เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] - SPIN-OFF บทที่ 38
SPIN-OFF บทที่ 38
“ไดอารี่ ของท่านแม่?”
สมองพลันงุนงง
ไดอารี่ของท่านแม่เนี่ยนะ
ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าท่านแม่จะทิ้งของแบบนี้เอาไว้
“จริงด้วย มีชื่อสลักเอาไว้ด้วย”
ตรงมุมของปกหนังสีน้ำตาล มีคำว่า ‘ชาห์น’ อยู่
ข้าลูบด้านบนของชื่อโดยที่ไม่รู้ตัวแล้วถามเฟเรส
“ไปเอาไดอารี่เล่มนี้มาจากไหนน่ะ เฟเรส?”
“อ๋า เรื่องนั้น”
เฟเรสทำท่าจะอธิบายอะไรบางอย่าง ก่อนจะลุกไปหยิบบางอย่างอีกครั้ง ราวกับตัดสินใจได้ว่าเอาให้ดูด้วยตนเองน่าจะเร็วกว่า
จากนั้นในอ้อมแขนของเฟเรสก็ถือกล่องไม้ใบใหญ่ไว้ใบหนึ่ง
เฟเรสวางกล่องลงตรงหน้าข้าที่ยังคงมองเขาด้วยสายตาเคลือบแคลง แล้วเปิดฝากล่อง
ด้านในนั้นมีสมุดบันทึกที่ดูคล้ายกับไดอารี่ของท่านแม่วางอยู่จนเต็มแน่น
“เป็นไดอารี่เลี้ยงเด็กของท่านแคลอฮัน ไม่สิท่านพ่อ”
“ทะ ทั้งหมดนี่คือไดอารี่เลี้ยงเด็กอย่างนั้นเหรอ”
แค่มองแวบเดียวก็มีจำนวนมากกว่าสิบเล่มไปแล้ว
ไม่สิ บางทีอาจจะยี่สิบเล่มเลยก็ได้
“ท่านพ่อเขียนไดอารี่เลี้ยงเด็กอย่างนั้นเหรอเนี่ย”
ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่เพิ่งได้รู้เป็นครั้งแรก แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่สมกับเป็นท่านพ่อมากจริงๆ
เพราะท่านเป็นคนที่ชื่นชอบการเขียนหนังสือและจดบันทึกทุกอย่างไว้นี่นะ
ขณะที่เลี้ยงดูข้า พอตอนดึกจะมานั่งเปิดไดอารี่คนเดียวหรือเปล่านะ
“ข้าก็เคยกังวลเรื่องเดียวกับเทียเหมือนกัน กังวลว่าสุดท้ายแล้วข้าจะเป็นพ่อที่ดีได้หรือไม่ มันเป็นของที่ท่านพ่อมอบให้มาตอนนั้น”
“อย่างนี้…นี่เอง”
เฟเรสก็มีช่วงแบบนั้นเหมือนกันเหรอเนี่ย
แม้แต่ในฝันข้าก็ไม่รู้เลย
คงจะรู้สึกแย่แท้ๆ
การที่ไม่รู้กระทั่งเรื่องนั้นทั้งที่อยู่เคียงข้างกันทำให้ข้ารู้สึกผิดขึ้นมา
เฟเรสเช็ดน้ำตาที่ยังเหลืออยู่บนขอบตาของข้าพลางส่งยิ้มให้ราวกับจะบอกว่ารู้ว่าข้าคิดอะไร
“แต่ว่าในนั้นมีไดอารี่ของท่านชาห์นปะปนอยู่ด้วย”
“ไม่ใช่ว่าท่านพ่อจงใจเอาใส่มาเหรอ”
“ข้าลองถามแล้ว ท่านพ่อบอกว่าไม่รู้เรื่อง บางทีอาจจะเป็นเพราะหน้าปกไดอารี่คล้ายกันก็เลยเก็บไว้ด้วยกันมาโดยตลอด”
“อย่างนี้นี่เอง”
ฉับลูบสมุดไดอารี่ของท่านแม่ที่อยู่ในมืออีกครั้ง
การที่ไดอารี่เล่มนี้ได้มาอยู่ในมือข้าเป็นผลพลอยได้ที่เกิดจากความบังเอิญของทุกคนเหรอเนี่ย
เป็นความรู้สึกที่แปลกแล้วก็คลุมเครือเล็กน้อย
แต่ทว่า
“นี่มัน…ถูกปิดผนึกไว้ด้วยขี้ผึ้งนี่นา”
ต่างจากสมุดไดอารี่ของท่านพ่อที่ใครๆ ก็สามารถอ่านได้ สมุดไดอารี่ของท่านแม่นั้นถูกปิดผนึกไว้ด้วยเชือกและขี้ผึ้งสีแดงอย่างแน่นหนา
หรือนั่นก็หมายความว่า
“ไม่เคยมีใคร…อ่านมันมาก่อนเลยสินะ”
“น่าจะใช่”
เฟเรสพยักหน้า
“ตอนที่ค้นพบเมื่อไม่กี่วันก่อนข้าก็คิดอยู่ครู่หนึ่งเหมือนกัน แต่ก็รู้สึกว่าไดอารี่ของท่านชาห์นให้เทียเป็นคนอ่านคนแรกจะดีกว่า”
“ขอบใจนะเฟเรส”
ถึงจะตอบกลับไปเช่นนั้น แต่พอจะแกะสิ่งที่ปิดผนึกอยู่ออกจริงๆ ก็พลันรู้สึกลังเลขึ้นมา
การพบเจอกับท่านพ่อ การถือกำเนิดของข้า การย้อนเวลา รวมไปถึงดอกบอมเนีย
แม้ข้าจะได้เผชิญกับสิ่งต่างๆ ที่ท่านแม่วางแผนเอาไว้ในชีวิตมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่ในความเป็นจริงแล้วข้าแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคนที่ชื่อว่าชาห์นเลย
ข้าจำได้ว่าเคยขอให้ท่านพ่อเล่าเรื่องเกี่ยวกับท่านแม่ให้ฟังหลายครั้งในตอนที่ยังเด็กมาก
ทว่านับตั้งแต่โตขึ้นมาหน่อยก็ไม่เคยถามถึงอีกเลย
เพราะว่าทุกครั้งข้าที่ถาม ใบหน้าของท่านพ่อดูเศร้ามากเหลือเกิน
เพราะฉะนั้น สมุดไดอารี่เล่มนี้ จึงเรียกได้ว่าเป็นการพบกันครั้งแรกของข้ากับท่านแม่ที่มีชื่อว่าชาห์น
ความลังเลคงอยู่ไม่นานนัก
ข้ามองเฟเรสที่นั่งอยู่ด้านข้างรอบหนึ่ง จากนั้นแกะขี้ผึ้งสีแดงออก
[ปฏิทินอาณาจักร ปี 255 เดือน 7 วันที่ 28
ข้าจับปากกาทันทีที่คุณหมอกลับไป
ข้ามีลูกแล้ว!
เป็นสายเลือดของข้ากับแคลลี่
ทันทีที่ได้ยินข่าวเรื่องตั้งครรภ์ แคลลี่ก็เริ่มร้องไห้
ตอนนี้ก็ยังได้ยินเสียงเขาสูดจมูกดังมาจากนอกห้องนอน
แคลลี่ผู้เป็นที่รัก
แม้คุณหมอจะบอกว่าครรภ์ยังไม่ปลอดภัยเพราะอยู่ในช่วงระยะแรก แต่ข้ารับรู้ได้
ว่าเด็กคนนี้ก็คือเด็กคนนั้น
สวัสดี. ยินดีที่พบ. จากใจจริง. 」
.
.
.
[ปฏิทินอาณาจักร ปี 255 เดือน 8 วันที่ 9
วันนี้ข้าไม่สามารถออกไปปลูกผักที่สวนครัวได้
แพ้ท้องหนักมากจนขยับไปไหนไม่ได้เลย
สุดท้ายก็เลยขอให้แคลลี่ช่วยรดน้ำที่สวนครัวให้
เขาเป็นผู้ชายที่เก่งเรื่องฝีมือ แต่กลับไม่มีพรสวรรค์ในเรื่องที่ใช้ร่างกายเลย ข้าเลยกังวลว่าบางทีเสื้อผ้าของเขาอาจจะเต็มไปด้วยคราบดินขณะที่รดน้ำก็ได้
ข้าเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ขณะที่กำลังเขียนไดอารี่เพราะข้างในห้องร้อน
หมอบอกว่าลูกจะคลอดในฤดูใบไม้ผลิ
เป็นเรื่องที่โล่งอกไปที
ฤดูหนาวก็หนาวเกินไป ฤดูร้อนก็ร้อนเกินไป ส่วนฤดูใบไม้ผลินั้นเย็นสบาย
เรามาพบกันในวันที่ดีกันเถอะ 」
.
.
.
「 ปฏิทินอาณาจักร ปี 255 เดือน 8 วันที่ 15
จู่ๆ ตั้งแต่เมื่อวานแคลลี่ก็เริ่มเห็นอาหารแล้วมีอาการพะอืดพะอม
ข้าตกใจก็เลยเรียกหมอมา หมอบอกว่าเป็นอาการแพ้ท้องแทน
รู้สึกผิดจัง ทำยังไงดี
แต่ว่าพายเนื้อก็อร่อยมากเลย」
.
.
.
「 ปฏิทินอาณาจักร ปี 255 เดือน 8 วันที่ 25
วันนี้มีคนที่ท่านพ่อของแคลลี่ รูลลัก ลอมบาร์เดียส่งมามาหา
ไม่รู้ว่าทราบข่าวเรื่องตั้งครรภ์ได้ยังไง ท่านจึงให้นำยาที่ดีต่อสุขภาพของหญิงตั้งครรภ์และเงินจำนวนมากมาให้
ข้าถามว่าควรเขียนจดหมายไปขอบคุณดีไหม แต่แคลลี่ปฏิเสธ
บอกว่าจะไม่ติดต่อกันจนกว่าข้าจะได้รับการยอมรับว่าเป็นคนของลอมบาร์เดีย และพรุ่งนี้จะส่งยากับเงินคืนกลับไปให้หมด
ข้าเสียใจ เพราะดูเหมือนแคลลี่จะห่างเหินกับครอบครัวก็เพราะข้า 」
.
.
.
「ปฏิทินอาณาจักร ปี 255 เดือน 9 วันที่ 1
วันนี้ข้าฝัน
ลูกที่อยู่ในฝันกำลังร้องไห้
ไม่อาจเปล่งเสียงออกมาอย่างราบรื่น ร้องคนเดียว อย่างน่าสงสาร
ไม่รู้เพราะเหตุใด ข้าถึงไม่เห็นแคลลี่ที่สมควรจะปลอบลูกอยู่ข้างๆ เลย
ทำไมแคลลี่ถึงได้ปล่อยให้ลูกร้องไห้อยู่คนเดียวเนี่ย?
ความโกรธพลุ่งขึ้นมาจนถึงศีรษะให้กับเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น
เจ้าคนไร้ความรับผิดชอบแคลลี่
ปล่อยลูกไว้คนเดียวได้ยังไง 」
.
.
.
「 ปฏิทินอาณาจักร วันที่ 10 เดือน 10
คนที่ไร้ความรับผิดชอบก็คือข้า
ตั้งแต่วันที่ก้าวออกมาจากเผ่า จนถึงวันที่ตั้งครรภ์
ข้าได้เลือกเส้นทางที่ไร้ความรับผิดชอบไปแล้ว
ทั้งที่ไม่สามารถอยู่เคียงข้างลูกของตนเองได้ด้วยซ้ำ
กลัว
ทั้งที่เคยคิดว่าที่ผ่านมาข้าตัดสินใจไปเพื่อทุกคนแท้ๆ
ถ้าความจริงแล้วทั้งหมดนั่นเป็นการตัดสินใจที่เห็นแก่ตัวเพื่อข้าคนเดียวจะทำยังไง
ขอโทษ
ขอโทษนะ เด็กน้อย 」
.
.
.
“ท่านแม่บอกว่ากลัว”
บริเวณที่เขียนคำว่าขอโทษเอาไว้หมึกกระจายออกเพราะน้ำตา
“ท่านแม่ก็กลัวเหมือนกัน”
และเรื่องนั้นกลับทำให้ความหวาดกลัวของข้าสงบลง
ชาห์น ท่านแม่ของข้านั้น เป็นคนที่เด็ดเดี่ยวที่สุดในบรรดาคนที่ข้ารู้จัก
ทั้งที่รู้เรื่องการตายของตนเอง แต่ก็ยังออกจากชนเผ่ามาที่ลอมบาร์เดีย ได้พบเจอกับท่านพ่อและให้กำเนิดข้า
แต่แม้แต่ท่านแม่ผู้นั้นก็ยังรู้สึกหวาดกลัวและรู้สึกผิดในตอนที่มีข้า
ราวกับตัวข้าในตอนนี้
พรึบ
ข้าลองประเมินจำนวนหน้าที่เหลือโดยไม่ได้พลิกไปหน้าถัดไปอีกต่อไป
ท่านแม่เสียชีวิตไปหลังจากที่คลอดข้ายังไม่ถึงหนึ่งปี
และเมื่อลองพิจารณาส่วนที่เหลือแล้ว บางทีนี่อาจจะเป็นไดอารี่เล่มสุดท้ายของท่านแม่ก็ได้
“เก็บไว้อ่านวันละนิดแล้วกัน”
ข้าปิดไดอารี่ของท่านแม่พลางกล่าว
“ทำแบบนั้นข้าจะได้รู้สึกมีพลัง เหมือนกับว่าเราได้ผ่านมันไปด้วยกัน”
แน่นอนว่ามันจะสมบูรณ์แบบที่สุดหากท่านแม่ยังชีวิตอยู่และอยู่เคียงข้างข้า
แต่ไดอารี่ก็ดีเหมือนกัน
เหนือสิ่งอื่นใดเป็นเพราะข้าสามารถเข้าใจความรู้สึกที่แท้จริงของท่านแม่ในขณะที่ท่านมีประสบการณ์คล้ายกับข้าได้
“ขอบใจนะเฟเรส”
ข้ากล่าวเช่นนั้น แล้วจุมพิตบนแก้มของเฟเรสเบาๆ
รู้สึกมั่นใจ
ความรู้สึกที่อิรุงตุงนังราวกับมีตะกอนขุ่นก็สงบเยือกเย็นลงเช่นกัน
มีเฟเรส มีคนในครอบครัว แล้วก็ยังมีไดอารี่ของท่านแม่
“ข้ารู้สึกเหมือนกับว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็สามารถผ่านมันไปได้”
เฟเรสยิ้มขณะที่มองหน้าของข้าที่ไม่รู้ว่าน้ำตาแห้งไปตั้งแต่เมื่อไร
“ข้าจะคอยช่วยอยู่ข้างๆ เองเทีย”
“อืม เป็นเพราะว่าข้าพลั้งปากไปก็เลยกังวลเกิน…อึก!”
“เทีย!”
ข้าจับท้องไว้แน่นแล้วคู้ตัวลง
เมื่อกี้คือสิ่งนั้นใช่ไหม?
“เทีย เป็นอะไรไหม? รีบเรียกดอกเตอร์เอสทีร่า…”
“ไม่ ไม่เป็นไร เหมือนจะ…ไม่ใช่อาการป่วยนะ”
“หมายความว่ายังไง เมื่อกี้ท้อง…”
“รอสักเดี๋ยวก่อนนะ เฟเรส”
ข้าปลอบเฟเรสให้สงบลง แล้วกลั้นหายใจเงียบๆ
จากนั้นค่อยๆ ลูบบริเวณที่รู้สึกแปลกๆ เมื่อครู่นี้
“เหมือนจะ ประมาณตรงนี้นะ”
แต่เงียบเชียบ
ไม่ใช่เหรอ?
หรือว่าข้าคิดไปเองกันนะ?
ในระหว่างที่กำลังคิดเช่นนั้นอยู่นั่นเอง
ตุ้บ ตุ้บ
รู้สึกเหมือนมีน้ำหยดใหญ่กำลังระเบิดอยู่ด้านในท้อง
“ว้าว…”
นี่เองสินะ
นี่ก็คือ
“ลูกดิ้นแล้วเฟเรส”
“…ว่าไงนะ?”
ข้ารีบจับมือของเฟเรสแล้วนำมาแนบบนท้อง
“ตรงนี้ ลองสัมผัสดูสิ”
ถ้าหยุดไปแล้วจะทำยังไงดี
แต่ความกังวลนั้นก็อยู่ไม่นาน พลันรู้สึกถึงความเคลื่อนไหวที่แรงกว่าเมื่อครู่นี้เล็กน้อยจากด้านใน
ตุ้บ ตุ้บตุ้บ
ข้าเคยได้รับคำเตือนจากชานาเนสมาก่อนแล้ว
ว่าอีกไม่นานก็จะรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์
แต่ไม่เคยนึกเลยว่ามันจะเป็นความรู้สึกแบบนี้
“อ่า…”
มือของเฟเรสพลันกระตุกหนึ่งครั้ง
อาจเพราะตกใจมากจนลืมกระทั่งการหายใจไปแล้ว เขาจึงตัวแข็งไปโดยที่ยังเบิกดวงตาทั้งสองข้างเอาไว้