เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 - เล่มที่ 2 ตอนที่ 58 ร้านจางจี้อาหารว่าง
- Home
- เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80
- เล่มที่ 2 ตอนที่ 58 ร้านจางจี้อาหารว่าง
ธุรกิจอาหารว่างของจางชุ่ยและเซี่ยฉางเจิงได้เปิดเผยอย่างแจ่มแจ้งแก่ตระกูลเซี่ยแล้ว
เซี่ยต้าจวินยังคงหลบหนีการตำหนิติเตียนไม่พ้น เขาไม่กล้าไปหมู่บ้านชีจิ่งตามหาอดีตภรรยาและลูกสาวเพื่อเรียกผลผลิต แม่เฒ่าเซี่ยจึงให้เขาไปทำงานพิเศษเล็กน้อยหาเงิน ช่วยเซี่ยจื่ออวี้เก็บเงินค่ายังชีพ เซี่ยต้าจวินไร้ปฏิกิริยาตอบรับใดๆ อย่างไรเขาก็ไม่มีความสามารถอื่น แต่กำลังกายนั้นไม่ขาดแคลน ในหมู่คนรุ่นหลานแม่เฒ่าเซี่ยรักใคร่เอ็นดูเซี่ยจื่ออวี้ที่สุด ส่วนในลูกชายสามคน เธอรักมากที่สุดย่อมต้องเป็นลูกชายคนสุดท้องเซี่ยหงปิงแน่นอน
ก่อนเซี่ยต้าจวินจะออกจากบ้าน เขาได้ยินมารดาออกคำสั่งไว้
หงปิงก็ไม่ต้องออกไปแล้ว พี่ใหญ่กับพี่รองไปกันหมด งานในไร่ในนาห่างคนไม่ได้
เซี่ยหงปิงตอบตกลงอย่างสดชื่น
ตอนนี้ก็มิใช่ฤดูกาลเพาะปลูก ในไร่นาไม่มีงานหนักอะไร อากาศไม่หนาวไม่ร้อน เป็นช่วงเวลาที่สบายที่สุดในหนึ่งปี หญิงชราเซี่ยลำเอียงไม่น้อย แค่ต้องการให้เซี่ยหงปิงได้ใช้ชีวิตผ่อนคลายสักพัก
ทำไมจางชุ่ยถึงหวังดีแก้สถานการณ์แทนเซี่ยต้าจวินกัน?
โทรเลขของเซี่ยจื่ออวี้ส่งกลับมาแล้ว กำชับจางชุ่ยและเซี่ยฉางเจิงอย่าไปสนเรื่องเซี่ยเสี่ยวหลานชั่วคราว จางชุ่ยไม่ต้องการให้คนในบ้านสนใจเซี่ยเสี่ยวหลานและหลิวเฟิน กว่าสองแม่ลูกนี้จะถูกบังคับออกจากบ้านไปช่างยากเย็นเหลือเกิน หากเซี่ยต้าจวินและทั้งสองคนมีโอกาสได้กลับมาพบปะกันมากจนหลิวเฟินพาเซี่ยเสี่ยวหลานกลับตระกูลเซี่ยอีกจะทำอย่างไร?
สตรีวัยกลางคนที่หย่าร้างแล้ว มีลูกโตติดสอยห้อยตามไปอยู่บ้านแม่ เซี่ยเสี่ยวหลานก็ตะกละขี้เกียจและมักใหญ่เป็นหนึ่ง ชีวิตของสองแม่ลูกไม่รู้ว่ายากเย็นแสนเข็ญเท่าไร!
ตระกูลเซี่ยไม่ต้องการหลานสาวคนอื่น ในสายตาของแม่สามีมองเห็นแต่จื่ออวี้นั้นย่อมดีที่สุด ทั้งบ้านล้วนส่งเสียเซี่ยจื่ออวี้เล่าเรียน นี่ถึงเป็นเป้าหมายของจางชุ่ย
มีความคิดเช่นนี้ แม้แต่เซี่ยหงเซี๋ยก็รู้สึกเอือมระอา
หญิงสาวอายุสิบกว่าปี สามารถแนะนำคู่ครองให้ได้แล้ว ก่อนจางชุ่ยจะไปในเมือง ก็ได้เกริ่นถึงเรื่องนี้กับแม่เฒ่าเซี่ย
เซี่ยหงเซี๋ยคือหลานสาวผู้ไม่โดดเด่นที่สุดในบ้าน เซี่ยจื่ออวี้เรียนหนังสือเก่ง เซี่ยเสี่ยวหลานหน้าตาสะสวย ส่วนเซี่ยหงเซี๋ยไม่เข้าเค้าทั้งสองด้าน ทว่าหวังจินกุ้ยและเซี่ยหงเซี๋ยต้องการเฟ้นหาคนมีคุณสมบัติดีสักคนเป็นเอกฉันท์ ถ้าแม่เฒ่าเซี่ยไม่พูดถึงเรื่องนี้ก็ไม่เท่าไร แต่ลองได้พูดถึงเรื่องแต่งงานของเซี่ยหงเซี๋ยขึ้นมา ก็จะถูกหวังจิ้นกุ้ยหาข้ออ้างไว้จนได้
จื่ออวี้ก็เป็นนักศึกษาแล้ว หงเซี๋ยจะแต่งงานกับพวกบ้านนอกในชนบทตามมีตามเกิดไม่ได้หรอก! พี่สะใภ้ใหญ่ อนุญาตหงเซี๋ยไปทำงานจุกจิกในร้านเถอะ ค่าแรงก็จ่ายไปนิดหน่อยพอ หลักๆ คืออยู่ใกล้โรงเรียน ไม่แน่ว่าหงเซี๋ยของบ้านเราอาจจะมีโชคดีอย่างอื่นบ้าง…
รอยยิ้มบนใบหน้าจางชุ่ยเกือบดึงรั้งไว้ไม่อยู่
ร้านอาหารว่างต้องการคนมากขนาดนั้นที่ไหน?
ขอตัวน้องชายกับภรรยามาช่วยงานได้ นั่นก็เพราะจางชุ่ยต้องจุนเจือบ้านแม่ตนเอง
รูปลักษณ์ของเซี่ยหงเซี๋ยและเซี่ยเสี่ยวหลานห่างชั้นกันไกลโข แต่เรื่องตะกละขี้เกียจของสองสาวพี่น้องนี้กลับมีเท่าเทียมกันพอดี ต่อให้ร้านจะต้องจ้างคนมาทำงาน ก็ไม่มีทางจ้างเซี่ยหงเซี๋ย!
หญิงชราเซี่ยกลับรู้สึกสะกิดใจอยู่บ้าง
ลุงใหญ่กับสะใภ้เขาก็ช่วยแล้ว หงเซี๋ยจะเอาค่าแรงอะไรอีก? สะใภ้ใหญ่ เธอพาหงเซี๋ยไปดูหน่อยสิ ถ้าน้องชายเธอต้องการใช้งานเด็กมัน ก็ให้หลานอยู่ช่วยที่ร้านไป ดูแลแค่เรื่องกินก็พอแล้ว!
เซี่ยหงเซี๋ยเบะปาก ไม่จ่ายเงินแต่ให้เธอทำงาน?
เธอดึงแขนของแม่เฒ่าเซี่ยไว้เพื่อออดอ้อน ใจแม่เฒ่าเซี่ยคิดว่าเธอช่างหัวทึบเสียจริง ถ้าอยู่ที่ร้านจริง ทุกคนล้วนเป็นญาติกัน อาของจื่ออวี้จะไม่ให้เงินค่าแรงได้หรือ?
ถ้าหลานไม่อยากไป เช่นนั้นก็อยู่ที่บ้านนี่แหละ ค่อยๆ ดูตัวกับคนอื่นเขาไป
เซี่ยหงเซี๋ยอ้าปาก หวังจิ้นกุ้ยจึงผลักเธอ ฟังย่าลูกสิ! พี่สะใภ้ใหญ่ หงเซี๋ยของฉันก็วานพี่แล้วนะ ถ้าไม่เชื่อฟังพี่กับพี่ใหญ่ไม่ต้องเกรงใจ ตีเธอหนักๆ ได้เลย!
จางชุ่ยจุกอยู่ในอก
ตระกูลเซี่ยตอนนี้ยังคงเป็นหญิงชราเซี่ยที่ติดสินใจทุกอย่าง แม่สามีออกคำสั่งแล้ว จางชุ่ยทำได้เพียงกล้ำกลืนฝืนทนพาเซี่ยหงเซี๋ยไปตัวเมืองด้วยกัน
ร้านอาหารว่างของจางชุ่ยนี้ทำเลดีเหลือเกิน
เขตอันชิ่งมีกลุ่มผู้บริโภคสองประเภทใหญ่ หนึ่งคือคนจากโรงงานเครื่องจักรเกษตรและโรงงานเนื้อสัตว์ สองคือนักเรียนที่เรียนหนังสือ
เซี่ยนอีจงคือโรงเรียนมัธยมปลายที่ดีที่สุดในเขตอันชิ่ง
ผลการเรียนสมัยมัธยมต้นของเซี่ยจื่ออวี้ไม่ได้ดี จบมัธยมต้นแล้วยังเรียนซ้ำอีกหนึ่งปีถึงสอบติดเซี่ยนอีจง เดิมทีอายุขณะเรียนหนังสือก็ไม่น้อยแล้ว ปีนี้เข้ามหาวิทยาลัยกจึงอายุ 20 ปีแล้ว… ขนาด ‘นักเรียนดีเด่น’ เช่นเซี่ยจื่ออวี้คนนี้ยังต้องเรียนซ้ำถึงจะสอบติดเซี่ยนอีจง โรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ถูกคนเมืองในมณฑลเหยียดหยาม แต่สำหรับเขตอันชิ่งรวมไปถึงอีกหลายเขตโดยรอบถือว่าเป็นโรงเรียนที่ดีมากแห่งหนึ่ง
นักเรียนของเซี่ยนอีจงส่วนหนึ่งฐานะค่อนข้างย่ำแย่ อีกส่วนหนึ่งกลับไม่เลวร้าย เงินจำนวนมากไม่มี แต่ให้จ่ายแค่ค่าอาหารว่างยังพอควักเงินได้
ร้านอาหารว่างที่จางชุ่ยเปิดเกิดจากการฟังคำแนะนำของเซี่ยจื่ออวี้ เลือกสถานที่บริเวณหน้าประตูเซี่ยนอีจง แม้ห่างจากประตูใหญ่ของโรงเรียนสามสิบเมตร แต่สะดวกต่อคนงานที่เข้าและเลิกงาน ไปทางซ้ายคือโรงงานเนื้อสัตว์ ไปทางขวาคือโรงงานเครื่องจักรเกษตร นี่ก็คือทางแยกที่ฝูงชนมาบรรจบกัน เหมือนท่าเรือทำการค้าขายที่ทรงคุณค่า ธุรกิจจะไม่เฟื่องฟูได้อย่างไร?
เซี่ยหงเซี๋ยสวมเสื้อผ้าที่ดีที่สุดของตนเอง ตามจางชุ่ยเดินทางเข้าตัวเมือง
ป้ายร้าน ‘จางจี้อาหารว่าง’ เห็นได้ตั้งแต่ไกลลิบ เทียบกับแผงอาหารว่างเหล่านั้นแล้ว ร้านอาหารว่างจางจี้จำนวนสองคูหาดูใหญ่โตโอ่อ่ามาก
มันก็ไม่ใช่ริเริ่มแล้วโอ่อ่าเช่นนี้เลย ตอนแรกจางชุ่ยและเซี่ยฉางเจิงมีต้นทุนน้อย เซี่ยจื่ออวี้เรียนหนังสือที่โรงเรียนไม่จำเป็นต้องให้จางชุ่ยดูแลด้วยซ้ำ เธอก็แค่จัดแผงขายข้างนอก ผ่านการพัฒนาไปสามปี จางจี้ถึงได้มีขนาดเท่าปัจจุบัน จากแผงลอยเล็กๆ ในตอนแรกจนกลายเป็นหน้าร้าน จากจางชุ่ยยุ่งวุ่นวายอยู่คนเดียวจนจ้างอาของเซี่ยจื่ออวี้และอาสะใภ้มาช่วยงาน… จางชุ่ยมองร้าน ‘จางจี้อาหารว่าง’ จิตใจเบิกบานเสียจริงๆ
พี่สะใภ้ พี่มาแล้วหรือ ครึ่งเดือนมานี้…
น้องสะใภ้ของจางชุ่ยเดินออกมา ตั้งใจจะอวดผลงานต่อหน้าจางชุ่ย รวมถึงจะรายงานสถานการณ์ธุรกิจในช่วงที่ผ่านมาด้วย
เมื่อเห็นเซี่ยหงเซี๋ย เธอก็หุบปากทันที
หงเซี๋ยลูกสาวสะใภ้สาม เธอก็ไม่เจอมาหลายปีแล้วสินะ?
อาสะใภ้ ฉันคือหงเซี๋ยเอง!
น้องสะใภ้ของจางชุ่ยกลืนคำพูดลงท้องไป ก่อนหน้านี้เคยตกลงกันแล้ว ถ้าอยู่ต่อหน้าคนอื่น ห้ามพูดว่าจางชุ่ยคือเถ้าแก่เนี้ย
เซี่ยหงเซี๋ยต้องเป็นคนนอกอยู่แล้ว
หงเซี๋ยโตขนาดนี้แล้วหรือ? ยังไม่ได้กินอะไรสินะ เข้ามานั่งก่อน เดี๋ยวอาเอาซาลาเปาให้เธอสองลูก
เธอดันเซี่ยหงเซี๋ยเข้าร้านพลางมองจางชุ่ย
จางชุ่ยถอนหายใจ ย่าของจื่ออวี้บอกว่าเซี่ยหงเซี๋ยอายุไม่น้อยแล้ว อยากให้หลานมาช่วยงานในร้าน ฉันก็ไม่รู้ว่าพวกเธอหาคนอยู่หรือไม่ เลยพาเขามาสักหน่อย
เซี่ยหงเซี๋ยก้มหน้ามองปลายเท้าตัวเอง สายตาแอบจับจ้องสภาพการณ์ภายในร้าน
ร้านสองคูหาจัดโต๊ะไว้เจ็ดแปดตัว บนผนังติดรายการราคาหลากหลาย ช่วงเวลาเร่งรับประทานเร่งด่วนของตอนเช้าได้ผ่านไปแล้ว บนโต๊ะจึงกองด้วยชามและตะเกียบที่เก็บไม่ทัน
อาสะใภ้ ให้ฉันอยู่เถอะ ฉันรับรองว่าจะตั้งใจทำงาน
เซี่ยหงเซี๋ยมีความฉลาดเฉลียวเล็กๆ น้องสะใภ้ของจางชุ่ยเรียกเธอกินซาลาเปา เซี่ยหงเซี๋ยไม่ได้ฟัง อีกทั้งกลับถกแขนเสื้อไปทำงานแล้ว
น้องสะใภ้ของจางชุ่ยไม่อาจไล่เธอออกไปได้
ใจของน้องสะใภ้จางชุ่ยก็มีความสงสัยปนริษยา คงไม่ใช่เพราะพี่สะใภ้ไม่วางใจให้เธอและสามีดูแลร้าน มิใช่ว่าจงใจพาแมวมองจากตระกูลเซี่ยมาหรือ?
น้องสะใภ้ของจางชุ่ยแซ่เจียง ชื่อเจียงเหลียนเซียง
ธุรกิจร้านอาหารว่างเป็นไปด้วยดี ทุกวันจะมีเงินสดผ่านจากมือของเจียงเหลียนเซียงและสามี โดยเฉพาะเมื่อจางชุ่ยกลับหมู่บ้านต้าเหอไปครึ่งเดือน ในมือเจียงเหลียนเซียงและสามีจางหม่านฝูสามารถฉวยเงินบางส่วนได้ เจียงเหลียนเซียงกระหายให้พี่สาวสามีอยู่ในชนบทตลอดไปอย่าได้กลับมา ร้านจางจี้อาหารว่างอยู่ในกำมือ ช่างเป็นแม่ไก่ทองคำที่ออกไข่ได้จริงๆ
ด้วยความสงสัยเจือริษยาเช่นนี้ เจียงเหลียนเซียงจึงไม่สะดวกจะออกปากไล่เซี่ยหงเซี๋ยไป
จางชุ่ยครุ่นคิด น้องสะใภ้คนนี้ไม่ฉลาดเอาเสียเลย ถ้าตัวเองทำตัวร้ายกาจปฏิเสธเซี่ยหงเซี๋ยไม่ได้ เจียงเหลียนเซียงโกหกมั่วซั่วไปเรื่อยสองประโยคก็พอแล้วไม่ใช่หรือ? ถ้ามิใช่เพราะเห็นแก่น้องชายของเธอจางหม่านฝู เธอจะวานเจียงเหลียนเซียงมาช่วยงานได้อย่างไร!
เซี่ยฉางเจิงมาก่อนจางชุ่ยไปหนึ่งวัน เขาไปจับจ่ายวัตถุดิบที่ร้านอาหารว่างต้องใช้ตั้งแต่เช้าตรู่ กลับมาร้านเห็นเซี่ยหงเซี๋ย เซี่ยฉางเจิงลองคิดๆ ดูและติดสินใจรับเซี่ยหงเซี๋ยไว้
เซี่ยหงเซี๋ยทั้งเกียจคร้านทั้งตะกละ ทว่าก็ยังเป็นคนสกุลเซี่ย
ป้ายร้านอาหารว่างคือจางจี้ ในใจเซี่ยฉางเจิงรู้เหตุผลดีอยู่แล้ว แต่ยังคงรู้สึกไม่ค่อยดีนัก น้องชายภรรยาจางหม่านฝูถอนขนห่านที่ผ่านมือ เซี่ยฉางเจิงรับเซี่ยหงเซี๋ยเอาไว้ ทำให้จางหม่านฝูกับภรรยามีความเกรงกลัวบ้าง ดังนั้นด้วยปัจจัยต่างๆ เซี่ยหงเซี๋ยจึงได้คอยช่วยงานอยู่ร้านขายอาหารว่าง แม้เซี่ยฉางเจิงจะรับหลานสาวไว้ แต่ก็เป็นผีขี้เหนียว ไม่มีใครเคยเอ่ยว่าจะให้เงินเดือนแก่เซี่ยหงเซี๋ยเลย
เซี่ยหงเซี๋ยตรากตรำได้เพียงหนึ่งวันก็ออกลายเดิมเสียแล้ว ทำงานเชื่องช้าเฉื่อยชา ทว่าปากคอนั้นอ่อนหวานไม่เบา โดยเฉพาะกับนักเรียนชายจากเซี่ยนอีจงที่มารับประทานอาหารว่าง เธออัธยาศัยดีอย่างถึงที่สุด!