เกิดใหม่เป็นไอหนุ่ม NTR ในเกมเอโรเกะ แต่ฉันไม่มีวันแย่งเธอมาเด็ดขาด - ตอนที่ 5.3 อุบัติเหตุหลังเลิกเรียน
- Home
- เกิดใหม่เป็นไอหนุ่ม NTR ในเกมเอโรเกะ แต่ฉันไม่มีวันแย่งเธอมาเด็ดขาด
- ตอนที่ 5.3 อุบัติเหตุหลังเลิกเรียน
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วและเข้าสู่ช่วงหลังเลิกเรียน
วันนี้ก็เช่นเคย อิโอริพาชูไปซึ่งเธอปรากฏตัวหลังเลิกเรียนไม่นาน แต่ฉันกับอายานะตัดสินใจกลับบ้านทันทีเพราะชูบอกเราตอนนั้นว่าวันนี้กลับบ้านก่อนได้
“วันนี้นายอยากไปที่ไหนหลังเลิกเรียนไหม?”
“ไม่ละ ฉันคิดว่าฉันจะกลับบ้านเลย แล้วอายานะละอยากไปไหนมั้ย?”
“ไม่ ฉันอยู่ที่ไหนก็ได้ถ้าฉันได้อยู่กับโทวะคุง”
อายานะกอดแขนของฉันไว้ที่หน้าอกของเธอ
(ฉันถูกดึงเข้าไปแล้วใช่ไหม?)
เห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างฉันกับอายานะ
แม้ว่าฉันจะอยากรู้ แต่ฉันยังไม่คิดจะทำอะไรกับอายานะอย่างแน่นอน
อาจเป็นเพราะฉันรู้สึกสบายใจกับสถานการณ์ปัจจุบันของฉันก็ได้
ช่วงเวลาที่อายานะเข้าใกล้ฉัน คือตอนที่ไม่มีคนรู้จักอยู่ รวมถึงชูและฉันดีใจที่ได้ใช้เวลาร่วมกับเธอ
“……เฮ้ อายานะ”
“มีอะไรเหรอโทวะคุง?”
สายตาของเธอทำให้ฉันคิดว่า “ได้โปรดชวนฉันคุยอะไรก็ได้” พุ่งเข้ามาหาฉัน
มีบางอย่างกระซิบกับฉันว่าฉันควรจะเพลิดเพลินไปกับเธอต่อโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ไม่ต้องคิดเกี่ยวกับเรื่องยากๆ แต่เพียงเพลิดเพลินไปกับสิ่งที่เธอมอบให้กับฉัน
ในขณะนั้น ฉันกำลังจะเริ่มต้นคิดประมาณว่า “เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน…”
“…… เอ๊ะ?”
“มีอะไรเหรอ……อะ”
มันเป็นภาพที่ฉันบังเอิญได้เห็น
เรากำลังเดินอยู่บนทางเท้าในเมืองและบนถนนใกล้ๆก็มีรถวิ่งสัญจรไปมามากมาย
มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งโบกมือไปหาเพื่อนของเธอทางอีกฟากหนึ่งของทางม้าลาย
(…..คงไม่หรอกมั้ง?)
มันเป็นฉากที่สามารถมองเห็นได้ทั่วไป
ฉันมองไปที่กลุ่มเด็กที่น่าจะเป็นเป็นของเธอ
ดูเหมือนสิ่งที่ฉันคิดจะกลายเป็นความจริงที่เลวร้ายที่สุด
“เฮ้ย!”
“ระวัง!”
ฉันกับอายานะตะโกนพร้อมกัน
สัญญาณไฟจราจรสำหรับคนเดินถนนยังคงเป็นสีแดง แต่เด็กผู้หญิงเริ่มเดินไปอีกฝั่งของถนน
ฉันวิ่งออกไปและทิ้งอายานะไว้ข้างหลังทันทีที่ฉันรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“อะ เดี๋ยวก่อนโทวะคุง!”
ถึงฉันจะได้ยินเสียงของอายานะแต่ฉันก็ไม่หยุด
ผู้คนรอบตัวฉันเริ่มสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่มันก็สายเกินไปแล้วและมีรถขับเข้ามาหาเด็กผู้หญิงคนนั้น
เสียงแตรดังขึ้นทันทีและดูเหมือนเด็กผู้หญิงหยุดเคลื่อนไหวเพราะความตกใจ
“…..เวรเอ้ยยยยย!”
เมื่อมาถึงจุดนี้ ฉันหมดหวังที่จะช่วยเด็กคนนั้น
ฉันไม่สนใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉัน ฉันไม่มีเวลาคิดด้วยซ้ำ ฉันพุ่งไปหาเด็กสาวได้ทันเวลาและกอดร่างเล็กๆของเธอไว้
[โทวะคุง!!]
“?!”
ทันทีที่ฉันกอดเด็กสาวไว้ ฉากแปลกๆก็ปรากฏขึ้นในหัวของฉัน
ฉันยื่นแขนออกไปที่ชูที่ตกตะลึง จากนั้น……..
“……!”
สิ่งเดียวที่ฉันสัมผัสได้แม้จะหลับตาอยู่ก็คือเสียงแตรและเสียงเบรก และความปั่นป่วนรอบตัวฉัน แต่ฉันไม่มีเวลาคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
“อ-ไอหนูไม่เป็นไรใช่ไหม!”
คนขับลงจากรถด้วยความตื่นตระหนกและตะโกนเรียกเรา
นึกว่าเขาจะตะโกนใส่เราแต่คนขับดูเข้าใจเหตุการณ์ดี
เหตุการณ์ดังกล่าวมีเสียงดังอยู่ระยะหนึ่ง แต่เนื่องจากทุกคนปลอดภัยแล้ว จึงไม่กลายเป็นปัญหาใหญ่และฝูงชนก็เริ่มลดลง
“ตั้งแต่นี้ไปก็ระวังตัวด้วย โอเคไหม?”
“เข้าใจแล้วค่ะ…… ขอบคุณนะโอนี่จัง!”
“โอ้ ดีมาก”
ฉันมั่นใจว่าถ้าพ่อแม่ของเธออยู่ใกล้ๆ พวกเขาคงจะดุเธอเรื่องนี้แน่ ฉันคิดด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ
“ตอนนี้ทุอย่างโอเคแล้วละ”
ฉันกลับมาที่อายานะด้วยความโล่งใจที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในที่สุดฉันก็ตระหนักถึงความหนักหน่วงของสถานการณ์เมื่อมองดูโดยคิดสักนิด
“…..อายานะ?”
“โทวะคุง……นายไม่เป็นไรใช่ไหม!? นายไม่ได้รับบาดเจ็บ…ใช่ไหม?!”
อายานะกอดฉันทั้งน้ำตา
มันเป็นสถานการณ์ที่อันตรายมาก และฉันเสียใจมากที่ทำให้อายานะกังวล อย่างไรก็ตามดูเหมือนอาการของอายานะดูไม่ปกติ
“นายยังมีชีวิตอยู่…นายยังมีชีวิตอยู่ ขอบคุณพระเจ้าที่นายไม่ได้รับบาดเจ็บ… ฉันไม่อยากเจออะไรแบบนั้นอีกแล้ว… โทวะคุง… โทวะคุง โทวะคุง โทวะคุง!”
เธอกอดฉันและซบหน้าลงบนอกของฉัน พึมพำกับตัวเองตลอดเวลา
ฉันจะยืนอยู่ที่นี้นานไม่ได้ ฉันจึงวางมือบนไหล่ของอายานะแล้วขอให้เธอถอยออกไปก่อนเพื่อที่เราจะได้เริ่มเดินได้
ฉันไม่มีแผนที่จะไปไหน ฉันจึงตัดสินใจมุ่งหน้าไปยังที่บ้านของฉันทันทีเพื่อทำให้อายานะสงบลง ฉันจะไปบ้านของฉันเพื่อสงบสติอารมณ์ของอายานะ เพราะเธอทำตัวแปลกๆตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว
“……………”
ฉันไม่สามารถมองเห็นสีหน้าของอายานะได้เพราะเธอยังอยู่ในอ้อมแขนของฉันและไม่พูดอะไรเลย
ในที่สุดสิ่งต่างๆ ก็ดำเนินไปดังเดิม และเมื่อเราถึงบ้านและเข้าไปในห้อง ในที่สุดอายานะก็ดูสงบลงพอที่จะพูด
“ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะร้องไห้แบบนั้น”
“ไม่เป็นไร มันไม่เป็นไรจริงๆ ฉันทำให้อายานะกังวลเพราะเหตุการณ์นั้น…”
แน่นอนว่าฉันไม่คิดว่ามันผิดที่จะช่วยเด็กคนนั้น
แต่ฉันรู้ว่าฉันเป็นต้นเหตุของสิ่งที่เกิดขึ้นกับอายานะ และส่วนที่แย่ที่สุดคือฉันไม่ได้คิดอะไรเลยในตอนนั้น
(…… ฉันคิดว่าน่าชื่นชมที่ได้ช่วยเธอ แต่ฉันไม่ได้คิดถึงตัวเองเลย ……และต่อหน้าอายานะที่กำลังโศกเศร้าอยู่…)
หากรถไม่หยุด มีความเป็นไปได้ที่ฉันจะกลายเป็นเนื้อบดต่อหน้าอายานะ และเหนือสิ่งอื่นใด มันคงทำให้แม่ของฉันเสียใจอย่างสุดซึ้งเพราะเธอคอยคิดถึงฉันอยู่เสมอ…
“…… ฉันขอโทษจริงๆ”
ตอนที่ฉันกอดอายานะที่ยังตัวสั่นอยู่ เธอก็เอาแขนโอบหลังฉันแล้วกอดฉันราวกับต้องการความมั่นใจว่าฉันยังอยู่ตรงนี้
(……อ่า มันทำให้ฉันสงบลงจริงๆ เวลาที่ฉันเป็นแบบนี้)
รู้สึกเหมือนว่าเธอเป็นเพียงคนเดียวในโลกนี้ที่ปลอบโยนฉันได้ เธอคนเดียวเท่านั้นอายานะ
ฉันรู้สึกสบายใจมาก แต่ในขณะเดียวกัน ฉันก็มั่นใจว่าได้รับข้อมูลมากมายที่น่าเป็นห่วง
(ภาพที่ฉันเห็นในตอนนั้น……ของโทวะที่พยายามจะช่วยชู คำพูดที่อายานะพูดออกมานั้นหมายความว่าไง)
ขณะที่ฉันกำลังคิดเรื่องนี้อยู่เงียบๆ ฉันก็ได้ยินเสียงในอกของฉัน
“…… ฉันคิดว่าฉันจะเสียนายไปแล้วโทวะคุง”
ฉันฟังเสียงของเธอราวกับว่าเธอพยายามจะขจัดความขมขื่นของเธอออกไป
เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเธอแดงและบวม และมันแดงก่ำมากจนฉันเห็นได้ว่าฉันทำให้เธอเสียใจมากแค่ไหน
อายานะยังคงพูดต่อ
“สำหรับฉันโทวะคุงมีความสำคัญมากกว่าใครๆ สมัยก่อนฉันใช้ชีวิตตามที่ได้รับคำสั่งมาตลอด และนายก็เข้ามาจับมือฉันและสอนฉันหลายอย่าง…… ฉันรักนายมาก ฉันรักนายมาก ฉันรักนายมาก!! โทวะ”
“……อายานะ”
เธอบอกฉันว่าเธอรักฉัน และมือของฉันก็กระชับขึ้นขณะกอดอายานะไว้ในอ้อมแขน
แม้ว่าฉันจะไม่ใช่โทวะที่แสดงความรักต่อเธอ แต่ร่างกายของฉันก็เคลื่อนไหวไปเองราวกับได้รับการบอกกล่าว
ราวกับว่าวิญญาณของฉันและวิญญาณของโทวะซ้อนทับกัน และฉันรู้สึกราวกับว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นในตัวฉัน ซึ่งทำให้ฉันคิดว่ามันคือโทวะ
ฉันกอดอายานะต่อไปสักพัก และในที่สุดเธอก็สงบสติอารมณ์ได้และถอยห่างจากฉัน
“ฉันขอโทษโทวะคุง แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกโอเคแล้ว”
“อา ฉันดีใจที่ได้ยินแบบนั้น”
ฉันเอื้อมมือไปลูบหัวของอายานะอย่างเบามือ
ความรู้สึกของผมสีดำอันนุ่มสลวยของเธอให้ความรู้สึกดีมาก และมันทำให้ฉันอยากจะอยู่แบบนี้ตลอดไป
“หืม สมัยก่อน?”
“ใช่……ตอนนั้นเป็นสถานการณ์ที่แตกต่างไปจากตอนนี้โดยสิ้นเชิง แต่มันทำให้ฉันนึกถึงช่วงเวลาที่ฉันพบกับโทวะคุงเจอกันครั้งแรก”
อายานะเริ่มพูด
ราวกับเป็นการหวนนึกถึงวันวาน อายานะเล่าให้ฉันฟังเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ โทวะและอายานะพบกันครั้งแรก ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ไม่เคยมีการกล่าวถึงในเกมและไม่มีใครรู้มาก่อน
———————————————————————————————————————————————————–
คุยท้ายตอน
ตอนหน้านี้ยาวมากเลยครับแต่ผมก็แปลเสร็จแล้วละ ถึงจะแอบแปลยากมากเลยก็เถอะ
(แหม…แม่ของอายานะก็นะ จะอะไรกับไอชูนักหนา) พออ่านแล้วให้ความรู้สึกอย่างงั้นเลยละครับ
ถ้าแปลตอนอื่นๆเสร็จเร็ว เย็นนี้มาลงตอนต่อไปให้นะครับ(มั้ง??)