เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] - เล่ม 6 บทที่ 232.1
เล่ม 6 บทที่ 232.1
ตอนที่ 232
หัวหน้านางกำนัลโอทัวร์มองบุคคลตรงหน้าด้วยนัยน์ตาหวาดกลัวยิ่ง
เด็กหนุ่มเจ้าของนัยน์ตาสีแดง และเรือนผมสีดำ มันเป็นภาพลักษณ์อันแสนจะโดดเด่นซึ่งมากพอจะช่วงชิงสติของคนที่ได้เห็นให้หลุดลอยไปจนได้แต่เหม่อมองด้วยความหลงใหล
แต่สำหรับหัวหน้านางกำนัลโอทัวร์แล้ว คนตรงหน้าก็เป็นแค่คนคนหนึ่งที่นางรู้สึกหวาดกลัวยิ่งกว่าผู้ใดใต้ท้องฟ้าเท่านั้น
“จักรพรรดินีสั่งการเจ้า”
เสียงทุ้มต่ำของเฟเรสทำให้หัวหน้านางกำนัลโอทัวร์สะดุ้งเฮือกจนตัวเกร็ง
“เพคะ เห็นว่าเป็นพิษจากแมงมุมทีที สั่งให้ผสมมันลงในสุราของฝ่าบาททันที…”
หัวหน้านางกำนัลโอทัวร์วางขวดแก้วใบเล็กที่กำไว้ในมือแน่นลงบนโต๊ะด้วยปลายนิ้วสั่นเทา
“พิษแมงมุมทีทีงั้นหรือ”
เฟเรสยื่นมือออกไปหยิบขวดแก้วใบเล็กขึ้นมาพลิกดู ก่อนจะแสยะยิ้ม
หากจักรพรรดินีไม่เคลื่อนไหว เขาคิดที่จะลงมือเองอยู่ก่อนแล้ว
นั่นเป็นเหตุผลที่ไหว้วานขอให้เอสทีร่าช่วยหายาพิษแมงมุมทีทีกับยาแก้พิษให้
“ดูเหมือนข้าจะเป็นพวกโชคเข้าข้างสินะ”
กระทั่งคำพูดจับใจความไม่ได้ของเจ้าชายลำดับที่สอง หัวหน้านางกำนัลโอทัวร์ก็ยังเอาแต่นั่งก้มหน้านิ่งไม่ยอมขยับ
“จักรพรรดินีช่วยลดภาระให้ข้าจริงๆ”
ครั้งแรกที่เจ้าชายลำดับที่สองเรียกหาหัวหน้านางกำนัลโอทัวร์คือเมื่อตอนที่เขาเพิ่งกลับจากอะคาเดมี
“หากจักรพรรดินีวางแผนที่จะทำร้ายฝ่าบาท เจ้าจงรีบมาแจ้งข้า”
ค่าตอบแทนคือการฝากเงินจำนวนหนึ่งเข้าบัญชีลับของหัวหน้านางกำนัลโอทัวร์
เงินค่าจ้างของหัวหน้านางกำนัลประจำองค์จักรพรรดิไม่ใช่เงินจำนวนน้อย
แต่เงินส่วนใหญ่ถูกส่งไปให้ครอบครัวที่บ้านเกิด มีแค่ส่วนน้อยเท่านั้นที่หัวหน้านางกำนัลโอทัวร์แบ่งออกมาไว้สำหรับใช้เองในชีวิตประจำวัน
มันเป็นเงินที่ช่วยได้แค่ให้พอหายใจหายคอต่อไปได้เท่านั้น อีกอย่าง ถึงแม้จะมีจักรพรรดินีอยู่เบื้องหลัง แต่นางไม่เคยมีความจงรักภักดีใดๆ ให้ทั้งสิ้น
ก็แค่ยอมเชื่อฟังคำสั่งอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะคนในครอบครัวถูกจับเอาไว้เป็นตัวประกันเท่านั้นเอง
แต่ระยะหลังมานี่ สถานการณ์มันชักจะเริ่มแปลกขึ้นเรื่อยๆ
ทุกครั้งที่เจ้าชายลำดับที่สองเคลื่อนไหว อำนาจของจักรพรรดินีจะลดลงฮวบ
ตัวแทนเขตแดนตะวันตกถูกเปลี่ยนมืออย่างกะทันหัน
หัวหน้านางกำนัลโอทัวร์จึงหวาดกลัวเจ้าชายลำดับที่สองเป็นอย่างมาก
มากเสียจนไม่กล้าแม้แต่จะสบตา แน่นอนว่านางมีเหตุผลที่สมควรจะหวาดกลัว
“…จะทำเช่นไรดีเพคะ”
หัวหน้านางกำนัลเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง
มันเป็นคำถามที่คำตอบถูกกำหนดเอาไว้อยู่แล้ว
เพราะหัวหน้านางกำนัลโอทัวร์มาหาเจ้าชายลำดับที่สองก็เพื่อจะขัดรับสั่งของจักรพรรดินีที่ต้องการให้นางสังหารจักรพรรดิ
“ใส่ลงไป”
“…เพคะ?”
“ทำตามที่จักรพรรดินีสั่ง ใส่ยาพิษนั่นลงไปในขวดเหล้าเสีย”
“ตะ…แต่ว่า…”
หัวหน้านางกำนัลโอทัวร์เงยหน้ามองเจ้าชายลำดับที่สองด้วยความตกใจ นัยน์ตาสีแดงที่เพิ่งได้มองสบเป็นครั้งแรกช่างแสนเย็นชาเหลือเกิน
“ตกใจทำไมกัน”
“ถ้าอย่างนั้นฝ่าบาท…”
“ไม่ใช่ครั้งแรกเสียหน่อยที่เจ้าวางยาพิษลงในสุราของฝ่าบาท”
“ทะ…ทราบเรื่องนั้นได้ยังไงกัน…”
เฟเรสยิ้มจางแทนคำตอบ ก่อนจะเอ่ยพูด
“เพราะฉะนั้นคราวนี้แค่ผสมยาลงไปตามที่จักรพรรดินีสั่งก็พอ”
หัวหน้านางกำนัลโอทัวร์ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
ได้แต่ก้มหน้ามองมือที่กำชายชุดเดรสแน่น แล้วเอ่ยถามเสียงสั่นเทา
“ชีวิตของหม่อมฉันล่ะเพคะ จะเป็นเช่นไร”
มันเป็นคำถามเดียวกันกับคำถามที่นางเคยถามจักรพรรดินี
จักรพรรดินีราวีนีไม่คิดที่จะการันตีความปลอดภัยให้นาง
นั่นเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้หัวหน้านางกำนัลโอทัวร์ดั้นด้นมาหาเฟเรสถึงที่นี่
“…ข้าจะช่วยให้เจ้าได้ออกไปใช้ชีวิตนอกวังด้วยตัวตนใหม่”
เฟเรสมองหน้าหัวหน้านางกำนัลนิ่งในขณะที่เอ่ยพูด
“ที่เจ้าต้องการไม่ใช่สิ่งนี้หรือ”
หัวหน้านางกำนัลโอทัวร์พยักหน้าลง
นางอยากจะสลัดครอบครัวที่คอยเป็นตัวถ่วงล่ามแขนล่ามแขนนางไว้เหมือนโซ่ตรวนทิ้งไป แล้วหนีออกไปจากพระราชวังอันแสนน่ากลัวนี่เสีย นั่นคือสิ่งที่นางต้องการ
หัวหน้านางกำนัลยื่นมือไปหยิบขวดใบนั้นขึ้นมากำไว้ในมือแน่นอีกครั้ง
แต่มือที่ลูบไล้ฝาขวดนั้น ก็ยังคงเต็มไปด้วยความลังเลเช่นเดิม
“อย่าได้กังวล หลังหมดสติหากข้านำยาแก้พิษให้เสวยทันที ก็จะไม่เกิดเรื่องอย่างฝ่าบาทสวรรคตหรอก”
มันยังไม่ถึงเวลา
จะปล่อยให้ตายง่ายๆ ได้ยังไง
เฟเรสวางแผนว่าจะเป็นคนแรกที่พบตัวจักรพรรดิซึ่งนอนหมดสติ
“ถ้าอย่างนั้น…”
สีหน้าของหัวหน้านางกำนัลโอทัวร์ดูสดใสขึ้นมากหลังจากได้ยินคำกล่าวของเฟเรส
“มนุษยธรรมที่ไม่เคยมีเมื่อสิบกว่าปีก่อน ดูเหมือนจู่ๆ จะเริ่มมีขึ้นมาเฉยเลยสินะ หัวหน้านางกำนัลเบลล่า โอทัวร์”
เฟเรสพูดจาเสียดสีหัวหน้านางกำนัลที่ทำตัวเช่นนั้น
“สมัยเอาอาหารที่มีแต่ยาพิษมาให้ข้า เจ้าไม่เห็นลังเลเช่นนี้เลยสักนิด”
“อะ เจ้าชาย…”
บุคคลเดียวที่เดินเข้าออกวังเล็กผุพังนั่นเป็นประจำ
นางกำนัลเจ้าของเรือนผมสีดำ หัวหน้านางกำนัลเบลล่า โอทัวร์ในปัจจุบันเบิกตากว้าง
“นึกว่าข้าไม่รู้หรือไง”
หัวหน้านางกำนัลโอทัวร์รีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วทรุดกายคุกเข่าลง
“ขะ…ขออภัยเพคะ! ขอประทานอภัยเพคะ เจ้าชาย!”
ตึง ตึง
ศีรษะโขกลงบนพื้นส่งเสียงดัง
“ตอนนั้นหม่อมฉันเองก็ไม่มีทางเลือก…วะ…ไว้ชีวิตด้วยเพคะ!”
“เรื่องขอโทษน่ะช่างเถอะ”
เฟเรสพูดขัดหัวหน้านางกำนัลอย่างเย็นชา
“ตอนนี้เจ้าจงกลับไปวางยาพิษทีทีลงในสุราของฝ่าบาทเสีย นั่นคือวิธีชดใช้ความผิดของเจ้า เบลล่า โอทัวร์”
หัวหน้านางกำนัลโอทัวร์ตัวสั่นดั่งกิ่งไผ่ต้องลม แต่เพียงไม่นานนางก็โค้งศีรษะก้มหน้าลง
“น้อมรับคำสั่ง…เจ้าชายเพคะ”
* * *