เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] - เล่ม 3 บทที่ 98.2
บางทีคงคิดว่าในเมื่อตามสืบเรื่องเกี่ยวกับเธอมาได้มากขนาดนั้น ตัวเองจะเป็นฝ่ายชนะละมั้ง
หากคิดจะเล่นแง่เพราะเรื่องศักดิ์ศรีละก็…
เปล่าค่ะ ไม่ได้เล่นแง่อะไรทั้งนั้น น่าเสียดายแต่การสืบของเบ๊ตมันมีจุดที่ผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงอยู่น่ะค่ะ
เหอะ แล้วมันอะไรกันล่ะครับ ข้อผิดพลาดที่ว่านั่น
เบ๊ตบ่นเสียงเกรี้ยวกราดด้วยใบหน้าที่ยังคงไม่รู้จักเก็บสีหน้าเหมือนเคย
สักครู่นะคะ
เธอลุกขึ้นจากที่นั่ง เปิดประตูร้านออก ก่อนจะเอ่ยเรียกคนคนหนึ่งที่ยืนรออยู่แถวนั้น
เธอบอกสถานที่กับเวลานัดหมายวันนี้ ให้เขาช่วยรอในรถม้าเผื่อไว้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น
คิดถูกแล้วจริงๆ ที่ทำเช่นนั้น
คุณเครย์ลีบัน
เครย์ลีบันเดินเข้ามาในร้านทันทีที่ได้ยินเสียงเรียกของเธอ
เรียกหรือครับ ท่านฟีเรนเทีย
ท่าทางที่อีกฝ่ายดูจะเคารพนับถือเด็กสาวมากเกินกว่าจะเป็นอาจารย์ปฏิบัติตัวกับลูกศิษย์ ทำให้เบ๊ตขมวดคิ้วแน่นเป็นปม
พอดีคิดว่าถ้าคุณเครย์ลีบันอยู่ตรงนี้ด้วย เบ๊ตน่าจะเชื่อใจกันได้มากกว่าน่ะค่ะ เมื่อครู่นี้บอกว่าข้าได้รับคำชี้แนะจากคุณเครย์ลีบันใช่มั้ยคะ
ครับ ใช่แล้ว
ดูเหมือนเบ๊ตจะยังไม่รู้ว่าตัวเองผิดพลาดที่จุดไหน
เธอจับชายกระโปรง กล่าวแนะนำตัวกับเบ๊ตอย่างเป็นทางการ
ครั้งนี้ข้าขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการนะคะ เจ้าของร้านค้าเพลเลสตัวจริง ฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดียค่ะ
ครับ…?
เบ๊ตใช้ปลายนิ้วแคะรูหูของตัวเองด้วยใบหน้าโง่งม
แล้วหันไปมองเครย์ลีบันด้วยนัยน์ตาขอคำอธิบาย
ที่ท่านฟีเรนเทียกล่าวถูกต้องแล้วครับ
ถะ ถ้างั้น เป็นเรื่องจริงหรือครับ!
เครย์ลีบันพยักหน้ายืนยัน
ตะ แต่ชื่อร้านค้าเพลเลส…
ก็แค่ชื่อเท่านั้นแหละครับ
เครย์ลีบันตอบอย่างไม่แยแส
แต่อายุแค่ 11 ปี…
ยอดเยี่ยมไปเลยว่ามั้ยครับ!
ชะ เช่นนั้นคุณหนูฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดียก็…
เป็นแสงสว่างและความหวังของลอมบาร์เดียยังไงล่ะครับ!
ฮะ ฮ่าฮ่า…
เบ๊ตหัวเราะเสียงแผ่วเหมือนคนสติหลุด
เขามองเธอหนึ่งครั้ง หันไปมองเครย์ลีบันที่ยืนอยู่ข้างๆ หนึ่งครั้ง แล้วก็หัวเราะออกมาแบบนั้นอีกครั้ง
ถ้าอย่างนั้นเสื้อผ้าสำเร็จรูปนั่น…
อาจจะน่าประหลาดใจไปบ้าง แต่นั่นเป็นความคิดของท่านพ่อค่ะ
แต่การแทรกแซงของคุณหนู…
ก็มีบ้างเหมือนกันค่ะ เรื่องนั้นเบ๊ตคาดเดาได้ถูกต้องแล้วค่ะ
อา ว่าแล้วเชียว…
ท่าทางเบ๊ตคงจะต้องการเวลาอยู่คนเดียวสักพัก
เขายกมือขึ้นจับคางตัวเอง ดูเหมือนจะกำลังครุ่นคิดเรื่องอะไรบางอย่าง ถึงได้พยักหน้าพลางพูดพึมพำอยู่คนเดียว
อย่างนี้นี่เอง ถ้างั้นก็เป็นไปได้…
เธอเองก็ไม่อาจรู้ได้เหมือนกันว่า ในหัวสมองนุ่นกำลังยุ่งกับการครุ่นคิดเรื่องอะไรอยู่กันแน่
หลังจากนั้นเบ๊ตก็เงยหน้าขึ้น แล้วถาม
ถ้าอย่างนั้นเหมืองเพชร… เรื่องที่เอาชนะการประมูลแย่งอังเกนัสกับลอมบาร์เดียมาได้นั่น มันยังไงกันแน่หรือครับ แค่โชคดีจริงๆ หรือครับ
หากดูจากที่ร้านค้าเพลเลสชนะการประมูลได้โดยจ่ายเงินมากกว่าแค่ไม่กี่เหรียญทอง ก็น่าจะได้คำตอบแล้วนะคะ
อังเกนัสเขียน 2,000 เหรียญทอง และถูกพวกเราที่เขียน 2,050 เหรียญทองแย่งชิงเหมืองแร่นั่นมา
อา…
เบ๊ตโค้งกายลง มือทั้งสองข้างแทบจะยกขึ้นมาขยุ้มศีรษะของตัวเองอยู่รอมร่อ
เธอเดินเข้าไปหาเบ๊ตที่เป็นแบบนั้น ตบลงบนไหล่เขาเบาๆ ปลอบใจเขาเสียหน่อยก็ไม่เสียหาย
เพิ่งเปิดกิจการขายข้อมูลได้ไม่นานเท่าไหร่ ได้เท่านี้ข้าก็ถือว่ามีความสามารถมากแล้วนะคะ
ทะ ทราบเรื่องนั้นได้ยังไงครับ ที่ข้าเปิดกิจการขายข้อมูล!
เบ๊ตสูดลมหายใจดังเฮือก เขาได้แต่ตกตะลึง
อืม คิดว่าทำไมข้าถึงได้รู้ล่ะคะว่าอังเกนัสจะเขียนยอด 2,000 เหรียญทองน่ะค่ะ
อึก…
เบ๊ตมีสีหน้าโกรธเคือง
คงจะโมโหที่เธอมองทุกอย่างออกได้อย่างแม่นยำ และรู้เรื่องอะไรมากมายกว่าที่เขารู้
เธอยื่นข้อเสนอที่เบ๊ตไม่อาจปฏิเสธได้ให้เขาอีกครั้ง
ถ้าอย่างนั้น มาลองพนันกันอีกอย่างมั้ยคะ พวกเรา
เบ๊ตกัดฟันกรอดก่อนจะถาม
คราวนี้คืออะไรครับ
หัวข้อที่ร้อนแรงที่สุดในการประชุมสภาขุนนางล่าสุดนี่คือเรื่องอะไรล่ะคะ
การวางแผนรับมือภัยแล้งทางตะวันออกครับ เห็นว่าสุดท้ายอำนาจการตัดสินใจก็ถูกส่งต่อให้องค์จักรพรรดิแล้ว
ว่าแล้วเชียว รู้อยู่แล้วสินะ
ทั้งๆ ที่เรื่องภายในสภาขุนนางเป็นข้อมูลที่สืบหาได้ยากมากแท้ๆ
เบ๊ตคิดว่าองค์จักรพรรดิจะตัดสินพระทัยยังไงคะ
ดูจากที่ปีก่อนยกเว้นภาษีไปแล้ว ปีนี้คงจะยากหน่อยครับ เพราะยังไงก็มีผลกระทบกับคลังหลวงมากทีเดียว
งั้นข้าขอพนันตรงกันข้ามก็แล้วกันค่ะ เดิมพันด้วยค่าเช่าร้าน 5 ปี
5 5 ปี…
เบ๊ตกลืนน้ำลายเสียงดังอึก
แล้วถ้าข้าแพ้ ท่านฟีเรนเทียจะได้อะไรล่ะครับ
ถ้าหากข้าพูดถูก…
เธอพูดออกไปด้วยความรู้สึกราวกับหย่อนเหยื่อลงไปในน้ำนิ่ง
ให้สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลกับข้าค่ะ สิทธิในการดูข้อมูลทั้งหลายที่เบ๊ตจะรวบรวมได้ในอนาคตเป็นคนแรก
เบ๊ตไม่ได้พูดอะไรออกมาเลยสักคำอยู่ครู่ใหญ่
เธอเองก็แทบกลั้นหายใจเช่นกัน
และในที่สุดเบ๊ตก็พยักหน้าตกลง
ได้ครับ เดิมพันกันตามที่ว่า
* * *
โว้วๆ
เสียงสารถีผู้ขับรถม้าตะโกนสั่งให้ม้าหยุดวิ่งดังสนั่นไปทั่วบริเวณคฤหาสน์ที่เงียบสงบ
ทันทีที่ได้ยินเสียงนั่น ขณะนอนเล่นอยู่ใต้หน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้เพื่อรับสายลมเย็นสบายที่พัดผ่านเข้ามาก็ลืมตาขึ้น
กลับมาแล้วสินะ
เบเลซักกับอาสทาน่าที่ออกเดินทางไปล่าสัตว์ตลอดระยะเวลากว่าหนึ่งสัปดาห์ ในที่สุดก็กลับมายังคฤหาสน์เสียที