เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] - ตอนที่ 27.2
เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล ตอนที่ 27.2
ตอนที่ 27.2
หลังจากออกมาจากที่พักของชานาเนสกับสองแฝด เธอก็มุ่งหน้าไปหาเครย์ลีบันทันที
โล่งอกที่เครย์ลีบันซึ่งนั่งอยู่ในห้องทำงานของตนเองถึงจะสงสัยเล็กน้อย แต่ก็ยอมเปิดประตูให้เธอ
คุณหนูมีธุระอะไรที่นี่ครับ
พอดีมีเรื่องสงสัยอยู่เรื่องหนึ่งน่ะค่ะ
เครย์ลีบันขยับกองเอกสารที่วางพะเนินอยู่บนโต๊ะออกไปด้านข้างเพื่อให้มองเห็นหน้าเธอ เขาเลิกคิ้วขึ้น ท่าทางดูจะอยากรู้มากพอควรว่าเธอจะถามอะไร
ถ้าจะเข้าศึกษาที่อะคาเดมีประจำอาณาจักร จะต้องทำยังไงเหรอคะ อาจารย์
พูดถึง…อะคาเดมีของอาณาจักรหรือครับ
เครย์ลีบันดูสับสน
เขาจ้องเธออยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถอดแว่นตาไร้ขอบออก ในขณะที่ปากก็เอ่ยถามเธอไปด้วย
อยากไปอะคาเดมีหรือครับ
ทันทีที่พูดจบเครย์ลีบันก็ขมวดคิ้วเสียจนหน้าผากยับย่น
อะคาเดมีของอาณาจักรเป็นสถาบันการศึกษาแบบหกปีการศึกษา หากเข้าไปแล้วนอกจากปิดภาคเรียนที่จะมีหนึ่งครั้งในแต่ละปี ก็ไม่สามารถออกมาได้…
เปล่าค่ะ! ไม่ใช่ข้านะคะ!
เธอรีบเอ่ยพูดก่อนที่คำพูดข่มขู่โดยแสร้งทำเป็นพูดแนะนำนั่นจะถูกพูดออกมาต่อ
ไม่ใช่ข้า แต่พอดีมีคนบอกอยากจะเข้าเรียนที่อะคาเดมีของอาณาจักรอยู่น่ะค่ะ
อาฮะ
รังสีอำมหิตของเครย์ลีบันอ่อนยวบในทันที
เครย์ลีบันพิงกายลงกับพนักเก้าอี้ด้วยท่วงท่าผ่อนคลายลงระดับหนึ่ง เขาเอ่ยถามด้วยนัยน์ตาที่ตอนนี้เหลือเพียงแค่ความอยากรู้แล้วจริงๆ
คุณหนูถึงขนาดมาถามวิธีการเข้าเรียนที่อะคาเดมีให้แทนแบบนี้ ใครหรือครับ
คิดอยู่ว่าเล่าเรื่องชีวิตส่วนตัวออกไปมันจะดีหรือ แต่ยังไงเธอก็มีเรื่องให้ต้องถามเครย์ลีบันอีกหลายเรื่อง คงจะปกปิดเอาไว้ไม่ได้ จึงเอ่ยตอบกลับไป
เอสทีร่าค่ะ เห็นว่าอยากจะไปศึกษาเกี่ยวกับสมุนไพรศาสตร์จริงๆ จังๆ ที่อะคาเดมีน่ะค่ะ
เอสทีร่า…พูดถึงศิษย์คนเล็กของดอกเตอร์โอมัลลี่สินะครับ
ราวกับกำลังเคาะเครื่องคิดเลขอยู่ในหัวสมอง เพียงไม่นานเครย์ลีบันก็พยักหน้าลง
หากเป็นผู้หญิงคนนั้น บางทีอาจจะเข้าศึกษาได้อย่างไร้อุปสรรค ถ้าแจ้งแก่ท่านเจ้าตระกูลก็คงจะแก้ปัญหาเรื่องเงินค่าลงทะเบียนกับเงินค่าแรกเข้าได้อย่างง่ายดายเลยครับ ที่เหลือก็มีแต่ข้อสอบเข้าเรียน ซึ่งมันก็เป็นแค่ข้อสอบความรู้พื้นฐานทั่วไป…
ไม่ใช่นักเรียนค่ะ เอสทีร่าจะต้องเข้าไปในฐานะนักวิจัยค่ะ
ต้องเข้าไปอย่างนั้นหรือครับ
คำพูดหนักแน่นของเธอทำให้เครย์ลีบันเอียงคอด้วยความงุนงง
ให้ตายเถอะ เธอดันเผลอออกตัวแรงเกินไปเสียได้
เธอรีบพูดกลบเกลื่อน
คือแบบว่า เอสทีร่าบอกว่าอยากทำแบบนั้นน่ะค่ะ!
หืม…
เครย์ลีบันมองเธอด้วยนัยน์ตาสงสัยอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยพูด
ถ้าหากไม่ใช่นักเรียนเข้าใหม่ แต่อยากจะเข้าไปในฐานะนักวิจัยแล้วละก็ เรื่องมันจะแตกต่างออกไปเล็กน้อยครับ เงื่อนไขย่อมจุกจิกมากกว่าอยู่แล้วละครับ
ก็นะ ได้ชื่อว่าเป็นอะคาเดมีของอาณาจักร ย่อมไม่มีทางเข้าได้ง่ายๆ อยู่แล้วแถมเอสทีร่ายังไม่ใช่นักเรียนที่จบการศึกษาจากอะคาเดมีอีกด้วย
เธอกลืนน้ำลายเสียงดังเอื๊อก หูกระดิก
ก่อนอื่น นักศึกษาวิจัยจำเป็นต้องใช้เงินมากกว่านักเรียนครับ เพราะการวิจัยค้นคว้าส่วนตัวก็ย่อมต้องรับผิดชอบเงินที่ใช้กันเองน่ะครับ
และอะไรอีกคะ
และต้องมีใบแนะนำครับ
ใบแนะนำเหรอคะ
เรื่องเงินยังไงเธอก็ช่วยรับผิดชอบแทนได้ แต่ใบแนะนำนี่มันไม่ใช่สิ่งที่เธอจะช่วยเขียนให้ได้
ต้องใช้ใบแนะนำจากใครเหรอคะ
ไม่ทราบสิครับ ใบแนะนำของดอกเตอร์โอมัลลี่ที่สอนเอสทีร่ามา น่าจะหาได้ง่ายที่สุดนะครับ
เธอพยักหน้าลง เมื่อนึกถึงใบหน้าของดอกเตอร์โอมัลลี่ที่ดูแล้วไม่น่าจะเป็นคนจุกจิกอะไรขนาดนั้น
ดอกเตอร์โอมัลลี่เป็นคนที่มีฐานะสูงด้วยชื่อเสียงของการเป็นหมอประจำตระกูลลอมบาร์เดีย ดังนั้นถ้าเอสทีร่าได้รับใบแนะนำมา และส่งใบสมัครไปในฐานะนักเรียนทุนของลอมบาร์เดีย ทางอะคาเดมีก็จะตอบอนุญาตในทันทีครับ
ว่าแล้วเชียว ลอมบาร์เดียเจ๋งที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ก็ไม่มีที่ใดที่อำนาจของพวกเราไปไม่ถึง
เครย์ลีบันยังคงอธิบายต่อไป ให้เธอที่กำลังคิดว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็จะต้องปกป้องตระกูลนี้ไว้ให้ได้
อันที่จริง สิ่งที่ดีที่สุดก็คือ ใบแนะนำของท่านเจ้าตระกูลหรือท่านโบรชูลที่เคยเป็นถึงรองอาจารย์ใหญ่ของอะคาเดมี แต่เพราะทั้งสองคนเป็นบุคคลที่ระมัดระวังเกี่ยวกับการเขียนใบแนะนำกันทั้งคู่ จึงน่าจะยากครับ
ดอกเตอร์โอมัลลี่ช่วยสอนเอสทีร่าด้วยตัวเอง
ย่อมต้องทราบดีที่สุดว่านางเป็นคนฉลาดมาก และยังมีใจรักในสมุนไพรศาสตร์ขนาดไหน ดังนั้นเรื่องขอใบแนะนำจึงไม่น่ายากอะไร
เธอคิดแบบนั้นแท้ๆ
ขอบคุณที่บอกนะคะ! งั้นข้าขอตัวไปแจ้งข่าวให้เอสทีร่าก่อนนะคะ อาจารย์!
เธอโค้งศีรษะกล่าวลา ก่อนจะออกมาจากห้องทำงานของเครย์ลีบัน
ต้องรีบหน่อยนะครับ
เมื่อมาถึงห้องวิจัยของดอกเตอร์โอมัลลี่ เธอก็ได้รู้ความหมายของรอยยิ้มของเครย์ลีบันที่ทำให้รู้สึกสังหรณ์ใจพิกล
ขอบคุณครับ อาจารย์!
ฮ่าฮ่า ไปแล้วก็พยายามเข้าล่ะ
นี่มันอะไรกัน
เธอยืนนิ่งอยู่หน้าประตู
ชายคนหนึ่งเปล่งประกายระยิบระยับไปทั้งตัวเหมือนทาน้ำมันตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เขากำลังกล่าวทักทายดอกเตอร์โอมัลลี่ด้วยรอยยิ้มประจบประแจง
ครับ ไปแล้วจะตั้งใจศึกษาวิจัย ไม่ให้ชื่อเสียงของอาจารย์ต้องมัวหมองเลยครับ!
ด้านหลังอาจารย์กับลูกศิษย์ที่หัวเราะเสียงดังฮ่าฮ่า โฮ่โฮ่ กันอย่างรักใคร่ เอสทีร่ากำลังมองภาพของทั้งสองคนอยู่ด้วยรอยยิ้มขมขื่น
เสียงชายผมมันเยิ้มคนนั้นดังขึ้นเสียงก้องทิ่มแทงเข้ามาในโสตประสาทหูของเธอที่กำลังยืนเหม่อด้วยยังไม่อาจเข้าใจในสถานการณ์ได้
ขอบคุณจริงๆ ครับ ที่ช่วยเขียนใบแนะนำให้!
Related