เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 - เล่มที่ 3 ตอนที่ 73 เสื้อผ้าถูกแย่งซื้อจนหมดเกลี้ยง
- Home
- เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80
- เล่มที่ 3 ตอนที่ 73 เสื้อผ้าถูกแย่งซื้อจนหมดเกลี้ยง
เห็นลูกชายขุ่นเคืองใจเช่นนี้ สะใภ้ใหญ่เฉินก็สะดุ้งเฮือก.
เป็นเธอที่เข้าใจผิดไปเอง เซี่ยเสี่ยวหลานมีใครเป็นคู่หมายแล้วเกี่ยวข้องอะไรกับเธอกัน
เซี่ยเสี่ยวหลานนั้นเก่งภาษาอังกฤษ สอบสองครั้งติดกันก็ได้คะแนนเต็ม ขอเพียงช่วยให้เฉินชิ่งทำคะแนนเพิ่มได้
เป็นลูกสะใภ้หรือไม่คือเรื่องสำคัญรองลงมา สะใภ้ใหญ่เฉินยินดีดูแลเซี่ยเสี่ยวหลานเสมือนว่าตนเป็น ‘แม่สามี’!
แม่ผิดไปแล้ว ว่าแต่วิธีเรียนของเธอมีประโยชน์จริงหรือ?
เฉินชิ่งพยักหน้า ผมคิดว่าเธอเก่งมาก
ถ้าพัฒนาต่อไป คะแนนสอบเกาเข่าปีหน้าต้องดีกว่าผมแน่ๆ
สะใภ้ใหญ่เฉินไม่สบายใจขึ้นมาทันที
คนเป็นแม่ทุกคนล้วนคิดว่าลูกของตนยอดเยี่ยมที่สุด เฉินชิ่งกลับบอกว่าเซี่ยเสี่ยวหลานเก่งกว่าเขา
สะใภ้ใหญ่เฉินย่อมไม่อยากยอมรับ แต่ความจริงนั้นวางอยู่ตรงหน้านี้แล้ว
เฉินชิ่งเจอตัวอักษรต่างภาษาเหล่านั้นก็ปวดศีรษะ แต่เซี่ยเสี่ยวหลานกลับสามารถคว้าคะแนนเต็มมาได้อย่างง่ายดาย
แม่ว่าเธอใกล้กลับมาแล้ว ลูกอย่าร้อนใจไป
เสี่ยวหลานจะไม่สนใจแม้แต่บ้านได้หรือ?
กว่าเซี่ยเสี่ยวหลานจะเดินทางมาถึงก็กินเวลาไปสี่ห้าวัน
หลี่เฟิ่งเหมยและหลิวเฟินรออยู่ที่บ้านรู้สึกกังวลอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะหลิวเฟิน
เป็นครั้งแรกที่เธอแยกกับเซี่ยเสี่ยวหลานนานเพียงนี้ พอตกกลางคืนก็ได้แต่นอนพลิกไปพลิกมาหลับไม่ลง
กังวลไปก็ไร้ประโยชน์ ธุรกิจในมือไม่สามารถหยุดพักไว้ได้
เซี่ยเสี่ยวหลานเดินทางไกลเพื่อทำธุรกิจเป็นครั้งแรก
ความปลอดภัยของเธอสำคัญที่สุด จะได้กำไรหรือขาดทุนล้วนเป็นเรื่องรองลงมา ได้กำไรก็ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าขาดทุนขึ้นมา ชีวิตของคนทั้งบ้านคงต้องฝากความหวังไว้กับธุรกิจของหลิวเฟินในตอนนี้แล้ว
อากาศเริ่มเย็นลง`
ยิ่งเวลาผ่านไป การรับซื้อปลาไหลก็ยากยิ่งขึ้น อีกไม่กี่วันธุรกิจนี้จำต้องหยุดพักไว้
หลิวเฟินอดไม่ได้ที่จะไปโรงงานสกัดน้ำมันวันละหลายๆ รอบ กากน้ำมันที่นั่นกองรวมกันเป็นภูเขา
ขอแค่ยอมเปลืองแรงกาย ย่อมไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้กำไร
หลิวเฟินอุตส่าห์ขุนร่างกายขึ้นมาอย่างยากเย็น ในเวลาสั้นๆ ก็ผ่ายผอมลงอีกแล้ว!
หลี่เฟิ่งเหมยจึงเกลี้ยกล่อมเธอ เสี่ยวหลานฉลาดออก
เธอมีอะไรให้ไม่วางใจกัน
หากเป็นลูกชาย หลิวเฟินก็คงไม่กังวล
ทว่าเสี่ยวหลานเป็นลูกสาวคนหนึ่งเท่านั้น
พี่สะใภ้กับน้องสามีต่างปลอบโยนพร้อมให้กำลังใจซึ่งกันและกันอยู่ที่บ้าน
มิใช่เรื่องง่ายกว่าที่เซี่ยเสี่ยวหลานจะนำสินค้าสามกระเป๋าลงรถได้ จะให้ขนสินค้ากลับหมู่บ้านชีจิ่งก่อน
แล้วค่อยนำมาขายที่ซางตูอย่างนั้นหรือ?
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ใช่คนไร้หัวคิด
เธอนำเงินพกติดตัวไป 900 หยวน
เงินที่เหลือในกระเป๋าตอนลงจากรถไฟนี้เหลืออยู่ไม่เกิน 20 หยวน
เข็นเสื้อผ้ากลับไปเพื่ออะไรกัน ขายหมดเร็วเท่าที่จะทำได้ในซางตูดีที่สุด
ยังมีเวลาเหลืออีกทั้งวัน
เซี่ยเสี่ยวหลานหารถเข็นขนาดเล็กได้ขณะอยู่ที่หยางเฉิง ด้านล่างมีลูกรอก
ท่อเหล็กธรรมดาจำนวนหนึ่งเชื่อมเข้าด้วยกันเป็นรูปร่าง ใช้เข็นสินค้าได้สะดวกสบาย
ไม่เช่นนั้นเธอคงนำเสื้อผ้ากลับมาคนเดียวไม่ไหว
ขณะที่เข็นสินค้าไปอย่างช้าๆ ในที่สุดเซี่ยเสี่ยวหลานก็ได้พบกับร้านตัดเสื้อแห่งหนึ่งข้างถนน
ฉันขอยืมเตารีดของพวกคุณใช้สักหน่อยได้ไหม? ฉันยินดีให้ค่าตอบแทน
เซี่ยเสี่ยวหลานเช่ายืมเตารีดหนึ่งอันสำเร็จ
เงินที่เหลือถูกเธอนำไปแปลงเป็นไม้แขวนเสื้อ
ราวแขวนผ้าตั้งพื้นสองราวมีลักษณะเก่าเก็บ ดังนั้นเซี่ยเสี่ยวหลานจึงซื้อเศษผ้าเล็กน้อยมาห่อหุ้มไว้
ทำให้ดูมีราคาขึ้นมาทันที
โดยเฉพาะเสื้อนอกกันหนาวขนสัตว์ที่มีเพียงไม่กี่ตัว
เธอพิถีพิถันรีดจนเรียบแปล้ รอยยับเล็กน้อยก็ไม่มี ต่อให้เป็นเสื้อผ้าที่ถูกแขวนไว้ข้างทางก็ยังดูดีมีระดับยิ่งนัก
ในเวลานี้ธุรกิจอิสระล้วนมีมากราวกับเป็นกองโจร
ตรงไหนเหมาะแก่การตั้งแผงก็ตั้งตรงนั้น ตราบใดที่ไม่มีคนรายงาน
ย่อมไม่ใช่ปัญหาใหญ่ที่ต้องถกเถียงกัน ตอนนี้ผู้คนเคยชินกับการจับจ่ายสินค้าต่างๆ
ตามถนนตรอกซอกซอยด้วย เซี่ยเสี่ยวหลานหาที่ว่างตรงมุมถนนและแขวนเสื้อผ้าทั้งหมดไว้
ไม่ทันไรก็มีคนมาถามไถ่ราคาแล้ว
เสื้อถักของเธอนี่ขายอย่างไร?
คุณช่างตาถึงจริงนะคะ นี่เป็นเสื้อถักแบบใหม่ล่าสุดจากหยางเฉิง
คุณคือลูกค้าคนแรก ฉันคิดราคาให้คุณเท่านี้
เสื้อไหมพรมสีสันฉูดฉาดดึงดูดความสนใจของผู้คนที่เดินผ่านไปมา
เสื้อที่ผู้หญิงคนนี้ถูกใจคือเสื้อไหมพรมใบเมเปิ้ลสีเขียวซึ่งเซี่ยเสี่ยวหลานโปรดปรานมาก
ตอนนั้นเถ้าแก่บอกว่าราคา 15 หยวน เซี่ยเสี่ยวหลานอดที่จะเจรจาต่อรองราคาไม่ได้
สุดท้ายราคาที่ได้คือตัวละ 14 หยวน
ส่วนตัวที่คอเสื้อมีขอบลูกไม้กับลูกปัดหลากสีราคาซื้ออยู่ที่ 12 หยวน
เสื้อไหมพรมราคารับซื้อ 14 หยวน
เซี่ยเสี่ยวหลานกลับให้สัญญาณท่าทางว่า 36 หยวน!
แพงเกินไปหรือไม่?
เสื้อไหมพรมหนึ่งตัวราคาเท่าเงินเดือนเดือนหนึ่งแล้ว!!
แพงเสียแทบตายให้ได้
ลูบไล้ไหมพรมแล้วนุ่มสบายมือทีเดียว
แต่ถ้าซื้อไหมพรมมาถักเองย่อมใช้เงินไม่เท่าไร เงิน 36 หยวนซื้อเสื้อไหมพรมหนึ่งตัวหรือ? อย่างกับเธอมีเงินมากจนลวกมือ [1]
!
เซี่ยเสี่ยวหลานราวกับอ่านความคิดของเธอออก
นี่เป็นแบบเสื้อซึ่งถักทอโดยเครื่องจักรอย่างประณีตที่ทั้งเมืองซางตูก็หาไม่ได้
อีกทั้งโรงงานที่หยางเฉิงยังส่งออกไปต่างประเทศด้วย!
ทุกฝีเข็มล้วนแน่นหนาละเอียดลออ ใช้มือถักอาจมีบางตำแหน่งที่แน่นหลวมไม่เสมอกัน
มักเห็นร่องรอยของฝีมือคนบ้าง แม้ยอดฝีมือด้านการถักไหมพรมจะสามารถถักเสื้อไหมพรมได้คุณภาพเทียบเท่าเครื่องจักร
แต่มิใช่ทุกคนที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญ… จะถักเป็นเสื้อแบบนี้
คนเก่งแค่ไหนก็ต้องใช้เวลาถึงครึ่งเดือน
ลูกค้าหญิงใจเต้นขึ้นมาเล็กน้อย
36 หยวนแพงไปหน่อยนะ…
เงิน 36 หยวนซื้อเสื้อไหมพรมนั้นสิ้นเปลืองแน่นอน
ทว่าเดิมทีการอุปโภคบริโภคของยุคนี้ก็บ้าระห่ำมาก
โดยปกติผู้คนบีบค่าใช้จ่ายทางวัตถุไว้ให้ต่ำที่สุด
แต่ในบางครั้งเงินที่สะสมไว้กลับไม่เสียดาย
เซี่ยเสี่ยวหลานนำเสื้อคลุมสีขาวออกมาตัวหนึ่ง จากนั้นเอาเสื้อไหมพรมใบเมเปิ้ลสีเขียวซ้อนไว้ข้างใน
ใส่ข้างนอกได้ และสามารถเข้าชุดกับเสื้อผ้าอื่นด้วย
คุณภาพและการออกแบบโดดเด่นไม่มีใครเหมือน คุณจ่ายเงินจำนวนนี้คุ้มค่าอย่างแน่นอน!
เสื้อนอกกันหนาวสีขาว!
เซี่ยเสี่ยวหลานนำเข้าสินค้านี้นี่ช่างกล้าเกินไปแล้ว
เสื้อนอกราคาสูงถึงร้อยกว่าหยวน สวมใส่แล้วคนต้องรักใคร่เอ็นดูมากเป็นแน่
สีขาวเป็นสีที่เลอะเพียงเล็กน้อยก็ปรากฏให้เห็นได้อย่างชัดเจน
ใส่แล้วยังทำงานได้หรือ? สวมใส่เสื้อผ้าราคาแพงถึงเพียงนี้
ย่อมต้องเป็นโอกาสในการโอ้อวด ไม่จำเป็นจะต้องทำงานด้วยซ้ำ
เดิมทีหญิงสาวคนนี้แม้แต่ซื้อเสื้อไหมพรมยังลังเล แต่กลับพบว่าขนาดเสื้อนอกสีขาวก็ดูดีมากเช่นกัน
ไม่ได้ ห้ามถามราคา เสื้อตัวนั้นเห็นแล้วก็รู้ว่าแพงเหลือเกิน
บริเวณด้านหน้าแผงลอยของเซี่ยเสี่ยวหลาน ไม่รู้ว่าถูกหญิงสาววัยรุ่นล้อมไว้ตั้งแต่เมื่อไร
พวกเธอมองเสื้อคลุมด้วยดวงตาระยิบระยับ
ราคาเท่าไร!
เป็นขนสัตว์คุณภาพดีจริงหรือ?
เซี่ยเสี่ยวหลานยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ทุกคนไม่ต้องรีบร้อน
ทีละคนๆ สินค้ามีเพียงพอ ต้องเลือกเสื้อผ้าที่ตัวเองพอใจได้แน่นอน
คนหลอกลวง เสื้อคลุมสีขาวแขวนไว้มีแค่ตัวนั้น สินค้าเพียงพอที่ไหนกัน?
เสื้อไหมพรมของเซี่ยเสี่ยวหลานราคาสามสิบกว่าหยวน
กางเกงขาบานก็ราคาสามสิบหยวน
เธอกลับตั้งราคาเสื้อนอกไม่โหดร้ายนัก ตัวละ 128 หยวน ในห้างสรรพสินค้าก็ออกแบบสวยงามสู้ของเธอไม่ได้ แต่เซี่ยเสี่ยวหลานกลับคิดราคาแค่ 108 หยวนเท่านั้น น้อยกว่า 20 หยวน
คนที่ควักเงินส่วนนี้ซื้อได้ล้วนรู้สึกคุ้มค่า
ยิ่งไปกว่านั้น เซี่ยเสี่ยวหลานจับคู่เสื้อผ้าได้ดีมาก ทั้งการบริการอัธยาศัยดีกว่าพนักงานขายในห้างสรรพสินค้าเป็นร้อยเท่า
หากจ่ายเงินซื้อเสื้อผ้าของเธอ เธอจะชมแล้วชมอีก ลูกค้าแต่ละคนที่เธอเอ่ยปากชมล้วนเป็นมนุษย์ดุจเทพธิดา
ต่อให้รู้ว่าหลอก ก็รักที่จะฟังวาจาเยินยอหวานฉ่ำปานน้ำผึ้งอยู่ดี โดยเฉพาะคำกล่าวที่ออกมาจากปากของเซี่ยเสี่ยวหลานผู้งดงาม
ช่างทำให้อารมณ์เบิกบานเสียจริง!
ทำการหว่านล้อมเหล่าสตรีจนพอใจ
ก็ห่างจากการหลอกให้พวกเธอล้วงเงินไม่ไกลแล้ว
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่คาดคิด สิ่งที่ขายหมดก่อนกลับเป็นเสื้อนอกกันหนาวซึ่งตั้งราคาเกินหนึ่งร้อยหยวน
เนื่องจากเธอมีขีดจำกัดทางด้านต้นทุน จึงรับสิ่งนี้มาแค่ 6 ตัวเท่านั้น!
เนื่องจากไม่มีใครนำเงินติดตัวเป็นร้อยหยวนมาเดินเตร่ ทุกคนจึงโยนเงินมัดจำให้กับเซี่ยเสี่ยวหลาน
จากนั้นรีบเร่งกลับบ้านไปนำเงินมา เซี่ยเสี่ยวหลานยืนอยู่ที่เดิมไม่กี่ชั่วโมง ก็ตกใจในกำลังซื้ออันบ้าคลั่งของสตรีซางตู
เพราะขอเพียงเป็นเสื้อผ้าที่สวมใส่ได้ ล้วนถูกคนแย่งชิงไปจนหมดเกลี้ยง
การออกแบบและคุณภาพของเสื้อไหมพรมชุดนี้
เซี่ยเสี่ยวหลานเลือกเฟ้นด้วยความตั้งใจ
ตลาดค้าส่งเสื้อผ้าในซางตูนั้นไม่มี ถือว่าคือสินค้าของหยางเฉิงไร้ที่เปรียบ
แต่ขายดีถึงเพียงนี้ ยังคงเหนือความคาดหมายของเซี่ยเสี่ยวหลานอยู่ดี
เสื้อไหมพรมเหลืออยู่ในมือเธอสองตัวเพราะตั้งใจเก็บไว้โดยเฉพาะ
เงินทองหาได้ง่ายเช่นนี้
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่รู้สึกถึงความเหนื่อยล้าแม้แต่น้อย เธออดใจจองตั๋วรถไปหยางเฉิงแทบไม่ไหว
เงินที่หามาหมุนเวียนอีกเพียงไม่กี่รอบ ปีหน้าเธอก็สามารถซื้อบ้านในซางตูได้แล้ว ถ้ามีคนยอมขายบ้านให้ล่ะนะ!
เธอวางแผนอาศัยในซางตูสักระยะเรียบร้อยแล้ว เมื่อเทียบกับซางตู
ตลาดของเขตอันชิ่งนั้นมีขนาดเล็กเกินไป
เซี่ยเสี่ยวหลานเข็นรถสินค้าของตนเอง
ตอนแรกต้องการหาบ้านพักรับรองสักแห่งเพื่อพักผ่อน ทันใดนั้นก็คิดขึ้นได้ว่าเช่าบ้านก็ได้เช่นกัน
เธอจะไม่เข้าไปถามแต่ละแห่ง ในเมืองซางตูเซี่ยเสี่ยวหลานก็มีคนคุ้นเคยอยู่คนหนึ่ง
หูหย่งไฉแห่งบ้านพักรับรองประจำเมือง!
เห็นเซี่ยเสี่ยวหลานเข็นรถสินค้าปรากฏตัวต่อหน้าตน หูหย่งไฉก็เกิดความฉงนขึ้น
เสี่ยวหลานเองหรือ ไม่เจอกันนาน
ฉันได้ยินจากจูฟ่างว่าเธอกลับไปเรียนมัธยมแล้ว?
พ
เชิงอรรถ
[1]钱多烫手 เงินมากลวกมือ มีคำพูดว่า
เงินเยอะไม่ลวกมือ หมายถึง มีเงินมากเป็นเรื่องดี ในที่นี้ลูกค้าหญิงตั้งใจประชดประชันว่า
เงินเธอมีมากจนลวกมือเลยต้องซื้อเสื้อราคาแพง