เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 127 หวังเจียเหยายอมรับหลิ่วอวี่เจ๋อ!
- Home
- เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)
- ตอนที่ 127 หวังเจียเหยายอมรับหลิ่วอวี่เจ๋อ!
หวังเจียเหยาตกตะลึง “เอ๊ะ? ล็อคประตู? เดี๋ยวถ้าพยาบาลมาจะทำยังไง?”
หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าวพลางหัวเราะเจ้าเล่ห์ “ก็เพราะจะไม่ให้พยาบาลเข้ามาไงล่ะ เราสองคนจะได้จู๋จี๋กัน”
ในเวลาเดียวกันหลิ่วอวี่เจ๋อก็ลงจากเตียงมาแล้ว เดินตรงไปที่หน้าต่างแล้วปิดผ้าม่านลง
เดิมในแสงในห้องกำลังพอเพียง ทันใดนั้นเองก็อับแสงลง จนทำให้เกิดเป็นบรรยากาศสลัวๆ โรแมนติกขึ้นมา
หวังเจียเหยารู้ว่าหลิ่วอวี่เจ๋อให้ตนเองล็อคประตูเอาไว้หมายความว่ายังไง หล่อนใบหน้าแดงระเรื่อแล้วลังเลไม่น้อย
ทว่าสุดท้ายแล้วก็ยังล็อคประตูจากด้านใน
หลังจากนั้นหวังเจียเหยาก็เดินไปที่เตียงผู้ป่วยแล้วกล่าว “อวี่เจ๋อขอโทษนะที่สามีฉันทำให้นายบาดเจ็บจนตอนนี้ นิ้วนายยังปวดอยู่ไหม?”
หลิ่วอวี่เจ๋อก้มมองนิ้วมือขวาของตนเองอย่างเหนื่อยหน่าย “ปวดหรือไม่ก็ไม่สำคัญ เสียดายก็แต่ที่หลังจากนี้จะใช้ไม่ได้แล้ว เย่เฉินแม่งลงมมือหนักมากเลย!”
หวังเจียเหยากล่าวด้วยใบหน้าสำนึกผิด “อวี่เจ๋อฉันรู้ว่าเรื่องนี้เย่เฉินเป็นคนผิด แต่ว่าฉันได้ยินมาว่านายประกาศจะให้รางวัลคนที่ตัดนิ้วเย่เฉินได้ ยังไงเย่เฉินก็เป็นสามีฉัน พวกเราแต่งงานกันมาสามปี เขาดีกับฉันมาก ฉันไม่อยากให้นายทำร้ายเขาแบบนี้ ฉันขอร้องนายล่ะนะอย่าทำแบบนี้ได้ไหม?”
ถึงแม้ว่าหวังเจียเหยาจะเคยทำเรื่องผิดต่อเย่เฉิน แต่ตอนนี้เขาโดนไล่ออกจากตระกูลแล้ว ท่าทีของหญิงสาวจึงเปลี่ยนไป
ทว่าความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาตลอดเวลาสามปี หวังเจียเหยาจึงยังมีความรู้สึกดีๆ กับเย่เฉินอยู่ไม่น้อย หล่อนย่อมไม่อยากให้เย่เฉินเป็นอะไร
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหล่อนรู้ว่าเย่เฉินเล่นเปียโนได้ดี ถ้าไม่มีนิ้วมือสำหรับเขาแล้วก็คงน่าเสียดายอย่างมาก
หลิ่วอวี่เจ๋อมักจะเสแสร้งทำตัวเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหวังเจียเหยา เขาจึงค่อนข้างเสแสร้งและหลอกลวงได้อย่างชำนาญ
หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าว “พี่นางฟ้า พี่ยังไม่รู้จักผมอีกเหรอครับ? ผมจะทำเรื่องโหดร้ายแบบนี้กับสามีคุณได้ยังไงล่ะ?”
“อย่างนั้น…หรือว่าข่าวลือจะเป็นเรื่องโกหก?”
หวังเจียเหยาเองก็รู้สึกว่าหลิ่วอวี่เจ๋อเป็นชายหนุ่มที่สดใสร่าเริง แถมยังเป็นคุณชายที่มีฐานะร่ำรวย ไม่น่าจะทำเรื่องโหดร้ายแบบนี้ได้ลงคอ
หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าวด้วยรอยยิ้ม“น่าจะเป็นเรื่องโกหก ผมก็แค่จงใจให้พี่ชายผมปล่อยเรื่องนี้ก็เพื่อเขย่าประสาทสามีคุณ เพื่อไม่ให้เขาออกบ้าน แต่ที่จริงแล้วผมไม่ได้หาคนมาทำอะไรเขาเลยด้วยซ้ำครับ”
หวังเจียเหยางุนงง “แกล้งสามีฉันเหรอ? ทำไมล่ะ? ทำไมถึงไม่ให้สามีฉันออกบ้านล่ะ?”
หลิ่วอวี่เจ๋อยิ้มเจ้าเล่ห์ เอื้อมคว้ามือขาวนวลเนียนของหญิงสาวพลางกล่าว
“คุณว่ายังไงล่ะ? ก็ต้องเพื่อไม่ให้เขามารบกวนเราสองคนอยู่แล้ว เขาหมกตัวอยู่ในบ้านไม่ออกไปไหน พวกเราก็จะได้ออกไปเจอกันข้างนอกได้ไงล่ะครับไม่ใช่หรือไง?”
หวังเจียเหยาคิดว่าเขาพูดจริง เพราะหล่อนรู้ว่าหลิ่วอวี่เจ๋อชอบตนเอง และเพราะสถานะที่สมรสแล้วของตนเองทำให้พวกเขาสองคนจำเป็นต้องลอบนัดพบกันในช่วงเช้ามากหรือช่วงเย็นตอนกลับบ้าน
หรือบางทีหลิ่วอวี่เจ๋ออาจจะไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเย่เฉินเลยด้วยซ้ำ
เมื่อมองเสี้ยวหน้าที่งดงามของหวังเจียเหยา หลิ่วอวี่เจ๋อก็อดจะโน้มหน้าลงไปจุมพิตหญิงสาวไม่ได้
ทว่าหวังเจียเหยากลับผลักหลิ่วอวี่เจ๋อออกด้วยสัญชาตญาณ “ไม่…ไม่ได้นะ”
หลิ่วอวี่เจ๋อหัวเสียทว่ากลับไม่ได้แสดงออกมา แต่ยังคงกล่าวอย่างใจเย็นว่า
“เจียเหยาผมรักคุณขนาดนี้ ขนาดเสียนิ้วไปผมยังไม่เสียดายเลยเพื่อคุณ! หรือว่าคุณยังไม่รู้สึกได้ถึงความรักของผม?”
แต่ตอนนี้เขากับพูดว่าที่ตนเองทำลงไปนั้นก็เพื่อหวังเจียเหยา
หวังเจียเหยากล่าวว่า “ฉันรู้ว่านายรักฉัน แต่ตระกูลของนายอาจจะไม่ยอมรับฉัน”
พูดไปจนที่สุดแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดที่หวังเจียเหยาในความสำคัญก็คือการจะได้รับการยอมรับจากตระกูลเศรษฐีแสนล้านหรือไม่ และที่สำคัญก็คือสิทธิ์ในการรับสืบทอดมรดก
ถ้าอีกฝ่ายแค่ต้องการคบหากับตนเอง แต่ที่บ้านไม่ยอมรับ อย่างนั้นแล้วหญิงสาวย่อมไม่มีทางคบหากับชายหนุ่ม
หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าว “ผมคุยกับคนที่บ้านแล้ว คุณปู่บอกว่าขอแค่คุณยอมทำแท้งก็จะยอมรับคุณเข้าตระกูลหลิ่วของเรา”
“ต้องทำแท้งเหรอ?” หวังเจียเหยาแหงนหน้าขึ้นด้วยสีหน้าหนักใจ
หลิ่วอวี่เจ๋อผงกศีรษะ “ใช่แล้วครับ ถ้าคุณไม่เอาเด็กออก ผมก็เฉยๆ นะครับ เพราะพ่อแม่ผมยังไงก็เชื่อผม แต่ว่าคุณปู่ผมเป็นคนหัวโบราณไม่อยากให้คุณหอบเด็กแต่งเข้าตระกูลหลิ่วของผม”
ในความเป็นจริงแล้วถึงหวังเจียเหยาจะไม่ค่อยสบายใจกับเงื่อนไขนี้ของคนตระกูลหลิ่ว แต่ว่าก็ไม่ได้ประหลาดใจแต่อย่างใด
เพราะซ่งหงเย่ ‘กุนซือ’ ของหล่อนเคยพูดเอาไว้นานแล้วว่า กระทั่งครอบครัวธรรมดาก็ไม่มีทางยอมรับลูกสะใภ้ที่มีลูกติดท้องได้หรอก นับประสาอะไรกับตระกูลเศรษฐีอย่างตระกูลหลิ่ว
ถ้าหากว่าหวังเจียเหยาแต่งเข้าตระกูลหลิ่วก็จำเป็นต้องเอาเด็กในท้องออก
อีกทั้งตั้งแต่ที่เย่เฉินโดนขับออกจากตระกูลแล้ว หวังเจียเหยาก็เริ่มคิดเรื่องจะเอาลูกออกแล้ว
อย่าพูดว่าหล่อนมีตัวสำรองอย่างหลิ่วอวี่เจ๋อ ต่อให้ไม่มี หล่อนก็วางแผนจะทำแท้งอยู่ดี!
เพราะถ้ามีลูกแล้วก็จะเป็นอุปสรรคในการแต่งงานอีก นอกเสียจากว่าจะแต่งงานกับผู้ชายที่มีเคยแต่งงานมีลูกแล้ว หวังเจียเหยาก็ไม่มีทางชอบคนแบบนั้น
หล่อนชอบผู้ชายที่ยังไม่ได้แต่งงาน แถมยังต้องเป็นผู้ชายที่ร่ำรวยเท่านั้น
หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าวต่อ “ทั้งสามครอบครัวของตระกูลหลิ่วมีหลานชายสองคนคือผมกับหลิ่วเฟิงพี่ชายของผม ผมกับพี่ชายสนิทสนมกันมาก ไม่เคยทะเลาะแย่งชิงมรดกหรืออะไรในตระกูลเลย ทรัพย์สินตระกูลหลิ่วของเราจะถูกแบ่งเป็นสองส่วนให้พวกเราสองคน ผมจะได้สมบัติมากกว่าเขาไม่มีทางน้อยกว่าเขาด้วย เจียเหยา คุณอยู่กับผม ผมรับรองได้ว่าผมจะทำให้คุณกลายเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลก!”
หลิ่วอวี่เจ๋อพูดกับหวังเจียเหยามากมายขนาดนี้ แถมยังสาธยายเรื่องทัพย์สมบัติทั้งหมดออกมาให้หล่อนฟังอย่างชาญฉลาด
หลังจากที่หวังเจียเหยาได้ยินก็ซาบซึ้งใจและมองหลิ่วอวี่เจ๋อด้วยแววตาลึกซึ้ง “อวี่เจ๋อนายดีกับฉันจริงๆ เลย”
ในวินาทีนี้หล่อนลืมแหวนแต่งงานที่เย่เฉินซื้อให้หล่อนบนนิ้วนางข้างขวาไปโดยสิ้นเชิง
หลิ่วอวี่เจ๋อลอบดีอกดีใจ เมื่อเขารู้ว่าหวังเจียเหยาติดกับแล้วจึงจุมพิตหวังเจียเหยาอีก
ในครั้งนี้หวังเจียเหยาไม่ผลักไล่ไสส่งชายหนุ่มอีก อีกทั้งยังหลับตาพริ้มรับจุมพิตจากชายหนุ่ม
……
เขตซินเฉิง
หลังจากที่หวังเจียเหยาออกจากบ้านไปแล้ว เย่เฉินก็เริ่มกระวนกระวายจะให้เขานอนหลับอย่างสบายใจได้ยังไง?
เขารู้ว่าหวังเจียเหยาและหลิ่วอวี่เจ๋อลอบสานสัมพันธ์กันก่อนหน้านี้แล้ว ครั้งนี้ก็ไปพบหน้ากันเพื่ออ้างว่าจะไปขอโทษแทนเขา ซึ่งจะต้องอาศัยโอกาสนี้ไปพลอดรักกันแน่
ดังนั้นเขาจึงโทรหาหลิวเจิ้งคุน ให้เขาส่งคนไปสะกดรอยตามหวังเจียเหยาและพร้อมกันนั้นก็ไปตามดูอาการเจ็บป่วยของหลิ่วอวี่เจ๋อ
เย่เฉินเองก็จัดแจงส่งคนไปเฝ้าที่โรงพยาบาลเอาไว้นานแล้ว เขาจัดแจงวางเส้นสายเอาไว้ทั้งในหมอ พยาบาล และคนป่วย
และในตึกฝั่งตรงข้ามของห้องพัก VIP ของหลิ่วอวี่เจ๋อ เขาก็ส่งคนให้ไปใช้กล้องส่องนกเพื่อคอยจับตาดูเขา
หวังเจียเหยามาถึงห้องพักผู้ป่วยของหลิ่วอวี่เจ๋อตอนสิบโมงเช้า ตอนเที่ยงตรงเย่เฉินก็ได้รับสาย
“นายครับ ภรรยาของท่านยังอยู่ในห้องพักผู้ป่วยคนนั้นยังไม่ออกมาเลยครับ ผ้าม่านไม่ถูกเปิดเลยครับ ในระหว่างนั้นมีพยาบาลมาเคาะประตูแต่เคาะไปไม่กี่ทีก็เดินไป”
เย่เฉินสูบบุหรี่ด้วยความหงุดหงิด
เป็นเวลาสองชั่วโมงเต็มๆ หวังเจียเหยาอยู่ในห้องพักผู้ป่วยของหลิ่วอวี่เจ๋อเป็นเวลาสองชั่วโมงเต็มๆ แถมล็อคประตู แล้วปิดผ้าม่านเอาไว้
พวกเขาทำอะไรกันแน่!