เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 - เล่มที่ 4 ตอนที่ 109 ภรรยาส่งมาให้ หวานซึ้ง
- Home
- เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80
- เล่มที่ 4 ตอนที่ 109 ภรรยาส่งมาให้ หวานซึ้ง
จากซางตูถึงปักกิ่ง นั่งรถไฟเพียงสิบกว่าชั่วโมง.
พัสดุที่เซี่ยเสี่ยวหลานส่งไปถึงปักกิ่ง ดำเนินการส่งโดยไปรษณีย์ แต่รอ 9 วันเต็มกว่าของจะส่งถึงมือโจวเฉิง
หากเป็นบริการส่งพัสดุด่วนในอนาคต เกินสามวันโทรศัพท์ติดตามพัสดุก็สายไหม้แล้ว
โชคดีที่ซางตูและปักกิ่งคือเมืองที่การคมนาคมทางรถไฟเจริญ
ถ้าส่งพัสดุสักชิ้นไปยังพื้นที่ไกลปืนเที่ยง อาจจะต้องใช้เวลาเดือนสองเดือนถึงจะได้รับ
รายงาน!
อีกฝ่ายกล่าวรายงานโจวเฉิง มีพัสดุของคุณครับ
เวลาพักผ่อนจากการฝึกซ้อม สายตามากมายมองมาพร้อมเพรียงกัน
ช่างเป็นพัสดุที่ขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมาก
โจวเฉิงได้รับก็สัมผัสได้ถึงความหนักนั้น
เนื่องด้วยมัจจุราชโจวอัธยาศัยดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังกลับมาจากการพักงาน
จึงมีคนอาจหาญแทรกสอด
หัวหน้าโจว ครอบครัวส่งของดีให้อีกแล้วสินะ?
โจวเฉิงเป็นคนใจกว้าง คนใต้บังคับบัญชาล้วนคาดว่าฐานะบ้านเขาไม่เลว
อีกทั้งครอบครัวเป็นห่วงใส่ใจเขามาก โจวเฉิงจึงได้รับพัสดุต่างๆ บ่อยครั้ง เขาเป็นคนไม่หวง
ไม่ว่าของกินหรือของใช้ จะนำออกมาแบ่งปันอยู่เสมอ มาตรฐานอาหารในหน่วยงานขึ้นอยู่กับสถานการณ์
หน่วยงานที่โจวเฉิงประจำอยู่อาหารการกินไม่ดีไม่แย่
ในอาหารยังพอเห็นเนื้อติดมันชิ้นโตบ้าง ปกติพวกเขาต้องฝึกฝนอย่างเข้มข้น จึงรู้สึกหิวโหยเร็วอย่างมาก
มารดาโจวเฉิงห่วงใยเขามาก ทุกสิบวันครึ่งเดือนก็ส่งของกินมาที่หน่วยงาน
นายโจวเคยเตือนหลายครั้งว่าไม่อนุญาตให้สุขสมกับสิทธิพิเศษส่วนตน
ทว่านางโจวยืนหยัดไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อโจวเฉิงได้รับพัสดุ จึงมักนำของออกมาแบ่งปันแก่ลูกน้อง
เขามีทรัพย์สินครอบครัวไม่น้อย
แต่ไม่สามารถนำพฤติกรรมฟุ่มเฟือยมาใช้ในหน่วยงาน`
คนอื่นอยู่อย่างไร โจวเฉิงก็อยู่อย่างนั้น พยายามอย่าให้รายจ่ายด้านปัจจัยดำรงชีวิตพื้นฐานเป็นจุดสนใจของผู้คน
ครั้งนี้มิใช่พัสดุที่นางโจวส่งมา พอเห็นที่อยู่ว่าคือของจากมณฑลอวี้หนาน
โจวเฉิงก็รู้ว่าเป็นเซี่ยเสี่ยวหลาน
จะกล่าวว่าได้ภรรยาแล้วลืมมารดาก็ได้ มารดาของเขาส่งของให้มากมายขนาดนั้น
โจวเฉิงแบ่งให้คนอื่นง่ายๆ และไม่รู้สึกเสียดาย
เซี่ยเสี่ยวหลานส่งของให้เขาครั้งแรก โจวเฉิงไม่อาจทำใจแกะออกให้คนอื่นดูด้วยซ้ำ!
เขาอุ้มพัสดุเดินจากไป ภรรยาฉันส่งมา แบ่งให้พวกนายไม่ได้
ฮ่าๆ หัวหน้าโจวยังล้อเล่นอีก เขาออกจะเอื้อเฟื้อขนาดนั้น… เดี๋ยวก่อน
หัวหน้าโจวมีภรรยาแล้ว?
โจวเฉิงมีคนรักแล้ว
ข่าวนี้แพร่กระจายในหน่วยงานอย่างรวดเร็วยิ่งนัก
เหล่าฟางผู้ริษยาโจวเฉิงมาตลอดบีบเค้นกำปั้นจนแทบแตก
เขาเพิ่งอายุ 20 มีคนรักอะไรกัน?
อายุ 30 ปีอย่างเขาคนนี้
ไม่ใช่ยังโสดอยู่หรือ?
พอมีภรรยา จิตใจจะวอกแวก สิ้นเปลืองเวลากับผู้หญิงมาก ความกระตือรือร้นในการทำงานจะถูกถ่วงรั้งหรือไม่?
เหล่าฟางกำหมัดแน่นอยู่ในใจ โจวเฉิงที่อายุ 20 ปีมีคู่หมายเสียแล้ว บางทีเขาไม่ควรปฏิเสธการดูตัวพวกนั้น
คราวก่อนผู้บังคับบัญชายังบอกว่าจะแนะนำผู้หญิงคนหนึ่งให้รู้จัก
ตอนนั้นเหล่าฟางปฏิเสธไป แต่ตอนนี้คิดแค่อยากตบหน้าตัวเองฉาดใหญ่
เหล่าฟางเกิดตระหนักขึ้นมาได้ หากเขายังไม่หาภรรยาอีก
ภายภาคหน้าลูกชายของตนจะต้องตามก้นไอ้ลูกหมาของโจวเฉิงแน่
หัวหน้า สหายหญิงที่คุณพูดถึงคราวก่อน…
ไสหัวไป คนเขาแต่งงานไปเป็นปี จะคลอดลูกอยู่รอมร่อ!
ผู้บังคับบัญชาไล่เหล่าฟางออกไป เหล่าฟางจำต้องยอมแพ้
ต้องโทษโจวเฉิงนั่นแหละ อายุแค่ 20 จะมีคนรักอะไรกัน?
—————————————-
โจวเฉิงหอบพัสดุอันแสนหนักอึ้งกลับหอพัก
คนที่ตำแหน่งต่ำกว่าอัดรวมกันในหอพักรวม แต่เจ้าพนักงานรัฐมีห้องพักเดี่ยว
ตำแหน่งของโจวเฉิงอยู่ขั้นแล้ว ไม่มีทางปล่อยให้เขาอาศัยรวมกับคนอื่นได้
เขาแกะพัสดุออก ปรากฏว่าเซี่ยเสี่ยวหลานส่งของมาจำนวนมากทีเดียว!
เสื้อกั๊กขนแกะสามารถสวมใต้ชุดทำงาน ปกป้องหน้าอกและแผ่นหลังไว้
ร่างกายก็อบอุ่นด้วย คำพูดนี้เซี่ยเสี่ยวหลานเขียนใส่ในจดหมาย
โจวเฉิงไม่ได้สนใจว่ามีของอะไรบ้าง
สิ่งสำคัญอันดับแรกของเขาคือค้นหาจดหมายของเซี่ยเสี่ยวหลาน
เซี่ยเสี่ยวหลานบรรยายไว้ในจดหมายว่าตนส่งของอะไรมาบ้าง
ทั้งเล่าว่าเธอให้แม่ไปรับสินค้าจากหยางเฉิงด้วยกัน
พบว่ามีเสื้อขนเป็ดที่เบาสบายและเก็บความอบอุ่นดี
ไม่รู้ว่าขณะโจวเฉิงพักจะใส่ได้หรือไม่ จึงส่งมาเพียงตัวเดียวก่อน
เสื้อขนเป็ดเป็นสีน้ำเงินเข้ม
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ทราบว่าโจวเฉิงจะมีโอกาสสวมใส่หรือไม่ จึงไม่เลือกสีสดฉูดฉาด
นอกจากเสื้อผ้าสองตัว ในกล่องพัสดุยังใส่พุทราตากแห้งจากซินเจิ้ง [1] จำนวนมาก กระป๋องเหล็กหลายใบบรรจุด้วยซิ่นหยางเหมาเจียน [2] เซี่ยเสี่ยวหลานบอกอย่างเสียดายด้วยว่าเวลาส่งของของไปรษณีย์ยุ่งเหลือเกิน
เดิมทีเธออยากส่งเนื้อวัวหมักซีอิ๊วสักหน่อย แต่ก็กลัวว่าเมื่อส่งมาแล้วของจะเน่าเสีย
ทำได้แค่คิดหาวิธีอื่นแก้ไขปัญหานี้อีกที
สักวันหนึ่งในอีกไม่นาน ระยะทางเป็นพันกิโลเมตร ใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงสั้นๆ
ของก็ถึงแล้ว ส่งอาหารปรุงสำเร็จระหว่างสองพื้นที่ได้ แม้อาหารสดก็ไร้ปัญหา
ในจดหมายเซี่ยเสี่ยวหลานเชื่อมั่นกับสิ่งนี้มาก
โจวเฉิงได้แต่คิดว่าอย่างนั้นต้องรออีกกี่ปีให้หลังกันเล่า
ใช้เครื่องบินส่งของ?
ขนาดประเทศเจริญรุ่งเรืองสูงสุดอย่างอเมริกายังไม่สุรุ่ยสุร่ายขนาดนั้นหรอก
เธอต้องการให้โจวเฉิงกินอิ่มนอนอุ่น
อย่าละเลยร่างกายเพียงเพราะอายุน้อยสุขภาพดี
อีกทั้งเล่าว่าตนเองอยากร่วมหุ้นทำธุรกิจสักอย่างกับไป๋เจินจู
สอบถามโจวเฉิงถึงหญิงสาวคนนี้นั้นน่าเชื่อถือหรือเปล่า
ไป๋เจินจู?
เป็นน้องสาวของไป๋จื่อหย่ง
ไป๋จื้อหย่งมาหน่วยงานตั้งหลายปีกว่าจะได้เลื่อนขั้น
ทุกวันนี้ตำแหน่งยังต่ำกว่าโจวเฉิง
คุณลักษณะส่วนบุคคลของคนคนนี้ค่อนข้างโดดเด่น ทว่ามีนิสัยหุนหันพลันแล่น ก่อนหน้านี้มีโอกาสเลื่อนขั้นแล้วแท้ๆ
กลับถูกนิสัยของตนเองทำลายลง… คนประเภทนี้อาจเป็นข้าราชการใหญ่โตไม่ได้ แม้กระทั่งโจวเฉิงก็ไม่อยากสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับเขาเหมือนกัน
ด้วยเกรงว่าอุดมการณ์วีรบุรุษของเขาจะโผล่ออกมาทำลายแผนการในวินาทีหน้าสิ่วหน้าขวาน
ทว่าสำหรับคบหาเป็นมิตรสหาย โจวเฉิงเชื่อมั่นในตัวอีกฝ่ายไม่น้อย
ไป๋จื้อหย่งคือคนที่แยกแยะบุญคุณกับความแค้นชัดเจน โจวเฉิงเองก็มีพระคุณต่อเขาพอดิบพอดี
น้องสาวของเขาน่าจะคู่ควรแก่การเชื่อใจนะ?
โจวเฉิงอ่านจดหมายซ้ำสองรอบ วางกระดาษจดหมายลงอย่างโหยหา
ถอดเสื้อนอกออกเพื่อลองสวมเสื้อกั๊กขนแกะ
จากนั้นค่อยลองเสื้อขนเป็ด ไม่ทันไรเขาก็ร้อนจนเหงื่อผุดเต็มใบหน้า
ในหน่วยงานของโจวเฉิงนั้นไม่มีโอกาสให้ใส่เสื้อขนเป็ดจริงๆ โจวเฉิงถอดเสื้อออกมาแขวนไว้อย่างทะนุถนอม
นี่เป็นความห่วงใยจากภรรยาเขา จะทำยับหรือสกปรกไม่ได้
แต่เสื้อกั๊กสามารถใส่ใต้ชุดเครื่องแบบได้ ทั้งบางและแนบกาย
โจวเฉิงขยับเขยื้อนก็ไม่กระทบต่อการทำกิจกรรม
เซี่ยเสี่ยวหลานส่งพุทราแห้งมาหนึ่งถุงใหญ่ ซิ่นหยางเหมาเจียนกระป๋องใหญ่ก็มีหลายกระป๋อง
โจวเฉิงหยิบพุทราแห้งหนึ่งเม็ดยัดเข้าปาก หวานฉ่ำเนื้อหนึบ อีกทั้งเมล็ดพุทรายังเล็กมากอีกด้วย
เขารับประทานหมดหนึ่งเม็ด อดไม่ได้ที่จะรับประทานอีกหลายเม็ดถึงจะหยุด—โจวเฉิงมีความลับบางอย่างที่ไม่ควรบอกคนอื่น นั่นก็คือเขาชอบรับประทานของหวาน!
ความโปรดปรานในรสหวานของเขาหนักหน่วงถึงระดับไหนน่ะหรือ
หมั่นโถวแป้งขาวที่เพิ่งออกจากหม้อ ทาซอสงาหนาหนึ่งชั้น
แล้วโรยน้ำตาลทรายป่นอีกหนึ่งชั้น… โจวเฉิงสามารถรับประทานหมดจานใหญ่คนเดียว
ตอนเขาเป็นเด็กก็ชื่นชอบการใช้นิ้วมือจิ้มน้ำตาลทรายรับประทาน เขาเคยโดนครอบครัวอบรมด้วยซ้ำ
บิดาตำหนิเขาว่าดูอ่อนแอและอ้อนแอ้น โจวเฉิงจึงค่อยๆ แก้ไขนิสัยเสพติดความหวาน
โอ๊ะ หรือจะบอกว่าซุกซ่อนให้มิดชิดกว่าเดิม
เซี่ยเสี่ยวหลานดูออกว่าเขาชอบรับประทานของหวานได้อย่างไร?
หรือเป็นเพราะในสถานีรถไฟคราวก่อน ขณะที่ตนซื้อพุทราให้เซี่ยเสี่ยวหลานนั้นใช้เวลาเลือกนานเกินไป?
โจวเฉิงหยิบพุทราแห้งออกมาหนึ่งเม็ดก่อนจะใส่ปากอีกครั้ง
อย่าสนว่าทำไมถึงรู้ อย่างไรเสียคือความเหมาะเจาะพอดี
แสดงว่าเซี่ยเสี่ยวหลานถูกลิขิตให้เป็นภรรยาของเขานั่นเอง
โจวเฉิงไม่โปรดชาเท่าไรนัก
ซิ่นหยางเหมาเจียนหลายกระป๋องนี้เขาต้องดื่มถึงเมื่อไรจึงจะหมด? ความห่วงใยของเซี่ยเสี่ยวหลานคงเสียเปล่าหากเขาทิ้งไว้อย่างนั้น
โจวเฉิงครุ่นคิด ใช้เวลาช่วงฟ้ามืดมอบแด่ผู้บังคับบัญชาหนึ่งกระป๋อง
หัวหน้าหยอกเย้าเขา ได้ยินว่านายมีคนรักแล้ว?
ครับ คนอวี้หนาน ใบชานี่เป็นของที่คนรักผมส่งมา ให้คุณลองชิมดู
มีใบชาทั้งหมดห้ากระป๋อง เหมือนกับพุทราแห้ง
เซี่ยเสี่ยวหลานตระเตรียมจำนวนมากเพื่อที่โจวเฉิงจะสามารถส่งมอบให้คนอื่นได้สะดวก
เพลิดเพลินไปกับของดีคนเดียวเป็นพฤติกรรมที่ไม่งามนัก ไม่ว่าหนแห่งใดล้วนจำเป็นต้องสร้างมนุษยสัมพันธ์…
แน่นอน เมื่ออยู่ในตำแหน่งแบบไหน ให้ดีที่สุดต้องแบ่งปันของดีท้องถิ่นกับผู้บังคับบัญชาของตน
ไม่ควรส่งของขวัญข้ามหน้าข้ามตา โจวเฉิงไม่เคยพูดถึงตำแหน่งของเขาให้เซี่ยเสี่ยวหลานรู้
เซี่ยเสี่ยวหลานนึกว่าเขาเป็นเพียงผู้มาใหม่ อายุแค่ 20 ปี ต่อให้ถูกเลื่อนขั้น อย่างมากก็เจ้าหน้าที่รัฐระดับรองเท่านั้น
ทว่าโจวเฉิงมิใช่เจ้าพนักงานระดับรอง!
ในหน่วยงานเขาไม่จำเป็นต้องประจบคนมากมาย แม้กระทั่งผู้บังคับบัญชา ก็ต้องเป็นคนมีความสามารถ
ปฏิบัติต่อโจวเฉิงตามความเหมาะสม โจวเฉิงถึงจะเคารพอีกฝ่าย
นอกจากผู้บังคับบัญชา โจวเฉิงและเหล่าฟางไม่ค่อยถูกกัน
อย่างไรเสียความสัมพันธ์กับผู้อื่นก็ไม่ถึงขั้นสนิทชิดเชื้อ
เขาเลยแบ่งใบชาหนึ่งกระป๋องให้แก่เจ้าหน้าที่ที่พอคบค้าสมาคมได้ด้วยดี
ใบชาที่เหลืออีก 3 กระป๋องจะทำอย่างไร?
โจวเฉิงไม่อาจให้ลูกน้อง และจะไม่ให้เหล่าฟางผู้น่ารำคาญเช่นกัน
เขาคิดสักพัก จากนั้นทำการห่อใบชาสองกระป๋อง แบ่งพุทราแห้งออกมาครึ่งหนึ่งอย่างอิดออด
ส่งกลับไปที่บ้านของตน—ชายหนุ่มได้ภรรยาแล้วลืมมารดา
ทว่ามีภรรยาก็ทำให้คนเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเหมือนกัน โจวเฉิงให้เงินที่บ้านบ่อยครั้ง ทว่ากลับซื้อของไปฝากน้อย
แบ่งพุทราแห้งและใบชาให้คนอื่นทำเขาปวดใจ แต่บิดามารดาตนนั้นต้องได้ลิ้มลองแน่นอน
ลูกชายแสนดีอย่างเขาไปตามหาจากที่ไหนได้ ถ้าไม่ใช่เพราะรีบลงมือว่องไว
บิดามารดาของเขาจะสามารถมีความสุขกับของฝากจากลูกสะใภ้ล่วงหน้าได้หรือ
ชายตาแลเหล่าฟางที่อยู่ห้องถัดไป ไร้แม้แต่คู่หมายสักคน
เกรงว่าบิดามารดาในบ้านคงกังวลเสียผมหงอกหมดแล้ว!
เชิงอรรถ
[1]新郑 ซินเจิ้ง เมืองสังกัดนครเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน
[2]信阳毛尖 ซิ่นหยางเหมาเจียน คือ ชาชนิดหนึ่ง จัดอยู่ประเภทชาเขียว
หนึ่งในสิบสุดยอดชาของจีน ถิ่นกำเนิดคือเมืองซิ่นหยาง มณฑลเหอหนาน