เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] - เล่ม 4 บทที่ 168.1
เล่ม 4 บทที่ 168.1
ตอนที่ 168
การที่อาบีน็อกซ์สวมใส่ชุดงดงามดูหล่อเหลาเป็นพิเศษในวันนี้ เนื่องจากวันนี้เป็นวันที่มีความหมายมากกว่าวันอื่น ๆ
เธอกับอาบีน็อกซ์เดินวนไปรอบ ๆ ตามสถานที่ที่มีคนมากมายเดินผ่าน เหมือนกับที่เคยทำเมื่อคราวก่อน
และไม่นานก็เดินมุ่งหน้าไปยังเรือนกระจกของลาลาเน่ทันที
ดูเหมือนว่าฝ่ายนั้นจะสังเกตอะไรได้
ลาลาเน่ไม่อาจออกไปนอกคฤหาสน์ได้อย่างอิสระ เพราะเซรัลออกคำสั่งกักบริเวณเอาไว้ แต่โล่งอกที่ไม่ได้ห้ามไม่ให้นางไปไหนมาไหนในคฤหาสน์
เธอเลยตัดสินใจใช้ช่องว่างนี้ช่วยให้ทั้งสองคนได้พบหน้ากันในวันนี้
“ข้าบอกลาลาเน่เอาไว้แล้วว่าให้มาเจอกันที่นี่ค่ะ อ๊ะ อยู่ตรงนั้นไง”
“ท่านลาลาเน่……” อาบีน็อกซ์พึมพำด้วยความสงสาร
ทุกครั้งยามที่อยู่ได้ในเรือนกระจก ลาลาเน่มักจะจัดดอกไม้ด้วยท่าทางสดใสเปล่งประกายอยู่เสมอแต่วันนี้กลับแตกต่างไปจากที่เคย
ภาพลาลาเน่นั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ในเรือนกระจกอย่างไร้เรี่ยวแรง มันทำให้อาบีน็อกซ์รู้สึกสะเทือนใจมากเหลือเกิน
“ถ้าอย่างนั้นข้าขอตัว……”
“ไม่ครับ”
แต่แล้วในจังหวะที่เธอตั้งใจจะหมุนตัวหลบออกไปจากบริเวณนี้ เพื่อที่ลาลาเน่กับอาบีน็อกซ์จะได้ใช้เวลาด้วยกันสองต่อสอง อาบีน็อกซ์ก็รั้งเธอเอาไว้
“ท่านฟีเรนเทียช่วยเป็นพยานให้พวกเราสองคนทีนะครับ”
อาบีน็อกซ์ยังคงมีสีหน้าตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด แต่เขาก็ยังยิ้มให้เธอในขณะที่เอ่ยออกมา
“ถ้าท่านลาลาเน่ตอบรับคำขอแต่งงานของข้า ข้าตั้งใจว่าจะส่งสารหมั้นหมายในนามตระกูลรูมันมาให้เจ้าตระกูลลอมบาร์เดียกับบิดามารดาของท่านลาลาเน่ครับ ข้าเองก็ได้รับอนุญาตจากท่านพ่อเรียบร้อยแล้วด้วย”
พูดง่าย ๆ ก็คือ ตั้งใจจะขอแต่งงานอย่างถูกต้องตามประเพณีของชนชั้นสูงถึงขนาดไปขออนุญาตเจ้าตระกูลรูมันมาเรียบร้อยแล้วด้วยเหรอเนี่ย
ตั้งใจจริง แน่วแน่ดีเหมือนกัน
“ถึงจะลงมือช้าเกินไป แต่ในเมื่อทางราชวงศ์ยังไม่ได้ส่งหนังสือหมั้นหมายอย่างเป็นทางการมาที่ตระกูลลอมบาร์เดีย และยังไม่มีการประกาศเรื่องนี้อย่างเป็นทางการด้วย ดังนั้นข้าเองก็ยังมีโอกาสอยู่ครับ”
อาบีน็อกซ์กำหมัดแน่น ในขณะที่กล่าวเช่นนั้น
“แน่นอนว่า……ถ้าท่านลาลาเน่ยอมตอบรับคำขอแต่งงานของข้านะครับ”
และกลับไปตื่นเต้นเหมือนเดิมอีกแล้ว
เธอตบไหล่ให้กำลังใจอาบีน็อกซ์ แล้วเอ่ยขึ้นว่า
“ทราบแล้วค่ะ เช่นนั้นข้าจะเป็นพยานให้ทั้งสองคนเองก็แล้วกันนะคะ”
“ขอบคุณครับ!”
“เช่นนั้น ไปกันเลยดีมั้ยคะ”
อาบีน็อกซ์เดินตัวเกร็งจนกระดูกแทบจะส่งเสียงดังก๊อกแก๊ก ก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายนำหน้าเปิดประตูเรือนกระจกออก
อื้ออ ทำเอาเธอตื่นเต้นไปด้วยเลย!
“ท่านอาบีน็อกซ์…….?”
ลาลาเน่เรียกอาบีน็อกซ์เสียงสั่นเทา ราวกับไม่อยากเชื่อนัยน์ตาของตัวเอง
อาบีน็อกซ์เดินเข้าไปหาลาลาเน่ ก่อนจะถามด้วยเสียงอ่อนโยน
“หน้าตาดูหมองไปนะครับ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
“ข้าไม่เป็นอะไรค่ะ…..เห็นไม่ตอบจดหมายของข้า ข้าเลยกังวลว่าท่านอาบีน็อกซ์เป็นอะไรหรือเปล่า…….”
ลาลาเน่หยุดพูดในทันทีเพราะอาบีน็อกซ์ค่อย ๆ คุกเข่าข้างหนึ่งลงอย่างช้า ๆ
“ทะ ท่านอาบีน็อกซ์?”
“คุณหนูลาลาเน่ลอมบาร์เดียความกล้าของข้าคงสายเกินไปมากเลยใช่มั้ยครับ”
อาบีน็อกซ์หยิบกล่องใบเล็กออกมาจากอกเสื้อ เขาเปิดมันออก ยื่นมันออกไปตรงหน้าลาลาเน่
“ให้เกียรติแต่งงานกับข้าได้มั้ยครับ”
ความเงียบกลืนกินไปทั่วเรือนกระจกอยู่ครู่หนึ่งอาบีน็อกซ์ผู้ถือแหวนเอาไว้แทบจะหยุดหายใจอยู่แล้ว
เธอเองก็หลบมายืนด้านหลัง พยายามไม่เข้าไปรบกวนทั้งคู่ อินมากจนเผลอกลั้นลมหายใจตามไปด้วย
และก็พลันได้ยินเสียงแผ่วเบาดังขึ้น
ติ๋ง ติ๋ง
เสียงหยาดน้ำตาไหลรินลงมาจากนัยน์ตาของลาลาเน่ดังขึ้นเบา ๆ
“ทะ ท่านอาบีน็อกซ์……..”
ลาลาเน่ประสานมือทั้งสองข้างเอาไว้แน่น ก้มลงมองหน้าอาบีน็อกซ์และรอยยิ้มงดงามก็แต่งแต้มบนใบหน้าแสนสวย ลาลาเน่ยิ้มกว้าง
“ตกลงค่ะ ท่านอาบีน็อกซ์…….”
แต่แล้วในจังหวะที่ลาลาเน่กำลังจะตอบรับคำขอแต่งงาน
โครม!
เสียงสนั่นดังขึ้นพร้อมกับประตูเรือนกระจกที่ถูกเปิดออกอย่างรุนแรง
“ทะ ท่านพ่อ……!”
“ทำบ้าอะไรกัน ลาลาเน่!”
คนที่วิ่งพรวดเข้ามาคือ เบเจอร์
คนแรกที่มีปฏิกิริยาก่อนใครคือ อาบีน็อกซ์เขาก้าวเท้าออกไปยืนขวางหน้าลาลาเน่ ราวกับต้องการจะปกป้องนางเอาไว้ในทันที
“ท่านชายลอมบาร์เดีย โปรดฟังข้าสักครู่เถอะครับ”
แต่มันกลับทำให้นัยน์ตาของเบเจอร์ยิ่งลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิง
เบเจอร์จ้องเด็กหนุ่มที่ทำท่าราวกับต้องการจะปกป้องบุตรสาวของเขา ทั้ง ๆ ที่อยู่ในระหว่างพูดคุยเรื่องการหมั้นหมายด้วยนัยน์ตาดุร้าย
“ใบหน้านี่เคยเห็นที่ไหนแน่ ๆ …….หรือว่า ตระกูลรูมัน…….?”
เมื่อรู้ว่าอาบีน็อกซ์เป็นใคร เบเจอร์ก็ยิ่งมีสีหน้าไม่พอใจเขารู้ดีกว่า ตระกูลรูมันจากตะวันออกเป็นตระกูลที่เลือกยืนข้างเฟเรสอย่างเปิดเผย
ริกนีเต้ รูมันเองก็เป็นสหายที่สนิทสนมกับเฟเรสตั้งแต่ตอนศึกษาอยู่ที่อะคาเดมี่ และเฟเรสยังช่วยให้ทางตะวันออกได้รับเงินช่วยเหลือด้านการค้า อีกทั้งคราวก่อนที่เกิดเรื่องที่ไอบัน ตระกูลรูมันก็ยังถึงกับอาสาขอติดตามขบวนเดินทางไปด้วย
“นี่มันเรื่องอะไรกัน ท่านชายน้อยรูมัน!” เบเจอร์ตวาดเสียงดัง ยกมือขึ้นปัดแหวนที่อาบีน็อกซ์ถือไว้ในมือ จนมันกระเด็นตกไปไกล
แหวนที่อาบีน็อกซ์ทนุถนอมด้วยความหวงแหนไว้ในอ้อมอกอย่างล้ำค่ามาจนถึงที่นี่ กลิ้งตกอยู่บนพื้นเรือนกระจกอย่างไร้ค่า
อาบีน็อกซ์เหลือบมองแหวนวงนั้น ก่อนจะเอ่ยเสียงนิ่งสงบ
“ขออภัยที่ไม่อาจมาแนะนำตัวได้ก่อนหน้านี้ครับ แต่ข้ากับท่านลาลาเน่ต่างก็ศึกษาดูใจกันมาโดยตลอด ตระกูลรูมันของข้าเองก็ตั้งใจที่จะส่งหนังสือหมั้นหมายอย่างเป็นทางการมาที่ลอมบาร์เดียครับ ข้าทราบว่าทางนี้เองก็มีการพูดคุยเรื่องแต่งงานไว้อยู่แล้ว แต่ช่วยพิจารณา…….”
“นี่ ท่านชายน้อยรูมัน” เบเจอร์เดินเข้าไปใกล้ด้วยท่าทีคุกคาม ก่อนจะเอ่ยกดดันเด็กหนุ่ม
“รู้อยู่แล้วว่าบุตรสาวของข้าจะต้องแต่งงานกับใคร แต่ก็ยังจะทำเช่นนี้งั้นหรือ”
“…….ทราบอยู่แล้วครับ”
“รู้อยู่แล้ว? หมายความว่าตระกูลรูมันที่พยายามเข้ามาอยู่ในภาคกลางของอาณาจักร อยากจะโดนขับไล่ออกไปด้วยฐานะศัตรูของราชวงศ์สินะ”
“……..เพื่อท่านลาลาเน่แล้ว ข้าพร้อมทุกอย่างครับ”
“ทะ ท่านอาบีน็อกซ์!” ลาลาเน่หลั่งน้ำตาอีกครั้ง ในขณะที่ส่ายศีรษะไปมาเพื่อห้ามปรามเด็กหนุ่ม