เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 - เล่มที่ 4 ตอนที่ 95 ร่วมลงทุนได้ หลานตัดสินใจ
- Home
- เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80
- เล่มที่ 4 ตอนที่ 95 ร่วมลงทุนได้ หลานตัดสินใจ
เซี่ยเสี่ยวหลานได้กลับมายังหมู่บ้านชีจิ่ง
ดั่งที่เธอเคยกล่าวไว้ ขอเพียงตนเองแข็งแกร่งมากพอ ภัยร้ายทั้งหลายล้วนถูกตัดไฟตั้งแต่ต้นลม
จางชุ่ยและเซี่ยหงเซี๋ยเลือกที่จะเล่นสกปรก
เพราะพวกเธอไม่รู้ว่าทุกวันนี้เซี่ยเสี่ยวหลานคือต้นกล้าคุณภาพดีผู้มีความหวังว่าจะสอบติดปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยชั้นนำของเซี่ยนอีจง
ต่อให้มอบขาหมูแด่ครอบครัวอาจารย์ใหญ่ซุนอีกสักร้อยท่อน เขาก็ไม่ไล่นักเรียนที่ผลการเรียนยอดเยี่ยมเช่นนี้ออกไปแน่
กิตติศัพท์ของเซี่ยเสี่ยวหลานไม่รื่นหูแล้วอย่างไร
คำถามที่เธอตอบในข้อสอบทำคะแนนได้มากขนาดนั้น
โรงเรียนคร้านจะยุ่งกับปัญหาพฤติกรรมของนักเรียน ทั้งเซี่ยเสี่ยวหลานก็มิได้ก่อความวุ่นวายภายในโรงเรียนด้วย
คงไม่สามารถใช้เหตุผลเพียงหน้าตาสะสวย ถึงได้ถูกห้ามแม้แต่สอบเข้ามหาวิทยาลัยอยู่ร่ำไปหรอก!
ทัศนคติของอาจารย์ใหญ่ซุนต่อเธอเป็นอย่างไรนั้นไม่สำคัญ เซี่ยเสี่ยวหลานสามารถเพิ่มพูนอัตราการสอบเข้าเรียนของเซี่ยนอีจงได้ก็เพียงพอแล้ว
อย่างไรเสียอาจารย์ใหญ่ซุนไม่มีทางยอมปล่อยเธอให้เซี่ยนเอ้อร์จงอย่างแน่นอน
คนตระกูลเซี่ยก็เหมือนวายร้ายที่สร้างปัญหาไม่สำเร็จ เซี่ยเสี่ยวหลานคร้านจะใส่ใจพวกเขา
เธอกลับหมู่บ้านชีจิ่งครั้งนี้เพื่อเกลี้ยกล่อมป้าสะใภ้ให้มาร่วมหุ้นลงทุนด้วยกัน
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้ขาดเงินทุน แต่เธอขาดกำลังคน!
หากพิจารณาแล้ว การนำเข้าสินค้ามีเพียงเธอเท่านั้นที่สามารถรับผิดชอบได้
ถ้าเปิดร้านจริง เวลาเธอไปรับสินค้าเข้ามาคงไม่อาจปิดร้านเสียดื้อๆ ไปตลอดได้ ไม่มีร้านค้าไหนปิดทำการบ่อยๆ
เสียด้วย งานขายเสื้อผ้าเธอสามารถจ้างคนอื่นได้ แต่ร้านต้องมีคนในครอบครัวดูแลถึงจะวางใจ
ถ้ากล่าวอย่างไม่น่าฟังก็คือ หากร้านไร้ระบบระเบียบและการสังเกตการณ์
รูปแบบการขายเสื้อผ้าโดยการกำหนดราคาแน่นอนอาจไม่ได้ผลดีในทางปฏิบัติ
คนที่จ้างมาจะค้าขายอย่างมั่วซั่วหรือไม่ เซี่ยเสี่ยวหลานไม่รู้เช่นกัน
พอเธอกลับมาถึงหมู่บ้านก็ถือโอกาสนำของฝากไปเยือนบ้านเฉินก่อน
แม้เซี่ยเสี่ยวหลานจะไม่ต้องการให้คนตระกูลเฉินเข้าใจผิดเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเฉินชิ่ง
แต่มิได้แปลว่าเธอไม่จดจำในน้ำใจไมตรี เฉินวั่งต๋าถามไถ่สภาพความเป็นอยู่ของเธอในซางตู
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้บอกว่าทำเงินมากน้อยเพียงใด
แต่ก็รายงานเฉพาะเรื่องราวน่ายินดี
เฉินชิ่งบอกว่าผลการเรียนเธอดี เรียนหนังสือถึงเป็นหนทางที่เหมาะสม
เธออย่าล้มเลิกกลางคันล่ะ
เฉินวั่งต๋าแนะนำสองสามประโยคจนได้ นี่ก็เพื่อให้เซี่ยเสี่ยวหลานได้ดี
เธอนั้นไม่ใช่ไม่รู้ถูกผิดเสียหน่อย
สิ่งที่เธอมอบแด่เฉินวั่งต๋าคือบุหรี่สองคอตตอน คุณปู่ลองเปลี่ยนรสชาติดู
เฉินวั่งต๋ามักสูบกล้องยา บุหรี่ที่มีไส้กรองเขาย่อมซื้อสูบไหวอยู่แล้ว
แต่ชายชราไม่จุกจิกกับของพวกนี้ บุหรี่ของเซี่ยเสี่ยวหลานมากจากไหนน่ะหรือ? ครั้งนี้ไม่ใช่การซื้อด้วยราคาบวกเพิ่มอีกแล้ว โจวเฉิงให้เงินเธอไม่รับ
ตอนจากไปจึงทิ้งบุหรี่ลังเล็กไว้ในลานบ้านย่าอวี๋ บอกว่าเป็นของสำหรับหลิวหย่ง
คุณลุงไม่ชอบฉัน
โจวเฉิงน้อยใจอยู่บ้างขณะกล่าว
ใช่แล้ว หลิวหย่งไม่โปรดโจวเฉิง ระแวดระวังเขาตั้งแต่พบหน้ากันครั้งแรก
เซี่ยเสี่ยวหลานรู้สึกว่าโจวเฉิงมีเสน่ห์เหมาะสมกับการคบหาเป็นคนรัก แต่หลิวหย่งคงคิดว่าเจ้าหนุ่มนี่ไม่คู่ควรให้ฝากใจไปชั่วชีวิต
หน้าตาดีไม่น่าเชื่อถือ ปากหวานราวกับทาน้ำผึ้ง ยังบอกไม่เคยมีคู่หมายมาก่อน
หลิวหย่งไม่ค่อยเชื่อมั่นนัก
สิ่งที่โจวเฉิงไม่เคยขาดเลยคือบุหรี่
เขาเหลือไว้ให้เซี่ยเสี่ยวหลานหนึ่งลัง แม้ไม่ใช่ของอย่างจงหัว [1] ก็จริง แต่โจวเฉิงจัดการทุกอย่างโดยรู้ถึงความเหมาะสมดี
เขาใช้เงินฟาดหน้าตระกูลจูได้
ทว่าจะใช้วิธีเดียวกันในการทำให้หลิวหย่งเปลี่ยนความคิดได้หรือ?
เกรงว่าหลิวหย่งอาจยิ่งเกลียดเขามากขึ้นกว่าเดิม
เซี่ยเสี่ยวหลานคุ้นเคยกับบุหรี่หนึ่งลังที่โจวเฉิงเหลือไว้ให้ทีเดียว
คือ ‘ไฉ่เตี๋ย’ ซึ่งคนซางตูชื่นชอบทว่าหาซื้อในพื้นที่ได้ยากนั่นเอง
โจวเฉิงบอกว่าหนึ่งลังมีหกสิบคอตตอน
เซี่ยเสี่ยวหลานตั้งใจจะใช้บุหรี่ลังนี้เป็นของกำนัลในการกรุยทาง ไม่อาจบอกได้ว่าจะสามารถพิชิตใจผู้หลักผู้ใหญ่ระดับสูงแค่ไหนได้
แต่สิ่งนี้สามารถทำให้การขอใบอนุญาตประกอบการผ่านไปด้วยความราบรื่นอย่างแน่นอน
แม้บอกว่ามอบให้หลิวหย่ง แต่หลิวหย่งจะสูบหมดหกสิบคอตตอนได้อย่างไร?
ขนาดสิงห์อมควันสูบหนึ่งซองทุกวันยังต้องใช้เวลาถึงสองปี
เห็นได้ชัดว่าโจวเฉิงเหลือไว้เพื่อให้เซี่ยเสี่ยวหลานนำไปเป็นของขวัญได้สะดวกโดยเฉพาะ
ในเมืองซางตูหาซื้อ ‘ไฉ่เตี๋ย’ ได้ยาก ทว่าคนซางตูกลับชื่นชอบ ‘ไฉ่เตี๋ย ‘ เป็นอย่างยิ่ง ผู้รับสินน้ำใจได้รับของขวัญหายากเช่นนี้ แน่นอนว่าเวลาช่วยจัดการธุระก็ย่อมเบิกบาน!
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่รับเงิน
ทว่าจะไร้ซึ่งความเกี่ยวข้องทางการเงินกับโจวเฉิงเลยก็ไม่ได้
บุหรี่หนึ่งลัง รับแล้วก็รับเถอะ
เซี่ยเสี่ยวหลานนำกลับชนบท 12 คอตตอน สองคอตตอนให้หัวหน้าหมู่บ้านเฉินวั่งต๋าไป อีกสิบคอตตอนก็วางไว้บนโต๊ะของบ้านหลิว
หลิวหย่งถอดถอนใจ ไอ้หนุ่มนั่นไม่น่าเชื่อถือ
ลุงกลัวหลานโดนหลอก
ความรักสดใหม่หอมหวานเหลือเกิน
เซี่ยเสี่ยวหลานเองยังไม่กลัวโดนหลอกด้วยซ้ำ ความถี่ที่เธอเคยถูกหลอกก็มีไม่ใช่น้อย
ความเจ็บปวดจากการโดนฉ้อโกงแต่ละครั้ง ล้มลุกคลุกคลานแล้วยืนหยัดขึ้นใหม่ ถึงได้มี ‘ประธานเซี่ย’ คนนั้นในชาติก่อน
ความรู้สึกระหว่างชายหญิงไม่มีใครลวงใคร
ไม่ว่าอย่างไรเธอไม่ได้อาศัยโจวเฉิงเพื่อมีชีวิตสุขสันต์อยู่แล้ว คนสองคนคบกันแล้วชื่นมื่นก็เดินหน้าต่อไป
ไม่เข้ากันก็แยกทางเสีย
แต่เธอไม่อาจแบ่งปันมุมมองความรักสุดล้ำยุคของตัวเองกับหลิวหย่งได้
มิเช่นนั้นลุงเธอต้องสั่งสอนให้กลับตัวกลับใจอีกรอบแน่นอน
คบๆ กันไปก่อน อย่างไรเสียเวลาพบหน้าก็ไม่ได้เยอะแยะ
ตอนนี้ฉันชอบโจวเฉิงอยู่มากทีเดียว
เซี่ยเสี่ยวหลานมองลุงของเธอตาละห้อย แต่กระนั้นหลิวหย่งก็ไม่ใจอ่อน
หลี่เฟิ่งเหมยช่วยไกล่เกลี่ยอีกแรง เรื่องสำคัญสูงสุดของชีวิตอย่างการแต่งงาน
ต้องศึกษากันไปก่อนนั่นแหละ ไม่เหมาะสมค่อยว่ากัน!
เซี่ยเสี่ยวหลานคล้องแขนป้าสะใภ้กวัดแกว่งไปมา
หลิวหย่งทิ้งเรื่องของโจวเฉิงไว้ชั่วคราว ว่าแต่หลานมาทำอะไรล่ะ
ธุรกิจไม่ยุ่งหรือ? ลุงยังคิดว่าจะรอเทาเทาปิดภาคเรียนก่อนแล้วค่อยพาเขาไปซางตูอยู่เลย
ไม่คิดว่าหลานจะกลับมาเสียแล้ว
ฉันอยากให้ป้าไปร่วมหุ้นเปิดร้านด้วยกัน
ร่วมลงทุนเปิดร้านขายเสื้อผ้า หลี่เฟิ่งเหมยสนใจอยู่ไม่น้อย
แต่หลิวหย่งไม่ต้องการเอาเปรียบหลานสาว ก่อนหน้านี้ที่เกริ่นขึ้นมาจึงถือว่าปฏิเสธไปแล้ว
เงินทุนหลานไม่พอหรือ? ลุงให้หลานยืมก่อนได้นะ
หลิวหย่งได้เงินคืนมา 5000 หยวน
ไม่คิดทำธุรกิจอะไรไปสักพัก อีกอย่างบาดแผลยังไม่หายดี
เขาสามารถให้เซี่ยเสี่ยวหลานยืมเงินในมือได้
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้มาขอเงิน ในมือเธอมีสามพันกว่าหยวนแล้ว
เดินทางไปหยางเฉิงอีกสักรอบ ก็เพียงพอสำหรับเปิดร้านอย่างเป็นทางการ
ถ้าป้าไม่ช่วยฉัน ฉันคงหาคนที่เหมาะไม่ได้แล้วจริงๆ
หลี่เฟิ่งเหมยส่ายศีรษะ ป้าต้องอยู่บ้านดูแลน้องของหลาน…
หลิวหย่งใจอ่อนขึ้นมาเล็กน้อย
ใครจะไม่รู้ว่าน้องสาวของเขาอย่างหลิวเฟินมีนิสัยแบบไหน
ให้หลิวเฟินทำงานหนักนั้นไม่มีปัญหา
แต่เธอช่วยเหลือธุรกิจร้านเสื้อผ้าอาภรณ์ที่ต้องติดต่อกับคนและอาศัยฝีปากหาเงินนั้นไม่ได้เลย
ส่วนที่เซี่ยเสี่ยวหลานพูดว่าจะพาครอบครัวหาเงิน
หลิวหย่งคิดว่าตนเองยังไม่ถึงขั้นต้องพึ่งพาความจุนเจือของหลานสาว
ทว่าเซี่ยเสี่ยวหลานระบายอย่างน่าสงสารว่าตนไร้คนช่วย
หลิวหย่งย่อมใจอ่อนระทวย
ไร้ซึ่งคนช่วยเป็นแน่แท้ หลิวเฟินไม่เหมาะสม
ด้านตระกูลเซี่ยก็จิตใจเน่าเฟะกันทั้งหมด
เสี่ยวหลานต้องแบกงานหาเลี้ยงชีพของเธอและมารดา ภาระหนักหนายิ่งนัก
ความจริงแล้วหลิวหย่งไม่อยากหมกอยู่ในหมู่บ้านชีจิ่งเช่นกัน
เขาคือคนที่เคยหาเงินได้ก้อนโต จะให้เขาถือจอบแบกเสียมทำไร่ทำนาขุดหาอาหารจากผืนดิน
หลิวหย่งหาได้มีความอดทนเช่นนั้น เมื่อเห็นว่าเซี่ยเสี่ยวหลานกับหลิวเฟินได้ย้ายไปซางตู
หลิวหย่งก็อยากไปด้วย เขายังถือคติบุรุษเป็นใหญ่ ต้องคอยดูแลน้องสาวและหลานสาว
ป้าหลานกับหลานลงขันกันทำธุรกิจน่ะได้ แต่เรื่องการเรียนของน้องชายเล่าจะจัดการอย่างไร?
เซี่ยเสี่ยวหลานครุ่นคิด พวกเรายังต้องหาหน้าร้านเหมาะๆ
การตกแต่งก็ใช้เวลาพอสมควร ในช่วงเวลานั้นฉันจะพยายามหาโรงเรียนประถมสักแห่งในซางตูที่ขอเรียนชั่วคราวได้
อันที่จริงตอนนี้เทาเทาไปเรียนในซางตูก็พอดีเลย ปีนี้น้องเพิ่งเข้าเรียนชั้นประถมหนึ่ง
โรงเรียนประถมของซางตูสามารถสร้างพื้นฐานการเรียนแน่นๆ ให้เขาได้แน่นอน!
เรื่องการร่วมลงทุนจึงตกลงร่วมกันเช่นนี้
เซี่ยเสี่ยวหลานนำเงิน 300 หยวนที่เคยยืมมาคืนให้หลี่เฟิ่งเหมย
หลี่เฟิ่งเหมยไม่รับกำไรที่เธอแบ่ง
ถือว่าก่อนหน้านั้นทั้งสองคนยังไม่ได้ร่วมหุ้นกัน
เซี่ยเสี่ยวหลานยอมถอยหลังหนึ่งก้าว
อย่างไรเสียวันนี้ได้ตกลงแล้วว่าเป็นหุ้นส่วนกัน เงินที่หาได้ในภายภาคหน้าย่อมต้องแบ่งสรรปันส่วนอยู่ดี
เซี่ยเสี่ยวหลานสามารถลงเงินต้นทุน 3000 หยวน
หลิวหย่งครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่แล้วลงเงินเพียง 2000 หยวน
ร้านนี้ให้หลานเป็นหุ้นส่วนใหญ่เถอะ หลานเป็นคนตัดสินใจ หากว่าเงินไม่พอค่อยขอลุง พ
เชิงอรรถ
[1]中华 จงหัว คือ ชื่อทางการค้าของบุหรี่สำเร็จรูป
เป็นยี่ห้อที่ได้รับความนิยมสูง ถูกยกย่องว่าเป็น ‘บุหรี่ประจำชาติ’