เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] - ตอนที่ 18.1
เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล ตอนที่ 18.1
ตอนที่ 18.1
บทที่ 18
คลาสเรียนวันนี้พอแค่นี้ครับ
เครย์ลีบันเอ่ยพูดเป็นการจบการเรียนการสอนสำหรับวันนี้
เอาจริงๆ คนที่ตั้งใจเรียนก็มีแค่เธอคนเดียว แต่ดูเหมือนเครย์ลีบันจะไม่ได้สนใจอะไรมาก
และวันนี้เองก็มีการบ้านเช่นเคยครับ
เฮ้อ…
พวกเด็กๆ เมื่อได้ยินคำว่าการบ้านก็ถึงกับถอนหายใจราวกับฟ้าถล่มไม่ว่าจะที่ไหนเรื่องเกลียดการบ้านนี่ก็เป็นเหมือนกันหมด
การบ้านที่จะสั่งวันนี้นั้นเทียบกับคราวก่อนแล้วเรียบง่ายกว่ามากครับ ถึงแม้แน่นอนว่ามันอาจจะไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไปก็เถอะนะครับ
แล้วนั่นคำพูดที่เหมือนชาร้อนคอยสาดเรื่องยุ่งยากมาอีกล่ะเนี่ย
เธอรู้สึกได้ว่าความอยากรู้อยากเห็นมันพลุ่งพล่านขึ้นมา จึงมองเครย์ลีบัน
การบ้านก็คือ ให้ไปคิดมาว่า ‘ทรัพย์สินที่มีค่ามากที่สุดสำหรับพ่อค้าคืออะไร’ ครับ
แน่นอนว่าต้องเป็นเงินสิครับ
คิลลีวูตอบในทันที
ถ้าอย่างนั้นนั่นคงจะเป็นคำตอบของท่านคิลลีวูสินะครับ สำหรับการบ้านเอาไว้มาสนทนากันในคลาสครั้งต่อไปนะครับ
เครย์ลีบันเช็ดกระดาน ประกาศแจ้งว่าคลาสวันนี้จบลงแล้วจริงๆ
เธอจัดการเก็บที่นั่งที่เธอนั่งมาตลอดคลาสเรียน ก่อนจะลุกขึ้น ส่วนเมโลนบ่นหงุงหงิงเก็บเบาะรองนอนวางตั้งตามเธอ
ไม่รู้ว่าอาจารย์ทราบเกี่ยวกับธุรกิจดีขนาดนั้นได้ยังไง
ฟีเรนเทียเผลอหลุดยิ้มออกมา
คนอื่นอาจจะไม่รู้ แต่เธอรู้ว่าคนที่ชื่อเครย์ลีบัน เพลเลส เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตมากขนาดไหน ทั้งยังเป็นคนที่มีด้านมืดน่ากลัวอยู่ด้วย
เธอศอกเข้าที่สีข้างเมโลนพลางเอ่ยพูด
แน่นอนสิ! อาจารย์เครย์ลีบันน่ะ เป็น…!
ตั้งใจจะพูดต่อว่า ‘คนแบบไหน’ แต่เธอสัมผัสได้ถึงสายตาที่ทิ่มแทงตามมายังหลังศีรษะจึงรีบปิดปากทันควัน
เครย์ลีบันไม่มีทางพลาดเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องเรียนอย่างแน่นอน เธอควรจะรู้จักเครย์ลีบันในฐานะที่เขาเป็นอาจารย์เท่านั้น
เป็นคนแบบไหนสงสัยจังเลยเนอะ? ฮ่าฮ่าฮ่า…
เกือบเกิดเรื่องใหญ่แล้วมั้ยล่ะ
พอเห็นว่าเธอรีบเปลี่ยนคำพูดและรีบจัดหมอนรองนอนที่วางอยู่เป็นระเบียบอยู่แล้วอีกครั้ง เมโลนก็เอียงคอมองด้วยความงุนงง
เทีย จู่ๆ เจ้าก็เหงื่อออกเต็มเลยไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า
มะ…ไม่สบายอะไรล่ะ หมอนนี่สวยจังเลย…
เธอเพิ่งจะเปลี่ยนคำพูดได้อย่างหวุดหวิด แล้วตอนนี้ก็ต้องมาเปลี่ยนหัวข้อสนทนาอย่างรวดเร็วอีก
ว่าแต่วันนี้เบเลซักไม่มาแฮะ?
ขาดเสียงกรนของเด็กนั่นไป บรรยากาศการเรียนก็น่าพอใจขึ้นมาก ทำให้วันนี้เนื้อหาการเรียนดังทะลุเข้าหูเธอได้ดียิ่งขึ้น
เบเลซักเห็นว่าตามท่านพ่อไปงานพบปะน่ะ
เสียงเล็กแผ่วเบาช่วยตอบให้แทน
สวัสดี ลาลาเน่
สวัสดี ฟีเรนเทีย
ลาลาเน่ วันนี้ก็สวยเหมือนเคย นางสวมเดรสสีขาวประดับไปด้วยจีบระบาย
เดิมทีความสัมพันธ์ระหว่างพวกเธอนั้นถือว่าไม่คุ้นเคยกันเลย แต่เพราะได้มาร่วมเรียนในคลาสเดียวกันจึงกลายเป็นความสัมพันธ์ที่ได้กล่าวทักทาย ได้สนทนาพูดคุยกันบ้าง แม้จะแค่สั้นๆ ก็ตาม
แต่ปกติแล้วส่วนใหญ่เธอจะเป็นฝ่ายชวนคุยก่อนตลอด วันนี้เป็นครั้งแรกที่ลาลาเน่เป็นฝ่ายเข้าหาเธอก่อน
คือว่า ฟีเรนเทีย
อื้อ ทำไมเหรอ
ฟีเรนเทีย…ชอบสีอะไรเหรอ
คำถามอย่างกะทันหันทำให้เธอตกใจเล็กน้อย
ถามว่าสีที่ชอบคือสีอะไรเนี่ยนะ
เธอกะพริบตาปริบๆ สองครั้ง ก่อนจะเอ่ยตอบ
สีแดง
อา อย่างนั้นเหรอ เข้าใจแล้ว
ดูเหมือนจะมีธุระแค่นั้นจริงๆ เมื่อได้คำตอบของเธอแล้ว ลาลาเน่ก็หมุนตัวเดินจากไปโดยไม่ลังเล
สองแฝดเดินเข้ามาหาเธอที่ยืนนิ่งเพราะรู้สึกว่ามันน่าขบขันดี
ทำไมล่ะ ลาลาเน่พูดอะไรเหรอ
จู่ๆ ก็มา…
จู่ๆ ก็มา?
ถามว่าข้าชอบสีอะไรน่ะ
เธอนึกว่าสองแฝดจะมีปฏิกิริยาแบบ ‘เห อะไรกัน’ หรือไม่ก็ ‘คำถามอะไรไร้สาระจัง’ เสียอีก แต่สองคนนั้นกลับยิ้มกว้างเบิกตากลมโต
เทียชอบสีแดงนี่เอง!
สีแดง สีแดง…
ปฏิกิริยาของสองแฝดเองก็แปลกเหมือนกัน
เมโลนชอบใจราวกับได้รู้ข้อมูลดีๆ ส่วนคิลลีวูเอาแต่พึมพำว่า ‘สีแดง’ ราวกับคนที่กำลังท่องจำพยายามไม่ให้ลืม
ลาลาเน่เองก็แปลก สองแฝดก็แปลก
ไม่สิ แฝดคู่นั้นเดิมทีก็เป็นเด็กที่แปลกอยู่นิดหน่อยก็จริง แต่วันนี้ดูแปลกกว่าเดิม
รีบกลับไปนอนกลางวันดีกว่า
เธอถอนหายใจไปพลางเริ่มเก็บข้าวของในห้องเรียน
Related
Related