เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 - เล่มที่ 2 ตอนที่ 48 ทัศนคติตอนสอบพอใช้ได้
- Home
- เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80
- เล่มที่ 2 ตอนที่ 48 ทัศนคติตอนสอบพอใช้ได้
ครูซุน
ห้องพักครูมีคนเดินไปเดินมา จะเรียกว่าห้องสอบได้อย่างไร?
เฉินชิ่งอยากพยายามคุยกับอาจารย์ซุนให้เธอสักหน่อย แต่เซี่ยเสี่ยวหลานห้ามเขาไว้ เธอกลับไปเข้าเรียนเถอะ ฉันอยู่นี่ทำข้อสอบไปเรื่อยๆ ถ้าเสร็จเร็วหน่อยอาจจะไปกินข้าวที่โรงอาหารทัน
อาจารย์ซุนเมียงมองเซี่ยเสี่ยวหลาน
ตอนนี้เป็นเวลาเก้าโมงเช้า โรงอาหารของเซี่ยนอีจงเปิดเร็วที่สุดคือตอนเที่ยง เมื่อถึงเวลาบ่ายโมงก็ปิดแล้ว
เวลามากสุด 4 ชั่วโมง เซี่ยเสี่ยวหลานจะทำสำเร็จได้กี่วิชากัน?
ระหว่างสอบห้ามออกไปข้างนอก ข้อสอบทั้งหมดวางไว้บนโต๊ะแล้ว
อาจารย์ซุนเกรงว่าเซี่ยเสี่ยวหลานจะจำคำถามไว้แล้วออกไปถามคำตอบ เซี่ยเสี่ยวหลานไม่สนใจ ดูท่าทางอาหารกลางวันคงไม่ได้กินแล้ว ต่อให้เธอเก่งกาจแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำข้อสอบ 7 วิชาให้เสร็จได้ภายในเวลาแค่ 4 ชั่วโมง
ถ้าอย่างนั้นตอนกลางวันฉันเอาข้าวมาให้เธอเอง ส่งเข้ามาให้เธอจากทางหน้าต่าง
เฉินชิ่งไม่อยากให้เสี่ยวหลานปฏิเสธ พูดจบก็รีบวิ่งออกไปเลย
ครูซุนคะ รบกวนครูแล้ว
อาจารย์ซุนจะต้อง ‘คุมการสอบ’ ตั้งแต่ต้นจนจบแน่นอน คาดหวังว่าเฉินชิ่งจะนึกนำอาหารสักชุดมาให้อาจารย์ซุนด้วยเช่นกัน คิดถึงการศึกษาระดับมัธยมต้นของเซี่ยเสี่ยวหลานแล้ว เพื่อการสอบเดี่ยวในครั้งนี้ เฉินชิ่งคงใช้ความมุมานะอย่างมากทีเดียว ถึงจะทำให้โรงเรียนยอมให้โอกาสเซี่ยเสี่ยวหลานสักครั้งได้ อาจารย์ซุนถูกส่งมาคุมประพฤติระหว่างสอบให้เซี่ยเสี่ยวหลาน อีกฝ่ายคิดว่าเป็นการเสียเวลา อารมณ์ไม่ค่อยเบิกบานย่อมเป็นเรื่องปกติ
เมื่อได้ยินคำพูดของเซี่ยเสี่ยวหลานแล้ว อาจารย์ซุนค่อยรู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อย
ถ้าระหว่างสอบจะเข้าห้องน้ำก็บอกครูนะ ตรงนั้นมีแก้วน้ำสะอาด ไปรินน้ำดื่มเองได้เลย
เซี่ยเสี่ยวหลานหยักหน้ารับแล้วไปนั่งบนเก้าอี้
บนโต๊ะในห้องพักครูจัดการจนสะอาดเกลี้ยง นอกจากข้อสอบเจ็ดชุดแล้วก็ไม่มีอะไรอีกเลย เซี่ยเสี่ยวหลานเอาปากกาหมึกซึมและหมึกที่นำมาเองออกมา จากนั้นพลิกวิชาภาษาอังกฤษขึ้นมาก่อน
นี่มันช่างง่ายดายเกินไปแล้ว
คำถามแรกคือ ‘จำแนกการออกเสียงคำเดี่ยว’ โดยกำหนดคำเดี่ยวให้สี่คำ หาคำที่ออกเสียงสระแตกต่างจากพวกออกมา
form, word, born, torn
เซี่ยเสี่ยวหลานซาบซึ้งจนเกือบร้องไห้
การที่สวรรค์ส่งเธอกลับมาปี 83 อาจเพราะต้องการให้เธอเป็นผู้ชนะในการใช้ชีวิตจริงๆ หากมาเร็วกว่านี้สักครึ่งปี เธอก็สามารถร่วมสอบเกาเข่าของปี 83 ได้แล้ว จะเกิดเรื่องขี้ปะติ๋วอย่างเซี่ยจื่ออวี้บินขึ้นกิ่งไม้กลายเป็นหงส์และ ‘เซี่ยเสี่ยวหลาน’ กลับต่ำเตี้ยเรี่ยดินกว่าแม่ไก่ได้อย่างไร?
เซี่ยเสี่ยวหลานขีดหนึ่งเส้นใต้คำว่า ‘word’
เซี่ยเสี่ยวหลานใช้เวลา 20 นาทีทำข้อสอบภาษาอังกฤษหนึ่งชุดจนเสร็จ
หลังจากนั้นเธอจึงหยิบข้อสอบคณิตศาสตร์ออกมา
ในห้องพักครูมีคนพลุกพล่าน เซี่ยเสี่ยวหลานก้มหน้าก้มตาทำข้อสอบ เธอโบกสะบัดปากกาด้วยความว่องไว ทำให้อาจารย์ซุนตะลึงอยู่ไม่น้อย ไม่ใช่ว่าจบแค่มัธยมต้นหรอกหรือ? ทำข้อสอบของมัธยมปลายปีสามได้ด้วย? พอดีกับเซี่ยเสี่ยวหลานอยากเข้าห้องน้ำ อาจารย์ซุนจึงลุกขึ้นยืนและเดินไปด้วยกันกับเธอ ก่อนไปเธอนำกระดาษข้อสอบทั้งหมดของเซี่ยเสี่ยวหลานใส่กุญแจในลิ้นชักไว้
เซี่ยเสี่ยวหลานกำลังทำถึงข้อสอบวิชาภาษาจีน เธอเว้นคำถามประเภทท่องไว้จำนวนมาก อาจารย์ซุนส่ายหัวกับตัวเอง ด้วยความสามารถเท่านี้ ยังจะอยากเข้าเรียนที่เซี่ยนอีจงแล้วร่วมสอบเกาเข่าปีหน้าอีกหรือ?
สมัครเรียนมัธยมปลายปีหนึ่งตอนนี้ จากนั้นอีก 3 ปีสอบเข้าได้ก็นำเกียรติยศมาให้วงศ์ตระกูลได้เหมือนๆ กัน
อาจารย์ซุนส่ายหน้าแล้วติดตามเซี่ยเสี่ยวหลานไปเข้าห้องน้ำ แทบไม่มีความคาดหวังใดกับผลการสอบของนักเรียนหญิงคนนี้แล้ว เมื่อถึงเวลาเที่ยงตรง เซี่ยเสี่ยวหลานทำวิชาภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ และภาษาจีนเสร็จรวมสามวิชา ข้อสอบวิชาคณิตศาสตร์มิใช่ง่ายดายเท่าไรนัก เธอไม่อาจแค่มองก็รู้คำตอบได้ มีสูตรและความรู้มากมายที่เธอลืมไปหมดแล้ว จำเป็นต้องใช้พื้นที่ทดเลขจำนวนมากในการคำนวณผลลัพธ์
ถึงแม้ตอนท่องจำของภาษาจีนจะทำได้ไม่ดีนัก แต่เซี่ยเสี่ยวหลานยังทำข้อสอบอ่านได้บ้าง
ข้อสอบเขียนทำเอาเสียเวลาไปสักหน่อย
เสี่ยวซุน ไม่ไปกินข้าวหรือ? ไม่อย่างนั้นให้ฉันช่วยคุมสอบแทนไหม?
อาจารย์ชายคนหนึ่งหัวเราะร่วนเดินเข้ามา ดูใส่ใจอาจารย์ซุนผู้ยังสาวอยู่ไม่น้อย
ครูจ้าว คุณไปกินข้าวเถอะ อีกเดี๋ยวฉันค่อยไป
เซี่ยเสี่ยวหลานตอบคำถามได้ถูกต้องไหมนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ตามที่อาจารย์ซุนเห็น นักเรียนหญิงคนนี้เอาแต่ก้มหน้าขีดเขียนข้อสอบอย่างจริงจัง มารยาทขณะสอบสมควรได้รับการยอมรับ อาจารย์ซุนเตรียมตัวไว้รอเซี่ยเสี่ยวหลานเขียนอีกสักพักค่อยพาเธอไปกินข้าวที่โรงอาหารด้วยกัน เดี๋ยวนี้อาจารย์ไม่ได้มีเงินเดือนอะไรมาก แต่เลี้ยงเซี่ยเสี่ยวหลานด้วยซาลาเปาสองลูกยังพอไหว
จัดเก็บข้อสอบนั้นง่ายมาก แค่ลงกุญแจเอาไว้ อาจารย์ซุนตั้งใจจะนำลูกกุญแจไปด้วย ถือว่าเป็นการ ‘เฝ้าดู’ เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ให้เธอพบปะคนอื่นตลอดการสอบเช่นกัน อยากทุจริตก็ทำไม่ได้
อาจารย์จ้าวยังคงเกลี้ยกล่อม ทว่าอาจารย์ซุนเป็นผู้มีความรับผิดชอบคนหนึ่ง
อาจารย์จ้าวดูจนมุม เซี่ยเสี่ยวหลานตั้งใจจะพูดอะไรบ้าง เฉินชิ่งก็ตะโกนมาจากหน้าต่างพอดี
ครูซุน… อ๋า สวัสดีครับครูจ้าว!
เขาซื้ออาหารจากโรงอาหารมาให้เซี่ยเสี่ยวหลาน จะบอกว่าการอบรมจากครอบครัวของเฉินชิ่งดีก็ได้ เขามีอีคิว [1] ค่อนข้างสูงกว่านักเรียนชายที่อายุไล่เลี่ยกัน ยังจำได้ว่าต้องนำอาหารมาให้อาจารย์ซุนอีกหนึ่งชุดด้วย เซี่ยเสี่ยวหลานยังต้องทำข้อสอบ เกรงว่าจะทำกระดาษเปื้อน เฉินชิ่งจึงซื้อซาลาเปาที่ไม่มีน้ำซุปมาให้
ลำบากครูซุนแล้ว ผมเลยเอามาให้ครูด้วยนิดหน่อยครับ
อาจารย์ซุนยืนยันจะให้ตั๋วอาหารกับเฉินชิ่ง อาจารย์จ้าวกลับแย่งพูด เสี่ยวซุนกินเสียเถอะ ผมได้ยินเรื่องที่เฉินชิ่งแนะนำนักเรียนจบมัธยมต้นมาเข้าเรียนกลางภาคเรียนที่โรงเรียนแล้ว ทางโรงเรียนส่งเรื่องนี้ให้คุณรับผิดชอบ ทำให้ภาระการสอนของคุณในวันนี้ไม่สะดวกใช่ไหม? กินซาลาเปาของเฉินชิ่งแค่สองลูกจะเป็นอะไร!
อาจารย์ซุนไม่ฟังและนำตั๋วอาหารยัดให้เฉินชิ่ง เธอถึงยอมรับซาลาเปาไว้
นักเรียนเซี่ย มากินซาลาเปาแล้วค่อยทำข้อสอบต่อเถอะ
เมื่อได้ยินคำพูดของอาจารย์ซุน เซี่ยเสี่ยวหลานจึงยอมหยุดปลายปากกา เมื่อครู่เธอได้แต่หันหลังให้ประตูของห้องพักครู พอหันมาถึงได้เผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริง อาจารย์จ้าวถึงกับตะลึงงันไปเลยทีเดียว
เขาไม่เคยพบเด็กสาวที่สวยขนาดนี้มาก่อน
อาจารย์จ้าวสูงไม่ถึงต่ำไม่ยอม [2] ทำงานได้หลายปีก็ถูกใจอาจารย์เสี่ยวซุนผู้มาใหม่ อาจารย์เสี่ยวซุนผิวขาว หน้ากลมเล็ก ดวงตาทรงจันทร์เสี้ยว เวลายิ้มมีความอบอุ่นเป็นมิตรยิ่งนัก ต่อให้ทำหน้าตาเฉยเมยยังไม่น่ากลัวเท่าไร อาจารย์จ้าวมั่นใจว่าอาจารย์สาวนั้นขี้อาย ตั้งแต่อาจารย์เสี่ยวซุนได้ย้ายมาที่เซี่ยนอีจง เขาก็ตามตอแยเธอมาตลอด—แต่พออาจารย์เสี่ยวซุนอยู่กับเซี่ยเสี่ยวหลาน ช่างเทียบกันไม่ได้เลยจริงๆ
อาจารย์จ้าวถึงกับหายใจติดขัดเลยทีเดียว
เซี่ยเสี่ยวหลานวางข้อสอบลง จากนั้นจึงวิ่งไปล้างมือ สายตาของอาจารย์จ้าวก็ติดตามไปอย่างแนบแน่น
อาจารย์เสี่ยวซุนกระแอมสองที อาจารย์จ้าวถึงได้สติสตังกลับคืนมา และก็ไม่นัดแนะอาจารย์เสี่ยวซุนออกไปรับประทานอาหารอีก เดินออกจากห้องพักครูไปด้วยท่าทางรีบร้อน
เซี่ยเสี่ยวหลานกินซาลาเปาแล้วทำข้อสอบต่อ เฉินชิ่งกลัวว่าจะส่งผลกระทบต่อการสอบของเธอเลยไม่อยู่ในห้องพักครูนาน เขาเห็นท่าทางของเซี่ยเสี่ยวหลานสงบเงียบ ราวกับการสอบครั้งนี้ไม่ได้มีความกดดันต่อเธอสักเท่าไร… หรือข้อสอบมันง่ายมากหรือ?
เฉินชิ่งพาความสงสัยเดินจากไปด้วยกัน
เซี่ยเสี่ยวหลานทำข้อสอบทั้งหมดเสร็จสิ้นในเวลาบ่ายสองโมง จากนั้นก็ส่งให้อาจารย์ซุน
ครูซุน หนูจะรู้ผลสอบเมื่อไรหรือคะ?
อาจารย์ซุนเพียงแต่คิด กระดาษคำตอบเธอเว้นว่างไว้ขนาดนั้น ผ่านการสอบครั้งนี้ได้ย่อมประหลาดแล้ว ตอนนี้วิชาภาษาจีนเป็นวิชาที่นักเรียนทำคะแนนได้ง่ายที่สุด ทว่าทัศนคติของเซี่ยเสี่ยวหลานขณะทำข้อสอบช่างเที่ยงตรงเหมาะสมนัก ระหว่างการสอบไม่มีลูกเล่นเล่ห์กลอะไรเลย อาจารย์ซุนจึงไม่ชังเธอ
เธอทิ้งที่อยู่บ้านเธอเอาไว้ ไม่ใช่ว่าเฉินชิ่งรู้จักเธอหรือ? ผ่านแล้วจะวานให้เฉินชิ่งไปบอกเธอเอง
มิเช่นนั้นจะให้ทำอย่างไรได้?
ปี 83 ของหมู่บ้านชีจิ่ง ขนาดบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านยังหาโทรศัพท์ตั้งโต๊ะสักเครื่องไม่ได้ด้วยซ้ำ
เซี่ยเสี่ยวหลานพยักหน้า รบกวนครูแล้ว ลาก่อนค่ะครูซุน
เธออยากบอกกับเฉินชิ่งเสียหน่อย แต่ชั้นเรียนของเฉินชิ่งกำลังจัดการทดสอบอยู่ เซี่ยเสี่ยวหลานจึงโบกมือให้เฉินชิ่งจากระยะไกลและกลับบ้านไป
อย่างไรเสียถ้าเธอผ่านการสอบเข้าเซี่ยนอีจง โอกาสขอบคุณเฉินชิ่งก็ยังมีอีกมากมายนี่นะ
เชิงอรรถ
[1] 情商 อีคิว คือ ความฉลาดทางอารมณ์
[2] 高不成低不就 สูงไม่ถึงต่ำไม่ยอม หมายถึง คนที่ไม่มีความสามารถถึงขั้นได้มาในสิ่งที่เกินความสามารถตนเอง ทว่าพอมีสิ่งที่ทำได้หรือได้มาโดยไม่ต้องพยายามหนัก กลับรู้สึกว่าต่ำต้อยเกินไปและไม่ยอมรับ มักใช้กับอาชีพการงานและการหาคู่แต่งงาน