เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] - เล่ม 4 บทที่ 158.1
เล่ม 4 บทที่ 158.1
ตอนที่ 158
อา…ค่ะ เชิญค่ะ
เธอเชิญอาบีน็อกซ์นั่งลงบนโซฟาก่อน
แต่ก็ยังไม่อาจละสายตาออกไปจากภาพลักษณ์เปล่งประกายของเขาได้ง่ายๆ อยู่ดี
ดูเหมือนอาบีน็อกซ์เองก็คงรู้สึกได้ถึงสายตาของเธอ ใบหน้าของเขาถึงได้ถูกย้อมจนเป็นสีแดงระเรื่อ
วันนี้เสื้อผ้าข้าแปลกมั้ยครับ
คะ ไม่นะคะ เท่มากเลยค่ะ
ถ้างั้นก็…ค่อยโล่งอกหน่อยครับ อาบีน็อกซ์หัวเราะด้วยความเขินอาย
วันนี้นอกจากมาพบข้าแล้ว ดูเหมือนจะมีนัดหมายที่พิเศษกว่าสินะคะเนี่ย ท่านอาบีน็อกซ์
มะ ไม่ใช่อย่างนั้นครับ ก็แค่…อะ อากาศดีน่ะครับ
อากาศดีเลยแต่งตัวแบบนี้งั้นเหรอใครมองก็รู้แล้วว่าต้องตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่ แช่อ่างชำระล้างร่างกาย หวีผมทีละเส้นอย่างประณีตน่ะ
อา เพราะอากาศดีเหรอคะ
ครับ… เพราะอากาศดี ฮ่าฮ่า เจ้าตัวก็คงรู้ตัวนั่นแหละว่าคำตอบนั่นฟังไม่ขึ้นสักนิดอาบีน็อกซ์เกาแก้มพลางยิ้มเขิน
แต่ท่าทางเขินอายนั่นมันก็ดันดูน่ารักมากจริงๆ
เธอเหม่อมองอาบีน็อกซ์อยู่อย่างนั้นหลายวินาที
…ท่านฟีเรนเทีย? จนกระทั่งอาบีน็อกซ์ส่งยิ้มกระอักกระอ่วนมาทางเธอ
ทั้งเฟเรสทั้งอาบีน็อกซ์ พวกนี้หน้าตาดีเกินไปจนทำให้คนต้องลำบากใจกันหมด จริงๆ เลย
อะแฮ่ม
เมื่อตั้งสติขึ้นมาได้ในที่สุด เธอจึงวางขนมกับน้ำชาที่จัดเตรียมไว้ลงตรงหน้าอาบีน็อกซ์
ใบชานี่เป็นใบชาดอกไม้ที่ลาลาเน่เป็นคนอบแห้งและให้มาเมื่อไม่นานก่อนหน้านี้
เธอเองก็ไม่รู้ชื่อของมันหรอก แต่กลิ่นหอมดี เลยกลายเป็นชาที่ช่วงนี้เธอชอบดื่มอยู่บ่อยๆ
กลิ่นหอมหวานที่ลอยคลุ้งขึ้นมายามเติมน้ำร้อนๆ ลงในถ้วยทำให้อาบีน็อกซ์ยิ้มกว้างออกมา ก่อนจะเอ่ยว่า
อา ชาดอกเอพิลเลียนี่เองครับ กลิ่นหอมมากเลยนะครับเนี่ย
แค่กลิ่นก็แยกออกแล้วหรือคะ เธอถามด้วยความแปลกใจ
ครับ เดิมทีวัฒนธรรมการดื่มชาของตะวันออกก็พัฒนาไปมากกว่าภาคกลางอยู่แล้ว อีกอย่างระยะหลังมานี่ข้าก็กำลังศึกษาเกี่ยวกับใบชาหลากหลายชนิดอยู่ด้วยน่ะครับ
ศึกษาเกี่ยวกับ…ชาเหรอคะ
คนที่ข้าเคยพูดถึงเมื่อก่อนหน้านี้ นางชอบดื่มชามากน่ะครับ อาบีน็อกซ์ใช้ปลายนิ้วลูบไล้ไปบนขอบถ้วยพลางเอ่ยตอบ
ชอบดื่มชา แล้วยังชอบอ่านหนังสือพอโดนเธอเรียกตัวมาคฤหาสน์ลอมบาร์เดีย อาบีน็อกซ์ก็แต่งองค์ทรงเครื่องจัดเต็มมาขนาดนี้
เธอตบมือเสียงดังฉาดเบาๆ เมื่อในที่สุดก็นึกออก ก่อนจะเอ่ยถามเขา
จะว่าไป ขอถามได้มั้ยคะว่าหลังจากนั้นเป็นยังไงแล้วบ้าง ไหนๆ ข้าก็เป็นคนให้คำปรึกษา เลยอยากทราบบ้างน่ะค่ะ
อา เรื่องนั้น…. อาบีน็อกซ์กระแอมไอ พยายามที่จะกลั้นรอยยิ้มที่เอาแต่จะผุดขึ้นบนใบหน้าอยู่เรื่อย ก่อนจะเอ่ยตอบ
ข้าสารภาพรักตามคำแนะนำของท่านฟีเรนเทียไปแล้วละครับ ความรู้สึกในใจของข้า
แล้วนางก็ตอบรับเหรอคะ อาบีน็อกซ์พยักหน้าแทนคำตอบ
หลังจากนั้นพวกเราก็ส่งจดหมายหากันผ่านทางเพื่อนน่ะครับ ถึงจะไม่บ่อยเท่าไหร่ก็เถอะ ตอนนี้ก็กำลังคบหาดูใจกันอยู่ ทั้งหมดเป็นเพราะท่านฟีเรนเทียแท้ๆ เลยครับ
ข้าทำอะไรที่ไหนกันล่ะคะ เป็นเพราะท่านอาบีน็อกซ์รวบรวมความกล้าแสดงความรู้สึกออกไปต่างหาก
อืมมมจะว่างั้นก็ได้
เธอหรี่ตามองอาบีน็อกซ์ครู่หนึ่ง ก่อนจะเปิดปากพูดธุระสำคัญ
เหตุผลที่เชิญมาพบวันนี้ เป็นเพราะมีเรื่องอยากถามอยู่ไม่กี่เรื่องค่ะ ท่านอาบีน็อกซ์
ครับ ไม่ว่าจะเรื่องใดก็เชิญถามได้ตามสบายเลยครับ ท่านฟีเรนเทีย
หลังเกิดเรื่องในเขตเหนือ อาบีน็อกซ์ก็เริ่มให้ความสนิทสนมเป็นมิตรกับเธอมากขึ้น เขาเผยยิ้มสดใสอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองออกมาให้เห็น
ทางตะวันออกเป็นสถานที่แบบไหนเหรอคะ
อืมม เป็นคำถามที่ยากนะครับเนี่ย อาบีน็อกซ์ลูบปลายคางเนียนลื่นครุ่นคิดอยู่สักพัก ก่อนจะเปิดปากขึ้น
ทางตะวันออก…เป็นสถานที่ที่อากาศอบอุ่นครับ ใบหน้าของอาบีน็อกซ์ยามเอ่ยเช่นนั้นดูผ่อนคลายลงมาก
ทั้งสายลมที่พัดมาจากทะเล ทั้งทรายขาวเนียนอุ่นร้อนจากแสงแดดที่สาดส่องลงมา ผู้คนเองก็อบอุ่นและเป็นมิตรครับ
กระทั่งริมฝีปากของอาบีน็อกซ์ก็ยังแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มอบอุ่นเลย
ทราบเรื่องนี้มั้ยครับ เมืองใหญ่ริมทะเลตะวันออกน่ะ อาคารส่วนใหญ่จะถูกทาด้วยสีขาวครับเพราะทำให้อากาศร่มรื่นเย็นสบายและผู้คนทางตะวันออกเองก็ชื่นชอบในการสวมเสื้อผ้าที่มีสีสันหลากหลายให้ดูงดงาม เวลามองจากที่สูงก็จะเห็นตรอกซอกซอยแคบเล็กเชื่อมต่อกันเป็นใยแมงมุม มันสวยเหมือนได้มองภาพวาดทิวทัศน์ภาพหนึ่งเลยครับ
ว้าว คงจะสวยงามมากเลยนะคะ
ครับ มากเลยละครับ อ๊ะ ยังมีอีกนะครับ อาบีน็อกซ์พูดอย่างตื่นเต้น
ประเพณีตั้งแต่ยุคอดีต ผู้คนจะออกทะเลกันตั้งแต่เช้าตรู่ เมื่อถึงเวลาที่พวกเขาจะกลับเข้าฝั่ง คนอื่นๆ จะบรรเลงดนตรีรอที่ชายฝั่งครับ เพื่อให้เรือที่ออกเดินทางไปไกลหาทางกลับบ้านเจอ หลังได้ยินเสียงเพลงนั่นน่ะครับ
อา…
เพราะฉะนั้นเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน แต่ละที่ก็จะเต็มไปด้วยเสียงเพลงเลยละครับ เหตุผลที่คนทางตะวันออกทุกคนต่างสามารถเล่นเครื่องดนตรีกันได้คนละชนิดสองชนิด ก็เป็นเพราะธรรมเนียมนี้แหละครับ
ยิ่งได้ยินเรื่องเล่าจากอาบีน็อกซ์ เธอก็เริ่มมั่นใจว่าแผนของกิจการใหม่ที่เธอกับเครย์ลีบันช่วยกันวางแผนในครั้งนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้องเหมาะสมแล้ว
แค่ได้ฟังเรื่องราวก็รู้สึกได้เลยค่ะว่าเป็นสถานที่ที่งดงามมากแน่ๆ ว่าแต่ทำไมสถานที่ดีๆ เช่นนั้น จนป่านนี้ถึงยังไม่เป็นที่รู้จักล่ะคะเหมาะจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแท้ๆ
คำพูดของเธอทำให้อาบีน็อกซ์ได้แต่ยิ้มขมขื่น ก่อนจะเอ่ยตอบ
คงจะเป็นเพราะระยะทางมันไกลมากน่ะครับ ถ้าเดินทางด้วยรถม้ายังต้องใช้เวลาถึงสามสัปดาห์เต็มๆ นี่ครับ แล้วนี่ต้องเดินทางทั้งไปและกลับ ต่อให้เป็นคนสุขภาพดีก็ยังเจ็บป่วยได้เลยครับ
ถ้าหากไม่ใช่ไปกลับ แต่เป็นการเดินทางเที่ยวเดียวล่ะ คิดยังไงคะถ้าอย่างนั้นก็น่าจะเหมาะกับการท่องเที่ยวขึ้นมานิดหน่อยนะคะ
แน่นอนครับ ก็ลดระยะเดินทางไปได้ครึ่งหนึ่งเลยนี่ครับ
อาบีน็อกซ์พยักหน้าทันที แล้วเอ่ยต่อ
หากมีวิธีเดินทางท่องเที่ยวแทนรถม้าที่ร่างกายต้องทนลำบากอยู่ละก็ คงจะดีแท้ๆ
ว่าแล้วเชียว ใช่มั้ยล่ะคะ เธอตอบรับคำของอาบีน็อกซ์ ขณะเดียวกันก็ส่งซองเอกสารที่จัดเตรียมมาให้เขา
นี่มัน…อะไรหรือครับ อาบีน็อกซ์เบิกตากว้างมองหน้าเธอ
รายงานอธิบายคร่าวๆ เกี่ยวกับกิจการใหม่ที่ทางร้านค้าเพลเลสเป็นผู้นำในปัจจุบันค่ะ ข้าเตรียมมันไว้เพราะคิดว่ามันน่าจะมีประโยชน์กับตระกูลรูมัน วันนี้เลยเชิญให้มาพบเพื่อจะมอบเอกสารนี่ให้ค่ะ
อาบีน็อกซ์มองเธออยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะดึงเอกสารออกมาอ่าน
นี่มัน…
นัยน์ตามีเสน่ห์ดั่งแสงอาทิตย์ที่ส่องประกายสะท้อนลงบนน้ำทะเลลึกสั่นไหวอย่างรุนแรง
ก่อนหน้านี้เคยบอกไว้ใช่มั้ยคะ ว่าไม่อยากให้เขตแดนตะวันออกถูกแบ่งแยกอีกต่อไป เช่นนั้นจะมีโอกาสไหนดีไปกว่านี้อีกล่ะคะ
อาบีน็อกซ์เงยหน้าขึ้นถามเธอ
ก็พอจะทราบอยู่หรอกว่าค่อนข้างสนิทสนมใกล้ชิดกับเจ้าของร้านค้าเพลเลสอย่างเครย์ลีบันมาก แต่รายละเอียดนี่มัน…?
สมควรแล้วที่จะรู้สึกสงสัย
เธอเอ่ยตอบกลับไปตามที่ได้เตรียมการมาไว้ก่อนแล้ว
มันเป็นกิจการที่ข้าเองก็มีส่วนช่วยคิดด้วยเล็กน้อยน่ะค่ะ แต่ถ้าจะถามรายละเอียดเชิงลึกคงต้องถามทางร้านค้าเพลเลสเอาเองนะคะ แน่นอนว่าอาจารย์เครย์ลีบันเองก็ทราบอยู่แล้วค่ะว่า ข้าจะนำรายละเอียดพวกนี้มามอบให้ท่านอาบีน็อกซ์
อา ขอบคุณมากครับ ขอบคุณจริงๆ ครับ ท่านฟีเรนเทีย!
อาบีน็อกซ์เอาแต่ขอบคุณไม่หยุดด้วยนัยน์ตาเปล่งประกายระยิบระยับ ดูเหมือนจะซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก
ถ้าอย่างนั้นเรื่องสนทนาก็มีแค่นี้…ออกไปเดินเล่นกับข้าสักหน่อยมั้ยคะ อากาศดีมากเลย
ครับ!
อาบีน็อกซ์ไม่สงสัยอะไรทั้งสิ้น เขาเอาแต่พยักหน้าอย่างแข็งขัน ตอบรับด้วยความเต็มใจ