เกิดใหม่เป็นไอหนุ่ม NTR ในเกมเอโรเกะ แต่ฉันไม่มีวันแย่งเธอมาเด็ดขาด - ตอนที่ 2.2 มุมมองของ ชู
- Home
- เกิดใหม่เป็นไอหนุ่ม NTR ในเกมเอโรเกะ แต่ฉันไม่มีวันแย่งเธอมาเด็ดขาด
- ตอนที่ 2.2 มุมมองของ ชู
“……โทวะกับอายานะกลับบ้านแล้วเหรอ?”
ฉันพึมพำกับตัวเอง ขณะที่ช่วยรุ่นพี่อิโอริที่ห้องสภานักเรียน
ปกติแล้วฉันจะกลับบ้านกับอายานะและโทวะ แต่เนื่องจากรุ่นพี่อิโอริเรียกฉัน ฉันจึงปฏิเสธเธอไม่ได้
“……ฮา”
“มีอะไรเหรอ?”
“ไม่ ไม่มีอะไร”
เธอสังเกตเห็นว่าฉันถอนหายใจ แต่ฉันพยายามปกปิดมันไว้
“………..”
การได้อยู่ในห้องสภานักเรียนกับรุ่นพี่อิโอริตามลำพังแบบนี้มันน่าตื่นเต้นมาก แต่อายานะเป็นที่หนึ่งในใจของฉันเสมอ
(……อายานะ)
สำหรับฉันอายานะเธอเป็นเพื่อนสมัยเด็กที่สำคัญมาก
ฉันอยู่กับเธอตั้งแต่เด็กและความสัมพันธ์ของเราก็ดีมากเพราะเราอยู่ด้วยกันมานานจนเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว
[อายานะจัง!]
[ชูคุง!]
เมื่อเรายังเด็กเป็นเรื่องปกติที่เราจะเรียกชื่อกันและสนิทกัน และแม้แต่ตอนนี้เราก็ยังไปเยี่ยมบ้านกันและกันเหมือนกับครอบครัว
อายานะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของฉัน และการได้อยู่กับเธอคือความสุขที่สุดสำหรับฉัน
(ฉันจะ…คบกับอายานะอย่างแน่นอน)
มันน่าอายที่จะอธิบายเป็นคำพูด แต่ฉันมีสัญชาตญาณบางอย่างบอกให้ทำ
ตั้งแต่ฉันยังเด็กอายานะอยู่เคียงข้างฉัน และนั่นไม่เปลี่ยนแปลง แม้ตอนนี้ฉันจะเป็นนักเรียนมัธยมปลายปีสอง… เธอก็อยู่ข้างๆฉันเสมอ
[ชูและอายานะเป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบ]
[ใช่ ใช่! พี่ชายและอายานะ จะต้องแต่งงานกันแน่นอน!]
ฉันมักจะถูกแม่และน้องสาวของฉันบอกบ่อยๆ แต่ฉันบอกว่าให้หยุดพูดเรื่องนี้เพราะมันน่าอาย… แต่น้องสาวของฉันยังพูดถึงเรื่องนี้อยู่เรื่อยๆ
“……ฮ่าๆ”
ฉันอดไม่ได้ที่จะยิ้มเมื่อนึกถึงอายานะและครอบครัวของฉัน
รุ่นพี่อิโอริมองฉันแปลกๆ เมื่อจู่ๆฉันก็หัวเราะ แต่ฉันแค่ไอและแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไร
ฉันมีความสุขมากที่ได้ช่วยอิโอริและกลับไปที่ห้องเรียน
“…… ฮ่าฮ่า ฉันรู้ว่าพวกเขาคงไม่อยู่แล้วที่นี่….”
สองคนที่ฉันคิดว่ากำลังรอฉันอยู่อายานะและโทวะก็จากไปแล้วตามคาด
ฉันดูโทรศัพท์เพื่อความแน่ใจ และพบข้อความจากอายานะที่บอกว่าเธอกับโทวะจะกลับบ้านก่อน
“งั้นฉันคงต้องกลับบ้านบ้างแล้วละนะ”
ฉันออกจากโรงเรียนโดยสะพายกระเป๋าไว้บนหลัง
นานๆจะออกข้างนอกโรงเรียนคนเดียวแบบนี้ แต่บางทีก็คิดว่าวันแบบนี้ก็ไม่เลวนะ
อาจเป็นเพราะชีวิตประจำวันของฉันกับอายานะและโทวะนั้นธรรมดาเกินไปสำหรับฉัน
ฉันมีความสุขไม่เพียงแต่อยู่กับอายานะและโทวะเท่านั้น แต่ยังรวมถึงครอบครัวของฉันด้วย
ใช่ ฉันมีความสุขมากกับครอบครัวของฉันเช่นกัน
ฉันมีแม่ น้องสาว และพ่อที่ทำงานไกลบ้าน
แม่ของฉันมักจะทำอาหารอร่อยๆ และทำข้าวกล่องให้ฉันเสมอ และแม่ก็ทำให้ฉันมีความสุขด้วยการชมเชยฉันแม้ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆที่ฉันทำ
[ชูคือความภาคภูมิใจและความสุขของครองครัวเรา เข้าใจไหม? ลูกเป็นเด็กดีและน่ารักจริงๆ แม่รักลูกนะ]
เมื่อแม่กอดฉันแบบนั้น มันทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัยจริงๆ
แม่ดูเหมือนจะเข้าใจและสังเกตเห็นว่าฉันไม่สบายใจทันที… อืม ฉันเข้าใจว่าแม่เห็นคุณค่าในตัวฉันจริงๆ แน่นอน ไม่ใช่แค่แม่ของฉันแต่น้องสาวของฉันก็รักฉันด้วย
[โอนี่จัง สอนหนูหน่อยสิ!]
ฉันเรียนไม่เก่ง แต่น้องสาวของฉันที่อยู่มัธยมต้นก็ยังอยากเรียนกับฉัน… ฉันไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอเป็นน้องสาวของฉันหรือเปล่า แต่เธอชอบที่จะอยู่กับฉัน เธอสำคัญสำหรับฉันมากและเธอยังน่ารักอีกด้วย
“และพ่อของฉันก็คาดหวังว่าฉันจะอยู่เคียงข้างพวกเธอ”
ฉันมักจะคุยโทรศัพท์กับพ่อของฉันซึ่งเดินทางไปทำธุรกิจคนเดียว และเขามักจะบอกให้ฉันเป็นที่พึ่งพาของแม่และน้องสาวของฉัน
ฉันไม่คิดว่าฉันจะมาแทนที่พ่อของฉันได้ แต่เนื่องจากฉันเป็นผู้ชายคนเดียวที่เหลืออยู่ที่บ้าน ฉันจึงวางแผนที่จะปกป้องทั้งสองคนอย่างสุดความสามารถ
“แน่นอน ฉันจะปกป้องอายานะด้วย”
ในฐานะที่อายานะคอยอยู่เคียงข้างฉันในฐานะเพื่อนสมัยเด็ก ฉันก็จะปกป้องเธอเช่นกัน
เพราะเธอคือเพื่อนสมัยเด็กคนสำคัญของฉัน… เพราะเธอคือเพื่อนสมัยเด็กสุดที่รักของฉัน ฉันจะปกป้องเธอต่อไปจากนี้
“อายานะคอยช่วยเหลือฉันเสมอเมื่อฉันถูกรังแก”
ฉันเคยถูกคนอื่นอิจฉาเพราะอายานะตั้งแต่มัธยมต้น
บางครั้งฉันจึงถูกคนต่างๆคอยรังแก แต่ทุกครั้งอายานะจะปกป้องฉัน
“อ่า จริงด้วย โทวะก็ด้วย”
โทวะยังปกป้องฉันพร้อมกับอายานะ ฉันแน่ใจว่าเป็นเช่นนั้น
“โทวะช่วยได้มากจริงๆ”
ฉันสนใจโทวะมาก ซึ่งฉันรู้จักมานานเช่นเดียวกับอายานะ
ฉันหวังว่าฉันจะเป็นคนที่หล่อเหลา เอาใจใส่ และ…… เป็นคนที่อายานะจะไม่มีวันบ่นเมื่อฉันยืนข้างเธอ
[เฮ้ โทวะ ฉันต้องการให้นายเป็นกำลังใจให้อายานะกับฉัน]
นานมาแล้วฉันเคยบอกเขาและเขาก็พยักหน้า
ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงวางใจได้ว่าไม่มีอะไรระหว่างโทวะและอายานะและฉันรู้ว่า
โทวะจะอยู่เคียงข้างฉันตลอดไป
อาจเป็นเพราะฉันคิดมากเกินไปฉันจึงหยุดเดินแล้วอยู่กับที่เป็นเวลานาน
“อา”
ท้องของฉันปั่นป่วนไปหมด และฉันก็หัวเราะขณะรีบกลับบ้าน
ระหว่างทางกลับบ้าน ฉันได้ยินเสียงไซเรนของรถพยาบาล ราวกับว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นที่ไหนสักแห่ง และฉันก็เบนความสนใจไปทางนั้นโดยธรรมชาติ
“…..”
ฉันเกลียดเสียงไซเรนรถพยาบาล
ไม่ใช่เพราะเสียงน่ารำคาญ แต่เพราะมันทำให้ความทรงจำแย่ๆ ของฉันกลับคืนมา
[ชู!]
[…… เอ๊ะ?]
ฉันส่ายหัวและวิ่งตรงกลับบ้านทันที พยายามลืมความทรงจำที่เกือบจะกลับมาหาฉัน
เมื่อฉันกลับถึงบ้านและเดินผ่านประตูหน้า ฉันไม่สนใจสิ่งไม่พึงประสงค์ที่ฉันเกือบจะจำได้อีกต่อไป
“กลับมาแล้วครับ~!”
ดูเหมือนว่าน้องฉันจะยังไม่กลับบ้าน ซึ่งมันผิดปกติ เพราะฉันไม่เห็นน้องสาวของฉัน ซึ่งมักจะตอบกลับด้วยการพูดว่า “ยินดีต้อนรับกลับบ้าน” ทุกที
“ยินดีต้อนรับกลับบ้าน ชู”
แม่ของฉันออกมาจากห้องนั่งเล่นราวกับว่ามาแทนน้องสาวของฉัน
เมื่อเธอเห็นฉัน เธอเดินเข้ามาหาฉันด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ และกดใบหน้าของฉันไว้ที่อกของเธอ
“เฮ้ แม่?
“ตอนนี้อย่าพยายามดึงออกนะ ในที่สุดลูกชายสุดที่รักของฉันก็ถึงบ้านแล้วและแม่ต้องการทำแบบนี้”
“……อย่างนั้นเหรอ?”
“ใช่♪”
มันน่าอายที่ทำแบบนี้กับนักเรียนม.ปลาย แต่เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นแม่ของฉัน ฉันจึงทำตามที่แม่บอก
“วันนี้มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า? ลูกกลับสายนะ ไปเดทกับอายานะมาเหรอ?”
“เปล่า วันนี้ผมทำงานกับประธานสภานักเรียน อายานะกลับบ้านมาก่อนแล้ว”
“โอ้จริงเหรอ? ฮ่าๆ ลูกแม่นี้เยี่ยมจริงๆ การช่วยงานประธานสภานักเรียนไม่ใช่งานเล็กๆนะ เก่งมาก”
มันไม่ใช่สิ่งที่ควรยกย่อง แต่ฉันยิ้มให้แม่ของฉัน โดยคิดว่ามันไม่ดีที่จะลดคุณค่าตัวเองมากเกินไป
“แม่เตรียมน้ำให้ลูกแล้ว ไปอาบน้ำเถอะ”
“ครับ”
หลังจากเก็บสัมภาระเข้าห้องแล้ว ฉันก็ไปอาบน้ำ
ขณะที่กำลังอาบน้ำอุ่น ฉันคิดอีกครั้งว่าฉันมีความสุขมากที่มีครอบครัวที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้
นี่เป็นสิ่งที่ฉันคิดไว้ก่อนหน้านี้ แต่ฉันรู้สึกขอบคุณอย่างแท้จริงสำหรับชะตากรรมนี้
ในโลกที่มีครอบครัวหลายประเภท แน่นอนว่าฉันถูกล้อมไปด้วยครอบครัวที่ดีที่สุดและไม่ใช่เรื่องเกินจริง
แม่ที่ใจดี น้องสาวที่น่ารัก พ่อที่ไว้ใจได้… และเพื่อนสมัยเด็กที่ดีที่สุดของฉันที่อยู่เคียงข้างฉันเสมอ ในช่วงเวลาเช่นนี้ ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวเอกของเกม และแก้มของฉันก็ผ่อนคลายอย่างเป็นธรรมชาติ
“แต่……”
อย่างไรก็ตาม ยังมีสิ่งหนึ่งที่คาใจฉันอยู่
ฉันไม่แน่ใจว่าทำไมครอบครัวของฉันใจดีกับฉันมาก แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง พวกเขากลับมีปัญหากับโทวะ หรือมากกว่านั้น เมื่อฉันพูดถึงเขา พวกเขาทำหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
“……ฉันสงสัยว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น”
ฉันอยากให้เราเป็นเพื่อนกัน แต่ฉันคิดว่าสิ่งเหล่านี้จะแก้ไขได้ง่ายเมื่อเราได้พูดคุยกันและเชื่อว่าสักวันหนึ่งพวกเธอจะเป็นเพื่อนกับโทวะได้เช่นกัน
“อายานะ โทวะและฉันอยู่ด้วยกันมาตลอด นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันหวังว่าเราทุกคนจะเป็นเพื่อนกันได้”
สักวันหนึ่ง… ถ้าฉันลงเอยด้วยการแต่งงานกับอายานะจริง ๆ สักวันหนึ่ง… ฉันยังคงหวังว่าโทวะจะพูดในงานแต่งงานของเราในฐานะเพื่อนของเราทั้งสอง
“ฮ่าฮ่า ฉันใจร้อนเกินไป แต่…ฉันหวังว่าอนาคตแบบนั้นจะมาถึง”
มันค่อนข้างน่าอายที่จะพูดด้วยตัวเอง แต่ไม่เป็นไรที่จะฝันกลางวันแบบนี้และไม่มีใครสามารถพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้
และผมเชื่อว่าอนาคตนี้จะมาถึงจริงๆ
[ชูคุง]
[ชู]
พอคิดถึงคนสองคนที่อยู่ด้วยกันมาตลอด ผมอาบน้ำเสร็จกลับไปที่ห้องนั่งเล่นที่มีแม่รออยู่
——————————————————————————————————————————————————————————————————————————————————–
คุยท้ายตอน
สวัสดีครับ พ่อค้าร้านเต้าหู้ เองครับ ตอนแรกคิดว่าจะข้ามตอนนี้ดีไหมนะ? เพราะผมมีอคติกับไอชูเป็นการส่วนตัวเลยคิดว่าจะแปลออกมาแบบไม่ลำเอียงได้ไหมนะ? แต่พอกลับมาอ่านตอนนี้อีกทีทำให้รู้ว่ามีรายละเอียดเล็กๆน้อยๆอยู่ เพราะงั้นคงช่วยไม่ได้ที่เราต้องมาอ่านในมุมมองของไอชูบ้าง
อันนี้ของพูดส่วนตัวนะครับ ผมคิดว่าการที่คนที่เราชอบไปคบกับเพื่อนเราตั้งๆที่เขายังไม่มีสถานะอะไรกับเราเลยมันไม่นับว่าเป็น NTR นะครับ
เอาละเรามาตามดูโศกนาฏกรรมของไอชูไปพร้อมๆกับดีกว่าครับ