CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

อัศวินดำ - ตอนที่ 62

  1. Home
  2. อัศวินดำ
  3. ตอนที่ 62
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

◆ อัศวินดำคุโรกิ

เพราะเห็นว่าเธอกำลังตกอยู่ในอันตราย ผมเลยช่วยไปตามสัญชาตญาณ

ครั้งก่อนเธอก็จะถูกฆ่าและครั้งนี้เองก็จะถูกฆ่าอีก

แต่ผมก็ช่วยเธอไว้ได้ทัน

[ คุณจิยูกิ! ปลอดภัยใช่มั้ยคะ?!!! ]

เด็กสาวผมสั้นรีบวิ่งมาหาเธอ

[ อือ ไม่เป็นไรหรอกคุณนาโอะ… เพราะเขาช่วยไว้ ]

เด็กสาวที่ชื่อจิยูกิมองผม

ดวงตาอันงดงามของเธอและผมจ้องมองกัน มันเป็นความรู้สึกเหมือนกำลังโดนตำหนิอยู่

จากนั้นผมก็มองไปยังเด็กสาวอีกคนที่ชื่อนาโอะ

เพราะมีเรื่องต้องบอกเธอ

ผมยื่นมือออกไป

[ อะไรคะ? ]

[ ผมมารับเพื่อนของผมคืน ]

ผมยื่นมือและพยายามจะไปจับนัค

[ โอย๊ะ พี่ชายมาเอาตัวรับตัวรูบี้งั้นเหรอ เอาล่ะรูบี้ออกมาสิ ]

เธอพูดอย่างนั้นแล้วเอานัคออกมา

ดูเหมือนเธอเองก็สังเกตถึงตัวตนของนัคอยู่เหมือนกัน

[ ท่านไดร์ฮาร์ด~!!! ]

นัคกระโดดมาหาผม

[ ทำไมหนูถึงพูดได้ล่ะ!? ]

จิยูกิส่งเสียงตกใจ

ดูเหมือนจิยูกิจะไม่ได้รู้ตัวเหมือนกับนาโอะ

[ ไม่คิดเลยว่าจะมาช่วยกระผมจี๊ด! ]

นัคปีนขึ้นมาบนหน้าของผมและส่งเสียงร้อง

[ แน่นอนว่าต้องมาช่วยอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ขอไปจัดการเทพปีศาจก่อนแล้วกัน ]

จากนั้นผมก็วางนัคลงบนพื้น เพราะหากนัคอยู่ในเวทป้องกันนี้ก็จะปลอดภัย

[ เข้าใจแล้วจี๊ด! ]

จากนั้นผมก็มองไปยังเลวิลรุส

เลวิลรุสนั้นลุกขึ้นและกำลังเฝ้ามองผมอยู่ระวังและไม่มาใกล้

[ ฉันเองก็จะช่วยอีกแรง ]

จิยูกิพยายามจะช่วยผม แต่ผมห้ามไว้

[ ไม่เป็นไร ดูเหมือนคุณจะเหนื่อย พักก่อนเถอะ เดี๋ยวผมจัดการเอง ]

ผมพูดอย่างนั้นแล้วตรงไปหาเลวิลรุส

[ ทำไมอัศวินดำมาอยู่ที่นี่? ทำไมถึงได้มาช่วยผู้กล้า?!!! ]

เทพปีศาจเลวิลรุสตะโกน

ผมไม่ได้มาช่วยเรย์จิ

นี่ก็เพราะคำขอของชิโรเนะต่างหาก

ก่อนอื่นเลย ทำไมผมต้องมาช่วยเรย์จิด้วยล่ะ?

[ เปลวไฟพวกนี้เกะกะจังแฮะ… ]

ผมโยนเปลวไฟสีดำและทำให้เปลวไฟสีแดงที่อยู่ทั่วห้องหายไป

[ บ้าน่า!! เปลวไฟของข้า! ]

เลวิลรุสดูตกใจ

[ โทษทีนะ แต่เทพเฮย์บอสขอร้องมา ให้ผมจัดการนายน่ะนะ… ]

ผมจับดาบ

[ เดี๋ยว!! ]

ผมได้ยินเสียงจากข้างหลัง

ที่ตรงนั้นคือเรย์จิที่ฟื้นตัวแล้วยืนอยู่

[ มีอะไร… ]

[ ถึงจะไม่มีความช่วยเหลือจากนาย! ฉันก็ชนะได้อยู่แล้ว!!! ]

เรย์จิพูดขึ้นขณะที่ถือดาบสองเล่มและมีเล่มหนึ่งที่หักไปแล้ว

[ ไม่ได้ตั้งใจจะช่วย มันต่างกัน… ]

นายนี่มีโชคจังนะ

เป็นไปได้ผมก็ไม่อยากช่วยตั้งแต่แรกหรอก

เพราะไม่เห็นว่าผมจะได้ประโยชน์อะไรสักนิด

ผมไม่สนใจเรย์จิและหันดาบเข้าหาเลวิลรุส

[ ทำไมกัน!? ทำไมผู้กล้าแห่งแสงกับอัศวินดำถึงร่วมมือกัน! นี่มันหมายความว่ายังไง!! ]

เลวิลรุสยกขวานขึ้น

เรย์จิและผมตรงเข้าไปหาเลวิลรุส

และแล้วการร่วมต่อสู้ของอัศวินดำและผู้กล้าแห่งแสงเพื่อจัดการเทพปีศาจก็เริ่มขึ้น

 

 

 

 

◆ นักปราชญ์ผมดำจิยูกิ

[ นี่ คุณจิยูกิ สถานการณ์มันเป็นมายังไงกันแน่คะ? ]

ริโนะถามฉัน

[ ถึงจะถามไป ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน… ]

ตรงหน้านั้นเรย์จิกับอัศวินดำกำลังต่อสู้กับเลวิลรุสอยู่

พวกเราไม่ได้สนับสนุนพวกเขาเลย

แต่เห็นได้ชัดเลยว่าพวกเรย์จิกำลังได้เปรียบ

เลวิลรุสถูกไล่ต้อนด้วยการโจมตีของทั้งสองคน

ดูเหมือนถึงเราไม่ทำอะไรก็คงไม่เป็นไร

นอกจากนี้เรายังไม่เหลือแรงแล้วด้วย

พลังเวทเองก็ไม่ฟื้นตัวหากไม่พักสักหน่อย

โดยเฉพาะซาโฮโกะนั้นได้รับภาระค่อนข้างหนักหนาเอาการ

เพราะเธอต้องใช้เวทรักษาและเวทป้องกันมาเป็นเวลานาน

ตอนนี้เลยกำลังนอนราบอยู่ ฉันล่ะอยากขอบคุณสำหรับความพยายามของเธอจริงๆ

[ ถึงจะไม่รู้สถานการณ์ตอนนี้ แต่ดูท่าว่าเราจะรอดแล้ว… ]

[ งั้นเหรอคะ… ]

สถานการณ์กลับตาลปัตรเมื่ออัศวินดำปรากฏตัวขึ้น

เลวิลรุสพยายามโจมตีด้วยไฟและสายฟ้า แต่เหมือนจะไม่ได้ผลเลย

การโจมตีด้วยขวาน หอก และดาบเองก็ถูกป้องกันได้อย่างง่ายดาย

เพราะพลังอันมหาศาลของอัศวินดำทำให้ไล่ต้อนเลวิลรุสได้จนไม่เหลือทางสู้

นอกจากนี้ยังมีเรย์จิคอยช่วย

เรย์จิโจมตีเลวิลรุสพร้อมกับอัศวินดำ

แสงจากดาบของเรย์จิและเปลวไฟสีดำของอัศวินดำราวกับกำลังร่ายรำ

เป็นการเต้นรำของแสงและความมืด

 

 

 

◆ อัศวินดำคุโรกิ

[ ประกายแสง!! ]

ดาบของเรย์จิและดาบของผมฟันเข้าใส่เลวิลรุส

ผมต้องคอยหลบดาบของเรย์จิขณะที่ต่อสู้ด้วย

เพราะเรย์จิไม่ได้สนใจสักนิดว่าผมจะเป็นยังไง ตอนที่โจมตี

จากมุมมองของเรย์จิ ผมไม่ใช่เพื่อน เพียงแค่มีศัตรูคนเดียวกันเท่านั้น

ดังนั้นเวทมนตร์วงกว้างของเขาจึงใช้โดยไม่สนใจตัวผมสักนิด

เรย์จิรู้เพียงว่าต้องปกป้องเด็กผู้หญิงพวกนั้นเท่านั้น

ดังนั้นเขาจึงระวังแค่ด้านหลังก็พอ

พูดตามตรงเป็นการต่อสู้ที่ลำบากชะมัด

ผมก้มลงเพื่อหลบเวทแสงของเรย์จิที่มาจากด้านหลัง

จากนั้นก็ฟันเลวิลรุสทั้งอย่างนั้น

ดูเหมือนตอนนี้ผมเลยมาอยู่กึ่งกลางระหว่างการโจมตีของทั้งคู่แล้ว

เลวิลรุสหัวเข่าทรุด

[ ทำไม! ทำไมผู้กล้าแห่งแสงกับอัศวินดำถึงร่วมมือกัน!!! ]

เลวิลรุสตะโกนร้อง

แต่เราไม่ได้ร่วมมือกัน

เลวิลรุสกำลังเข้าใจผิด

แม้จะดูเหมือนพวกเราร่วมมือกันแต่การโจมตีของเรย์จิที่โจมตีมาจากข้างหลัง ผมเองก็ต้องหลบด้วย

ไม่ได้ต่อสู้ร่วมกัน แต่แค่มีเป้าหมายเดียวกัน

เลวิลรุสปล่อยสายฟ้าจากเขาและไฟออกมาจากปาก

แต่ทั้งไฟและสายฟ้ามันไม่ได้ผลกับผมหรอก

เลวิลรุสพยายามใช้ขวานและหอกฟัน

แต่วงสวิงก็กว้างเกินไป

การโจมตีแบบนั้นทำอะไรผมไม่ได้เช่นกัน

ผมฟันแขนของเลวิลรุสที่ถือขวานและหอกจนฉีกเกือบจะขาดออกจากกัน

จากนั้นก็หลบไปด้านข้าง

เรย์จิที่ตามมา ก็ฟันลงไปในตำแหน่งที่ผมเคยฟันมาก่อน นอกจากนี้ยังเกือบจะฟันโดนผม

เรย์จิมุ่งหน้าตรงเข้าหาเลวิลรุส

เลวิลรุสที่ใช้โล่ป้องกันไว้ไม่ได้ ทำให้การโจมตีทะลุการป้องกันและปลิวไป

[ มออออออ!! ]

เลวิลรุสกลิ้งตัวไปตามพื้น

จากนั้นพื้นห้องก็ส่องแสงอีกครั้ง

เลวิลรุสลุกขึ้นยืนราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

[ ไม่ว่าพวกแกจะโจมตีมายังไง! ข้าก็ไม่แพ้!!! ]

เลวิลรุสตะโกน

เลวิลรุสไม่ได้รับผลจากการโจมตีเลย แม้ว่าจะโจมตีหนักแค่ไหนก็ฟื้นตัวเองได้อย่างรวดเร็ว

ขืนปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปจะลำบาก

ต้องรีบจบการต่อสู้นี้ให้เร็วที่สุด

ในขณะที่กำลังต่อสู้กับเลวิลรุส ผมได้แอบเตรียมแผนการบางอย่างไว้แล้ว

[ ชิโรเนะ ตอนนี้ล่ะ!! ]

ผมส่งสัญญาณให้ชิโรเนะ

จากนั้นบางสิ่งบางอย่างก็บินมาด้วยความเร็วสูงจากประตูและมุ่งไปยังแท่นบัลลังก์ด้านหลัง

แน่นอนว่านั่นคือชิโรเนะ

[ อะไรกัน?! ]

เลวิลรุสสังเกตเห็นชิโรเนะ แต่มันก็สายเกินไปแล้ว

ชิโรเนะบินไปด้วยความเร็วสูงจนถึงแท่นบัลลังก์

[ คิดจะทำอะไรกันแน่!? ]

เลวิลรุสพยายามรีบร้อนกลับไปที่แท่นบัลลังก์

[ โทษทีนะ แต่ไม่ยอมให้ไปหรอก! ]

ทันใดนั้นทั้งห้องก็ถูกโอบล้อมด้วยแสงสว่าง

แสงนั้นค่อยๆ หายไปและทิวทัศน์รอบๆ ก็เปลี่ยนไป

[ ที่นี่คือ? ]

เลวิลรุสมองไปยังพื้นที่รอบๆ

ตอนนี้พวกเราไม่ได้อยู่ในเขาวงกตใต้ดินชั้น 13 อีกแล้ว

[ นี่เป็นอุปกรณ์หลบหนีฉุกเฉิน ที่เทพเฮย์บอสสร้างขึ้นเพื่อหนีออกมาจากชั้น 13 อย่างนายเองก็น่าจะรู้นะ ]

ผมพูดและหันดาบไปยังเลวิลรุส

ในชั้นที่ 13 เวทมนตร์เคลื่อนย้ายธรรมดาไม่สามารถใช้ได้ แต่ถ้าเป็นอุปกรณ์หลบหนีฉุกเฉินก็ยังใช้ได้อยู่

โดยอุปกรณ์เวทนั้นซ่อนอยู่ที่ด้านหลังของบัลลังก์ที่เลวิลรุสนั่งอยู่ เมื่อเปิดใช้งานจะทำให้ทุกคนในห้องนั้นถูกบังคับให้ออกมาจากเขาวงกต

[ แค่นี้นายก็ฟื้นฟูร่างกายไม่ได้อีกแล้ว! แน่นอน ฉันไม่ยอมให้หนีแน่! นายแพ้แล้วเลวิลรุส!!! ]

 

 

 

◆ สตรีแห่งดาบชิโรเนะ

เมื่อเปิดใช้อุปกรณ์เวทที่แท่นบัลลังก์ ทุกคนก็ถูกเคลื่อนย้ายออกมาจากเขาวงกต

นั่นคือสิ่งที่คุโรกิบอกให้ฉันทำ

เพราะเลวิลรุสจะมีพลังไร้ขีดจำกัดหากอยู่ในเขาวงกต

จึงจำเป็นต้องลากเขาออกมาจากเขาวงกตให้ได้

เพราะเหตุนั้น ฉันกับคุโรกิจึงตัดสินใจใช้อุปกรณ์เคลื่อนย้ายฉุกเฉินซึ่งอยู่ในแบบแปลน

ขณะที่คุโรกิดึงดูดความสนใจจากเลวิลรุส ฉันก็จะไปเปิดใช้งานอุปกรณ์เวท

แผนของเราเป็นไปอย่างราบรื่น

ดังนั้นทุกคนจึงได้ถูกเคลื่อนย้ายออกมาจากเขาวงกต

ปลายทางคือบนจตุรัสบนพื้นดินของเขาวงกต

ฉันหันหน้าไปมองบนฟ้ารอบหนึ่ง จากนั้นก็ไปหาคุณจิยูกิ

[ คุณชิโรเนะ!! ]

คุณจิยูกิเรียกชื่อฉัน

[ ทุกคนปลอดภัยดีนะ!! ]

ฉันมองไปที่ทุกคนที่ดูจะเหนื่อยล้ามาก แต่ดูจะปลอดภัยกันดี

[ ที่ฉันรอดมาได้ต้องขอบคุณเขาจริงๆ ค่ะ คุณชิโรเนะ ]

คุณจิยูกิมองไปที่คุโรกิ

แต่การต่อสู้ยังไม่จบ

คุโรกิกับเรย์จิเริ่ต่อสู้กับเลวิลรุสอีกครั้ง

แต่เราชนะแล้ว

[ ยอดเลยค่ะคุณชิโรเนะ! อย่างกับว่าลมหายใจของทั้งสองคนเข้าขากันได้อย่างสมบูรณ์แบบเลย!! ]

นาโอะพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

[ ทั้งที่มันเป็นการต่อสู้ด้วยกันครั้งแรกของพวกเขาแท้ๆ …. ]

ฉันเฝ้ามองการต่อสู้ของทั้งสองจากทางเข้า

ทั้งสองคนเข้าขากันได้ดีมากจนน่าประทับใจ

นี่ล่ะคือฉากที่ฉันอยากจะเห็น

ฉันคิดแบบนั้น ทันใดนั้นท้องฟ้าก็สว่างขึ้น

ฉันมองไปที่บนฟ้า

ที่ตรงนั้นมีเรือลอยฟ้าขนาดใหญ่อยู่

และรอบๆ เรือลอยฟ้ามีเหล่านางฟ้าติดอาวุธอยู่รายล้อมเต็มไปหมด

ที่บนหัวเรือมีคนยืนอยู่

[ นั่นมันเรน่า? ]

เทพธิดาเรน่ากำลังใส่ชุดเกราะที่ห่อหุ้มทั้งตัวและยืนอยู่บนหัวเรือ

 

 

 

◆ อัศวินดำคุโรกิ

บนท้องฟ้ากำลังมีเรือล่องลอยอยู่

ที่หัวเรือตรงนั้นมีเรน่าที่ยืนอยู่พร้อมหอกและโล่

บางทีเธอคงมารอที่ด้านบนฟ้าของเขาวงกต

จากนั้นพวกเธอลงมายังพื้นดินของเขาวงกตด้วยเวทเคลื่อนย้าย

ทั้งเรย์จิและเลวิลรุสหยุดการต่อสู้และมองไปที่บนฟ้า

[ ไม่เจอกันนานนะเลวิลรุส ]

เรน่าหัวเราะอ่อนๆ

แม้ว่าจะอยู่ห่าง แต่จากตรงนี้ก็มองเห็นหน้าของเธอได้ชัดเจน ทั้งเรย์จิและเลวิลรุสต่างจ้องมองเธอ

[ เรน่า! มาหาข้าแล้วงั้นเหรอ?! ในที่สุดก็รับรักของข้าแล้วสินะ?!!! ]

เลวิลรุสพูดเข้าข้างตัวเอง

[ โทษทีนะเลวิลรุส… แต่นั่นมันก็แค่รักข้างเดียวของนายและฉันก็รับรักของของนายไว้ไม่ได้ ]

จากนั้นเรน่าก็มองที่ผมและเรย์จิ

[ เทพธิดาผู้เป็นเสมือนดอกฟ้ากลับเลือกชายที่มาจากต่างโลกงั้นเรอะ!! ]

เลวิลรุสตะโกน

[ ใช่แล้วเลวิลรุส คนที่ฉันรักน่ะมาจากต่างโลก ไม่ว่าจะเวลาไหนก็คิดถึงเขา ถึงขนาดที่ตอนกลางคืนนอนไม่หลับเลยทีเดียว ]

เรน่าพูดออกมาด้วยรอยยิ้มจนแทบจะละลาย

ดวงตาของเรน่าเร่าร้อนมาก

คำสารภาพรักของเทพธิดาดังก้องไปทั่ว

เรย์จิที่อยู่ข้างๆ ผมถึงขนาดยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

ใช่แล้ว เรน่าเป็นเทพธิดาที่งดงามมาก ไม่มีใครไม่พอใจหรอกหากถูกเธอสารภาพรักนะ

[ บัดซบ! ข้าจะฆ่าแก!! ]

เลวิลรุสโจมตีใส่เรย์จิ

แต่เรย์จิก็หลบได้อย่างง่ายดาย

[ เทพปีศาจเลวิลรุส นายนี่ขี้น้อยใจไม่เอาไหนซะเลย! แค่ผู้หญิงที่ชอบไม่รักตอบก็มาทำร้ายคนที่เธอรักซะแล้ว! ถ้าเป็นลูกผู้ชายก็ควรอยู่เงียบๆ คอยดูผู้หญิงที่รักมีความสุขสิ!!! ]

เรย์จิหัวเราะอย่างมีความสุขขณะที่หลบการโจมตีของเลวิลรุส

[ หุบปากกกกก!! ]

เลวิลรุสยังพยายามโจมตีอยู่ต่อไป

[ เร็วอีกสิเลวิลรุส! ยิ่งนายดิ้นรนแค่ไหน! ก็ยิ่งทำให้เห็นความต่างของลูกผู้ชายระหว่างฉันกับนาย!! ]

การต่อสู้ระหว่างเรย์จิกับเลวิลรุสเริ่มขึ้น

ชิโรเนะและผู้หญิงคนอื่นๆ ที่อยู่ด้านหลังก็เข้ามาสนับสนุนเรย์จิกันแล้ว

เหล่านางฟ้าบนฟ้าเองก็โจมตีเลวิลรุสอยู่เหมือนกัน

เลวิลรุสไม่ใช่ผู้ชนะอีกแล้ว

ผมเดินออกมาจากที่แห่งนั้นอย่างเงียบเฉียบ

ไม่มีความจำเป็นที่ผมต้องสู้อีกแล้วและยังช่วยนัคได้สำเร็จแล้วด้วย

เฮ้อ ต้องมาช่วยพวกเรียจูนี่มันเศร้าใจชะมัด

[ ท่านไดร์ฮาร์ด~~!!]

นัคกระโดดเข้ามาหาผม นัคเองก็ดูเหมือนจะถูกเคลื่อนย้ายมาด้วย

[ นัคช่วยกลับไปที่นากอลกลับไปที่นากอลก่อนจะได้มั้ย? ]

[ มีอะไรถึงไม่กลับไปด้วยกันเลยล่ะครับจี๊ด? ]

[ อา ดูเหมือนคุนะกำลังมุ่งตรงมาที่นี่นะ ดังนั้นผมคงต้องไปรับก่อนนะ ]

ผมมองไปที่แหวนที่อยู่มือซ้าย

คุนะกำลังมา ดังนั้นว่าเธอจะทนรอผมไม่ไหวเลยมาที่นี่ด้วยตัวเอง

[ รับทราบแล้วใต้เท้า กระผมจะไปรายงานกับองค์เหนือหัวให้ ]

[ ขอบคุณมากนะนัค ]

จากนั้นผมก็ให้เครื่องมือเวทกับนัคไป

เรามองไปยังเลวิลรุสที่กำลังต่อสู้กับเรย์จิ

แม้เลวิลรุสจะไม่ได้อยู่ในเขาวงกตก็ยังแข็งแกร่ง

แต่ก็ค่อยๆ ถูกไล่ต้อนไปทีละนิด

[ ถ้าผมไม่อยู่คงไม่เป็นไร…. ตัวผมไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกแล้ว ]

ขณะที่ผมคิดกำลังจะไปนั้น ก็รู้สึกได้ถึงบางสิ่งกำลังลอยมาจากทางเทือกเขากลาง

เจ้าสิ่งนั้นกำลังเข้าใกล้เรน่าที่อยู่บนเรือบิน ผมใช้เวทบินและปัดมันไว้ได้ทัน

สิ่งที่ลอยมาก็คือหอก

จากนั้นหอกก็ลอยกลับไปยังทิศเดิมที่มันมา

เหลือเพียงผมและเรือลอยฟ้า

ที่จริงผมก็ไม่ได้คิดจะช่วยหรอก แต่ร่างกายมันขยับไปเอง

[ ขอบคุณนะคุโรกิที่ช่วยปกป้องฉัน ]

เพราะทุกคนกำลังต่อสู้กับเลวิลรุสอยู่ เลยไม่ได้สนใจรอบข้างเลย

ดังนั้นจึงเหลือแค่เพียงผมที่ปกป้องเรน่าได้

เรน่าเลยขอบคุณผมที่ช่วยปกป้องเธอไว้

ผมและเรน่ามองไปยังทิศที่หอกนั้นลอยมา

ที่ตรงนั้น ผมเห็นนกขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ทางเทือกเขากลาง

[ นั่นมันร็อก!? ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้!? ]

เรน่าส่งเสียงประหลาดใจ

ร็อกคือนกยักษ์ที่อาศัยอยู่ในทวีปทางใต้ ไม่ควรจะมาอยู่ในพื้นที่แถบนี้

หากมองดูดีๆ จะเห็นว่ามีใครกำลังขี่ร็อกอยู่

[ นั่นมันซัลคิซิส? และยังมีอีกคนนั่งอยู่ด้วย… เรน่ารู้มั้ยว่านั่นเป็นใครนะ? ]

มีอยู่สองคนที่นั่งอยู่บนหลังของร็อก หนึ่งในนั้นคือซัลคิซิส เพราะผมจำหน้ากากนั้นได้

และข้างๆ ซัลคิซิสยังมีผู้หญิงอยู่อีกคน

ผู้หญิงคนนั้นสวมชุดสีแดงและถือหอกด้วยมือขวา

เธอเป็นคนขว้างหอกใส่เรน่างั้นเหรอ?

ทั้งที่เธอคนนั้นก็ดูเหมือนมนุษย์ธรรมดา แต่ทำไมถึงได้ไปอยู่กับซัลคิซิสได้

[ โกหกน่า….ราชินีอสรพิษเดียดอนน่า ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้…? ]

เรน่าจ้องมองผู้หญิงที่กำลังขี่ร็อกคนนั้นขณะที่ตาเปิดโพล่ง

ผมเคยได้ยินเรื่องของราชินีอสรพิษเดียดอนน่ามาก่อน เธอคือเทพธิดาที่เหล่ากอร์กอนและลาเมียซึ่งอาศัยอยู่ทางเกาะทางใต้ต่างเคารพบูชา

และเธอยังเป็นเทพธิดาซึ่งเป็นลูกน้องของเทพแห่งการทำลายล้างนากอลอีกด้วย

เพราะเหตุนั้น เธอเลยอยู่ฝ่ายเดียวกับซัลคิซิส

จากนั้นนกยักษ์ร็อกก็บินเข้ามาใกล้จนถึงระยะหนึ่ง

เมื่อทุกคนสังเกตเห็นก็หยุดการต่อสู้ลง

[ ข้ามาช่วยแล้วเลวิลรุส!! ]

เดียดอนน่ากระโดดลงจากร็อก

และถอดเสื้อคลุมออกจากร่างกาย

ปีกที่ค้างคาวขนาดใหญ่ก็งอกจากหลังของเธอและครึ่งล่างก็กลายเป็นงูขนาดใหญ่

บนหัวมีเขาอยู่สองอัน ดวงตาส่องประกายสีทอง

[ ไม่ได้การ! โล่เอ่ย! ช่วยปกป้องพวกเราด้วย!!! ]

เรน่ายกโล่ขึ้นเหนือฟ้าจากนั้นก็มีแสงสีฟ้าส่องไปทั่วท้องฟ้า

ดวงตาของเดียดอนน่าเปล่งแสงออกมาทำให้รอบๆ สว่างจ้าไปหมด

[ นั่นมันอะไรกัน…? ]

มันเป็นเวทแสงที่ทรงพลังมาก จนทำให้มองรอบข้างไม่เห็นเลย

เมื่อแสงหายไป ซัลคิซิส เดียดอนน่า เลวิลรุสและนกยักษ์ร็อกก็หายไป 

[ เมื่อกี้มัน… ]

[ มันคือดวงตาคำสาปที่ทำให้กลายเป็นหินของเดียดอนน่าคุโรกิ หากเป็นเทพก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ว่า… ]

เรน่ามองไปยังสถานที่ที่นกร็อกเคยอยู่

[ ดูเหมือนเลวิลรุสจะหนีไปได้… ไม่คิดเลยว่าเดียดอนน่าจะปรากฏตัวออกมาแบบนี้ ]

สีหน้าของเรน่าดูมืดมน

แต่มันก็ทำอะไรไม่ได้แล้วล่ะ เพราะพวกเขาหนีไปแล้ว

[ ร่าเริงหน่อยเถอะเรน่า แม้ว่าพวกเขาจะหนีไปได้ แต่เราก็หยุดแผนร้ายของเลวิลรุสไว้ได้ นี่ก็แปลว่าเธอชนะใช่มั้ยล่ะ ดังนั้นก็ควรจะยิ้มสิ ]

เมื่อได้ยินคำพูดของผม เรน่าก็ยิ้มออกมา

[ อือ… ต้องร่าเริงสินะ เพราะคุโรกิก็ช่วยปกป้องฉันไว้แล้วนี่นา ]

เรน่าหันมามองผม

[ เรื่องนั้นผมไม่… ]

เพราะใบหน้างดงามของเธอจ้องมอง ทำให้ผมตื่นตระหนกผิดปกติ

เรน่ายิ้มอย่างมีความสุขเมื่อเห็นสีหน้าผม

[ งั้นฉันต้องไปหาเรย์จิที่อยู่ข้างล่างแล้วล่ะ ไว้เจอกันใหม่นะ ]

เรน่าพูดขึ้น จากนั้นก็ลงไปจากเรือลอยฟ้า

ผมมองไปยังกลุ่มเด็กสาวที่รายล้อมเรย์จิ

พวกเธอกำลังหัวเราะกันอย่างมีความสุขขณะที่กำลังล้อมรอบตัวเรย์จิ

พวกเขาคงดีใจที่ได้เจอกันอีกครั้งล่ะนะ

นอกจากนั้น ที่นั้นยังมีชิโรเนะอยู่ด้วย

ชิโรเนะกอดเพื่อนเพราะดีใจที่ได้เจอกันอีกครั้ง

ผมคิดว่าแบบนี้ดีแล้วล่ะ

เป็นไปได้ผมก็อยากให้ชิโรเนะมีความสุข

แต่เพราะข้างตัวเรย์จิมีสาวสวยอยู่มากมายขนาดนั้น บางทีชิโรเนะอาจจะไม่ได้รับความรักจากเรย์จิก็ได้

แต่นั่นก็เป็นเส้นทางที่ชิโรเนะเลือกแล้ว ผมมองไปที่พวกเขาอย่างเงียบๆ

เป็นไปได้ผมก็ไม่อยากจะสู้กับชิโรเนะหรอก

และเรน่าก็เข้าไปรวมกลุ่มกับพวกเขา

เมื่อพวกเธอเห็นเรน่าก็เปิดทางให้ทันที

เรย์จิจับมือเรน่า

จนกลายเป็นภาพของเรย์จิและเรน่าซึ่งเป็นคนรักกันและถูกรายล้อมด้วยสาวสวยมากมาย

ผมมองไปด้วยความอิจฉา

ไม่ใช่แค่ชิโรเนะกับสาวๆ คนอื่น แต่เรย์จิยังมีเทพธิดาที่งดงามอย่างเรน่าอยู่ข้างกาย

ไม่รู้ทำไม แต่เมื่อผมมองไปที่พวกเขากลับรู้สึกหดหู่ขึ้นมา

[ อุ๊… หยุดดีกว่า…. ขืนมองไปมากกว่านี้จะยิ่งหดหู่ไปมากกว่าเดิม ]

ผมพูดอย่างนั้นและบินขึ้นไปบนท้องฟ้า

จะไปอิจฉาคนอื่นก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา

ผมเองก็ต้องไปหาความสุขของตัวเองบ้าง

ผมบินไปยังทิศของดินแดนนากอล

เพื่อไปเจอกับคุนะ

ผมล่องลอยไปในท้องฟ้ายามอาทิตย์ตกดินอย่างเดี่ยวดาย

 

 

◆  นักปราชญ์ผมดำจิยูกิ

[ คุณจิยูกิแสงเมื่อกี้มันอะไรกันนะคะ?!! ]

ริโนะตะโกน

[ ไม่รู้เหมือนกัน… บางทีคงเป็นเวทมนตร์บางอย่าง… ]

จู่ๆ ผู้หญิงที่มีร่างกายท่อนล่างเป็นงูก็ปรากฏตัวขึ้นและดวงตาของเธอก็เปล่งประกาย

เมื่อแสงนั้นหายไปเลวิลรุสก็หายไปแล้ว

ดูเหมือนเขาจะหนีไปซะแล้ว

[ ดูนั่น! นางฟ้าพวกนั้น! ]

ฉันมองไปยังทิศที่ริโนะชี้ นางฟ้าที่ต่อสู้ร่วมกับเราเมื่อกี้กลายเป็นรูปปั้นที่ใสเหมือนอัญมณีไปแล้ว

[ บางทีคงเป็นคำสาปที่ทำให้เป็นหิน …. คงยังไม่ตายหรอก ดังนั้นน่าจะหาทางยกเลิกเวททีหลังได้ ]

ฉันมองไปยังนางฟ้าที่กลายเป็นรูปปั้น

คำสาปที่มีพลังทำให้กลายเป็นหินเหรอ น่าจะยังไม่ตายหรอก หากทิ้งไว้ก็อาจจะกลับเป็นเหมือนเดิมเองก็ได้

[ ถึงอย่างนั้นก็เป็นปีศาจที่แข็งแกร่งมากเลยนะ… นี่ถ้าเรน่าไม่ใช้เวทป้องกันให้พวกเรา เราคงจะกลายเป็นหินไปแล้ว…. ]

ฉันพยักหน้า

ก่อนที่ผู้หญิงคนนั้นจะลืมตาขึ้น เรน่าก็ใช้เวทมนตร์ป้องกันได้ทันเวลา เพราะแสงสีฟ้าของเรน่าทำให้เรารอดมาได้

แต่เพราะเหล่านางฟ้ามีพลังต้านทานเวทมนตร์น้อยกว่าพวกเรา เลยไม่สามารถต้านทานไว้ได้

นอกจากนี้ยังไม่ใช่แค่กลายเป็นหินธรรมดา แต่กลายเป็นหินอัญมณี

นางฟ้ากลายเป็นรูปปั้นหินมรกตงดงาม แม้ว่าจะยังมีชีวิตอยู่แต่ก็ยากจะคลายเวทอยู่เหมือนกัน

[ แล้วที่พวกเราต่อสู้มาก็…. ]

นาโอะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง

ทั้งที่ต่อสู้แทบตายแต่เขากลับหนีไปได้

ใบหน้าของทุกคนมืดมน

[ ทุกคน! สำหรับตอนนี้ไม่มีอะไรดีไปกว่าที่ปลอดภัยกันหมดแล้วล่ะ! ]

ชิโรเนะพูดขึ้นและกอดฉัน

[ ชิโรเนะ… ]

[ ดีใจจังที่ทุกคนปลอดภัย! เป็นห่วงมากเลยรู้มั้ย! ]

ใบหน้าของชิโรเนะเหมือนกำลังจะร้องไห้ ดูท่าเธอจะเป็นห่วงพวกเรามากจริงๆ

[ ร้องไห้ไม่ได้นะชิโรเนะ…. เดี๋ยวก็ทำให้พวกเราเป็นห่วงหรอก ]

เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของเรย์จิ ทุกคนก็หัวเราะตาม

[ เรย์จิปลอดภัยก็ดีแล้วล่ะ ]

เรน่าเดินมา

[ เรน่า!! ]

เรย์จิเองก็วิ่งไปหาเรน่า

[ ขอโทษนะเรน่า! คงเป็นห่วงมากเลยสินะ!! ]

เรย์จิเอากุมมือของเรน่าและขอโทษ

[ ฉันเชื่ออยู่แล้วล่ะว่าต้องปลอดภัยกัน แต่ก็เป็นห่วงอยู่นิดหน่อยว่าเรย์จิและสงสัยว่าเขาอาจจะเจ็บตัวมา… ]

เรน่าพูดด้วยเสียงเศร้าเล็กน้อย

ฉันรู้สึกสะกิดใจกับวิธีพูดของเรน่า

มันแปลกนิดหน่อยนะ ที่พูดว่า [ เขาอาจจะเจ็บตัว ]

แต่ก็แค่ส่วนเล็กน้อยนั้นเรย์จิคงไม่ได้เก็บมาคิดอะไร

เรย์จิประทับใจในคำพูดของเรน่ามาก

[ เรน่า! เท่านี้ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องของฉันอีกแล้วล่ะ!! ]

เรย์จิพยายามกอดเรน่าแต่เธอหลบได้

[ เรย์จิ… ฉันเองก็อยากฉลองที่พวกคุณปลอดภัยอยู่หรอกนะคะ แต่ตอนนี้ฉันต้องรักษาพวกคนที่อยู่ที่นี่ก่อน ทีเหลือเอาไว้คุยกันทีหลังเถอะค่ะ ]

จากนั้นเรน่าก็มองไปยังเหล่านางฟ้าที่กลายเป็นรูปปั้น

แต่ไม่ใช่นางฟ้าทุกคนที่กลายเป็นรูปปั้นโดยสมบูรณ์ บางคนก็ปลอดภัยดีแต่มีบางส่วนกลายเป็นรูปปั้น

เรน่าออกคำสั่งกับเหล่านางฟ้าที่ยังรอดปลอดภัย

เหล่านางฟ้านำรูปปั้นขึ้นไปเป็นเรือลอยฟ้า

จากนั้นเรน่าก็ไปจากที่นี่

เหลือไว้แต่เพียงพวกเรา

[ เรย์จิ เรากลับไปที่สาธารณรัฐอาเรียดิน่ากันเถอะค่ะ ]

[ นั่นสินะ ]

ยูเลียถูกเคลื่อนย้ายไปที่อาเรียดิน่า ก่อนที่จะต่อสู้กับเลวิลรุสแล้ว (ต่อสู้รอบสองครับ)

เราเองก็ควรกลับไปที่อาเรียดิน่าเช่นกัน

เพราะชิโรเนะเองก็บอกแล้วว่าเคียวกะกับคายะกำลังรออยู่ที่นั้น

[ จะว่าไป แล้วคุโรกิล่ะ? ]

ชิโรเนะมองไปรอบๆ

แต่ที่นี่ก็ไม่มีใครนอกจากพวกเรา

[ ใช่แล้ว เขาไปอยู่ที่ไหนแล้วล่ะชิโรเนะ? หรือจะกลับนากอลไปแล้ว? ]

ฉันเองก็มองหาเขาด้วย เพราะยังไม่ได้ขอบคุณเขาเลย

ชิโรเนะส่ายหัวด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย

[ อะไรกัน… ฉันยังไม่…. กลับไปที่นากอลซะแล้วเหรอ…. ]

ชิโรเนะร้องไห้

[ ไว้ขอฟังเรื่องราวโดยละเอียดหน่อยนะคะ แต่ตอนนี้เรากลับไปที่อาเรียดิน่าก่อนเถอะ พวกคุณเคียวกะกำลังอยู่ ]

ฉันต้องขอฟังเรื่องราวโดยละเอียดจากชิโรเนะอีกครั้ง เขาหายไประหว่างที่เราไม่สังเกตเหรอ?

ฉันเองก็อยากรู้เรื่องของเขาให้มากกว่านี้หน่อย

ในขณะที่คิดถึงเรื่องของคุโรกิเพื่อนสมัยเด็กของชิโรเนะ ฉันก็ใช้เวทมนตร์เคลื่อนย้ายไปพร้อมกัน

 

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 62"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์