เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 - เล่มที่ 1 ตอนที่ 24 เข้าเมืองมณฑลกับโจวเฉิง
- Home
- เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80
- เล่มที่ 1 ตอนที่ 24 เข้าเมืองมณฑลกับโจวเฉิง
เข้าเมืองมณฑล?
เขตอันชิ่งคือเขตการปกครองของเมืองเฟิ่งเสียน
เมืองเฟิ่งเสียนอยู่ใกล้กับเมืองมณฑล ‘ซางตู’
ซางตูเป็นเมืองหลักประจำมณฑล ระยะห่างจากเขตอันชิ่งไม่ได้ไกลเป็นพิเศษ ทว่าถ้าผู้คนในตัวเมืองไม่มีธุระจะไม่เข้าเมืองมณฑลเท่าไรนัก เวลาเกษตรกรขายผลผลิตก็มักจะขายที่ย่านการค้าในชนบท คนไปขายของในตัวเมืองนั้นมีน้อย ไม่ต้องพูดถึงไปถึงเมืองมณฑล
หากพูดจากจุดนี้ ก็ไม่รู้ว่าเซี่ยเสี่ยวหลานไปเอาความกล้ามากจากไหนกัน
ฉันว่าขายไข่ไก่ในเขตอันชิ่งยังทำได้อีกหลายวันนะ ทำไมเธอรีบไปซางตูเช่นนี้?
โจวเฉิงเองก็กล้ามาก เขาไม่มีความเห็นต่อการกระทำของเซี่ยเสี่ยวหลาน เพียงแต่ไม่เข้าใจวิธีการของเธอ
เซี่ยเสี่ยวหลานชอบที่จะพูดคุยกับคนฉลาดหลักแหลม คนคนแรกที่เธอสื่อสารด้วยโดยไร้อุปสรรคหลังจากเกิดใหม่คือหลิวหย่ง คนที่สองก็คือโจวเฉิงนั่นเอง โจวเฉิงไม่ได้คิดว่าธุรกิจค้าไข่ไก่เก็งกำไรจะสามารถทำในเขตอันชิ่งไปได้ตลอด เขายังให้ดุลยพินิจของตนเองว่า ‘ยังทำได้อีกหลายวัน’ เซี่ยเสี่ยวหลานจึงไม่ปิดบัง
ไปซางตูดูลาดเลาสถานการณ์ของตลาดน่ะ วันนี้ฉันนำของอย่างอื่นมาด้วย ในเขตอันชิ่งขายไม่ค่อยดี
โจวเฉิงรับจักรยานของเธอมา เมียงมองในตะกร้าไม้ไผ่ด้านหลัง ฝั่งหนึ่งคือไข่ไก่ที่มีฟางคลุมไว้ อีงฝั่งหนึ่งของตะกร้ากลับปูด้วยผ้าใบพลาสติกกันน้ำ ข้างในมีของกำลังถูกกักเอาไว้ แต่ยังดิ้นไปดิ้นมาได้
ปลาไหล?
โจวเฉิงเดาะลิ้นสื่อความชื่นชม ของดีนะ
เซี่ยเสี่ยวหลานต้องเลือกเฟ้นอย่างละเอียดลออแน่นอน ปลาไหลในตะกร้าแต่ละตัวล้วนมีความหนาเท่านิ้วหัวแม่มือของผู้ชาย ถึงฤดูที่คุณภาพเนื้อจะสมบูรณ์พอดี เป็นวัตถุดิบที่อยู่ในระดับเดียวกับปลาชิงตัวโตราว 20 ชั่ง
ถ้าได้พบฝีมือและการปรุงดีๆ เข้า ปลาไหลนี้อร่อยยิ่งกว่าปลาชิงเสียอีก
ของแบบนี้ในเขตอันชิ่งขายไม่ค่อยได้ ทำไมเธอ…
คำพูดของโจวเฉิงกล่าวได้ครึ่งเดียวและไม่จบ
ที่เขาอยากพูดคือทำไมเธอถึงเลือกแต่ธุรกิจที่ยุ่งยากกันนะ ขายไข่ไก่เก็งกำไรก็เหนื่อยพอแล้ว ตอนนี้ยังจะขายสัตว์น้ำ ล้วนไม่ใช่งานเบาแรงทั้งนั้น แต่พอคิดถึงเรื่องราวที่ได้สอบถามมาเมื่อวาน เซี่ยเสี่ยวหลานถูกไล่ออกจากบ้านคงไม่มีเงินติดตัวสักเฟินเดียว นอกจากมีลุงคอยช่วยเหลือแล้ว ตระกูลเซี่ยก็หวังให้เธอไปตายเสียเหลือเกิน ธุรกิจที่เบาแรงต้องการทั้งเงินทุนและเครือข่ายคน เซี่ยเสี่ยวหลานนั้นไม่มีสักอย่าง
เขาครุ่นคิดถึงตรงนี้ก็ไม่สบายใจเอาเสียเลย
มิใช่ว่าเชื่อข่าวลือพวกนั้น แต่เหมือนกับครั้งแรกที่เห็นบาดแผลอยู่บนหน้าผากของเซี่ยเสี่ยวหลาน นึกดูว่าเธอบอบบางถึงเพียงนั้น จะทนลำบากเช่นนี้ได้อย่างไร?
เซี่ยเสี่ยวหลานยิ้มแต่ไม่ซักถามวาจาที่ยังกล่าวไม่จบของโจวเฉิง
รับซื้อไข่ไก่ก็คือรับอยู่นั่นแหละ รับซื้อปลาไหลไปด้วยเลยก็ไม่ยุ่งยากมากขึ้นเท่าไร ปลาไหลพวกนี้รวบรวมจากสองสามวันที่ผ่านมา เมื่อวานมีคนส่งปลาไหลมา 20 ชั่ง ฉันจะเอาเข้ามณฑลไปลองดูสักหน่อย
เธอรู้ทางไปเมืองมณฑลใช่หรือไม่?
โจวเฉิงแทงโดนจุดตายของเซี่ยเสี่ยวหลานโดยไม่ตั้งตัว
‘เซี่ยเสี่ยวหลาน’ คือหญิงสาวจากชนบทผู้ไม่เคยพบโลกธุรกิจ ไปสถานที่ที่ไกลที่สุดก็คือเขตอันชิ่ง ยังไม่เคยไปซางตู้จริงๆ ด้วยซ้ำ
ใต้จมูกมีหนึ่งปากนะ ฉันถามทางไปได้
ป้ายบอกทางในตอนนี้ไม่ครบถ้วนเหมือนยุคหลังจากนี้ แต่ถ้าหาทิศทางหลักถูกแล้วค่อยถามคนต่อไปเรื่อยๆ ก็ย่อมได้
โจวเฉิงไม่รู้ควรพูดว่าเซี่ยเสี่ยวหลานโง่หรือกล้าดี
ทำไมตอนนี้ผู้คนถึงไม่อยากเดินทางไกลหรือ? การคมนาคมไม่สะดวกสบาย ยังไม่มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจขนาดนั้น และยังมีอีกเหตุผลคือถนนหนทางไม่ค่อยเรียบ อย่างเช่นพวกเขาเดินทางจากปักกิ่งถึงเซี่ยงไฮ้ เดินทางไกลไม่เคยมีผู้คนร่วมถนนเลย พวกดักปล้นมีอยู่เต็มไปหมด หากคนนึงแค่ผล็อยหลับไปอาจไม่เหลือทั้งคนทั้งรถ ทว่าฤดูร้อนปีนี้เริ่มดำเนินการปราบปรามในแต่ละพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ระบบความปลอดภัยจึงดีขึ้นมาก… แค่โจวเฉิงคิดว่าอีกหน่อยเซี่ยเสี่ยวหลานจะไปกลับหมู่บ้านชีจิ่งกับซางตูทุกวัน ก็ไม่อยากวางใจลาจากเขตอันชิ่งไป
ไปเถอะ ฉันรู้ทาง วันนี้ฉันพาเธอไปเอง
พี่โจว พี่ไม่มีธุระของตัวเองต้องไปจัดการหรือ? รบกวนพี่เกินไปแล้ว
โจวเฉิงเบิกตาพูดเรื่องโกหก คังเหว่ยไปหาญาติแถวๆ นี้น่ะ เขาขับรถไปด้วย วันนี้ไปไหนไม่ได้ก็ไปซางตูเป็นเพื่อนเธอสักหน เขตอันชิ่งนี่เล็กเสียเหลือเกิน น่าเบื่อ
เขาลากเสียงยาวในขณะที่กล่าวว่าเขตอันชิ่งน่าเบื่อ ราวกับน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายของคุณชายใหญ่จริงๆ
เซี่ยเสี่ยวหลานหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก [1] โจวเฉิงได้แย่งจักรยานไปจากมือเธอแล้ว
ขึ้นมาสิ ฉันขนเธอไปเอง
โจวเฉิงตบๆ ที่คานตรงส่วนหน้าของจักรยาน เซี่ยเสี่ยวหลานคิดว่าอิริยาบถแบบนั้นในทางปฏิบัติเหมือนกับนั่งอยู่ในอ้อมกอดของโจวเฉิง เลยตะบี้ตะบันโบกมือปฏิเสธ
ฉันนั่งด้านหลังก็ได้!
ตรงนั้นกระแทกหน่อยนะ เธอนั่งดีๆ เสียล่ะ
โจวเฉิงทำหน้าเป็นการเป็นงาน ราวกับไม่มีความคิดจะเอาเปรียบเซี่ยเสี่ยวหลาน ทำให้เธอเข้าใจผิดว่าตนคิดมากไปหรือไม่?
สองฝั่งที่นั่งซ้อนท้ายล้วนมีตะกร้าใบโต เท้าของเธอจึงทำได้เพียงงอเท้าขึ้น พอจักรยานกระแทกเล็กน้อยเซี่ยเสี่ยวหลานก็เกือบหงายหลังร่วงลงไป เธอกอดเอวของโจวเฉิงไว้แน่นด้วยสัญชาตญาณ
ในปลายฤดูร้อนเช่นนี้ โจวเฉิงสวมเพียงเสื้อตัวเดียว เมื่อมือของเซี่ยเสี่ยวหลานแนบเข้ามา เขาสามารถสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลนั่นผ่านเสื้อผ้า
เธอจับให้แน่นนะ!
ถึงไม่เห็นสีหน้า ทว่าความชื่นบานในน้ำเสียงนั้นปกปิดไม่อยู่
เซี่ยเสี่ยวหลานได้แต่เม้มริมฝีปาก มักมีความรู้สึกไปเองว่าโดนหนุ่มน้อยแทะโลมอยู่ตลอด
สองคนมาถึงซางตูในสองชั่วโมงให้หลัง โจวเฉิงยังไม่ได้รับประทานอาหารเช้าก็ไปอยู่รอเซี่ยเสี่ยวหลานตั้งแต่เช้า จนตอนนี้ท้องร้องโครกครากด้วยความหิวมาตั้งนานแล้ว เมื่อวานอาหารเย็นของบ้านหลิวนั้นหรูหราทีเดียว แต่ก่อนเซี่ยเสี่ยวหลานจะออกจากบ้านกลับกินแค่ข้าวที่เหลืออยู่เพื่อรองท้องเท่านั้น
ไปเถอะ ไปกินข้าวกันก่อน
ถนนของซางตูกว้างกว่าของเขตอันชิ่ง ตึกรามบ้านช่องสองฝั่งถนนก็สูงกว่าในตัวเมืองเช่นกัน รวมพื้นที่ทั้งหมดแล้วใหญ่กว่ามาก เวลาเพียงนิดเดียวมิอาจตระเวนได้จนทั่ว อีกอย่างซางตูคึกคักกว่าในเขตอันชิ่ง ผู้คนที่ค้าขายเล็กๆ ในอันชิ่งยังดูกระมิดกระเมี้ยนกว่าเหล่าร้านค้าเร่ในเมืองซางตูที่แข็งแกร่งไม่สะทกสะท้านใดๆ
มีถนนสายหนึ่งที่ค้าขายแต่ของกิน
บะหมี่เนื้อแพะ น้ำแกงลูกชิ้น โจ๊กถั่ว หูล่าทัง [2] ก้วนทังเปาจื่อ [3] ไป๋จี๋โม๋ [4] รวมถึงอาหารโดดเด่นอีกหลายชนิดนั้นระยิบระยับละลานตาไปหมด อีกทั้งยังมีบะหมี่เส้นสด ข้าวต้ม น้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋เหล่านี้ที่พบได้บ่อยทั่วไป ของกินมากมายทั่วประเทศ ที่นี่ล้วนมีขายทั้งหมด!
เซี่ยเสี่ยวหลานสูดลมหายใจหนึ่งเฮือก อวัยวะภายในกำลังร่ำร้องด้วยความหิวโหย
เธอเองโชคชะตาไม่ดีนัก ชาติก่อนอายุยังน้อยต้องพยายามในการทำงาน อาหารเช้าได้กินบ้างไม่กินบ้าง ทานเพียงเพื่อประทังความหิวเท่านั้น ไม่ใส่ใจถึงคุณภาพและรสชาติแม้แต่น้อย พอมีเงินทองหน้าที่การงานยิ่งยุ่งมากขึ้น อีกทั้งเธอเองก็เข้าสู่ช่วงอายุที่การเผาผลาญเริ่มช้าลง เพราะจะรักษารูปร่าง ทุกเช้าเธอจึงดื่มแค่กาแฟแก้วเดียว… แต่ตอนนี้เธอกลายเป็น ‘เซี่ยเสี่ยวหลาน’ ที่อยากกินแต่ดันไม่มีเงินไปเสียแล้ว
สถานการณ์คึกคักเช่นนี้กระตุ้นความรู้สึกของเซี่ยเสี่ยวหลานทีเดียว ขณะที่เธอหมกมุ่นฝ่าฟันในยุค 80 นั้นก็ควรดีกับตนเองเสียหน่อยไม่ใช่หรือ?
พี่โจว พี่อยากกินอะไร เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง
โจวเฉิงเห็นเธออารมณ์ดี พอยิ้มแย้มแล้วช่างสวยเป็นพิเศษจริงๆ ดวงตาคู่นั้นมีประกายแวววับน่าประทับใจ มองมาที่คนแล้วสะท้อนความรักและความอ่อนโยน ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะอารมณ์ดียิ่งขึ้นไปอีก
เธอจะมีเงินเท่าไรกัน? ใจกว้างซี้ซั้วเกินไปแล้ว! คนปักกิ่งอย่างพวกเราไม่ยินดีให้หญิงสาวเลี้ยงอาหารหรอกนะ วันนั้นที่เธอเลี้ยงบะหมี่ทำเอาคังเหว่ยตกใจแย่เลย
โจวเฉิงพูดพลางดันเซี่ยเสี่ยวหลานเข้าไปในร้านน้ำแกงเนื้อลาแห่งหนึ่ง
กินเนื้อลาไหม? ช่วงนี้กินเนื้อแพะจะร้อน [5] เกินไป กินน้ำแกงเนื้อลาสักชาม แล้วก็กินก้วนทังเปาจื่อสักเข่ง ทั้งยังสอบถามเถ้าแก่ในเรื่องสถานการณ์ในซางตูได้อีกด้วย
เนื้อมังกรของสวรรค์ชั้นฟ้า เนื้อลาของโลกมนุษย์ [6]
เซี่ยเสี่ยวหลานมิได้เกี่ยงงอนเช่นนั้น นอกจากพวกงูหนูแมลงแล้ว อาหารทั่วไปเธอก็กล้ากินทั้งนั้น
ชาติก่อนเธอเคยมาติดต่องานที่ซางตูและเคยกินน้ำแกงเนื้อลาอยู่หลายครั้ง แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่รสชาติอร่อยเท่านี้เลย น้ำแกงเนื้อลาที่ร้อนระอุไม่คาวไม่แห้ง พอควานตะเกียบลงไปก็เป็นเนื้อลา ขึ้นฉ่ายกับหัวหอมที่ลอยอยู่ด้านบนนั้นมีรสชาติเข้มข้นมาก ในอนาคตแม้แต่ของตกแต่งอาหารอย่างหัวหอมและขึ้นฉ่ายนั้นก็ปลูกในเรือนกระจกทั้งหมด รสชาติที่ได้ไม่เข้มข้นเลยสักนิดเดียว
เซี่ยเสี่ยวหลานกินน้ำแกงเนื้อลาชามโตไปหนึ่งชามและจัดการก้วนทังเปาจื่ออีกหนึ่งเข่ง
โจวเฉิงกินจุมากกว่าเธอ เขากินน้ำแกงหนึ่งชามและซาลาเปาสองเข่ง และยังสั่งบะหมี่เนื้อแพะจากร้านด้านข้างมาอีกหนึ่งที่ ท้องอิ่มก่อน ตอนสอบถามข้อมูลก็ง่ายขึ้นแล้ว เมื่อได้ยินว่าเซี่ยเสี่ยวหลานขายไข่ไก่และปลาไหล เถ้าแก่ร้านน้ำแกงเนื้อลาก็ยิ้มให้
เธอเดินไปปลายถนน ร้านนั้นขายบะหมี่ปลาไหล ช่วงค้าขายดีมาก ไม่ว่าวันไหนก็ต้องใช้ปลาไหลสิบกว่าชั่งต่อวัน ออกจากถนนเส้นนี้เลี้ยวขวาไปไม่ไกลก็คือตลาดสินค้าเกษตร
เขตอันชิ่งเล็กเท่าฝ่ามือ ต่อให้มีคนงานจากโรงงานถึงสองแห่งก็ไม่มีกำลังในการบริโภคมากเท่าไรนัก
แต่ว่าซางตูนั้นไม่เหมือนกัน
โจวเฉิงเข็นจักรยาน เซี่ยเสี่ยวหลานไปถามเถ้าแก่ร้านว่าต้องการปลาไหลหรือไม่ด้วยตนเอง พอพิจารณาปลาไหลในตะกร้าของเธอแล้ว ยังไม่ทันกะพริบตาก็ตัดสินใจซื้อทันทีด้วยจำนวน 15 ชั่ง เนื้อหมูราคา 1.4 หยวนต่อชั่ง ส่วนปลาไหลคือ 1.1 หยวนต่อชั่ง จะมีสักกี่คนในตัวเมืองอันชิ่งที่ทำใจนำเงินซื้อเนื้อหมูไปซื้อปลาไหลกินได้?
แต่ก็เพราะซางตูเป็นเมืองหลักของมณฑล บะหมี่หนึ่งชามราคา 7 เหมา เป็นบะหมี่ที่ราดหน้าด้วยปลาไหลหนึ่งทัพพียังพอมีคนที่จ่ายได้สบายๆ
ปลาไหลเป็นของทำเงินได้ เซี่ยเสี่ยวหลานรับซื้อในหมู่บ้านด้วยราคา 8 เหมาต่อชั่ง ปลาไหลทุกหนึ่งชั่งได้กำไรเป็นเงิน 3 เหมา อีกทั้งทนกระแทกมากกว่าไข่ไก่ เซี่ยเสี่ยวหลานตัดสินใจว่าจะหยุดธุรกิจไข่ไก่ไว้ในทันที เปลี่ยนมาขายปลาไหลโดยเฉพาะ ก่อนถึงเดือนพฤศจิกายนธุรกิจนี้ยังสามารถทำเงินได้นานถึงสองเดือน
โจวเฉิงเห็นเธอตื่นเต้นจนคิ้วตายิ้มแย้ม จึงรีบบอกให้เธอใจเย็นลง
เธอควรหาลูกค้ารายใหญ่ดีกว่านะ ร้านบะหมี่ปลาไหลที่เดียวไม่อาจกินสินค้าเธอทั้งหมดได้หรอก
เชิงอรรถ
[1] 哭笑不得 หัวเราะร้องไห้ไม่ออก หมายถึง กระอักกระอ่วน ไม่รู้จะทำอย่างไร
[2] 胡辣汤 หูล่าทัง อาหารเช้าชนิดหนึ่ง เป็นน้ำแกงที่ทำจากน้ำน้ำแกงกระดูก เนื้อวัว พริก พริกไทย เห็ดหูหนู วุ้นเส้น แป้งกวน ดอกไม้จีน และถั่วลิสง
[3] 灌汤包子ก้วนทังเปาจื่อ เป็นติ่มซำชนิดหนึ่งที่มีเอกลักษณ์ของชาวฮั่น มีลักษณะคล้ายเสี่ยวหลงเปา แต่มีขนาดใหญ่กว่า
[4] 白吉馍 ไป๋จี๋โม๋ เป็นอาหารที่ทำจากแป้งนึ่งเป็นทรงคล้ายขนมปัง ผ่าตรงกลางแล้วใส่ไส้เข้าไป
[5] เนื้อแพะร้อน ตามตำราแพทย์แผนจีน เนื้อแพะเป็นเนื้อสัตว์ที่มีฤทธิ์ร้อน หากกินมากเกินไปจะทำความร้อนสะสม เกิดอาการไม่สบายตัวได้
[6] 天上的龙肉,地上的驴肉 เนื้อมังกรของสวรรค์ชั้นฟ้า เนื้อลาของโลกมนุษย์ หมายถึง บนสวรรค์มีเนื้อมังกร บนโลกก็มีเนื้อลา เนื่องจากมังกรเป็นสัตว์ในเทพนิยาย ไม่มีมนุษย์ผู้ใดมีโอกาสลิ้มรสเนื้อมังกร คนจึงเปรียบเทียบเนื้อลาที่รสชาติดีและมีสารอาหารจำนวนมากว่าเป็นหนึ่งในเนื้อสัตว์ที่ดีที่สุดชนิดหนึ่งของโลกมนุษย์