เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 - เล่มที่ 2 ตอนที่ 52 คุณน้า ฉันจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย
- Home
- เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80
- เล่มที่ 2 ตอนที่ 52 คุณน้า ฉันจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย
หน้าอกอวบนูนเต่งตึง เอวบางเพียงคว้าแรงหน่อยก็คงหัก ใบหน้าเล็กผิวขาวผ่อง ดวงตาสวยสะกดใจ
แรงโจมตีที่เซี่ยเสี่ยวหลานมอบแด่มารดาจูฟ่างช่างหนักหนานัก มารดาจูฟ่างถึงกับเปิดสัญญาณเตือนภัยระดับสูงสุดแล้ว! รูปลักษณ์น่ารำคาญและเรียกร้องความสนใจได้มากที่สุดในสายตาของสตรี มักจะเป็นประเภทที่บุรุษนิยมชมชอบมากที่สุด เป็นหน้าตาที่ผู้ใหญ่ไม่ถูกใจ แต่จูฟ่างโปรดปรานเหลือเกิน เมื่อเจอเซี่ยเสี่ยวหลาน นัยน์ตาของจูฟ่างก็เปล่งประกาย มารดาเขากลับรู้สึกว่าโลกสวรรค์ช่างมืดมนไปเสียหมด
เสี่ยวหลาน วันนี้เธอมาสาย ไม่ได้เกิดเรื่องระหว่างทางสินะ?
ขอโทษค่ะ ทำให้คุณรอนานเลย วันนี้ฉันนำสินค้ามาเยอะไปหน่อย จึงเสียเวลาไปบ้าง
เซี่ยเสี่ยวหลานยิ้มแย้มเจือความรู้สึกผิด
เธอเคยทักทายกับจูฟ่างหลายต่อหลายครั้ง นอกจากครั้งแรกที่หูหย่งไฉนำมา ที่เหลือก็ไม่มีคนอื่นอยู่ด้วย ไม่คาดคิดว่าจะได้พบหญิงวัยกลางคนผู้มีภูมิฐานพอสมควร เซี่ยเสี่ยวหลานยังนึกว่าเป็นคนของภัตตาคารหวงเหอด้วยซ้ำ จูฟ่างกลับบอกว่านี่คือมารดาของเขา
สวัสดีค่ะคุณน้า ฉันส่งของเสร็จเดี๋ยวก็ไปแล้วค่ะ
เซี่ยเสี่ยวหลานจะรู้ความคิดมารดาของจูฟ่างได้ที่ไหน และก็ไม่รับรู้ว่าคนเขาตั้งใจรอเธอโดยเฉพาะอยู่หลายชั่วโมง เธอยังรู้สึกว่าตนเองรบกวนจูฟ่างและมารดาแล้วด้วยซ้ำ
เสี่ยวหลานสินะ เธอรอก่อน น้ามีบางอย่างอยากจะคุยกับเธอเสียหน่อย
มารดาจูฟ่างผ่อนน้ำเสียงให้อ่อนลง ใบหน้าก็เค้นรอยยิ้มออกมา
ห้ามโกรธเด็ดขาด ยิ่งแข็งกระด้างจูฟ่างจะยิ่งไม่เชื่อฟัง เซี่ยเสี่ยวหลานคนนี้สวยกว่าที่ตนเองคาดไว้เสียอีก ทำเอาจูฟ่างหลงใหลได้ขนาดนี้
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่รู้ว่ามีอะไรต้องพูดกับมารดาของจูฟ่างอีก
ทว่าในเมื่อคนเขาเรียกเธอไว้ เซี่ยเสี่ยวหลานจึงทำได้เพียงตั้งใจรับฟังด้วยความเคารพ
ดูลูกสิ ทำไมไม่เรียกคนมาเอาปลาไหลที่เสี่ยวหลานนำมาเข้าไปข้างในเล่า?
มารดาของจูฟ่างตั้งใจกันลูกชายออกไป จูฟ่างเองรู้สึกเหนียมอายไม่น้อย แม้ว่าเขาจะมั่นใจในคุณสมบัติของตนเองมาก และคิดว่าเซี่ยเสี่ยวหลานก็ไม่รังเกียจเขา ทว่าทางบ้านจะจัดหางานให้แก่เซี่ยเสี่ยวหลาน เช่นนั้นถือเป็นการเผยเจตนาให้ชัดเจนแล้ว… จูฟ่างกระแอมเบาๆ
แม่… แม่คุยกับเสี่ยวหลานดีๆ นะ อย่าทำเสี่ยวหลานกลัว
จูฟ่างวิ่งไปแล้ว เซี่ยเสี่ยวหลานหวั่นเกรงอยู่ในใจ
มารดาจูฟ่างรอจนลูกชายหายไปลับตา จากนั้นจึงกล่าววาจาที่มีนัยยะค่อนข้างลึกซึ้ง
เสี่ยวหลานสินะ อยู่ที่บ้านจูฟ่างพูดถึงเธอหลายครั้งหลายหน บอกว่าเธอเป็นหญิงสาวตัวคนเดียวขายปลาไหลเลยลำบากไม่น้อย ฉันเองก็เข้าใจเธอ ยังนับถือเธอเสียด้วยซ้ำ ใครจะไม่คาดหวังชีวิตที่ดีกว่ากันเล่า? แต่ชีวิตที่ดีนี่ต้องฝ่าฝันด้วยตนเอง ต่อสู้ด้วยตนเอง สตรีค้ำแผ่นฟ้าไว้ครึ่งหนึ่ง ไม่อาจฝากความหวังทั้งหมดไว้กับการแต่งงานได้… น้าชอบเธอมากนะ ทว่าตั้งแต่โบราณกาลจนตอนนี้ การแต่งงานเป็นการให้ความสำคัญกับฐานะและสังคมที่เหมาะสมคู่ควรกัน น้าไม่เห็นด้วยกับเรื่องของเธอและจูฟ่าง เจ้าลูกชายจูฟ่างคนนี้จริงใจเอื้อเฟื้อ บอกว่าทนเห็นเธอทำธุรกิจส่วนตัวไร้ความมั่นคงอย่างยากเย็นแสนเข็ญไม่ได้ น้าพอหาเส้นสายให้เธอได้ จัดการเรื่องงานให้เธอได้ มหาวิทยาลัยไม่ได้สอบเข้าง่ายขนาดนั้น จูฟ่างบอกว่าสถานะทางบ้านของเธอไม่ดี ใช้ชีวิตอย่าหวังสูงทั้งที่ความสามารถน้อยเลย อยู่กับความจริงทำงานเสียไม่ดีกว่าหรือ?
ปีศาจสาวพราวเสน่ห์ท่าทางมากชู้หลายชายเช่นนี้ มารดาจูฟ่างคงต้องบ้าไปแล้วถึงจะสู่ขอกลับบ้านแทนลูกชายเธอ
ตระกูลจูพอมีอิทธิพล เรื่องหางานย่อมทำให้ได้ แต่เซี่ยเสี่ยวหลานเป็นทะเบียนบ้านชนบท นอกจากหน้าตาสะสวยแล้วก็ไม่มีอะไรดี อาศัยหน้าตานั่นฝืนยัดเข้าเป็นบริกรภัตตาคารได้ แต่แน่นอนว่าต้องไม่ใช่ภัตตาคารหวงเหอ
มารดาจูฟ่างคิดคำนวณทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว การกระทำของเธอเหมือนกับ ‘แม่สามีใจโหด’ ผู้ดูแคลนฝ่ายหญิงในละครไอดอล [1] ของอนาคต ทว่าแม่สามีใจโฉดในละครไอดอลมักร่ำรวยและจองหอง โดยปกติแล้วจะเป็น ‘เธอต้องการเงินเท่าไรถึงจะยอมปล่อยลูกชายฉันไป’ จากนั้นโยนเช็คเงินสดจำนวนหนึ่งล้านให้หนึ่งใบ เหยียดหยามนางเอกสักหนึ่งยก แล้วจากไปด้วยความหยิ่งยโส
วันนี้มารดาของจูฟ่างแสดงเป็นแม่สามีใจโฉดฉบับงบน้อย
ช่วยไม่ได้ ต่อให้เป็นตระกูลสูงศักดิ์ที่แท้จริง ปัจจุบันนี้ก็ไม่มีใครสามารถโยนเงินหนึ่งล้านหยวนออกมาเพื่อให้หญิงสาวสักคนคิดลาจากลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตนเองได้อยู่ดี
รายได้ต่อหัวไม่กี่สิบหยวน ครอบครัวมีเงินหมื่นก็ถือเป็นคนรวยแล้ว ใครจะเคยพบว่าคนมีเงินล้านหยวนมีชีวิตเป็นอย่างไรบ้าง?!
มารดาจูฟ่างคิดว่าเซี่ยเสี่ยวหลานถูกตนเจาะทะลวงแผนการในใจเข้า จะหวั่นเกรงไร้หนทางหรืออับอายขุ่นเคือง หรือแม้แต่อาจแสดงอาการละโมบไม่ก็ชิงชังออกมาได้ ทว่าสีหน้าของเซี่ยเสี่ยวหลานนั้นไม่อยู่ในความคาดหมายของมารดาจูฟ่าง
เซี่ยเสี่ยวหลานทำราวกับไม่ได้ยิน
ยังดีที่ประธานเซี่ยมีความรู้และประสบการณ์มาก สามารถใช้ชีวิตท่ามกลางเรื่องราวพึลึกกึกกือในช่วงแรกของชีวิตได้ เธอจึงสุขุมยิ่งนัก
เธอรู้ว่าจูฟ่างคงชอบเธอเข้าเสียแล้ว แต่เธอไม่ได้ชอบจูฟ่าง… หากคิดว่าโจวเฉิงบ้าบิ่นมากพอ แต่อย่างน้อยโจวเฉิงยังบอกความในใจของตนเองออกมาอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง จูฟ่างไม่เคยเผยความรู้สึกที่แท้จริงต่อเซี่ยเสี่ยวหลานด้วยซ้ำ อยู่ดีไม่ว่าดีก็เชิญมารดามาสนทนากับเธอ ทั้งตั้งรับและโจมตีในคราเดียว หากเปลี่ยนตัวเป็น ‘เซี่ยเสี่ยวหลาน’ ผู้หยิ่งทะนงคนเดิม ไม่แน่ว่าอาจต้องพุ่งชนผนังอีกสักหนึ่งรอบ
เซี่ยเสี่ยวหลานแค่รู้สึกว่าเรื่องนี้ช่างน่าขันนัก
อย่างไรเสียชาติก่อนเธอเจอคนประเภทน่ารำคาญถึงขีดสุดมามาก ปัญหาเรื่องจูฟ่างไม่หนักหนา มารดาจูฟ่างเองก็เพียงทึกทักว่าตนสูงส่งกว่าเพียงเท่านั้น
สิ่งเหล่านี้ล้วนไม่ใช่ปัญหาใหญ่
เซี่ยเสี่ยวหลานคิดว่าตนเองควรอธิบายให้เข้าใจกันเสียหน่อย เธอเห็นแก่การส่งปลาไหล 50 ชั่งมายังภัตตาคารหวงเหอทุกสองวัน และไม่สามารถยอมรับข้อกล่าวหาที่ไม่ยุติธรรมได้
คุณน้าคะ ฉันคิดว่าคุณเข้าใจผิด ฉันยังไม่เคยคิดเรื่องหาคู่หมาย สำหรับธุรกิจส่งปลาไหลนี้ ถึงเดือนพฤศจิกายนฉันก็ไม่ทำแล้วค่ะ
มารดาของจูฟ่างไม่เชื่อ
เธอคิดว่าปีศาจสาวเซี่ยเสี่ยวหลานผู้นี้กำลังปล่อยเหยื่อให้ตายใจ
ถ้าอย่างนั้นก็ถือว่าน้าเข้าใจผิดไป แต่เรื่องงานน่ะ เสี่ยวหลานไม่คิดลองฟังน้าหน่อยหรือ?
ส่งปลาไหลถึงเดือนพฤศจิกายน หากปล่อยให้พวกเธอทำความรู้จักกันต่อไป มิใช่ว่าจะยิ่งทำให้จูฟ่างยิ่งหลงจนไม่ใช่เธอก็ไม่ยอมแต่งงานหรือ? มารดาจูฟ่างอยากจะจัดหางานให้เซี่ยเสี่ยวหลานไปอยู่ในที่ห่างไกล เป็นบริกรดูเหมือนจะไม่เหมาะเท่าไร ต้องหางานที่หนักหนาสาหัส เอาให้นางมารร้ายเหนื่อยจนแทบตายเลยทีเดียว เธอจะได้ไม่มีกะจิตกะใจมายั่วยวนลูกชายของตนอีก!
มารดาของจูฟ่างวางตัวเองไว้สูงส่ง กำลังรอเซี่ยเสี่ยวหลานอ้อนวอนตนเอง
เซี่ยเสี่ยวหลานได้แต่คิด ท่องในใจย้ำๆ ว่า ฉันใจกว้าง ไม่ต่อล้อต่อเถียงกับผู้อื่น
เตรียมพร้อมจิตใจให้กับตนเองไปพลาง ในขณะเดียวกันน้ำเสียงที่เปล่งออกมาก็ไม่ค่อยพอใจนัก แต่ไหนแต่ไรประธานเซี่ยนั้นไม่ใช่คนรองรับอารมณ์ผู้น่าสมเพชอยู่แล้ว
คุณน้า ขอบคุณในความหวังดีของคุณนะคะ แต่ฉันไม่เคยคิดจะหางาน หนึ่งเดือนได้ไม่กี่สิบหยวนมันไร้ประโยชน์… ดูฉันพูดเข้าสิ ฉันไม่ได้รังเกียจว่างานที่คุณน้าหาให้จะไม่ดี แต่ฉันวางแผนจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยน่ะค่ะ
ธุรกิจขายปลาไหลเก็งกำไร เซี่ยเสี่ยวหลานทำถึงเดือนพฤศจิกายนเท่านั้น
เธอใส่ใจกับปริมาณรับซื้อของภัตตาคารหวงเหอไม่น้อย ทว่าหากมีคนคิดจะใช้จุดนี้บีบท่อน้ำเลี้ยงชีวิตของเธอ เซี่ยเสี่ยวหลานก็ไม่ยำเกรง
เมืองซางตูไม่มีภัตตาคารอื่นหรือ?
จัดการสินค้าในคลังที่บ้านจนเกลี้ยงได้อย่างมหัศจรรย์ ในมือเธอก็ยังมีเงินอีกหลายร้อยหยวน ไปทำธุรกิจอื่นย่อมดีกว่า
หวังมั่งคั่งเติบโตจากการยากจนข้นแค้นนั้นไม่ง่ายเอาเสียเลย ทว่าตอนนี้เซี่ยเสี่ยวหลานมีเงินทุนสำหรับเริ่มต้นธุรกิจ ไม่กลัวที่จะเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้นแล้ว
มารดาจูฟ่างถูกเซี่ยเสี่ยวหลานต้อนด้วยคำพูดที่ทั้งไม่อ่อนแอและไม่แข็งกระด้าง ทำเอาอึดอัดเพราะไม่ได้หายใจหายคออยู่นาน
หงุดหงิดอยู่ในอก ข่มเสียจนทรมาน
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ใช่พวกยอมกลืนการเหยียดหยามและความอัปยศลงท้อง วาจาของเธอไร้คำหยาบคาย แต่เธอไม่เคยไว้หน้าให้คนที่ดูถูกเธอข้ามคืนแน่ มีความแค้นก็ต้องสนองทันทีทันใด มารดาจูฟ่างอยากก่นด่าเธอว่าหน้าไม่อาย แต่จะเอาอะไรมาด่าได้? คงไม่อาจเพียงเพื่อพิสูจน์ว่าตนสุดยอดจึงยอมหางานที่ดีสักงานให้เซี่ยเสี่ยวหลานจริงๆ หรอกนะ?
ไม่รู้ว่ามารดาจูฟ่างจะหาได้จริงหรือไม่ แต่ต่อให้หาได้ เธอจะหาให้เซี่ยเสี่ยวหลานเพื่ออะไร!
ยังเอา ‘สอบเข้ามหาวิทยาลัย’ มาเป็นข้ออ้าง แปะทอง [2] บนหน้าตัวเองหรือ?
หากสอบเข้ามหาวิทยาลัยง่ายดายขนาดนั้น ทุกปีจะมีนักเรียนที่เรียนจนหัวแทบแตกอีกหรือ?
อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง หากจูฟ่างสามารถเรียนมหาวิทยาลัยได้ จะมาเป็นคนจัดซื้อของภัตตาคารหวงเหอทำไม?!
จูฟ่างนำคนเอาปลาไหลไปยังหลังครัว จากนั้นก็เดินออกมาอย่างพิรี้พิไร เห็นใบหน้าเซี่ยเสี่ยวหลานประดับรอยยิ้ม ยังนึกว่าทั้งสองคนสนทนาเรื่องงานกันเรียบร้อยแล้ว
เสี่ยวหลาน ฉันไม่มีความหมายอื่น และก็ไม่ได้คิดว่าเธอทำธุรกิจอิสระนั้นน่าอาย แค่อยากช่วยเหลือเธอ
มารดาจูฟ่างปอดแทบระเบิดเพราะความโกรธเคือง ลูกชายตนนั้นสายตาแย่ไปหน่อยไหม?
เธอกำลังจะฟาดงวงฟาดงา ทางนั้นดันมีคนทักทายเซี่ยเสี่ยวหลานจากไกลๆ
เสี่ยวหลาน หลานอยู่ที่นี่จริงด้วย!
หลิวหย่งหอบหายใจหนัก เป็นเขามันไม่ง่ายเอาเสียเลย นำคนมาซางตูด้วยกันตลอดทาง เหนื่อยแทบทนไม่ไหว ในที่สุดก็เจอเซี่ยเสี่ยวหลานที่ภัตตาคารหวงเหอจนได้
ลุง! ลุงมาทำไมกัน…
เหล่าวังทิ้งจักรยานไว้อีกด้าน ตนเองเบียดกายออกมาแนะนำตัวทันที
เธอคือนักเรียนเซี่ยเสี่ยวหลานใช่ไหม? เธอผ่านการสอบเข้าเรียนของเซี่ยนอีจงแล้ว!
เชิงอรรถ
[1]偶像剧 ละครไอดอล หมายถึง ละครที่มีจำนวนตอนไม่ยาวมาก นักแสดงนำหน้าตาดี มีความรักโรแมนติกเป็นแก่นหลักของเรื่อง ฉากหลังของละครอยู่ในยุคสมัยปัจจุบัน
[2]给自己脸上贴金 แปะทองบนหน้าตัวเอง หมายถึง คุยโวโอ้อวด