เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 - เล่มที่ 2 ตอนที่ 36 แขกผู้ไม่หวังดีมาเยือน
- Home
- เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80
- เล่มที่ 2 ตอนที่ 36 แขกผู้ไม่หวังดีมาเยือน
เมื่อการประชุมของครอบครัวตระกูลเซี่ยเสร็จสิ้น เบื้องต้นจึงได้ข้อสรุปว่าจะนำตัวเซี่ยเสี่ยวหลานและมารดากลับมา
ไม่มีวิธีอื่นแล้ว ครั้งนี้หลิวเฟินและเซี่ยเสี่ยวหลานเด็ดเดี่ยวเสียจริงๆ หนีกลับไปหมู่บ้านชีจิ่งได้นานขนาดนี้แล้ว ยืนหยัดไม่ยอมบอกว่าจะกลับบ้าน หญิงชราเซี่ยไม่ชอบสองแม่ลูกอย่างถึงที่สุด ทว่าไม่ยอมรับไม่ได้ว่าแม้หลิวเฟินจไม่สามารถมีลูกชายได้ ทว่าในด้านการทำงานกลับเป็นผู้ช่ำชอง ระดับความอดทนต่องานหนักและการด่าทอมากกว่าจางชุ่ยและหวังจินกุ้ยรวมกันเสียอีก หวังจินกุ้ยมักแอบอู้งาน จางชุ่ยอยู่ในตัวเมืองเป็นเพื่อนลูกสาวมาหลายปี จึงไม่ค่อยคุ้นเคยกับงานในไร่นา
อย่างไรเสียรองเท้าผุพังแบบเซี่ยเสี่ยวหลานนั่นก็อย่ากลับมาทำให้ขายขี้หน้าคนเขาดีกว่า อยู่กับตระกูลหลิวต่อไปย่อมดีที่สุด
หวังว่าสะใภ้ทั้งสองคนจะสามารถสัมผัสถึงความตั้งใจของเธอได้และทำเรื่องนี้ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
แต่ว่าจนถึงเวลาก่อนจะนอนแม่เฒ่าเซี่ยก็ยังคงอดไม่ได้ที่จะกระวนกระวายใจ
คนตระกูลเซี่ยอยู่ด้วยกันในบ้านหลังเดียวกัน ตอนกลางคืนจะกระซิบยังต้องพยายามข่มเสียงให้เบา ความคิดของหวังจินกุ้ยและหญิงชราเซี่ยนั้นเหมือนกัน หลิวเฟินกลับมาได้ แต่เซี่ยเสี่ยวหลานห้ามกลับมาเด็ดขาด
คุณอย่าเห็นแค่ว่าวันนี้พี่สะใภ้ใหญ่ทำตัวดีแบบนั้นเชียว ทำเป็นอิดออด จื่ออวี้หาคนอย่างหวังเจี้ยนหัวได้ หงเซี๋ยของฉันไม่ดีตรงไหนกัน? แค่ไม่ได้เรียนต่อมหาวิทยาลัยแค่นั้นหรือ? เด็กผู้หญิงอ่านออกเขียนได้ก็ถือว่าดีมากแล้ว กว่าจะเรียนมหาวิทยาลัยจบก็เป็นสาวทึนทึกกันพอดี…
หวังจินกุ้ยบ่นอุบอิบไปเรื่อยเปื่อย เซี่ยหงปิงง่วงนอนแทบทนไม่ไหว จึงตอบกลับอย่างรำคาญ
หงเซี๋ยไม่ใช่พวกเรียนหนังสือเก่งแบบนั้น พรุ่งนี้เธอไปบ้านหลิว อย่าสนใจแต่ทำตัวให้เรื่องมันยิ่งเลวร้ายเลย เด็กแสบนั่นก็บ้าคลั่งได้เหมือนกัน กลับมาแล้วกักเธอเอาไว้ให้ดีค่อยหาบ้านสามีให้ออกเรือนไปไกลๆ เดี๋ยวพวกคำนินทาก็เบาลงเอง!
แม้หวังจินกุ้ยจะตกปากรับคำไป แต่อันที่จริงความคิดยังคงไม่ได้เปลี่ยน
ว่าไปแล้วช่างน่าขัน จางชุ่ยกับเซี่ยฉางเจิงสองสามีภรรยาเองก็กำลังคุยด้วยเรื่องเดียวกัน ทว่าพวกเขามีความเห็นที่แตกต่าง ครอบครัวลูกคนโตอยากพาเซี่ยเสี่ยวหลานกลับบ้าน
ดั่งที่เซี่ยหงปิงว่า กักตัวเซี่ยเสี่ยวหลานไว้ก่อนค่อยหาบ้านแม่สามีที่ระดับพอๆ กันให้เธอ—อย่างไรเสียกิตติศัพท์ของเธอนั้นป่นปี้หมดแล้ว พวกชายโสดแก่หรือพ่อม่ายล้วนได้ทั้งสิ้น จริงๆ แล้วจางเสเพลที่ทำลายชื่อเสียงของเธอก็ไม่เลว หากไม่ได้เป็นอะไรกับจางเสเพลถึงจะผิดในข้อหาการมีความสัมพันธ์ชู้สาวมั่วซั่ว แต่หากให้ทั้งสองคนแต่งงานกัน เรื่องมิใช่กลับกลายเป็นว่าถูกทำนองคลองธรรมแล้วหรือ?
จางชุ่ยยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าเหมาะสม
พวกเราก็ไม่ใช่ว่าจะกักตัวเธอไว้ได้ทั้งชาติ ผู้หญิงน่ะ ออกเรือนมีลูกก็ตั้งหลักในชนบทอยู่ดีนี่แหละ
เซี่ยจื่ออวี้ไม่อยากเห็นเซี่ยเสี่ยวหลานจากหมู่บ้านต้าเหอไป จางชุ่ยคิดว่ายกเซี่ยเสี่ยวหลานให้แต่งงานกับพวกชายโสดอายุมากและพ่อม่ายก็ย่อมได้ทั้งนั้น หรือแม้แต่คนอย่างจางเสเพลก็ย่อมเป็นการแก้ไขปัญหานี้ได้เหมือนกัน
ขอแค่ทำให้เธอกลับบ้านได้ จางชุ่ยก็มีความมั่นใจในการทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ
ตระกูลเซี่ยจะได้รับค่าสินสอดจำนวนหนึ่ง เซี่ยเสี่ยวหลานไร้น้ำยาก่อเรื่องอีก ใครใช้ให้เธอไม่รู้จักที่เหมาะที่ควร จะแย่งคู่หมายของจื่ออวี้กัน!
เซี่ยฉางเจิงคิดว่ามีเหตุผลอยู่ทีเดียว สองสามีภรรยาจึงไม่มีความเห็นต่างในเรื่องนี้ ดึกดื่นเงียบงัน พวกเขาก็พูดถึงเรื่องอื่นอีก เป็นเพราะเซี่ยจื่ออวี้สอบติดมหาวิทยาลัยเข้าปักกิ่งไป จางชุ่ยย่อมไม่สามารถใช้ข้ออ้างในการดูแลชีวิตประจำวันของเธออาศัยที่ตัวเมืองได้อีกแล้ว… เซี่ยฉางเจิงกังวลเกี่ยวกับธุรกิจที่นั่นของตนไม่น้อย
ให้น้องชายเธอกับน้องสะใภ้ดูแลร้านคงไม่เกิดปัญหาหรอกนะ?
จะเกิดปัญหาอะไรได้ อาและอาสะใภ้ของจื่ออวี้ช่วยเหลือด้วยความมีน้ำใจ ถ้าไม่มีร้านนี้ อีกหน่อยสินเจ้าสาวของลูกสาวและสินสอดสู่ขอภรรยาของลูกชายคุณจะเอามาจากไหนกัน?
เซี่ยฉางเจิงครุ่นคิด อาของจื่ออวี้นั่นเป็นคนดูแลที่ถอนขนห่านป่า [1] ทุกวันมีเงินผ่านมือ หากแอบเก็บเงินเล็กน้อยตามใจชอบก็เป็นความเสียหายของครอบครัวเขา ร้านเปิดตามการแนะนำของลูกสาวเขาจื่ออวี้ จากแผงลอยเล็กๆ ขยายจนมาเช่าหน้าร้านได้ นับวันยิ่งดำเนินกิจการไปได้ดี ธุรกิจเจริญรุ่งเรือง เซี่ยฉางเจิงจึงไม่อาจวางใจได้แม้แต่ครู่เดียว
เธอดูแลเองดีกว่า จัดการเรื่องเด็กคนนั้นเสร็จ พวกเราก็อธิบายให้คนในบ้านรู้เรื่องอย่างชัดเจนเสีย บอกว่าเป็นร้านที่บ้านแม่เธอเปิดไว้ เธอไปช่วยเหลือที่ร้าน หาเงินค่าใช่จ่ายเล็กน้อยให้จื่ออวี้
ไม่ต้องอยู่ขุดดินหาอาหารในชนบท จางชุ่ยจึงตั้งตารอคอยที่จะไปอาศัยอยู่ในตัวเมืองนานๆ
คุณก็ไปด้วยกันสิ ที่ร้านขาดคน ถ้าคุณไปเมื่อไรก็ให้จื่ออวี้กลับไปพักผ่อน ฉันกับคุณอยู่ที่ร้านสองคนยังดูแลแผงกันมาได้เลย
เดี๋ยวฉันค่อยคิดอีกที รีบนอนเถอะ พรุ่งนี้ยังต้องไปหมู่บ้านชีจิ่งอีก
ฟ้ายังไม่สาง เซี่ยต้าจวินก็ตื่นแล้ว
หวังจินกุ้ยหาวหวอด จางชุ่ยท่าทางดูสดชื่น เซี่ยต้าจวินถือว่าไปเยี่ยมเยียนบ้านภรรยา หนึ่งปีจะได้ไปสักหนึ่งหน อีกทั้งไปเพื่อรับตัวหลิวเฟินและลูกสาว ไม่อาจมือเปล่าไปเยือนได้ แต่เซี่ยต้าจวินยากจนเสียขนาดในกระเป๋ายังสะอาดกว่าใบหน้า แม่เฒ่าเซี่ยจึงทำได้เพียงซื้อของขวัญให้นิดหน่อย ของขวัญอะไรน่ะหรือ? ก็คือพวกน้ำตาลทรายและบะหมี่แห้งที่หลิวหย่งซื้อมาคราวก่อนนั่นเอง บะหมี่แห้งกินไปแล้ว น้ำตาลทรายยังไม่ได้แตะ ก็เลยให้เซี่ยต้าจวินนำไปเป็นของขวัญ
ยุคนี้การส่งของขวัญให้คนสนิทล้วนเป็นสิ่งของแบบเดียวกัน เธอส่งให้ฉัน ฉันส่งให้เธอ ที่จริงแล้วเป็นของไม่กี่อย่างส่งเวียนกันไปมา ทุกคนเคยชินกันหมด ทว่าส่งของสภาพเดิมของคนอื่นกลับไปให้เจ้าของนี่ช่างไม่ใส่ใจกันเกินไปแล้ว
ของที่ส่งมาให้ยังต้องหักเอาไว้ ไม่ใช่แค่ไม่ใส่ใจเท่านั้น แต่ตระหนี่เข้ากระดูกโดยแท้จริง
แม่เฒ่าเซี่ยก็เป็นคนตระหนี่เช่นนี้ เซี่ยต้าจวินมิได้รู้สึกแปลกประหลาด
ทั้งสามคนหิ้วถุงน้ำตาลทรายนั่น กินมันเทศนึ่งไปสองหัว ฟ้ายังไม่สว่างก็ออกเดินทางไปยังหมู่บ้านชีจิ่ง พวกหลิวหย่งเดินทางกัน 3 ชั่วโมง เซี่ยต้าจวินพาสตรีสองนางตั้งหน้าตั้งตาเดินทาง เมื่อถึงหมู่บ้านชีจิ่งพบว่ายังไม่แปดโมงดี เหมาะเจาะกับเซี่ยเสี่ยวหลานกำลังจะออกจากบ้าน เธอได้รับซื้อปลาไหลบางส่วนกลับมาและกำลังจะไปที่อื่นต่อ ผลปรากฏว่าเมื่อเปิดประตูไปกลับได้พบเซี่ยต้าจวินที่พาจางชุ่ยและหวังจินกุ้ยมายืนอยู่ด้านนอก สีหน้าของเซี่ยเสี่ยวหลานเย็นชาลงในบัดดล
เสี่ยวหลาน ลูกกินอีกสักหน่อยสิ เดี๋ยวหิวระหว่างทาง…
หาเงินทองนั้นสำคัญ แต่ไม่ควรอาศัยว่าอายุน้อยแล้วจะละเลยการดูแลร่างกายได้ หลิวเฟินถือโถกระเบื้องเคลือบตามออกมา ภายในนั้นใส่เกี๊ยวเอาไว้ เพื่อป้องกันเซี่ยเสี่ยวหลานท้องหิวระหว่างทาง พอเธอเห็นพวกเซี่ยต้าจวินสามคนคำพูดก็สะดุดในทันที มือไม้ไม่ฟังคำสั่ง ที่สุดแล้วจึงยืนตะลึงงันอยู่ ณ ตรงนั้น
เซี่ยเสี่ยวหลานถอนหายใจ ต่อให้อบรมทฤษฎีมาเต็มที่เพียงใด ปฏิบัติจริงก็ยังถือว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่งแล้ว
โอ๊ะ พี่สะใภ้รอง นี่พี่หัวทึบขนาดนี้เลยหรือ? พวกเราเดินทางมาไกลเช่นนี้ เมื่อยเท้าปวดขาไปหมด พี่ยังไม่ให้พวกเราเข้าบ้านพวกพี่ไปอีก?
หวังจินกุ้ยสอดส่องโถกระเบื้องเคลือบในมือหลิวเฟิน ปากก็อดพ่นน้ำลายออกมาไม่ได้ กลิ่นที่ได้รับคือไส้หมูต้นหอม ไม่ใช่ช่วงเทศกาลแต่บ้านหลิวยังกินดีอยู่ดีขนาดนี้ ไม่แปลกใจที่เซี่ยเสี่ยวหลานและมารดาจะอยู่บ้านหลิวแล้วไม่อยากกลับไป
หลิวหย่งคงร่ำรวยแล้วจริงๆ ซื้อจักรยานคันใหม่ ครอบครัวสามารถกินเกี๊ยวไส้เนื้อสัตว์ได้
หวังจินกุ้ยเลียริมฝีปาก มันเทศที่กินตอนก่อนออกเดินทางจะไปพอยาไส้ได้อย่างไร เธอได้กลิ่นหอมของเกี๊ยวเข้าท้องก็หิวขึ้นมา
พี่สะใภ้รอง พี่ทำเกี๊ยวนี่นา พวกเรายังไม่ได้กินข้าวพอดี!
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ต้องการให้คนตระกูลเซี่ยเอาเปรียบอะไรอีกแม้แต่นิดเดียว หลี่เฟิ่งเหมยอยู่ในบ้านได้ยินเสียงผิดปกติเข้า เมื่อออกมาก็เห็นคนบ้านเซี่ยสามคนขวางประตูเอาไว้
โอ้ ตรงหน้าฉันนี่ใครกันนะ เช้าขนาดนี้ก็มายืนขวางประตูบ้านคนอื่น พวกคุณอยากมีเรื่องหรือ? บอกไว้เลยนะ บ้านหลิวคนไม่เยอะ แต่ที่นี่ไม่ใช่หมู่บ้านต้าเหอของพวกคุณ บ้านหลิวไม่มีทางปล่อยให้พวกคุณรังแกอยู่ฝ่ายเดียวแน่!
หลี่เฟิ่งเหมยยืนเท้าเอวประกาศศักดา ยืนกรานไม่ยอมให้คนตระกูลเซี่ยทั้งสามเข้าบ้าน
เซี่ยเสี่ยวหลานนำจักรยานไปจอดให้เรียบร้อย ต้องรีบส่งคนตระกูลเซี่ยสามคนนี้กลับไปเสียที เธอยังต้องออกไปรับซื้อปลาไหลอีกนะ อย่างอื่นไม่ขอพูดถึง หูหย่งไฉจากบ้านพักรับรองคณะกรรมการประจำเมืองสั่งปลาไหลไว้ถึง 20 ชั่ง เซี่ยเสี่ยวหลานจึงไม่อาจปล่อยเขาให้รอเก้อได้
ป้า ให้พวกเขาเข้าไปคุยข้างในเถอะจ่ะ ป้าช่วยเรียกลุงฉันมาด้วยนะ ถ้าวันนี้ไม่คุยกันให้ชัดเจน อีกหน่อยก็มีเรื่องวุ่นวายอีก
ในชนบทไม่ค่อยพบคนนอนตื่นสาย อย่าคิดว่าตอนนี้แค่แปดโมงเช้าแล้วจะไม่มีคน ตอนนี้หน้าบ้านมีคนจำนวนไม่น้อยเห็นว่าพวกเซี่ยต้าจวินทั้งสามคนยืนขวางประตูอยู่ แต่เซี่ยเสี่ยวหลานคิดว่าไม่เห็นเป็นอะไร เธอไม่รู้สึกขายหน้าแม้แต่น้อย ทว่ามารดาของเธออาจอึดอัด เซี่ยเสี่ยวหลานค่อนข้างใส่ใจความรู้สึกของหลิวเฟิน
จางชุ่ยเดินตามอยู่ด้านหลังสุดพลางแอบพิจารณาเซี่ยเสี่ยวหลาน หลานสาวผู้นี้ยังคงหน้าตาไม่สง่างามแบบนั้น ทว่าท่าทางสงบและสำรวมทำให้เธอกลายเป็นคนที่ดูเอื้อเฟื้อใจกว้าง
หลังจากวิ่งเอาหัวชนเสาแต่ดันไม่ตาย เซี่ยเสี่ยวหลานราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
จะปล่อยให้เซี่ยเสี่ยวหลานอยู่ข้างนอกอีกต่อไปไม่ได้ มิเช่นนั้นตระกูลเซี่ยจะไม่มีคนคอยควบคุมเธอไว้ ในใจของจางชุ่ยลุกลี้ลุกลนอยู่ไม่น้อย
เชิงอรรถ
[1] 雁过拔毛 ถอนขนห่านป่าที่ผ่านมา หมายถึง พยายามหาผลประโยชน์ในทุกโอกาสจากธุระที่จัดการ