เกิดใหม่ครั้งนี้ ไม่ขอเป็นซุปตาร์ (Yaoi) - เล่มที่ 2 ตอนที่ 47 พิทักษ์คนรักดั่งปีศาจที่บ้าคลั่ง
- Home
- เกิดใหม่ครั้งนี้ ไม่ขอเป็นซุปตาร์ (Yaoi)
- เล่มที่ 2 ตอนที่ 47 พิทักษ์คนรักดั่งปีศาจที่บ้าคลั่ง
ตอนนี้หน้าร้อนไม่ใช่เหรอ? ผมกลัวเหงื่อในมือจะทำให้มันสกปรกก็เลยใส่ไว้ในเสื้อเชิ้ต กู้หลานอันกล่าว
ก็แค่ลายเซ็นแผ่นเดียวไม่ใช่เหรอ? ทำไมห่วงขนาดนั้น ตอนนี้ยังคลั่งขนาดนี้ ตอนถ่ายละครจะทำยังไง? จางเจียอี้ยิ้ม
ผมจะพยายามควบคุมตัวเองครับ กู้หลานอันตอบกลับเขาโดยทำท่าทางเหมือนลำบากใจ หลังจากนั้นก็หัวเราะ พูดกับจางเจียอี้อย่างประจบประแจงเล็กน้อยว่า คุณอาจาง อาก็รู้ว่าผมเป็นติ่งของเจาเยี่ย ผมไม่เรียกร้องให้เพิ่มบทให้ แต่ขอให้อาอย่าลดบทในส่วนที่มีผมกับเขาลง ได้ไหมครับ? (โดยทั่วไปเมื่อทีมงานเงินทุนไม่พอหรือเกิดปัญหาอื่น ๆ ขึ้น ทำให้ไม่สามารถถ่ายทำตามจำนวนที่คาดหมายไว้นั้น บทสมทบทั่วไปจะถูกตัดออก)
ได้สิ คำว่าคุณอาที่เธอเรียก ฉันไม่เพียงจะไม่ตัดบทของเธอ ฉันยังจะให้คนเขียนเพิ่มบทให้เธออีกด้วย จางเจียอี้หัวเราะลั่นอย่างอันธพาล
ขอบคุณครับคุณอา สมกับเป็นคนที่กล้ายั่วแม่ผมจริง ๆ กู้หลานอันรู้สึกซาบซึ้ง
ไม่ต้องขอบคุณหรอก เรื่องเล็กน้อย จางเจียอี้โบกมืออย่างภาคภูมิใจ พอดูเวลาปรากฏว่าดึกมากแล้วเลยขอตัวกลับก่อน มองดูจางเจียอี้เดินจากไป กู้หลานอันเก็บรอยยิ้ม ก้าวเท้าเดินเข้าบ้านช้า ๆ เดิมทีเขาคิดจะแกล้งทำท่าทางจริงจังถามแม่เขาว่าทำไมดูจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย แต่พอเห็นเธอหน้านิ่วคิ้วขมวดแบบนั้นก็ทำท่าทางไม่ออกเพราะอยากหัวเราะมากกว่า
เมื่อเห็นลูกชายเดินเข้าบ้านจากในกระจก อันนาหันตัวกลับมา ดั่งสาวงามที่มีความวิตกในความงามของตัวเอง ลูก แม่ดูแก่ไหม?
ก็พอได้ กู้หลานรับมือเธอด้วยการนั่งลงตรงข้ามเธอแล้วตอบ
ก็พอได้กับผีอะไร ลูกตอบให้มันชัดเจนกว่านี้หน่อย อันนาพูดพลางส่งสายตาตักเตือนไปให้ แล้วก็มองเขาอย่างเขินอาย กู้หลานอันส่ายหัวอย่างระอา มองแม่ที่ท่าทางเหมือนเด็กแล้วนั้น เขาโยนความโมโหที่มีต่อเธอทิ้งไปชั่วคราวและพูดชมตามที่เธอปรารถนา ไม่แก่ ดูไปแล้วอ่อนเยาว์เหมือนหญิงสาวอายุ 17-18 ปีเลยครับ
จริงเหรอ? แม่ก็รู้สึกแบบนี้แหละ? อันนายิ้มอย่างภาคภูมิใจ แต่รอยยิ้มอยู่ได้ไม่ถึงวินาที ก็หน้าสลดถามกู้หลานอันว่า ลูกคงไม่ได้กำลังหลอกให้แม่ดีใจอยู่หรอกนะ ถ้าแม่ดูเหมือนหญิงสาวอายุ 17-18 ปีจริง ทำไมอีตาจางเจียอี้นั่นถึงได้วางตัวละครไทเฮาให้แม่ล่ะ?
แล้วจะโทษใครได้? กู้หลานอันส่งสายตาถมึงทึงให้เธอ ใครใช้ให้แม่อยากรีบมาแสดงละคร คนอื่นเขาถึงไม่เห็นคุณค่าของแม่ไง
ลูกพูดได้ถูกต้อง อันนาเหมือนคิดได้ส่งสายตาถมึงทึงกลับไป บอกถึงความรอบคอบที่มีไม่สิ้นสุดอันประเสริฐสุด ๆ ของตัวเองให้กับกู้หลานอัน ที่แม่ทำทั้งหมดนั่นก็เพื่อลูกไม่ใช่หรอกเหรอ? เพราะเป็นห่วงลูกว่าจะสู้ศัตรูหัวใจของลูกไม่ได้ แม่ถึงกับต้องลงทุนหวนคืนสู่วงการในสภาพแบบนี้เหรอ?
ศัตรูหัวใจของผม? กู้หลานอันขมวดคิ้ว แม่กำลังพูดเรื่องอะไร?
นี่ลูกยังไม่รู้เรื่องอีกหรือไง? อันนาขยับเข้าหาอย่างภาคภูมิใจ แม่จะบอกให้นะ วันนี้หลังจากที่ลูกออกไปแล้ว จางเจียอี้บอกแม่ว่า ในทีมละครเรื่องนั้น มีผู้ชายคนหนึ่งชอบเจาเยี่ยเหมือนกับลูกเลย
แค่ชอบก็เป็นศัตรูหัวใจเลยเหรอ? แม่อย่าจินตนาการบรรเจิดขนาดนั้นได้รึเปล่า? เจาเยี่ยดังขนาดนั้น จะมีแฟนคลับเป็นดาราชายบ้างก็เป็นเรื่องปกติ กู้หลานอันยักไหล่ เขารู้สึกว่าแม่ของเขาคิดมากเกินไป ในวงการบันเทิงนี้มีคนรักร่วมเพศเยอะขนาดนั้น แต่กลับไม่มีคนกล้าประกาศตัวว่าเป็นคนรักร่วมเพศ นอกจากคนคนนั้นจะกล้าหาญ ไม่ก็ไม่มีสมอง หรือไม่มีความหวัง
อืม? ใครจะไปรู้ว่าเป็นแฟนคลับจริงหรือเปล่า? อันนาวางกระจกลง ยันศีรษะคิดเพ้อฝันด้วยความคาดหวังอยู่หลายวินาที แล้วคว้ากระเป๋าสะพายพูดว่า แม่จะไปเสริมสวยแล้ว ลูกทำอาหารค่ำกินเองก็แล้วกันนะ
หือ? ยังจะไปเสริมสวยอีกเหรอ วันนี้แม่แปะมาสก์ไปสองแผ่นแล้วนะ กู้หลานอันทำหน้าเบื่อหน่าย
แค่สองแผ่นเอง มันสามารถรักษาความเยาว์วัยของฉันให้คงอยู่ตลอดไปได้ไหม? อันนาใช้มือจับใบหน้าแล้วพูด
ความเยาว์วัยของแม่ไม่ได้อยู่ยงคงกระพันอยู่แล้วเหรอตอนนี้? กู้หลานอันมองดูใบหน้าที่ถูกดูแลเอาใจใส่ตามกาลเวลามาตลอด ฉีกยิ้มมุมปากแล้วหยิบสคริปต์สองฉบับของเขาจากบนโต๊ะแล้วเดินไปทางชั้นบน แต่เดินไปได้ไกลจนถึงระยะที่ปลอดภัยจากแม่พอสมควรก็หยุด เอียงศีรษะหัวเราะเยาะ จะว่าไปความวัยเยาว์ของแม่อยู่ยงคงกระพันได้แล้วจะมีประโยชน์อะไร สุดท้ายก็ถูกเขาวางให้ไปเล่นบทไทเฮาอยู่ดี แม่ ในที่สุดแม่ก็แก่แล้ว
นี่ลูก…… อันนาโมโหจนสำลักคำพูด ค่อนวันพูดได้แค่คำเดียว ลูกพูดแบบนี้ล้วนเป็นเพราะว่าแม่ไปร่วมแสดงละครเรื่องเดียวกับลูกและเจาเยี่ย เลยจงใจพูดโกหกเพื่อให้แม่โกรธ แม่ไม่ถือว่ามันเป็นเรื่องจริงหรอก
ถูกต้อง ผมกำลังโกรธแม่อยู่ กู้หลานอันสารภาพตรงๆ แต่ผมไม่ได้โกรธแม่เพราะว่าแม่มาแสดงละครเรื่องเดียวกับผมและเจาเยี่ย ยังไงบทแม่ก็น้อยมาก ก็คงก่อเรื่องอะไรไม่ได้มาก ; แต่เป็นเพราะว่าวันนี้ตอนที่เจาเยี่ยลุกที่นั่งให้แม่แล้ว เห็นได้ชัดว่าแม่สามารถบอกกับจางเจียอี้ให้จัดเตรียมเก้าอี้อีกตัวให้เจาเยี่ยก็ได้แต่แม่ไม่ทำ แม่รู้ดีว่าถ้าแม่ไม่พูดคนอย่างจางเจียอี้ก็ได้ทีถือโอกาสนี้ประกาศศักดาข่มเจาเยี่ย แม่ยังทำไม่รู้ไม่ชี้ปล่อยเขายืนอยู่อย่างนั้นทั้งวัน ; ยังมีอีก ตอนที่เจาเยี่ยนำหน้าออกจากห้องไปตอนนั้นแม่ถมึงตามองเขาล่ะสิ
แม่ให้เขายืนเพราะอยากจะดูลักษณะท่าทีของเขา ผลลัพธ์คือแม่พอใจมาก เพราะฉะนั้นตอนหลังแม่จะถลึงตาใส่เขาได้ยังไง แม่ถลึงตาใส่แกต่างหากล่ะ ลุ่มหลงจนขาดสติ อันนาแย้ง เจ้าลูกซื่อบื้อ เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าตอนนั้นเธอเห็นเขากำลังถูกสายตาของฝูงชนจับจ้องอยู่ แต่กลับลุ่มหลงอย่างเสียอากัปกิริยา กลัวเขาโดนวิจารณ์อย่างสาดเสียเทเสียจึงถลึงตาใส่เขา ไม่เคยคิดเลยว่าความปรารถนาดีจะถูกมองเป็นเจตนาร้าย เขาเข้าใจผิดเธอไม่ว่า ยังจะมากล่าวโทษเธออีก
ไม่ว่าแม่จะถลึงตาให้ผมหรือเขา ยังไงแม่ก็ใช้สายตาแบบนั้นมองเขาไม่ได้ แม่ จำไว้นะ มีแค่ผมคนเดียวรังแกเจาเยี่ยได้ กู้หลานอันพูดเชิงบังคับ แล้วเปลี่ยนสีหน้า พูดเสริมด้วยใบหน้ายิ้มหน้าระรื่นว่า ราตรีสวัสดิ์ครับแม่ อย่าลืมกินข้าวเย็นนะ
กินอะไร โมโหจนอิ่มแล้ว อันนาถอนหายใจหนักๆ โยนกระเป๋าในมือทิ้ง ถอนหายใจแล้วนั่งลง เอนตัวลงบนโซฟาแล้วครุ่นคิด ก่อนหน้าที่เธอรู้ว่าเจาเยี่ยไม่ได้ชอบกู้หลานอันนั้นก็อยากจะทำอะไรสักอย่างในฐานะแม่ที่จะทำเพื่อลูกได้ โดยการแยกพวกเขาออกจากกัน แต่วันนี้เห็นการแสดงออกของเจาเยี่ย เห็นความลุ่มหลงของลูกชายที่มีต่อเจาเยี่ย เห็นลูกชายพิทักษ์คนรักดั่งปีศาจที่บ้าคลั่ง เธอก็อดไม่ได้ที่จะปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ จัดพวกเขาได้คู่กัน จะได้เป็นสาววายผู้ช่ำชองคนหนึ่ง เธอแสดงออกมาอย่างกลัดกลุ้มมาก
พอเข้าห้อง กู้หลานอันเอากระดาษลายเซ็นของเจาเยี่ยสอดเข้าไปในหนังสือที่ใหม่เอี่ยมอ่องอย่างระมัดระวัง มองซ้ายทีขวาที เขาถึงวางมันลง หันร่างกลับมาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ส่งข้อความถึงเจาเยี่ยหนึ่งฉบับ เจาเยี่ย ถึงบ้านรึยัง? ฉันถึงบ้านแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง เป็นไปตามที่คาด ค่อนวันไปแล้วเจาเยี่ยก็ไม่ได้ตอบกลับ กู้หลานอันกดออกจากหน้าข้อความอย่างอ่อนเพลีย เปิดแอปเวยป๋อเลื่อนดูหน้าฟีดที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเจาเยี่ย นึกว่าทุกอย่างคงเหมือนก่อนหน้า พล็อตเดิม ๆ ที่สาว ๆ เขียนสารภาพรักเจาเยี่ย คิดไม่ถึงจะมีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวเองด้วย บทความกระพือไปทั่วทุกหัวระแหง เนื้อหาทั้งหมดล้วนชี้ไปที่คำว่า : โกรธแค้น! เจาเยี่ยขับรถชนคนบนถนน บุคคลที่ถูกชนเป็นบุตรชายของประธานแห่งเหิงอันกรุ๊ปนามว่ากู้หลานอัน หลังการชน กลับไร้วี่แววข่าวคราวเจาเยี่ยพาคนส่งโรงพยาบาล สงสัยว่าจะเป็นการชนแล้วหนี!
เนื้อหาข้างล่างเป็นรูปภาพที่จับภาพบางตอนแล้วก็เอามาโมเม เป็นรูปที่ถ่ายตอนเจาเยี่ยลงจากรถแล้วมองเขาด้วยสายตาเย็นชา รูปที่ถ่ายตอนเจาเยี่ยขึ้นรถไปคนเดียวต่อหน้าเขา รูปที่ถ่ายตอนที่เขาขึ้นรถด้วยความยากลำบากคนเดียวโดยไม่มีหลี่เสียวเหม่ยอยู่ในนั้น