เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 - เล่มที่ 3 ตอนที่ 86 เงินเก็บต้องมอบให้ภรรยาทั้งหมด
- Home
- เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80
- เล่มที่ 3 ตอนที่ 86 เงินเก็บต้องมอบให้ภรรยาทั้งหมด
ปีหน้าหลังสอบเกาเข่าเสร็จจะไปศึกษาในมหาวิทยาลัยที่ไหน
เดิมทีเซี่ยเสี่ยวหลานยังลังเลระหว่างเซี่ยงไฮ้และปักกิ่ง.
ทว่าหลังจากเธอได้ตัดสินใจลองคบหาดูใจกับโจวเฉิว คงไม่สามารถมีรักทางไกลจากคนละมุมโลกไปตลอดได้
ตาชั่งในใจของเซี่ยเสี่ยวหลานจึงเอนเอียงไปยังฝั่งปักกิ่ง
ถึงขั้นตั้งมั่นความคิดไว้ ทั้วเซี่ยจื่ออวี้และหวังเจี้ยนหัวมิใช่อยู่ในปักกิ่งเช่นกันหรือ
เธอต้องไปเจอสองคนนี้เสียหน่อยนะ!
โจวเฉิงเหมือนทำได้แค่ยิ้มแหยแล้ว
เขารักใครภรรยาเป็นเรื่องที่ไม่ควรหรือ ภรรยาก็ดีต่อเขาเช่นกันนี่
ไปหยางเฉิงครั้งนี้ช่างมีความหมายเหลือเกิน ระหว่างการเดินทางได้ส่งเสริมการสานความสัมพันธ์ของโจวเฉิงและเซี่ยเสี่ยวหลานโดยตรง
เมื่อโจวเฉิงกลับถึงซางตูเขาได้ทำสิ่งหนึ่งที่เกินความคาดหมายของเซี่ยเสี่ยวหลานเป็นอย่างมาก
เขาหยิบกระเป๋าเอกสารออกมาจากใต้ที่นั่งคนขับบนรถขนสินค้า
มอบให้เซี่ยเสี่ยวหลานทันที
น้ำหนักของสิ่งที่เซี่ยเสี่ยวหลานถือไว้นั้นแปลกพิกล เมื่อเปิดออกมาดูล้วนคือเงิน!
ธนบัตรต้าถวนเจี๋ยแต่ละปึกซ้อนกัน น่าจะมีจำนวนหลายหมื่นหยวน
โจวเฉิงราวกับยังไม่พอใจที่จำนวนน้อยเกินไป เมื่อฉันกลับปักกิ่ง
ฉันจะส่งสมุดบัญชีธนาคารของตัวเองให้เธอหมดเลย
ผู้ชายทำงานหาเงินดูแลครอบครัวและส่งมอบเงินเก็บ
คือหลักการที่มีเหตุผลสำหรับโจวเฉิง สภาพแวดล้อมซึ่งเขาได้ซึมซับตั้งแต่วัยเยาว์เป็นแบบนี้
แม้แต่ตระกูลโจว บิดาของเขาก็ไม่ดูแลเงินทอง เรื่องในบ้านล้วนให้มารดาของเขาเป็นผู้รับผิดชอบ
จากคำกล่าวของบิดาเขา บุรุษผู้จดจ้องแต่เรื่องเงินทองขี้ประติ๋ว จะมีอนาคตได้อย่างไร?
มอบบ้านให้สตรีดูแล ทั้งจะไม่ขัดสนข้นแค้น ยังสามารถรวบรวมจิตใจไว้เพื่อยืนหยัดต่อหน้าที่การงาน`
เขาอุตส่าห์พบภรรยาที่ถูกใจแล้ว เงินที่หามาย่อมมอบให้ภรรยาจัดการได้
เสี่ยวหลานให้เขาใช้เงินเท่าไรเขาก็ใช้เท่านั้น เธอคงไม่ปล่อยเขาหนาวเหน็บหิวโหยอยู่ร่ำไป
เซี่ยเสี่ยวหลานรู้สึกซาบซึ้งมากทีเดียว
แต่ไม่ใช่เพราะโดนเงินหลายหมื่นหยวนล่อลวงจนตาพร่า เปรียบเทียบกับพวกคนดูตัวที่พบหน้ากันก็ถามเรื่องเพิ่มชื่อลงในบ้านเธอ
โจวเฉิงคนนี้น่ารักเกินไปแล้ว เรื่องเงินทองเธอสามารถหาเองได้ เธอไม่ละโมบกับเงินหลายหมื่นหยวนนี้ของโจวเฉิง
แม้ตอนนี้เงินจำนวนหลายหมื่นหยวนหากคำนวณด้วยความเร็วในการขึ้นราคาของอสังหาริมทรัพย์
จะเทียบเท่าจำนวนเงินหลายล้านหยวนในอนาคตได้ก็ตาม
เงินฉันไม่รับ ความตั้งใจฉันรับไว้แล้ว ถ้าเงินเก็บในมือเธอเยอะเกิน
และไม่มีเวลาจัดการ ฉันแนะนำว่าให้เธอเปลี่ยนเงินเป็นอสังหาริมทรัพย์มากที่สุดเท่าที่ทำได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือบ้านในปักกิ่ง อย่าไม่ชอบที่จะมีบ้านไว้มากมายเลย!
หรือจะบอกว่าสตรีมักซาบซึ้งได้ง่ายดายกันนะ โจวเฉิงนำเงินออกมาหลายหมื่น แต่เซี่ยเสี่ยวหลานก็ยังคงส่ง ‘คำแนะนำอันล้ำค่า’ สุดแสนมีประโยชน์ออกไป
คนในยุคนี้ไม่มีความคิดเกี่ยวกับการสะสมอสังหาริมทรัพย์
พนักงานและคนงานในเมืองล้วนรอคอยสวัสดิการที่อยู่อาศัยจากรัฐ
ครอบครัวโจวเฉิงน่าจะมีเครือข่ายเยอะพอตัว ต้องไม่ขาดแคลนบ้านเรือนสำหรับอยู่อาศัยแน่นอน
แต่เรื่องในอนาคตใครจะล่วงรู้ได้กัน หากครอบครัวโจวเฉิงประสบกับความขัดข้อง
สวัสดิการที่มาจากอำนาจและอิทธิพลเกิดช่องว่างขึ้นมาอย่างกระทันหัน การสะสมอสังหาริมทรัพย์ไว้ยังพอทำให้สถานะทางการเงินมีรากฐานอันแน่นหนาอยู่บ้าง
ไม่ยักยอกและไม่ทุจริต สินทรัพย์ถาวรที่ลงทุนลงแรงเพื่อให้ได้มาอย่างจริงจัง
ไม่มีใครสามารถกังขาได้
โจวเฉิงฉลาดเพียงใดก็มองภาพใน 30 ปีให้หลังไม่ออก
เขาเข้าใจว่าเซี่ยเสี่ยวหลานกังวลเรื่องทั้งสองคนจะไร้บ้านอาศัยหลังแต่งงาน นั่นจะเป็นไปได้อย่างไรกัน
การแบ่งสรรที่อยู่อาศัยต้องรวมเขาด้วยอยู่แล้ว ต่อให้เซี่ยเสี่ยวหลานไม่อยากไปอยู่หน่วยงานกับเขา
แต่เขายังจะขาดแคลนบ้านสำหรับทำเรือนหออีกหรือ?
ช่างเถอะ โต้เถียงเรื่องแบบนี้กับเสี่ยวหลานไปทำไม ในเมื่อเธอโปรดปรานบ้านเรือน
เขาก็ซื้อบ้านเรือนให้เสีย
ธุรกิจทางนี้ของเธอไม่ได้ต้องการใช้เงินจำนวนมากหรือ? เงินซื้อบ้านฉันมีอีกส่วนหนึ่ง เธอจะตั้งแผงลอยข้างทางตลอดไปก็ไม่ได้ ควรมีหน้าร้านถาวรสักแห่งเป็นของตนเองไว้
เซี่ยเสี่ยวหลานยังคงไม่ยอมรับเงิน หน้าร้านไม่ต้องใช้เงินมากมายเท่าไร
เปิดร้านก็ไม่ได้รีบร้อนในวันนี้เดี๋ยวนี้ รอฉันสำรวจตลาดให้ชัดเจนก่อนเถอะ
เสื้อผ้าทำกำไรได้ แม้ชาติก่อนเซี่ยเสี่ยวหลานไม่เชี่ยวชาญด้านการแต่งตัว
ทว่าประสบการณ์มากมายเสริมสร้างสุนทรียภาพที่เหมาะสมให้แก่เธอ
แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าธุรกิจนี้ของเซี่ยเสี่ยวหลานจะราบรื่นตลอดไป
เธอจำเป็นต้องเรียนรู้เช่นกัน ต้องทดสอบความต้องการของตลาด ต้องรู้ทันจิตใจของลูกค้า
ถึงจะเป็นรากฐานว่าเซี่ยเสี่ยวหลานจะสามารถยืนหยัดได้อย่างมั่นคงได้หรือเปล่า
เปิดร้านรึไม่เปิด ร้านเปิดบริเวณไหน กลับไม่สำคัญนัก
——————————-
แม้เซี่ยเสี่ยวหลานจะไม่ได้ตั้งใจอธิบายว่าความสัมพันธ์ของเธอกับโจวเฉิงพัฒนาแล้ว
แต่หลิวเฟินและคังเหว่ยก็คาดเดาสถานการณ์ได้อยู่ดี
โดยเฉพาะโจวเฉิง ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความเบิกบาน
ท่าทางที่โอนอ่อนตามเซี่ยเสี่ยวหลานทุกคำพูดนั้น ช่างไม่มีหลักการเอาเสียเลย
โจวเฉิงและคังเหว่ยตัดสินใจว่าพรุ่งนี้จะออกเดินทางกลับปักกิ่ง
โจวเฉิงจะไปขายเสื้อผ้าที่ถนนกับเซี่ยเสี่ยวหลาน
ชุดที่เซี่ยเสี่ยวหลานเลือกไว้มีโอกาสได้ใส่ออกไปจนได้
กลิ่นอายวัยรุ่นหลั่งไหลมาอยู่เบื้องหน้า
โจวเฉิงตกตะลึงจนมือเท้าไร้ความรู้สึก
ควรเป็นเช่นนี้ นี่คือการแต่งกายที่เหมาะกับเสี่ยวหลาน
เธอไม่ควรโดนเสื้อผ้าเก่ามอมแมมปกปิดความสวยละมุนละไมไว้
สวยจริงๆ
กางเกงยีนส์ห่อหุ้มสะโพกผายและเรียวขาตรงยาว
เสื้อคลุมตัวสั้นยิ่งขับสัดส่วนของรูปร่างให้ชัดเจน
การแต่งกายชุดนี้เจือจางความยั่วเย้าของเซี่ยเสี่ยวหลาน และนำเสนอความมีชีวิตชีวาดั่งวัยรุ่นของเธอแทน!
หญิงสาวสะสวยและจิ้งจอกแสนสวยคือคำวิจารณ์คนละประเภทกัน
เซี่ยเสี่ยวหลานในตอนนี้ถือว่าเป็นอย่างแรก
หลิวเฟินก็บอกว่าสวยเช่นกัน
หลิวหย่งและหลี่เฟิ่งเหมยกลับหมู่บ้านชีจิ่งไปนานแล้ว
ด้วยความช่วยเหลือของคังเหว่ย
เงินทุนที่ลงไว้กับคนอื่นของหลิวหย่งจึงนำกลับมาได้อย่างง่ายดาย ไม่พร่องจากจำนวน 5000 หยวนที่หลิวหย่งประเมินไว้แม้แต่น้อย คนอื่นยังมอบอั่งเปาให้แก่หลิวหย่งด้วย
กล่าวว่าครั้งนี้ทำให้เขาขวัญหนีดีฝ่อแล้ว
พวกเขาเข้าใจผิดว่าหลิวหย่งพบกับผู้สนับสนุนที่มีอิทธิพลเข้า
เลยสุภาพเรียบร้อยยอมให้หลิวหย่งถอนตัวจากกลุ่มได้อย่างราบรื่น
น้ำใจที่หลิวหย่งติดหนี้ไว้มากมายเหลือเกิน
แต่เขาไม่เห็นด้วยกับเรื่องระหว่างโจวเฉิงและเซี่ยเสี่ยวหลาน ด้วยน้ำใจที่ติดไว้เขาตอบแทนไม่ไหว
ดังนั้นจึงไม่อาจเผชิญหน้าโจวเฉิง ถือโอกาสกลับชนบทไปเสียดื้อๆ
โจวเฉิงไปขายเสื้อผ้าสตรีกับเซี่ยเสี่ยวหลาน ภาพฉากนั้นสวยงามยิ่งนัก
คังเหว่ยถึงกับไม่กล้าจินตนาการ
พี่ ผมอยู่เฝ้ารถรอดีกว่า
โจวเฉิงก็ไม่ต้องการให้คังเหว่ยไปเป็นหลอดไฟ [1] อยู่แล้ว ที่เขาช่วยเซี่ยเสี่ยวหลานขายสินค้าเป็นเพราะเอ็นดูเซี่ยเสี่ยวหลาน
และเพื่อมีเวลาสานสัมพันธ์มากยิ่งขึ้น
ที่เซี่ยเสี่ยวหลานคิดไว้ไม่มีผิด
เสื้อไหมพรมสองแบบซึ่งเธอขายออกไปได้ในครั้งแรกมีคนเลียนแบบแล้ว
ของลอกเลียนแบบที่ไวที่สุดก็สวมใส่บนร่างกายแล้ว คนลอกเลียนแบบไม่ใช่ใครอื่นใด
เป็นร้านตัดเสื้อที่เธอเคยเช่ายืมเตารีดก่อนหน้านี้นั่นเอง
อีกฝ่ายเจอเซี่ยเสี่ยวหลานก็แสดงท่าทางอัธยาศัยดีทีเดียว
เซี่ยเสี่ยวหลานมองเสื้อนอกขนสัตว์ที่แขวนไว้ในร้าน
ความคิดในการจะเช่ายืมเตารีดอีกครั้งสลายไปโดยพลัน
สายตาของช่างตัดเสื้อร้ายกาจยิ่งนัก เซี่ยเสี่ยวหลานเคยรีดเสื้อผ้าในร้าน
พวกเขาก็ขโมยแบบเสื้อผ้าที่เธอรับซื้อกลับมาเสียแล้ว เสื้อนอกขนสัตว์ที่แขวนในร้านตัวนั้นเป็นฉบับลอกเลียนแบบ
เพียงแต่ซางตูน่าจะหาซื้อผ้าขนสัตว์สีขาวได้ยากมาก
คนตัดเสื้อถึงไม่ได้ทำฉบับลอกเลียนแบบระดับสูงที่แท้จริงออกมา
เซี่ยเสี่ยวหลานรู้ดีว่าหลีกเลี่ยงลำบาก คนเขาวางแผนจะลอกเลียนแบบเสื้อผ้าที่เธอเลือกต่อไป
แต่เซี่ยเสี่ยวหลานก็ไม่ได้ใจดีถึงเพียงนั้น
เตารีดไม่ขอยืมแล้ว เธอหันกลับแล้วจากไปทันที
ตอนนี้เงินสำหรับซื้อเตารีดก็พอมีอยู่บ้าง ลานบ้านอวี๋กว้างขวาง
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ขาดแคลนสถานที่จัดรีดสินค้า
เอ้า อะไรกันนี่คุณ คุณรอก่อน…
พนักงานตัดเสื้อหญิงท่าทางไม่พอใจทีเดียว เซี่ยเสี่ยวหลานไม่หันกลับไปมองด้วยซ้ำ
คนตัดเสื้อหญิงไม่ทันมองเห็นเสื้อผ้าที่เซี่ยเสี่ยวหลานนำมาในรอบนี้ รู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างยิ่ง
ชุดที่เซี่ยเสี่ยวหลานใส่นั่นก็ดูดี แต่น่าเสียดายว่าของสวยงามปรากฏออกมาแวบเดียว
ไร้หนทางลอกเลียนแบบโดยสิ้นเชิง
เซี่ยเสี่ยวหลานมีสีหน้าไม่สู้ดี ผ่านไปครู่ใหญ่ตัวเธอก็อารมณ์เย็นลง
โกรธเคืองอะไรกัน นั่นก็ไม่ใช่การออกแบบของเธอเสียหน่อย
ทว่าโจวเฉิงมองสาเหตุได้ทะลุปรุโปร่ง
สุดท้ายแล้วก็เพราะเซี่ยเสี่ยวหลานถูกความจำกัดด้านเงินทุน ขนาดธุรกิจเล็กเกินไป
หากเธอสามารถรวบรวมคน เลือกสรรแบบเสื้อที่ดีแล้วทำการแยกส่วนแบบเสื้อผ้าด้วยตนเอง
ก่อนที่ผู้อื่นจะทันรู้ตัวก็คงยึดครองตลาดของเมืองซางตูไว้ได้
คนอื่นต้องการเลียนแบบเท่าไรก็ไร้ซึ่งหนทางอยู่ดี
เพราะเธอมีแววตาที่ดี
โจวเฉิงปลอบใจเธอ
ไม่ใช่เพราะเธอมีแววตาที่ดีหรอกหรือ
แผงลอยเสื้อผ้าของเซี่ยเสี่ยวหลานหายไปไม่กี่วัน
ปรากฏตัวอีกครั้งก็ดึงดูดคนผ่านทางได้อย่างรวดเร็ว
เธอยืนอยู่ตรงนั้นเหมือนเป็นโฆษณาที่มีชีวิต เสื้อนอกสีพื้นได้รับความนิยมมาก
เสื้อนอกพิมพ์ลายดูล้าสมัยง่าย ทว่าเสื้อนอกลายตารางกลับน่ามองทีเดียว
เสื้อคลุมความยาวเลยเอวพอดี ไม่เพิ่มความอบอุ่นในฤดูหนาวแน่นอน
แต่พอสวมใส่บนร่างของเซี่ยเสี่ยวหลานแล้วน่าชมถึงเพียงนั้น ช่างมีความน่าดึงดูดเหลือเกิน
แต่ไหนแต่ไรเมื่อสตรีซื้อสินค้าก็ไม่เป็นไปตามเหตุผล
ผู้คนที่เข้ามาล้อมจึงถามหาแบบเดียวกับบนตัวเซี่ยเสี่ยวหลานเป็นอย่างแรก
ตัวละเท่าไร?
98 หยวน คุณพี่สะโอดสะองกว่าฉัน ต้องใส่ขนาดกลาง หยิบให้คุณหนึ่งตัวเลยไหม?
เสื้อนอกขนสัตว์ในห้างสรรพสินค้าแค่ร้อยกว่าหยวนเอง
ตัวนี้ใช้ผ้าเท่าไรกันเชียว!
ไม่ย่อมเยาจริงๆ
สีหน้าชื่นชมของลูกค้าหญิงเปลี่ยนไปแล้ว ทว่ายังคงชอบมากอยู่ดี
จึงต่อราคากับเซี่ยเสี่ยวหลาน ต่อได้โหดร้ายพอสมควร อยู่ดีๆ ขอให้ราคาที่ 70 หยวน ราคานี้ขายออกไปก็ทำกำไรได้ แต่กำไรนั้นไม่มากมายนัก
เซี่ยเสี่ยวหลานใจหิน คนทำธุรกิจย่อมต้องการผลประโยชน์ หากลดราคามากจนเกินไป
นั่นเป็นการช่วยเหลือโดยเปล่าเสียจริง
สุดท้ายลดเพียงสามหยวน ลูกค้าหญิงเกือบไม่ซื้อ เซี่ยเสี่ยวหลานจึงมอบถุงมือให้คู่หนึ่งถึงประคับประคองธุรกิจต่อไปได้
จากนั้นผู้คนมากมายก็ล้อมเข้ามา เดี๋ยววานโจวเฉิงหยิบชุดนี้ให้พวกเธอ
เดี๋ยวก็ถามขนาดกางเกงยีนส์กับโจวเฉิง มาเพื่อกระเซ้าเย้าแหย่โจวเฉิงชัดๆ
เซี่ยเสี่ยวหลานหมดคำจะพูดกับผู้หญิงเหล่านี้แล้ว มอบถุงมือขนให้เช่นเดิม
แต่ราคาไม่ยอมลดน้อยลง
เธอไม่รู้ตัวเลย ภาพที่ตนเองและโจวเฉิงขายสินค้าอยู่บนถนน
ได้ถูกใครคนหนึ่งจับจ้องไว้ในสายตา
…นั่นคือเซี่ยเสี่ยวหลานใช่ไหม?
เชิงอรรถ
[1]电灯泡 หลอดไฟ หมายถึง คนที่เป็นส่วนเกินของคู่รัก