปเช่นกัน
ก๊อง
ทันใดนั้นก็มีเสียงบางอย่างกระแทกเข้าที่หัวฉัน
[ อะไร…. ]
มีของบางอย่างหล่นลงมาโดนหัวฉันทำให้ล้มลงไป
มันคือก้อนหินขนาดใหญ่นั้นเอง
ดูเหมือนตอนที่โกดอลทุบพื้นเมื่อกี้จะมีเศษหินมาโดนหัวฉัน
ฉันปวดหัวมาก
การเคลื่อนไหวก็เริ่มช้าลงและล้มลงไปกับพื้น
และแล้วสติของฉันก็จางไปในความมืดมิด
◆ อัศวินดำคุโรกิ
[ ดูท่าว่าจะหนีไปกันแล้ว… ]
สัญญาณของพวกทหารรับจ้างหายไปแล้ว
เดิมทีผมก็ไม่ได้คิดจะฆ่าอยู่แล้ว ก็แค่คิดจะไล่ไปเท่านั้นเอง
จากนั้นละอองฝุ่นก็หายไป
[ เอ๊ะ? ]
ผมเพิ่งรู้ตัว
ที่ตรงนั้นมีผู้หญิงล้มอยู่
ผมตรงเข้าข้างๆ เธอคนนั้น
จากนั้นก็มองดูหน้าของผู้หญิงที่สลบอยู่คนนั้น
เธอมีใบหน้าที่สวย พูดตามตรงก็ไม่เหมาะจะเป็นทหารรับจ้างซะเลย
ผู้หญิงคนนี้รู้สึกว่าจะชื่อชิสุเฟย์ที่เป็นคนในกลุ่มของโนวิค
ดูเหมือนว่าตอนที่ชายร่างยักษ์-ผู้กล้าแห่งดินทุบพื้นจะมีหินลอยมาใส่เธอ ทำให้เธอสลบไป ทำให้เหลือเธออยู่เพียงคนเดียว
ที่หัวมีเลือดไหลออกมา แต่เพราะผมไม่มีความรู้เรื่องการแพทย์เลยไม่รู้ว่าอาการของเธอเป็นยังไงบ้าง
[ แย่แล้วสิ… ]
ขืนปล่อยไว้เธออาจจะตายก็ได้
และผมก็ใช้เวทรักษาไม่ได้ซะด้วย
ถ้าเป็นไปได้ตอนนี้อยากให้คุนะอยู่ด้วยจังนะ
ตอนนี้คนที่น่าจะใช้เวทรักษาได้ก็มีชิโรเนะ แต่ไม่รู้ว่าแค่เวทรักษาของชิโรเนะจพเพียงพอสำหรับรักษาเธอมั้ย
[ ทำยังไงดีล่ะ…. ]
ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากเลี่ยงวิธีที่ใช้กับเรจิน่าให้มากที่สุด
[ ยังไงตอนนี้ก็พาเธอกลับไปก่อน ตอนนี้อย่าเพิ่งคิดดีกว่า…. ]
และแล้วในตอนนั้นผมก็คิดถึงสาวสวยคนหนึ่งที่เป็นต้นแบบของคุนะ
ถ้าเธอเป็นต้นแบบของคุนะล่ะก็ต้องใช้เวทรักษาได้แน่
จากนั้นผมก็อุ้มชิสุเฟย์ไป
◆ สตรีแห่งดาบชิโรเนะ
[ ได้โปรดท่านชิโรเนะ! ช่วยชิสุเฟย์ด้วย!! ]
จู่ๆ โนวิคก็มาหาฉันและก้มหัวให้
ไม่ใช่แค่โนวิคเท่านั้นที่มา
แม้กระทั่งเพื่อนของชิสุเฟย์เองก็ยังมาขอร้องและก้มหัวให้ฉันด้วย
ดูเหมือนเมื่อตอนบ่าย พวกเขาพยายามไปกำจัดลิซาร์ดแมนกัน
และในตอนนั้นก็ไปเจอกับคุโรกิเข้า
ช่างโชคร้ายกันจริงๆ เลยนะ
[ ชิสุเฟย์เป็นเพื่อนคนสำคัญของข้า…. ข้าจะยอมทำทุกอย่าง… ขอร้องล่ะ… ]
ยิ่งโนวิคพูดก็ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกแย่
[ เข้าใจแล้ว จะไปช่วยให้เดี๋ยวนี้ล่ะ แค่นี้ก็พอใจแล้วใช่มั้ย? ]
ฉันจ้องมองแล้วพูด
[ เข้าใจแล้วครับ เรื่องตอนนั้นต้องขอโทษด้วย… ]
โนวิคดูจะร่าเริงขึ้นนิดหน่อย ดูท่าว่าผู้หญิงที่ชื่อชิสุเฟย์คงเป็นคนสำคัญของเขาจริงๆ
นั่นล่ะที่ฉันอยากให้นายรับรู้ไว้ซะบ้าง
ทางฉันเองก็ให้ความสำคัญกับคุโรกิ เหมือนกับที่นายให้กับชิสุเฟย์ นี่ล่ะเหตุผลที่ฉันโกรธมากเวลาที่นายมาทำเรื่องแย่ๆ ใส่คุโรกิ
ดังนั้นเขาเองก็น่าจะสำนึกบ้างแล้วนะ
[ งั้นจากนี้ฉันจะไปเตรียมตัว พวกนายกลับบ้านไปได้แล้ว ]
[ แต่… ข้าเองก็อยากไปด้วย… ]
[ ไม่ต้องการ ]
ฉันพูดออกไปอย่างเย็นชาทำให้โนวิคดูเศร้าไปในทันใด
[ เข้าใจแล้วครับ… ]
พวกเขาออกไปจากห้องด้วยสภาพที่ดูหดหู่
[ หวังว่าเขาจะรู้สึกผิดซะบ้างนะ? ]
ฉันคิดอยู่ในใจ นี่ล่ะเป็นการลงโทษที่มาชกคุโรกิ
แบบนี้ล่ะดีแล้ว
[ น่า ที่จริงก็ไม่ต้องคิดมากอะไรเลยนี่ค่ะ ]
คายะที่นั่งอยู่ข้างๆ พูดออกมา
[ ใช่แล้วค่ะคุณคายะ เพราะที่จริงแล้วคุโรกิก็พาตัวเธอกลับมาแล้ว ]
จริงๆ แล้วเด็กสาวที่ชื่อชิสุเฟย์ถูกคุโรกิมาตัวกลับมาก่อนที่พวกเขาจะมาถึงซะอีก
และเรน่ายังได้ใช้เวทรักษาให้เธอแล้ว
ที่บอกว่าจะช่วยก็แค่หลอกไปอย่างนั้นเองแหละ
พวกเขาจะคิดยังไงนะ หากคนที่พวกเขามาขอร้องให้ช่วย ถูกช่วยเอาไว้ก่อนแล้ว?
และดูเหมือนคุโรกิยังได้เบาะแสบางอย่างของเขาวงกตจากพวกลิซาร์ดแมนมาด้วย
คุโรกินี่จริงๆ เลยนะ
[ รอสักเดี๋ยวนะคุณคายะ ฉันคิดว่าคงต้องแกล้งทำทีว่าออกไปข้างนอกสักหน่อย ]
ฉันพูดขึ้นจากนั้นก็ออกจากห้องไป
◆ วาลคิเรียสาว ชิสุเฟย์
[ โอ๊ะ ในที่สุดก็ฟื้นแล้วสินะ… ]
เมื่อฉันฟื้นขึ้นมาก็เจอสาวสวยอยู่ตรงหน้า
เธอเป็นสาวสวยที่มีผิวขาวและมีเส้นผมงดงาม ใบหน้าสวยจนน่ากลัว
ตอนที่ได้เจอกับนักปราชญ์ผมดำ ฉันก็ตกใจอยู่แล้ว แต่ผู้หญิงตรงหน้าคนนี้สวยยิ่งกว่านั้นไปอีก
เธอเป็นใครกัน?
[ เอ่อ คุณคือ…? ]
ขณะที่ฉันถาม สาวสวยคนนั้นก็ยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ฉัน
เป็นรอยยิ้มที่ทำให้ประหลาดใจไปเลย
[ ลูกแห่งมนุษย์เอ่ย เราต้องขอบคุณเจ้าจริงๆ ]
[ ขอบคุณ? ]
[ ใช่ เพราะเจ้าเขาคนนั้นถึงยอมก้มหัวให้เรา ตอนนี้เราเลยอารมณ์ดีสุดๆ ]
เธอคนนั้นหัวเราะฟุฟุฟุ อย่างมีความสุข
แต่ฉันไม่เข้าใจความหมายที่เธอบอก
[ ดังนั้นข้าจะมอบพรให้สักหน่อยแล้วกัน ]
เธอแตะที่หน้าผากของฉัน จากนั้นก็รู้สึกมีเรี่ยวแรงมากขึ้น
[ ฟุฟุ เท่านี้เจ้าเองก็เป็นสาวกเป็นกับลีเรียแล้ว ]
จากนั้นเธอก็เอาฮู้ดมาปิดหน้า
เมื่อเธอเอาฮู้ดมาปิดหน้า ฉันก็นึกออกทันที เธอคือคนที่อยู่กับท่านชิโรเนะนี่นา
[ คุณชิสุเฟย์!! ]
ลีเรียที่เอาอาหารมาไว้ตรงหน้าฉันและมาหาฉัน
ดูเหมือนเธอจะอยู่ในห้องนี้ตั้งแต่แรกแล้ว
ลีเรียวางอาหารไว้บนเตียง แต่ฉันก็ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ตอนนี้อยู่ดี
[ ลิ… ลิเรร่า? ]
[ คุณชิสุเฟย์น่าอิจฉาอ่ะ! ได้จับมือกับท่านด้วย!! ]
ลีเรียจับมือฉัน
ถึงจะดูเงียบอยู่ปกติ แต่เธอก็ดูแปลกๆ
[ อะไรเหรอลีเรีย นี่เกิดอะไรขึ้นกับฉันงั้นเหรอ? ]
[ คุณชิสุเฟย์…. เกือบจะตายในเขาวงกตแล้วนะรู้มั้ย นี่ต้องขอบคุณท่านชิโรเนะนะที่ไปช่วยเอาไว้ทัน ]
[ งั้นเองเหรอ… ]
ต้องขอบคุณท่านชิโรเนะ
[ แต่ปลอดภัยดีก็ดีแล้วล่ะ ]
ลีเรียหัวเราะเล็กน้อย
[ แต่สาวสวยเมื่อกี้เป็นใครงั้นเหรอ? ]
ฉันถามด้วยความสงสัย
[ คนๆ นั้น…. ไม่สิ ท่านคือเทพธิดา ชิสุเฟย์นี่ดีจังน้าที่ได้ท่านมารักษาให้แบบนี้… ]
ฉันส่ายหัวไปมาเมื่อได้ยินคำตอบจากลีเรีย
สงสัยฉันจะหูฝาดไปเองล่ะมั้ง
[ โกหกน่า… คนๆ นั้นเป็นเทพธิดาตัวจริงเหรอ…? ]
ฉันตกใจกับความโชคดีของตัวเอง
◆ อัศวินดำคุโรกิ
[ ไหงมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้? ]
ทำไมผมถึงต้องยอมขอร้องเรน่าถึงขนาดนั้นเพื่อช่วยสาวทหารรับจ้างคนนั้นด้วยนะ?
เดิมทีเรน่าเป็นเทพธิดาที่คอยปกป้องเหล่ามนุษย์และจะต้องรักษาบาดเจ็บอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?
แต่เรน่ากลับไม่ทำ
ไอ้เรื่องที่เทพจะต้องช่วยเหลือมนุษย์น่ะ เป็นแค่ภาพลวงตาที่มนุษย์สร้างขึ้นมา
เทพน่ะไม่ช่วยมนุษย์หรอก
แรกเริ่มเดิมที ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ก็ถูกสร้างขึ้นเพื่อประโยชน์ของเทพอยู่แล้ว
เรน่าเองก็ไม่จำเป็นต้องไปคอยช่วยเหลือเหล่ามนุษย์ที่จะตายเลยสักนิด
ตอนที่ผมขอร้องให้เธอช่วยชิสุเฟย์ เรน่ามองมาทางผมแล้วถามว่า ทำไมต้องทำอะไรแบบนั้นด้วยล่ะ
จนถึงขนาดว่าผมต้องก้มหัวเพื่อขอร้องเธอ
ใบหน้ากลั้นหัวเราะของเรน่าในตอนนั้นแม้แต่ตอนนี้ผมก็ไม่ลืม
ทำไมอัศวินดำอย่างผมต้องไปก้มหัวขอร้องเทพธิดาเพื่อช่วยทหารรับจ้างด้วย?
ทั้งที่ผมน่าจะทำตรงกันข้าม(ฆ่า)
[ นี่ผมทำอะไรลงไป…? ]
ผมถอนหายใจออกไป