เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] - เล่ม 5 บทที่ 208.2
เล่ม 5 บทที่ 208.2
วันเปิดประชุมสภาขุนนาง ท้องฟ้าปลอดโปร่งอากาศแจ่มใสเป็นอย่างยิ่ง
รถม้าที่เธอนั่งโดยสารมาก็กำลังเดินทางเข้าสู่สถานที่จัดการประชุม
แน่นอนว่ารถม้าคันนี้เป็นรถม้าประจำตำแหน่งเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียที่ท่านปู่มักจะใช้อยู่เป็นประจำ
เธอใช้มือลูบไปตามด้านในรถม้าที่ถูกประดับตกแต่งอย่างงดงามด้วยทองคำเหมือนอย่างที่ประดับอยู่บนเดรสกำมะหยี่ที่เธอสวมอยู่ในตอนนี้
“คิดถึงเหลือเกิน ความรู้สึกยามได้นั่งรถม้าคันนี้”
ความปลอดภัยไร้ซึ่งจังหวะสั่นคลอนใดๆ ราวกับไม่ได้กำลังนั่งอยู่ในรถม้าที่วิ่งอยู่บนท้องถนน! สมกับที่เป็นรถม้าของเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียจริงๆ
แน่นอนว่าในชีวิตก่อนเธอเองก็เคยนั่งรถม้าคันนี้มาแล้ว
แต่อย่างไรก็แค่นั่งโดยสารไปด้วยในฐานะผู้ช่วยหรือเลขาฯของท่านปู่เท่านั้น
“ตอนนี้มันกลายเป็นของข้าแล้ว”
ไม่ใช่ของใครหน้าไหนทั้งนั้น แต่เป็นของเธอ ฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดีย ผู้ดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าตระกูลลอมบาร์เดีย
ระหว่างที่กำลังดื่มด่ำกับความรู้สึกยามได้นั่งรถม้าคันนี้อีกครั้ง เผลอแป๊บเดียวรถม้าก็มาถึงหน้าสถานที่จัดการประชุมขุนนางในที่สุด
เธอลูบไล้สัญลักษณ์ต้นไม้โลกที่สลักอยู่บนรถม้าพลางกระซิบเสียงแผ่ว
“รอข้าอยู่ที่นี่สักครู่ได้มั้ย เดี๋ยวเสร็จงานแล้วข้าจะกลับมาหา”
ไม่ได้พูดออกไปเฉยๆ เท่านั้น
เพราะการประชุมสภาขุนนางครั้งนี้มันจะไม่กินเวลานานนักหรอก
หลังจากที่เธอก้าวเท้าเดินตรงไปข้างหน้าอย่างผ่อนคลายด้วยจังหวะฝีเท้าเบาสบายเข้าไปด้านในห้องประชุม สายตามากมายก็พุ่งตรงมาที่เธอทันที
“อะไรกัน เจ้า?”
ขุนนางอาวุโสคนหนึ่งที่กำลังสนทนาอยู่กับขุนนางท่านอื่นอยู่หน้าประตูหันมาถามเธอ
คนฝ่ายอังเกนัส
“มาผิดที่หรือเปล่า คุณหนู”
“แถวนี้มีพวกสโมสรอย่างสโมสรรักการอ่านด้วยหรือ”
ได้ยินเสียงหลายคนกระซิบกระซาบกันดังขึ้น
เธอกวาดสายตามองพวกเขาอย่างเชื่องช้า ขณะเดียวกันก็มองเห็นข้อมูลทีละเรื่องผุดขึ้นบนใบหน้าของพวกนั้น
คนอ้วนท้วนนั่นเป็นคนที่เคยพยายามติดสินบนท่านพ่อ แต่ถูกปฏิเสธ
คนที่ดูเจ้าเล่ห์ทางด้านนั้นเป็นคนที่กำลังแข่งขันด้านกิจการเหมืองแร่กับชานาเนส
และคนที่ตัวเตี้ยนั่นก็เป็นคนที่คอยส่งตุ๊กตาหมีมาให้เธอทุกปีไม่ขาด ตั้งแต่งานวันเกิดครบรอบอายุแปดขวบของเธอ
ภายในห้องนี้แทบไม่มีใครเลยที่เป็นคนแปลกหน้าหรือเพิ่งพบกันครั้งแรกจริงๆ
ในตอนนั้นเอง ใครบางคนก็เดินเข้ามาหาเธอ
“ไม่สิ นั่นคุณหนูลอมบาร์เดียมิใช่หรือ”
ขุนนางคนนี้เธอเคยพบหน้าอยู่หลายครั้งตามงานเลี้ยง
คนจากตระกูลหนึ่งที่พยายามจะทำตัวสนิทสนมกับลอมบาร์เดีย จึงมักจะคอยเกาะติดอยู่ข้างกายเบเจอร์หรือไม่ก็ท่านปู่อยู่เสมอ
“สวัสดีค่ะ”
ชื่อเขาเธอจำไม่ได้เลยต้องเว้นไม่พูดถึง แล้วยิ้มสดใสออกไปแทน ในขณะที่เอ่ยถามขึ้น
“ที่นี่ใช่ห้องประชุมที่จัดการประชุมสภาขุนนางหรือเปล่าคะ”
“ก็ใช่อยู่หรอก แต่…”
“ช่วยบอกข้าหน่อยได้มั้ยคะ ปกติเวลาท่านปู่มาเข้าร่วมประชุม ท่านจะต้องนั่งตรงไหน”
“ที่นั่งของท่านเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียงั้นหรือ”
ขุนนางท่านนั้นเอียงคอด้วยความงุนงงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะบอกให้เธอเดินตามเขาไป
พอเธอเริ่มก้าวขาเดิน สายตามากมายก็มองตามหลังเธอมาด้วย
ความสงสัย ความไม่พอใจ ความระแวดระวัง
สายตาหลากอารมณ์จ้องกันเสียจนหลังศีรษะเธอร้อนระอุเลยทีเดียว
เริ่มมั่นใจขึ้นมาเลยว่า บางทีถ้าหากเธอไม่ใช่ลอมบาร์เดียแล้วละก็ คงไม่อาจก้าวขาเข้ามาข้างในห้องประชุมห้องนี้ได้ด้วยซ้ำ
“ท่านเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียยังมาไม่ถึงเลยนะ”
“ค่ะ ข้าทราบอยู่แล้วละค่ะ”
ก็ท่านปู่ตอนนี้กำลังนอนพักฟื้นอยู่บนเตียงนี่นา
“อาฮะ ถ้าอย่างนั้นมารอพบท่านเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียหรือ”
“เปล่าหรอกค่ะ ไม่ใช่แบบนั้น”
ขุนนางที่ช่วยนำทางเธอคนนี้เอาแต่ชวนคุยไม่ยอมปล่อยให้ได้พักหายใจบ้างเลย
โล่งอกที่ตำแหน่งที่นั่งของท่านปู่ไม่ได้ไกลจากทางเข้าออกมากนัก
ที่นั่งว่างในฝั่งขวา
ตำแหน่งที่นั่งตรงกลางด้านหน้าสุดของแถว
เก้าอี้ธรรมดาทั่วไปไม่มีสิ่งใดพิเศษนอกจากดูแข็งแกร่งมั่นคงเท่านั้น
แต่เธอรู้ดีว่า ความหมายของเก้าอี้ตัวนั้นในที่แห่งนี้หมายถึงอะไร
“ตรงนี้ครับ แต่ก็อย่างที่เห็น ท่านเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียยังมาไม่ถึง…”
ตุบ
เธอเมินขุนนางที่คิดจะพูดพล่ามอะไรออกมาอีก แล้วนั่งลงทิ้งบั้นท้ายสัมผัสกับเก้าอี้ว่าง
มองแค่ปราดเดียวก็เห็นฝ่ายอังเกนัสที่อยู่ด้านตรงข้าม
“เลือกที่ได้ดี”
พอนั่งลงตำแหน่งนี้แล้ว จู่ๆ ก็นึกถึงภาพท่านปู่กำลังจ้องพวกขุนนางฝ่ายโน้นจนหัวหดขึ้นตรงหน้า ทำเอาเผลอหลุดขำออกมาเลย
“นี่…ทำอะไรน่ะ”
นัยน์ตาทั้งสองข้างของขุนนางที่ช่วยนำทางให้เธอเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง
ปฏิกิริยาของคนอื่นๆ ในห้องประชุมเองก็ไม่ต่างกันนัก
“อะแฮ่ม คุณหนูลอมบาร์เดีย”
ในตอนนั้นเอง ก็พลันได้ยินเสียงสุภาพเสียงหนึ่งเอ่ยเรียกเธอดังขึ้น
ประธานในที่ประชุม
“ค่ะ ท่านประธานคิลเลียน ไม่ได้พบกันเสียนานเลยนะคะ ครั้งสุดท้ายก็ตอนงานเลี้ยงบรรลุนิติภาวะของข้าใช่มั้ยคะเนี่ย”
“ใช่…แล้วละ”
อารมณ์หลากหลายดูซับซ้อนพาดผ่านขึ้นบนใบหน้าของประธานในที่ประชุม
ยิ่งภาพเธอในงานบรรลุนิติภาวะเมื่อไม่กี่ปีก่อนทับซ้อนกับภาพของเธอที่นั่งอยู่ในที่ประชุมตอนนี้ ก็คงจะยิ่งไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นยิ่งขึ้นไปอีกนั่นแหละ
“อะแฮ่ม คุณหนูลอมบาร์เดีย เก้าอี้ตัวนั้นเป็นตำแหน่งของท่านเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียผู้เป็นท่านปู่ของคุณหนูครับ ถ้าอยากมาสังเกตการณ์การประชุมสภาขุนนางละก็ ต้องไปทางด้านนั้น…”
“ไม่ได้มาสังเกตการณ์ แต่มาเพื่อเข้าร่วมการประชุมค่ะ”
“เข้าร่วมประชุม?”
“ค่ะ ท่านประธาน”
ประธานคิลเลียนมองเธอด้วยความตกตะลึง พวกขุนนางท่านอื่นที่กำลังรอเข้าร่วมการประชุมเองก็ส่งเสียงฮือฮาไปทั่ว
แต่หูของเธอก็เหมือนได้ยินเสียงเพลงบรรเลงฟังไพเราะดีแค่นั้นแหละ
“เข้าร่วมงั้นก็…”
ก็น่าจะฟังเข้าใจชัดแล้วแท้ๆ ว่าเธอหมายความว่ายังไง แต่ในเมื่อประธานถามย้ำอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจ เธอก็จะช่วยตอบเขาอย่างชัดถ้อยชัดคำทุกตัวอักษรแล้วกัน
“ฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดีย รักษาการเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียค่ะ”