เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 - เล่มที่ 3 ตอนที่ 80 แม้ทางอ้อมก็ต้องพบหน้าให้ได้
- Home
- เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80
- เล่มที่ 3 ตอนที่ 80 แม้ทางอ้อมก็ต้องพบหน้าให้ได้
หลิวหย่งไม่อยากบอก ทว่าบาดแผลด้านหลังของเขานั้นไม่สามารถซ่อนไว้ได้ ตอนกลางคืนห่มผ้าผืนเดียวกันกับหลี่เฟิ่งเหมย
ถอดเสื้อออกอะไรๆ ล้วนเปิดเผยออกมาหมด
ชิงสารภาพด้วยตนเอง เขายังพอทำให้ปิดบังประเด็นสำคัญบางประเด็นได้
หลี่เฟิ่งเหมยร้องไห้ออกมาในบัดดล สามีของเธอเกือบสูญเสียชีวิตไปแล้ว
เธอเกือบกลายเป็นแม่ม่าย เทาเทาเกือบกำพร้าพ่อ จะไม่ให้ร้องไห้ใหญ่โตได้หรือ? หลี่เฟิ่งเหมยร้องไห้จนพอใจ กดดันจนหลิวหย่งรับปากว่าจะไม่ไปหาเงินโดยวิธีนี้อีกแล้ว
เธอจึงนึกขึ้นได้ว่ายังมีผู้มีพระคุณอีกสองคนที่เธอต้องขอบคุณ
คุณทั้งสอง ฉันไม่รู้จะขอบคุณพวกคุณอย่างไร พวกคุณไม่ใช่แค่ช่วยเหล่าหลิว
แต่ช่วยพวกเราทั้งครอบครัวไว้!
หลี่เฟิ่งเหมยเช็ดน้ำตา ตั้งใจเชิญโจวเฉิงและคังเหว่ยรับประทานอาหารด้วยกัน
โจวเฉิงกลับทำเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ หมอบอกว่าแผลของลุงหลิวต้องตรวจซ้ำอยู่ตลอดเวลา
ทว่าพวกเรารีบเร่งเดินทางกลับมา จึงลืมตรวจดูแผลของลุงหลิว คุณน้า
อาหารน่ะไม่ต้องทำหรอกครับ อย่างไรเสียผมและคังเหว่ยก็ต้องไปเมืองซางตูเพื่อทำการถ่ายสินค้า
พาลุงหลิวไปตรวจที่โรงพยาบาลพร้อมกันเลยดีกว่า สภาพโรงพยาบาลประชาชนซางตูดีกว่าโรงพยาบาลในตัวเมืองของเขตเสียอีก
หลิวหย่งเบิกตาโพลง
ตรวจบาดแผลซ้ำกะผีสิ นี่ต้องเป็นข้ออ้างเพื่อพบเสี่ยวหลานเป็นแน่
หลี่เฟิ่งเหมยโดนโจวเฉิงหว่านล้อมจนพยักหน้าทันที ปากเอ่ยชมซ้ำไปซ้ำมาว่าโจวเฉิงเป็นคนรอบคอบ
และจะไปเมืองซางตูกับหลิวหย่งด้วย
หากไม่ได้ยินคำพูดของหมอด้วยหูตนเอง หลี่เฟิ่งเหมยก็ไม่อาจสบายใจได้
เธอขอร้องเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรต่อกันให้ช่วยดูแลลูกชายสักหน่อย ถ้าคืนนี้ฉันกับหลิวหย่งไม่กลับบ้าน ก็ให้เทาเทานอนที่บ้านเธอนะ
เพื่อนบ้านไม่เข้าใจสถานการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น
ทว่าพอเห็นโจวเฉิงและคังเหว่ยสองคนขับรถ
ครุ่นคิดว่าชีวิตของครอบครัวหลิวหย่งช่างเปลี่ยนแปลงไปมากจริงๆ
จึงตกลงอย่างไร้เงื่อนไข หลี่เฟิ่งเหมยนำเงินที่เหลืออยู่ในบ้านหลายร้อยหยวนติดตัวไปทั้งหมด
บังคับหลิวหย่งผู้อิดออดให้รีบขึ้นรถยนต์
คังเหว่ยแอบยกนิ้วโป้ง พี่เฉิงจื่อยอดเยี่ยมเหลือเกิน
รวบรัดไม่กี่คำก็ควบคุมอำนาจจัดการไว้อยู่หมัด
เขาคิดว่าหากโจวเฉิงได้เจอหลี่เฟิ่งเหมยจะเรียก ป้าสะใภ้ อย่างหน้าไม่อายเสียอีก ที่ไหนได้แม้แต่คำที่โจวเฉิงเรียกหลิวหย่งก็เปลี่ยนไป!
โจวเฉิงคิดในใจ หลิวหย่งรู้เบื้องลึกเบื้องหลังของเขาดี
เดิมทีระหว่างผู้ชายไม่จำเป็นต้องเสแสร้งแกล้งทำ ยิ่งจริงใจยิ่งดี
แต่ผู้ใหญ่ที่เป็นหญิงส่วนมากล้วนโปรดปรานคนที่สุขุมดูเป็นผู้ใหญ่
เขาไม่สามารถทำตัวห่ามกับหลี่เฟิ่งเหมยได้
ทั้งสี่คนจึงได้มุ่งหน้าไปยังเมืองซางตู
โจวเฉิงเป็นคนฉลาดคนหนึ่ง ระหว่างทางเขากล่าวเพียงไม่กี่ประโยคไปตามเรื่องตามราว
ก็บิดเบือนหัวข้อสนทนาได้แล้ว หลี่เฟิ่งเหมยกระโดดลงไปในโพรงด้วยตนเอง บอกจะตามเซี่ยเสี่ยวหลานไปโรงพยาบาลด้วยกัน
น่าจะต้องการดึงเซี่ยเสี่ยวหลานและหลิวเฟินให้มายืนอยู่ฝ่ายเดียวกับเธอ
ขัดขวางไม่ให้หลิวหย่งไปหาเงินจากงานที่มีอันตรายต่อชีวิตนี้อีก
หลิวหย่งเพียงได้แต่มองภรรยาของตนเองที่ไหลตามเหตุผลของโจวเฉิง
ขายที่อยู่อาศัยใหม่ของเซี่ยเสี่ยวหลานเสียสะอาดเอี่ยมอ่อง
ภรรยาซื่อบื้อ!
หลิวหย่งตีอกชกหัวอยู่ในใจกับตัวเอง ทว่าเปล่าประโยชน์
ต้าตงเฟิงจอดลงที่หน้าประตูบ้านย่าอวี๋ หลี่เฟิ่งเหมยขึ้นไปเคาะประตู
คนที่มาเปิดคือหลิวเฟิน
พี่ใหญ่ พี่กลับมาแล้วหรือ?
หลิวหย่งร้องอืมรับ จากนั้นแนะนำโจวเฉิงและคังเหว่ยตามปกติ
พอพูดถึงเรื่องตัวเขาเองได้รับบาดเจ็บ หลิวเฟินย่อมน้ำตาไหลเช่นกัน ย่าอวี๋เข้มงวดมาก
หลิวเฟินจึงไม่สามารถนำทุกคนเข้าห้องตามใจชอบได้
แต่อย่างไรก็ไม่มีอารมณ์รับรองแขกอยู่แล้ว ตอนนี้ต้องส่งหลิวหย่งไปโรงพยาบาลก่อน
ตั้งแต่ต้นจนจบเซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้โผล่หน้าออกมาเลย
เมื่อหลี่เฟิ่งเหมยถามถึง หลิวเฟินถึงได้บอกว่าวันนี้เซี่ยเสี่ยวหลานไปยังเขตอันชิ่ง
วันนี้ที่โรงเรียนมีสอบ เธอเลยไปโรงเรียนเสียหน่อย
ทั้งยังตั้งใจจะไปหยางเฉิงด้วย แม้แต่ตั๋วรถไฟเที่ยวพรุ่งนี้ก็ซื้อเรียบร้อย… !
คังเหว่ยรู้สึกสงสารพี่เฉิงจื่อของเขาเล็กน้อย
วันนี้ถูกลิขิตให้เขาไร้วาสนาพบหน้าว่าที่พี่สะใภ้หรือ?
โจวเฉิงรู้ที่อยู่ของเซี่ยเสี่ยวหลานในตัวเมืองมณฑลแล้ว
ความงุ่นง่านในใจได้หายไปแล้ว เขาจดจำป้ายเลขที่บ้านของย่าอวี๋จนขึ้นใจ
ตนเองก็ไม่กล่าวเรื่องเซี่ยเสี่ยวหลานอีก
และส่งหลิวหย่งไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลประชาชนซางตูดั่งที่ตั้งใจไว้ วิ่งวุ่นคอยเป็นธุระช่วยเหลือมากมาย
อย่าว่าแต่หลี่เฟิ่งเหมยรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่ง ความประทับใจของหลิวเฟินต่อเขาก็ยอดเยี่ยมที่สุด
เป็นเพราะการรีบเดินทาง สภาพแวดล้อมในรถนั้นจึงไม่ค่อยเหมาะสม
แม้โจวเฉิงจะใช้เป็นข้ออ้าง ทว่าสภาพบาดแผลของหลิวหย่งนั้นไม่ดีจริงๆ
คุณหมอฉีดยาแก้อักเสบให้ กำชับหลิวหย่งว่าต้องพักฟื้น
เมื่อวุ่นวายในโรงพยาบาลได้พักใหญ่ ฟ้าก็มืดแล้ว
โจวเฉิงและหลิวหย่งปรึกษากัน วันนี้ทุกคนจะพักในบ้านพักด้วยกัน
หลิวเฟินไม่เห็นด้วย เสี่ยวหลานต้องกลับจากอันชิ่งถึงบ้านแล้วแน่ๆ
ฉันว่าจะกลับไปดูเสียหน่อย
โจวเฉิงจริงใจเหลือเกิน ถ้าอย่างนั้นผมส่งคุณน้ากลับเองนะครับ
หลิวเฟินเกรงอกเกรงใจ ดึกดื่นขนาดนี้
รบกวนคุณออก ฉันเดินกลับไปเองดีกว่า ฉันรู้ทาง
เรื่องเล็กน้อยอย่างเหยียบคันเร่ง คุณน้าอย่าเกรงใจผมเลยครับ บอกตามตรง
พอผมได้เจอคุณน้าก็รู้สึกคุ้นเคยเป็นพิเศษ คุณน้าเหมือนกับแม่ผมอยู่บ้าง ผมเดินทางนอกบ้าน
ไม่ได้พูดคุยกับแม่นานมากแล้ว คิดถึงเขายิ่งนัก
โจวเฉิงกล่าวเช่นนี้ หลิวเฟินยังจะปฏิเสธได้อย่างไร?
หลิวเฟินที่ใจอ่อนได้แต่งเติมภาพของโจวเฉิงที่อยู่ในหัวเป็นคนหนุ่มผู้กระเสือกกระสนเพื่อชีวิตจึงไม่สามารถกลับบ้านได้บ่อยครั้ง
หลิวหย่งก่นด่าโจวเฉิงไร้ยางอายอยู่ในใจ คังเหว่ยวิงเวียนไปทั่วทั้งร่าง
พี่เฉิงจื่อนี่โกหกหน้าตายเก่งเกินไปแล้ว หลิวเฟินซูบคล้ำดูไม่สะดุดตา
เห็นได้ชัดว่าคือหญิงชนบทแสนสัตย์ซื่อคนหนึ่ง
ส่วนมารดาของโจวเฉิงนั้นเป็นนายหญิงที่สง่างามมากเพียงใด ดูได้จากที่โจวเฉิงเกิดมามีหน้าตาน่าพิสมัย
ก็เพราะเขามีใบหน้าที่เหมือนมารดานั่นเอง
———————————
ตอนโจวเฉิงบรรทุกคนกลับมาบ้านอวี๋อีกครั้ง ภายใต้แสงไฟส่องทางสลัว
แว่วเสียงกริ่งดังกรุ๊งกริ๊งลอยมา
ปรากฏตัวของเซี่ยเสี่ยวหลานกำลังขี่จักรยานออกมาจากรัศมีไฟข้างทาง ใบหน้าเล็กขาวผ่อง แม้จะถักเปียสองข้างอย่างไม่ตั้งใจ
แต่ก็ดูจิ้มลิ้มพริ้มพรายมากถึงเพียงนั้น
เธอมองเห็นต้าตงเฟิงคันหนึ่งจอดอยู่หน้าประตู ป้ายทะเบียนรถนั้นช่างคุ้นตาเหลือเกิน
โจวเฉิง?
สหายเสี่ยวหลาน!
โจวเฉิงเดินก้าวยาวเข้าไปหา ข่มกลั้นความต้องการที่จะกอดเซี่ยเสี่ยวหลานเข้าอ้อมอกเอาไว้
ทักษะการแสดงในครึ่งหลังของชีวิตได้ถูกเขาเบิกมาใช้ก่อนล่วงหน้าแล้ว
ทำไมเธอมาอยู่ที่นี่ได้เล่า?
ภายในใจของเซี่ยเสี่ยวหลานบอกว่า ‘เธอแย่งบทฉันทำไมกันเล่า’
ไม่เพียงแต่จะแย่งชิงบทพูดเธอไป ยังเรียกเธอว่าสหายเสี่ยวหลานอย่างจริงจัง
โจวเฉิงหกล้มสมองกระเทือนหรือเปล่า?
หลิวเฟินลงมาจากตู้บรรทุกหลังรถ หลิวหย่งและหลี่เฟิ่งเหมยก็ปรากฏตัวขึ้น
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่เข้าใจว่านี่กำลังเล่นละครบทไหนอยู่ แต่หลิวหย่งรู้อยู่แก่ใจดี
หลิวเฟินและหลี่เฟิ่งเหมยกลับรู้สึกประหลาดใจ เสี่ยวหลานรู้จักโจวเฉิงหรือ?
หา? แล้วอย่างไรต่อล่ะ
ตอนนี้เธอควรแสดงออกว่าไม่รู้จักโจวเฉิงใช่ไหม?
เซี่ยเสี่ยวหลานกะพริบตาปริบๆ ใส่โจวเฉิง หวังว่าจะได้คำแนะนำอะไรบ้าง
โจวเฉิงรู้สึกว่าขนตายั่วเย้าของเธอที่กะพริบอยู่นั้นทำหัวใจของเขาแทบละลาย
เขาเกือบที่จะสารภาพต่อหลิวเฟินและหลี่เฟิ่งเหมยไปว่าเขานั้นชอบเซี่ยเสี่ยวหลาน
อยากสู่ขอเธอกลับบ้านในทันทีทันใดเหลือเกิน
หลิวหย่งอดที่จะเสริมแทนโจวเฉิงและเซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้
เสี่ยวหลาน หลานรู้จักโจวเฉิงงอย่างนั้นหรือ ก่อนหน้านี้ที่หลานเล่าเรื่องขาแพลงแล้วมีสหายอัธยาศัยดีสองคนส่งหลานกลับบ้าน
คงจะเป็นโจวเฉิงและคังเหว่ยสินะ?
หลิวหย่งอธิบายเรื่องราวให้แจ่มแจ้งที่สุด
เพราะหลิวเฟินและหลี่เฟิ่งเหมยไม่รู้เรื่องที่เซี่ยเสี่ยวหลานเกือบโดนอันธพาลข่มเหง
เวลานี้เรื่องราวก็ผ่านไปแล้ว เล่าไปก็ทำให้ทั้งสองรู้สึกกังวลเสียเปล่า
พอได้ฟังประโยคนี้ของหลิวหย่ง เซี่ยเสี่ยวหลานก็ทราบทันทีว่าควรต่อบทสนทนาอย่างไร
ท่าทางมารดาเธอและป้าสะใภ้ของเธอคงยังไม่รู้เรื่องอันธพาล
แต่ลุงบอกไว้ว่าสองเดือนให้หลังถึงกลับมา เหตุใดถึงมารวมตัวกับโจวเฉิงได้เล่า?พ