CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

อัศวินดำ - ตอนที่ 70

  1. Home
  2. อัศวินดำ
  3. ตอนที่ 70
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

◆ นักปราชญ์ผมดำ จิยูกิ

[ ฮ้าววว~ คุณจิยูกิ ยังง่วงอยู่เลยค่ะ…. ] 

นาโอะพูดขณะที่ยังหาวอยู่

ริโนะกับชิโรเนะเองก็มีท่าทีเหมือนกัน ส่วนซาโฮโกะนั้นฟิตเต็มร้อย

นี่มันบ่ายแล้วนะ พวกเธอจะนอนกันเกินไปแล้ว

[ ขอโทษด้วยนะคุณนาโอะ แต่การตรวจสอบต้องใช้พลังของคุณนาโอะน่ะค่ะ ]

เรากำลังมุ่งหน้าไปที่โรงละครใหญ่ของอาเรียดิน่า

เหตุผลก็เพราะสมาชิกของคณะละครของมิดัสเกี่ยวกับคดีคราวนี้ด้วย

โดยคนที่ไปก็คือมิดัส เรย์จิ นาโอะ ริโนะ ชิโรเนะ ซาโฮโกะ ฉัน และเดคิอัส

ส่วนนายพลคลาสมีงานอื่นต้องทำ เลยอยู่ที่สำนักงานรัฐบาล ชิสุเฟย์เองก็อยากมาด้วยหรอกนะ แต่แค่นี้กลุ่มคนมันก็ใหญ่มากแล้ว

และแล้วเราก็มาถึงโรงละคร

[ ว้าว~ โรงละครใหญ่จัง ]

ริโนะส่งเสียง

โรงละครแห่งนี้ถูกเรียกว่าโรงละครอัลฟอส

อัลฟอสก็คือพี่ชายของเรน่าซึ่งเป็นเทพธิดาแห่งปัญญาและชัยชนะ อัลฟอสเป็นเทพแห่งเสียงดนตรีและศิลปะ ดังนั้นโรงละครนี้จึงถูกสร้างมาเพื่ออุทิศให้เทพอัลฟอส

ในตำนาน เทพอัลฟอสนั้นเป็นหนุ่มที่หล่อเหลามากจนมีผู้หญิงมาติดนับพัน

ดังถึงขนาดมีเรื่องว่าเทพธิดาเฟย์เรียและเทพธิดาอิชเทียต่อสู้ทะเลาะกันเพื่อเลี้ยงดูเขาทีเดียว เทพอัลฟอสหล่อมาตั้งแต่เด็กเลยล่ะนะ

จากนั้นเทพอัลฟอสก็ถูกเทพธิดาซึ่งเป็นสองเสาหลักเลี้ยงดูมา

ดังนั้นตามกฏหมายแล้ว เทพธิดาอิชเทียก็คือแม่บุญธรรมของเทพอัลฟอสนั่นเอง

[ ข้าจะไปเรียกท่านนักบุญมาให้ พวกท่านผู้กล้าโปรดอยู่อยู่ที่นี่นะฮ๊า~ ]

มิดัสพูดขณะที่มองไปยังเรย์จิ

เรย์จิดูจะรังเกียจนิดหน่อย

ที่โรงละครนี้ยังเป็นแหล่งรวมตัวผู้ศรัทธาของเทพอัลฟอสด้วย อย่างที่มิดัสบอกไว้ ที่นี่มีนักบุญของเทพอัลฟอสอยู่ด้วย

มิดัสเดินเข้าไปข้างในโดยทิ้งพวกเราไว้

โรงละครเป็นรูปแบบครึ่งวงกลมแต่งต่างจากสนามกีฬาที่จะทรงกลม

โดยจะให้ผู้ชมนั่งดูจากภายนอกและการแสดงตรงกลาง

เราเข้าไปที่ประตูโรงละคร

[ นี่ คุณจิยูกิ รูปสลักพวกนี้มันอะไรเหรอคะ? ]

ชิโรเนะมองไปยังรูปสลักขนาดใหญ่ที่ประตูทางเข้า

รูปสลักนั้นมีภาพชายถือธนูที่ปราบปีศาจรูปร่างประหลาดได้

[ นั่นคืออัลบาดอนน่ะคุณชิโนเระ ถูกต้องใช่มั้ยคะเซอร์เดคิอัส? ]

ฉันถามและมองไปทางเดคิอัส

[ ถูกต้องครับ รู้จักดีจังนะครับ ]

เดคิอัสพยักหน้า

[ ว่าแต่จิยูกิ อัลบาดอนนี้มันคืออะไร? ]

[ มันเป็นเรื่องเล่าเก่าๆ นะเรย์จิคุง ในช่วงที่อาเรียดิน่าเพิ่งก่อตั้ง ประเทศนี้ถูกอัลบาดอลรุกราน ในตอนนั้นชาวเมืองต้องเดือดร้อนอย่างมาก แต่สุดท้ายเทพปีศาจบาดอลก็ถูกจัดการลงได้ด้วยธนูของเทพอัลฟอส โรงละครแห่งนี้จึงถูกสร้างเพื่อเป็นเกียรติแก่เทพอัลฟอสและรูปสลักนี้ก็สลักไว้เพื่อไม่ให้ลืมเรื่องนั้น เพราะนั้นเป็นการต่อสู้ของเทพอัลฟอสกับเทพปีศาจบาดอล อัลฟอส ・ บาดอล จึงถูกเรียกอีกชื่อว่าอัลบาดอล ]

ฉันอธิบายให้เรย์จิฟัง

[ สมกับเป็นท่านนักปราชญ์ผมดำเลยค่ะ ช่างฉลาดปราดเปรื่องยิ่งนัก ]

ผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนดูอยู่ส่งเสียงขึ้น

[ เป็นครั้งแรกที่พบกันสินะคะ ท่านผู้กล้าแห่งแสง ฉันคลีโอ้เป็นนักบุญผู้รับใช้ท่านเทพอัลฟอสและเป็นผู้ดูแลโรงละครแห่งนี้ค่ะ ]

คลีโอ้แนะนำตัว

พวกเรามองไปที่คลีโอ้ เธอเป็นสาวสวยผิวสีขาวและมีผมสีฟ้าที่หยักเล็กน้อย

แต่ว่ามันมีเรื่องอื่นให้น่าสนใจยิ่งกว่า

ที่หูของคลีโอ้ดูจะแหลมมาก ดูเหมือนเธอจะเป็นเอลฟ์

ฉันคิดว่ามันแปลก

ที่เอลฟ์จะมาอยู่ที่เมืองมนุษย์แบบนี้มันไม่แปลก

แต่การที่เอลฟ์มีฐานะทางสังคมในเมืองมนุษย์นี่เพิ่งเคยเห็นครั้งแรก

มันเป็นไปได้ยากมากที่เอลฟ์จะมารับตำแหน่งชั้นสูงแบบนี้ในสังคมมนุษย์ เพราะปกติแล้วมนุษย์จะไม่ได้ปฏิบัติกับเอลฟ์ดีนักและเอลฟ์เองก็ไม่ได้สนใจเรื่องในสังคมมนุษย์ด้วย

อีกนัยหนึ่งก้คือ เอลฟ์เป็นสิ่งที่หายากในสังคมมนุษย์

[ ว้าว~ เอลฟ์ล่ะค่ะ แต่กลับไม่มีกลิ่นดายแอ็ดไม้เลย แต่กลับได้กลิ่นไอทะเลโชยมาด้วยค่ะ ]

นาโอะพูดขณะที่ดวงตาหมุนไปมา

[ ค่ะ ฉันไม่ใช่เอลฟ์ดายแอ็ดหรอกค่ะ แต่เป็นเนรีดนะคะ ]

คลีโอ้ยิ้ม

เนรีดเองก็เหมือนเอลฟ์

เนรีดไม่ได้อาศัยอยู่ในป่าทั่วไปเหมือนอย่างเอลฟ์ แต่จะอาศัยอยู่ในกลางทะเล

และเนรีดก็มีชื่อเสียงเรื่องสาวสวยเช่นกัน ดังนั้นเผ่าอื่นจึงได้อยากได้มาเป็นผู้ร่วมสายพันธุ์ด้วย(เอาไปทำพันธุ์)

ซึ่งคนรักของเธอโดนไซคลอปซ์ฆ่าตายและโดนบังคับให้เป็นภรรยาของมัน

[ หาได้ยากจริงๆ ที่จะมีเอลฟ์ผู้งดงามเช่นนี้เป็นนักบุญในประเทศของมนุษย์ ต้องขอบคุณท่านเทพที่ทำให้เราได้พบกันครับ ]

เรย์จิพูดขณะที่สัมผัสผมของคลีโอ้

[ ฟุฟุ ท่านผู้กล้านี่ปากหวานจังนะคะ ]

คลีโอ้หัวเราะขณะที่เอามือปิดหน้าไว้

ซาโฮโกะและริโฮะส่งสายตาอาฆาตไปทางเธอ

[ ท่านคลีโอ้! ดูเหมือนจะมีคนของลัทธิบูชาปีศาจอยู่ในคณะละครหูลาครับ! พวกเราจึงได้มาตรวจสอบ! บางทีอาจจะต้องยกเลิกการแสดง! ขอให้เข้าใจด้วยเถอะครับ!! ]

เดคิอัสขวางช่วงเวลาของเรย์จิกับคลีโอ้

เรย์จิถอยห่างจากคลีโอ้แบบไม่เต็มใจ

ทำดีมาก ฉันปรบมือให้เขาอยู่ในใจ

[ นี่เป็นการเล่นละครเพื่ออุทิศให้แด่เทพอัลฟอสค่ะ ดังนั้นคงยกเลิกไม่ได้… ]

คลีโอ้มองไปยังมิดัส

มิดัสไหล่ตกด้วยความเศร้าใจ

ถึงจะมีบางคนไม่อยู่บ้าง(ไปแสดงละคร) แต่ก็ช่วยไม่ได้

นี่เป็นสามัญสำนึกของโลกนี้ สำหรับคลีโอ้นี่เป็นการอุทิศแด่เทพ จึงไม่เต็มใจที่จะยกเลิกการแสดง

[ เรื่องนั้นต้องขออภัยด้วยฮะ แต่มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เซนน่าที่รับบทนำเลยหายตัวไป… เพราะมันเร่งด่วนมาก เราเลยหาคนแสดงแทนไม่ได้ฮะ… ]

มิดัสพูดทั้งๆ ที่น้ำตาท่วม

จากนั้นดวงตาของมิดัสก็ไปหยุดยังสถานที่หนึ่ง

[ เอ่อ อะไรเหรอคะ? ]

มิดัสจ้องมองไปยังชิโรเนะที่อยู่ข้างหลัง

[ ใช่แล้วฮ๊า! ท่านชิโรเนะ ช่วยรับบทแทนเซนน่าหน่อยจะได้มั้ยฮะ!! ]

มิดัสวิ่งไปและจับมือชิโรเนะ

เพราะจู่ๆ ก็พูดออกมา ชิโรเนะเลยมีท่าทางประหลาดใจสุดๆ จนนิ่งสนิท

หลังจากนั้นไม่กี่วิ

[ เอ๋――――!]

เสียงตะโกนของชิโรเนะที่ได้สติกลับคืนมา ดังไปทั่วโรงละคร

 

 

 

◆ นักปราชญ์ผมดำจิยูกิ

เวทีแสดงของเทพอัลฟอสที่ไร้หลังคาทำให้แสงแดดสาดส่อง 

หากเป็นตอนฝนตกก็จะกลางเต็นท์ แต่ตอนนี้ไม่จำเป็น

ตอนนี้เราอยู่กลางของกลุ่มสมาชิกคณะละครหูลาที่กำลังฝึกซ้อมอยู่

[ เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะคุณจิยูกิ! ฉันทำไม่ได้หรอกค่ะ!! ]

ชิโรเนะพูดออกมาด้วยเสียงที่เต็มเปี่ยม

[ งั้นเหรอ? แต่ฉันคิดว่าถ้าเป็นคุณชิโรเนะต้องทำได้แน่เลยล่ะ~ ]

[ เป็นไปไม่ได้หรอกริโนะจัง! นี่มันบทตัวเอกเลยนะ! ]

ชิโรเนะส่ายหัวไปมา

ชื่อของตัวละครที่เธอต้องเล่นก็คือ [ อัลเฟเรีย ]

ละครเป็นเรื่องราวที่เจ้าหญิงต้องไปช่วยเจ้าชายที่ถูกแม่มดลักพาตัวไป(คุ้นๆ จังแฮะ คุโรกิ? แม่มดก็คุนะ?)

ชิโรเนะถูกหัวหน้ามิดัสขอร้องให้เล่นบทอัลเฟเรีย

ตัวเอกอัลเฟเรียนั้นเป็นเจ้าหญิงและยังเป็นอัศวินที่มีฝีมือถึงระดับปรมาจารย์ดาบ

บทนี้ก็ดูเหมาะกับชิโรเนะมากด้วย

[ งั้นเหรอ? แต่ฉันคิดว่าเป็นบทที่เหมาะกับชิโรเนะมากเลยนะ ]

เรย์จิพูดด้วยรอยยิ้ม

เรย์จิพูดขณะที่กลั้นหัวเราะเต็มที่

[ เป้นไปไม่ได้หรอก! ริโนะจังออกจะเหมาะกว่าไม่ใช่เหรอ? ]

ชิโรเนะถามริโนะ

[ อืมม~ ไม่ได้หรอก ก็บทนี้เป็นเจ้าหญิงนี่นา มันไม่เหมาะกับริโนะจังหรอก ]

ริโนะส่ายหัว

ริโนะเองก็หัวเราะเหมือนเรย์จิ สองคนนี้นี่คล้ายกันจริงๆ นะ

[ ข้าต้องการความช่วยเหลือจริงๆ ! ขอร้องล่ะท่านชิโรเนะ!! ]

มิดัสพยายามต้อนชิโรเนะ

เพราะถูกต้อนด้วยใบหน้าน่าสงสารของมิดัส ชิโรเนะเลยทำสีหน้าลำบากใจ

แม้ชิโรเนะจะไม่อยากทำ แต่เธอก็เป็นประเภทที่ทิ้งคนที่กำลังลำบากไม่ได้นี่ล่ะ

[ หัวหน้ามิดัสอย่าไปไล่ต้อนเธอขนาดนั้นสิ ]

เด็กสาวคนหนึ่งเดินมาจากกลุ่มคนที่กำลังซ้อมอยู่

เธอเป็นสาวสวยที่อายุประมาณ 20 แต่ฉันรู้ว่าหน้าตานั้นน่ะไม่ใช่ของจริง

เธอคงใช้เวทเปลี่ยนแปลงตัวเองนิดหน่อย

อายุที่แท้จริงของเธอคงจะประมาณ 30 ตอนปลายก็ไม่ถึง 40 แล้ว

คนธรรมดาคงไม่สังเกต แต่นั้นมันหลอกดวงตาของเราไม่ได้

พวกเรามองเธอด้วยใบหน้าพลางขมวดคิ้ว

เธอเป็นใครกันนะ?

[ ไอนอย ถึงจะบอกแบบนั้นก็เถอะ แต่การแสดงนี้จะเลื่อนไปไม่ได้หรอก ดังนั้นคงต้องขอร้องท่านชิโรเนะเท่านั้น ]

[ นั่นมันคงเป็นไปไม่ได้ล่ะมั้งหัวหน้า และถึงจะไม่มีเซนน่า ฉันเองก็เล่นได่นะ เพราะยังไงก็เคยเล่นบทเจ้าหญิงมาก่อนแล้ว ]

ทั้งสองคนเถียงกันตรงหน้าเรา

แต่ชื่อที่มิดัสเอ่ยออกมา มันดูแล้วคุ้นหูจังนะ

[ หรือว่าคุณจะเป็นนักแสดงสาวไอนอยผู้โด่งดัง? ]

ฉันแยกทั้งสองคนออกจากกัน

จากนั้นผู้หญิงที่ชื่อไอนอยก็มองมาทางนี้

นักแสดงไอนอยเป็นคนที่มีชื่อเสียงมากในอาเรียดิน่า ได้ยินว่ามีแฟนคลับเป็นชนชั้นสูงมากมายเลยล่ะ

เธอได้รับบทเจ้าหญิงอัลเฟเรียจนถึงปีที่แล้ว

แต่จนกระทั่งเซนน่า น้องสาวของเดคิอัสมารับบทแทน แล้วเธอจะคิดยังไงกันล่ะเนี่ย?

[ ค่ะ ท่านผู้กล้า ฉันคือไอนอย ท่านผู้กล้าแห่งแสงผู้โด่งดังเคยได้ยินชื่อของฉันด้วยเหรอคะ? ]

ไอนอยมองมาทางเราด้วยความอยากรู้อยากเห็น

[ ไม่เจอกันนานนะครับท่านไอนอย ขอขอบคุณที่ช่วยดูแลน้องสาวของผมนะครับ ]

เดคิอัสเดินออกมาและทักทายเธอ

[ โอ๊ะ ไม่หรอกค่ะท่านเดคิอัส ไม่พบกันซะนานนะคะ แต่เราเคยพบกันตอนไหนเหรอคะ? ว่าแต่ฉันไม่เห็นเซนน่ามาวันนี้เลยหรือว่าจะเกิดจากธุระที่พวกท่านมาวันนี้กันเหรอคะ? เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอคะ? ]

ไอนอยพูดขณะที่หัวเราะแปลกๆ

[ อันที่จริงแล้ว อย่างที่คุณรู้มานั้นแหละครับ เซนน่าหายตัวไปและดูเหมือนในโรงละครนี้จะมีคนของลัทธิบูชาปีศาจที่เกี่ยวข้องกับการหายไปของเซนน่าอยู่นะครับ ]

เดคิอัสพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง จากนั้นท่าทีของไอนอยก็เปลี่ยนไป

[ คนของลัทธิบูชาปีศาจ? รู้เรื่องนั้นได้ยังไงเหรอคะ? ]

[ เพราะมีขลุ่ยนี้ตกอยู่ในที่เกิดเหตุครับ และขลุ่ยนี้ยังมีสลักของแพะสีดำสลักอยู่อีกด้วยครับ ]

เดคิอัสเอาขลุ่ยออกมา

และฉันเห็นทันทีว่าไอนอยมองขลุ่ยนั้นด้วยสายตาเปิดโพล่ง

[ ก่อนจะหายไปเซนน่าได้ทิ้งขลุ่ยให้ผมไว้ ได้ยินว่าขลุ่ยนี้เป็นของชายคนหนึ่งที่แต่งกายด้วยชุดเซเทอร์และตกลงไปในน้ำตอนที่เกิดเรื่องขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นสมาชิกในโรงละครนี้ ท่านไอนอยพอจะเอะใจอะไรบ้างมั้ยครับ? ]

[ มัลเชียส!!! ]

ทันใดนั้นไอนอยก็ตะโกนขึ้น

เสียงนั้นดังมากจนทุกคนในโรงละครหันมามองไอนอย

[ ท่านไอนอย? ]

เดคิอัสมองดูไอนอยที่มีท่าทีตื่นตระหนก

[ ขอโทษด้วยค่ะท่านเดคิอัส ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ]

ไอนอยหัวเราะ [ โฮะโฮะโฮะ ]

แต่ฉันได้ยินไม่พลาดหรอก

มัลเชียสเป็นชื่อของนักแสดงที่ตกลงไปในน้ำ

แล้วทำไมจู่ๆ เธอถึงได้ตะโกนชื่อของเขาขึ้นมาล่ะ? 

[ ขอโทษด้วยที่ขัดจังหวะนะคะ คุณไอนอย คุณพอจะรู้จักเจ้าของขลุ่ยอันนี้มั้ยคะ? เขาเป็นคนที่แต่งกายด้วยชุดเซเทอร์และรู้สึกจะชื่อว่ามัลเชียสด้วยค่ะ ]

ฉันถามไอนอย

[ … ไม่ค่ะ ฉันไม่รู้ ]

ไอนอยส่ายหน้า

ฉันคิดว่าเธอมีท่าทีน่าสงสัย

ไว้ค่อยถามริโนะทีหลังแล้วกัน เพราะริโนะมีความสามารถที่รู้ได้ว่าใครโกหกหรือไม่ เท่านี้ก็รู้แล้วว่าไอนอยโกหกพวกเขามั้ย

[ จะว่าไปชายที่ชื่อมัลเชียสก็ไม่อยู่ด้วย นี่ มีใครพอจะรู้จักมัลเชียสบ้างมั้ยคะ? ]

ฉันถามขณะที่มองไปยังสมาชิกคณะละครของมิดัส

[ มัลเชียสเหรอ… ท่าทางคนที่น่าสงสัยที่สุดจะเป็นเขาสินะ? ]

เรย์จิพูดและทุกคนก็พยักหน้า ตามจริงไอนอยก็น่าสงสัย แต่ยังตัดสินไปตรงๆ ไม่ได้

จากนั้นไม่นาน มิดัสก็กลับมา

[ ดูเหมือนมัลเชียสจะหายตัวไปตั้งแต่เมื่อคืนฮะ ]

ใบหน้าของมิดัสดูจะหนักใจ

[ เขาได้บอกอะไรไว้มั้ยคุณมิดัส? ]

[ ไม่เลยฮะ… แต่ที่จริงแล้ว มีคนเห็นเซนน่าตามมัลเชียสออกไปครับ ]

พวกเราได้เบาะแสแล้ว

[ เหรอคะ… แล้วรู้มั้ยว่ามัลเชียสไปที่ไหน? ]

มิดัสส่ายหัวให้คำพูดของฉัน

[ ไม่ฮะ ไม่มีใครเลย ]

[ งั้นปกติเขาจะไปที่ไหนเหรอคะ? ]

[ ดูเหมือนจะไปดื่มที่ไหนสักแห่งนอกเมืองตะวันตกนะฮะ… แต่รายละเอียดไม่มีคนรู้เลยสินะ? ]

[ ค่ะ ถูกต้องแล้ว ฉันเองก็เคยคุยกับเขาแค่นิดหน่อย เลยไม่รู้อะไรเลย ]

[ เข้าใจแล้วค่ะ… ]

จากนั้นพวกเราก็พยักหน้าและพาทุกคนไปให้ห่างมิดัสกับไอนอย

[ เอาล่ะคุณริโนะ เธอคนนั้นได้พูดโกหกมั้ยคะ? ]

ริโนะพยักหน้าเมื่อได้ยินที่ฉันถาม

[ ค่ะ คุณไอนอยกำลังโกหกอยู่และเธอก็รู้จักขลุ่ยนั้นด้วย ]

[ อืม ผมก็คิดแล้วล่ะ ]

เดคิอัสตอบ

[ เซอร์เดคิอัสมีความสามารถในการตรวจจับโกหกด้วยเหรอคะ? ]

[ ครับท่านนักปราชญ์ผมดำ เพราะผมได้รับพรจากนางฟ้า-ท่านเซอช่านะครับ ]

เดคิอัสยิ้มและตอบออกมา

เซอช่าเป็นนางฟ้าที่เป็นผู้รับใช้ของราชาเทพโอดิส มีนามแฝงว่านางฟ้าผู้ตรวจการ

เหล่านางฟ้าผู้ตรวจการมีหน้าที่ตรวจสอบเรื่องราวบนพื้นดินและรายงานโอดิส

และบางทีก็จะแทรกแซงมนุษย์อยู่บ้าง

บางคราวก็จะให้พรกับมนุษย์ซึ่งเป็นผู้ศรัทธาของเทพโอดิส

ซึ่งเดคิอัสได้รับการยอมรับจากนางฟ้าเซอช่าและได้รับพรมา ทำให้สามารถใช้เวทมนตร์ได้

[ ผู้ต้องสงสัยมีอยู่สองคน แต่จะทำยังไงครับท่านจิยูกิ? ]

[ อืมม ผู้ต้องสงสัยสองคนงั้นเหรอ? คงต้องหาคนที่คอยจับตาดูไอนอยไว้และต้องคอยค้นหามัลเชียสด้วย ดังนั้นแล้วคุณชิโรเนะ… ]

ฉันมองไปทางชิโรเนะ

[ อะไรเหรอคะคุณจิยูกิ? ]

[ ช่วยรับบทตัวเอกที่หัวหน้ามิดัสขอร้องมาได้มั้ยคะ? ]

เมื่อได้ยินคำพูดของฉัน ชิโรเนะก็ส่ายหัวอย่างแรง

[ อะไรกัน ทำไมล่ะคะ? ]

[ เพื่อไม่ให้ไอนอยสงสัย จะต้องมีคนคอยเฝ้ามองเธอค่ะ และต้องมีฝีมือระดับนึงด้วย ฉันคิดว่าหากคุณชิโรเนะรับบทตัวเอกจะเป็นการดีที่สุด ทำให้เข้าใกล้เธอได้โดยไม่โดนสงสัยด้วยค่ะ ]

ไอนอยใช้เวทมนตร์เปลี่ยนรูปร่างได้ แต่เธอกลับไม่ใช่ผู้ใช้เวทนี่สิ 

แปลว่ามีใครบางคนเป็นคนใช้เวทนั้นให้เธอ

จะต้องรู้ให้ได้ว่าเป็นใคร

[ ถ้าเรื่องนั้น ใช้เวทมนตร์ของริโนะจะไม่เร็วกว่าเหรอ… ]

ชิโรเนะดูจะไม่เต็มใจ

อย่างที่ชิโรเนะบอก หากใช้เวทอ่านใจของริโนะคงจะเร็วกว่า

เพราะเป็นการเชื่อมต่อกันโดยตรงด้วยเวทมนตร์

[ แน่นอนว่าเร็วกว่าค่ะ แต่ถ้าใช้เวทมนตร์เป็นไปได้ว่าตัวการที่ใช้เวทมนตร์ให้ไอนอยจะหนีไป ดังนั้นจึงอยากหลีกเลี่ยงการใช้เวทมนตร์ของคุณริโนะให้มากที่สุดค่ะ ]

เหมือนตอนที่นาโอะจับหนูตัวนั้นได้ก่อนหน้านี้ ถ้าไอนอยรู้ตัวอาจจะไม่ไปพบเขาก็ได้

[ เอ่อ~ ]

ชิโรเนะส่งเสียงคร่ำครวญ ฉันไม่ได้ทำเพราะมันน่าสนุกหรอกนะ

[ คุณชิโรเนะไม่ต้องกังวลหรอกค๊า ริโนะจะสนับสนุนเต็มที่เลย♪ ]

ริโนะพูดออกมาอย่างสดใส

[ ฉันเองก็อยากเห็นชิโรเนะในชุดเจ้าหญิงเหมือนกัน คงจะสวยน่าดู ]

เรย์จิยิ้มจนหุบไม่อยู่และวางมือบนไหลของชิโรเนะ

อันที่จริงฉันก็อยากเห็นล่ะนะ

แต่คงบอกชิโรเนะไปไม่ได้

[ แทนที่จะให้เราไปหาอีกฝ่าย เราควรจะล่อมามากกว่าและรอโจมตีอีกฝ่ายใช่มั้ยคะ นี่เป็นประสบการณ์ที่ฉันได้จากการต่อสู้กับเทพปีศาจเลวิลรุสค่ะ ]

ฉันเก็บงำความรู้สึกจริงๆ เอาไว้

[ เข้าใจแล้วค่ะคุณจิยูกิ นี่ก็เพื่อการสืบสวนคดี! ดีล่ะ มาทำให้มันจบๆ ไปเลยแล้วกัน!! ]

เพราะริโนะ เรย์จิ และฉันโน้มน้าวทำให้ชิโรเนะยอมทำตามอย่างไม่เต็มใจ

[ ท่านนักปราชญ์ผมดำ ชายที่ชื่อมัลเชียสไว้ให้ข้าจัดการเองเถอะ ]

เดคิอัสพูด

[ ดีล่ะ ในเมื่อตัดสินใจกันได้แล้วนะคะคุณชิโรเนะ คุณริโนะ เรยจิคุง แล้วก็คุณซาโฮโกะคอยช่วยชิโรเนะคงได้นะ?]

[ เข้าใจแล้วค่ะคุณจิยูกิ ]

ซาโฮโกะยอมรับแบบสบายๆ

หวังว่าคงหยุดเรื่องบ้าๆ ของเรย์จิได้นะ

[ ส่วนฉันกับคุณนาโอะและเซอร์เดคิอัสจะไปตามหามัลเชียส ]

นาโอะกับเดคิอัสพยักหน้า

เมื่อมองไปก็เห็นหน้าของเดคิอัสซีดแปลกๆ ดูเหมือนเขาจะเป็นห่วงน้องสาวมาก

ขอภาวนาให้เซนน่ายังปลอดภัยอยู่เถอะ

หวังว่าเธอจะยังมีชีวิตอยู่นะ

 

 

 

 

 

◆ นักเต้นเซนน่า

เซนน่า… เซนน่า…

ฉันรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงพี่เรียกชื่อฉันจากในความมืด

พี่กำลังเป็นห่วงฉัน

ฉันต้องกลับไป

ฉันคิดเช่นนั้นและตื่นขึ้นมาในห้องที่ไหนสักแห่ง

[ เอ๊ะ? ]

ฉันกวาดสายตาไปรอบๆ ขณะที่นอนอยู่

ที่นี่มันที่ไหน?

มันเป็นห้องที่สวยมาก รูปภาพที่วาดติดบนผนังห้องและเตียงที่นุ่มฟู

เมื่อมองไปยังหน้าต่างบานเล็กๆ ก็เห็นดวงอาทิตย์ที่กำลังจะตกดิน ดูเหมือนว่าใกล้จะมืดแล้ว

ทำไมฉันถึงมานอนในที่แบบนี้?

ปวดหัวไปหมด

และในที่สุดฉันก็จำได้ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในห้องใต้ดินของบาร์

ฉันไล่ตามมัลเชียสไปและพบกับปีศาจและพี่ไอนอย

จากนั้นก็ถูกพวกหน้ากากขาวไล่ตามและต่อสู้กับอัศวินดำ

ฉันสับสนไปหมด มีหลายเรื่องที่ไม่เข้าใจอยู่เยอะเต็มไปหมด

ฉันควรจะตายไปแล้วตอนที่ต่อสู้กับอัศวินดำ แต่กลับยังมีชีวิตอยู่

ฉันพยายามดันร่างกายขึ้น

ไม่รู้ทำไมตัวเองถึงยังมีชีวิตอยู่ เรื่องที่ปีศาจแอบซ่อนตัวอยู่ในประเทศนี้

ต้องรีบไปบอกพี่

[ เอ๊ะ? นี่มันอะไรกัน? ]

ฉันส่งเสียงขึ้น รอบตัวฉันมีหนามสีดำพันอยู่เต็มไปหมด แต่กลับไม่รู้สึกเจ็บเลย หนามนี้ไม่ได้ทำอันตรายฉันเลย

ดูเหมือนจะเป็นเวทบางอย่าง ที่ทำให้ขยับไม่ได้

จะคิดไปก็ไม่ได้อะไร ฉันจึงพยายามขยับตัว

ฉันดิ้นรนลุกออกจากเตียง คงเพราะผลของยาอาซาชูด้าทำให้พอจะมีพลังเหลืออยู่ แต่มันก็ใกล้เวลาเต็มทีแล้ว

ฉันพยายามเดินไปที่ประตูห้อง

เมื่อขยับจากจนถึงประตูและพยายามบิดลูกบิด

ดูเหมือนจะไม่ได้ล็อคไว้

เมื่อออกจากห้องได้ก็มองเห็นบันได

ฉันได้ยินเสียงจากชั้นล่าง

ขณะที่พยายามจะเดินลงบันไดไปแบบช้าๆ

[ รอเดี๋ยวเรจิน่า! อย่าทำอย่างนั้นนะ!! ]

ฉันได้ยินเสียงผู้ชายกำลังตะโกนอย่างตื่นตระหนก

และยังได้ยินเสียงน้ำอีกด้วย ดูเหมือนเขาจะกำลังอาบน้ำอยู่

ลางสังหรณ์ของฉันบอกว่า เจ้าของบ้านนี้จะต้องรวยมากแน่ๆ

เพราะบ้านคนปกติแล้วไม่มีห้องน้ำหรอก เพราะปกติแล้วจะใช้ห้องอาบน้ำสาธารณะกันมากกว่า

ดังนั้นบ้านที่มีห้องน้ำจะต้องเป็นคนรวยมากทีเดียว

ฉันพยายามเดินไปใกล้ห้องน้ำ เพื่อให้รู้ว่าเป็นใคร? แต่อย่างน้อยก็อยากรู้ว่าหน้าตาเป็นยังไง

[ ขอร้องล่ะค่ะนายท่าน! ช่วยอยู่นิ่งๆ ทีเถอะนะค๊า!! ]

[ ไม่เอาด้วยหรอก เดี่ยวสิ… คุนะจะทำอะไรนะ? ]

[ มู่ เรจิน่าฝากด้านหลังคุโรกิด้วย เดี๋ยวคุนะจะจัดการด้านหน้าเอง ]

[ ได้เลยค่ะ! จะดื้อรั้นไปก็เปล่าประโยชน์นะคะ! ท่านคุนะ เอาเลยนะค๊า ♪♪ ]

พวกเขากำลังทำอะไรกันอยู่นะ? เพราะห้องน้ำถูกผ้าบางๆ บังเอาไว้ทำให้มองไม่เห็นข้างใน

ฉันพยายามเดินเข้าไปใกล้ๆ แต่ขากลับงอและล้มลง

ทำให้ผ้าบางๆ ที่บังไว้หล่นไป

[ อะไรนะ? ]

โดนรู้ตัวซะแล้ว แถมฉันยังหนีไปไหนไม่ได้

ขามันไม่ขยับ

มีคนกำลังเดินเข้ามาใกล้

[ ไม่เป็นไรใช่มั้ย?

ฉันได้ยินเสียงและเงยหน้าขึ้น

ที่ตรงนั้นมีชายคนหนึ่งอยู่

และยังมี…

[ กรี๊ดดด!! สัตว์ประหลาดดด!! ]

ฉันส่งเสียงออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

ฉันโตมาในวิหารอิชเทียซึ่งเป็นวิหารของเหล่าโสเภณี ได้เห็นผู้ชายเปลือยกายมาก็ตั้งมากมายแม้จะไม่อยากเห็นก็เถอะ

บางคนที่เล็กเหมือนหนอนตัวน้อยๆ 

แต่ชายตรงหน้าฉันไม่ใช่ นั่นไม่ใช่หนอนแล้ว งูก็ยังไม่ใช่ นั่นมันมังกร

แถมฉันยังเคยเห็นใบหน้าของชายคนนั้นมาแล้วครั้งนึง ทำให้คุ้นหน้าตาอยู่

อัศวินดำ

ความหวาดกลัวแผ่ซ่านไปทั่วร่างของฉัน

[ หน้าซีดเชียว สงสัยจะเพราะร่างกายอ่อนเพลีย ผมว่าคุณควรไปพักก่อนนะ ]

อัศวินดำพูดออกมา จากนั้นก็ก้มลงมา ทำให้ดวงตาของฉันได้เห็นเจ้ามังกรดำนั้นเต็มตา

[ เฮือกก ]

จากนั้นฉันก็เป็นลมไป

 

 

 

 

 

◆ อัศวินดำคุโรกิ

[ โกหก! อย่างเจ๊ไอนอยน่ะเหรอคิดจะฆ่าฉัน! และฉันก็ไม่เชื่อสิ่งที่อัศวินดำพูดหรอกค่ะ!! ]

เซนน่าจ้องเขม็งและพูดออกมา

ผมได้แต่ถอนหายใจ

เธอเป็นลมในห้องน้ำและพอตื่นขึ้นมาก็เริ่มอาละวาด กว่าจะทำให้สงบสติอารมณ์ลงได้ก็ยากพอตัวเลยล่ะ

ผมพยายามอธิบายทุกอย่างให้เธอฟังเพื่อให้ใจเย็นลง

[ จะเชื่อรึไม่ก็แล้วแต่นะครับ แต่มันเป็นความจริง ]

เธอดูเหมือนจะไม่เชื่อ

[ ไม่เชื่อหรอกค่ะ… เจ๊ไอนอยทั้งใจดีกับฉันขนาดนั้น… ]

เซนน่าพูดขณะที่ก้มหน้า

ในตอนแรกไอนอยก็อ่อนโยนกับเธออยู่

แต่เซนน่าก็พอจะรู้ตัวว่าโดนเธอเกลียดเข้าแล้ว

[ ถ้าเป็นช่วงแรกๆ น่ะคงใช่ แต่ถ้าเป็นตอนนี้ล่ะครับ? ]

[ ….. ]

เซนน่าเงียบไป

ดูเหมือนจะพอมีโอกาสบ้าง

[ นอกจากนี้คาคินอสเมื่อกี้หน้านี้เองก็มุ่งเป้าไปที่คุณด้วย คิดว่ายังไงล่ะครับ? ]

เมื่อได้ยินคำพูดของผม

เซนน่าก็เงยหน้าขึ้น

[ ค่ะ… นอกจากนั้นแล้วยังมีของแปลกๆ เครื่องดื่มและอาหารที่มีบางอย่างใส่อยู่… ฉันเองก็คิดว่าจะตามหาตัวคนร้ายทีหลังเหมือนกัน แต่ไม่มีทางเป็นฝีมือเจ๊ไอนอยไปได้หรอกค่ะ… ]

เซนน่าออกความเห็น

[ เฮ้อ… งั้นผมคืนให้แล้วกัน ]

ผมวางของบนโต๊ะ

[ ดาบของฉัน? จะให้คืนเหรอคะ? ]

[ ครับ แต่เดิมมันก็เป็นของๆ คุณ แต่ยานั่น ผมคิดว่าอย่าใช้อีกจะดีกว่านะ ]

ผมหยิบขวดเล็กๆ วางไว้ข้างดาบ

[ นั่นมัน…? ยาอาซาชูด้า ]

ผมตรวจสอบยาชื่ออาซาชูด้ามาแล้ว มันเป็นของที่อันตรายต่อมนุษย์มาก

หากดื่มเข้าไปจะแข็งแกร่งขึ้นก็จริง แต่ผลเสียของมันจะทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนเพลีย

มันเป็นยาที่อันตรายถึงชีวิตเลยก็ได้

หลังจากดื่มยานี้ เธอถึงได้นอนไปเกือบวัน

เอาเถอะ ในระหว่างนั้นผมก็ไปเที่ยวกับคุนะมาล่ะนะ

[ ทำไมคุณถึงพูดเหมือนว่าเป็นห่วงฉันล่ะคะ? ]

เซนน่าถามด้วยความอยากรู้

มันคงแปลกที่ผมเป็นห่วงเธอล่ะนะ

จะตอบไปว่ายังไงดี

ผมเองก็ไม่ใช่คนดีนัก ที่ช่วยเธอไว้ก็แปลกพอควรแล้ว

[ คุโรกิ~ ]

ขณะที่ผมกำลังหนักใจ คุนะก็เข้ามาในห้อง

เมื่อกี้คุนะเพิ่งไปเป่าผมให้แห้งที่ห้องข้างๆ ผมแห้งแล้วงั้นเหรอ?

เพราะชุดบางๆ ของคุนะและทรวดทรงทำให้เธอดูมีเสน่ห์ขึ้น

[ เทพธิดาแสงจันทร์… ]

เซนน่าพึมพำขณะที่มองคุนะ

คุนะมาอยู่ด้านหน้าของผมและนั่งลงบนตักของผม

ทำให้ผมมองเห็นหน้าอกของคุนะอย่างชัดเจน คุนะมองไปที่เซนน่าพร้อมกับเสียงหัวเราะ [ ฟุฟุ ]

ขณะที่กำลังเผชิญหน้ากับเซนน่า

[ คุโรกิไม่เห็นต้องช่วยผู้หญิงคนนี้เลยนี่นา ฆ่าแล้วทิ้งที่ไหนสักแห่งก็ได้แท้ๆ ]

คุนะหัวเราะ ทำให้เซนน่าตัวสั่นไปหมด

[ มันไม่ดีนะคุนะ ไม่ดีหรอก ]

ผมพูดขณะที่ลูบหัวคุนะ

อย่างที่คุนะพูด ถ้าง่ายคงจะเร็วกว่า แต่ผมไม่รู้สึกอยากจะฆ่าเธอเลย

ผมนั้นยืนอยู่ฝ่ายเดียวกับปีศาจ แต่ก็เคยฆ่าปีศาจมาแล้ว

แต่ตัวผมกลับลังเลที่จะฆ่ามนุษย์มากกว่าปีศาจซะอีก บางทีอาจจะเพราะรูปลักษณ์ล่ะมั้ง

หากเธอเป็นคนไม่ดี ผมก็คงไม่ช่วยเธอหรอก

นี่เองก็เป็นการเลือกปฏิบัติจากความรู้สึกแบบหนึ่ง

[ มู่~ งั้นคุโรกิจะทำยังไงกับผู้หญิงคนนี้ล่ะ? จะเพิ่มผู้หญิงอีกแล้วเหรอ? ]

คุนะพูดขณะที่แก้มป๋อง

[ ไม่! ไม่! ผมไมไ่ด้คิดจะทำอย่างนั้นเลยนะ! ]

ผมส่ายหัว

จริงอยู่ที่เซนน่าสวยมาก

นอกจากนี้ แม้ว่าเธอจะผอมไปบ้าง แต่ก็มีสัมผัสที่นุ่ม

แต่ผมคิดว่าจะบังคับเธอไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร

ทั้งเท้าของเธอยังให้ความรู้สึกน่าเลียมาก แต่ผมไม่ทำหรอกน่า

[ มุมุมุ~!!]

ขณะที่ผมกำลังคิดเรื่องพวกนั้นในหัว คุนะก็มาหน้าผม

และเอาหน้าเข้ามาใกล้

คุนะจ้องมองอย่างน่ารัก

[ โอ๊ย! มันเจ็บนะ! คุนะ!! ]

ผมชื่นชมคุนะอยู่ในใจ

ขณะที่เซนน่ามองมาด้วยท่าทางไม่สบายใจ

แน่นอน เพรากังวลว่าจะโดนฆ่านี่นา

แต่ผมไม่ฆ่าหรอกน่า แต่ก็ปล่อยไปไม่ได้เหมือนกัน

ขืนปล่อยเซนน่าไป มีหวังเธอโดนไอนอยฆ่าแน่

ดังนั้นต้องให้เซนน่าไปอยู่กับพวกเรย์จิ

แค่นี้ไอนอยก็คงทำอะไรไม่ได้แล้ว

ที่จริงผมก็ไม่ได้ตั้งใจจะขัดขวางไอนอยหรอกนะ แค่คิดจะช่วยเซนน่าไว้เท่านั้นเอง

เพราะหากเธอหนีไปได้จะต้องถูกฆ่า ผมเลยต้องขังเธอไว้

และใช้หนามสีดำหุ้มตัวเธอไว้เพื่อไม่ให้ออกไปจากบ้านหลังจากนี้

เท่านี้เธอก็คงปลอดภัยแล้ว

หากเธอไม่พยายามหนีก็จะปลอดภัยต่อไป

แต่ก็ปล่อยไว้กับคุนะไม่ได้เหมือนกัน

แล้วจะทำยังไงดี?

ประเด็นคือไอนอยกำลังมุ่งเป้ามาที่เซนน่า และมันจะไม่เป็นไรเหรอหากปล่อยให้ไปอยู่กับพวกเรย์จิ?

เห็นทีคงต้องหาทางโน้มน้าวไอนอยก่อน

แต่ผมจะทำได้เหรอ? เจรจากับคนที่พยายามจะฆ่าเธอเนี่ยนะ? 

[ เอาล่ะ ]

ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำให้ได้

พรุ่งนี้ผมคงต้องลองไปหาไอนอยดู ผมคิดเช่นนั้น

 

 

 

 

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 70"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์