เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 134 ผลกรรมของหลิ่วอวี่เจ๋อ!
- Home
- เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)
- ตอนที่ 134 ผลกรรมของหลิ่วอวี่เจ๋อ!
วันนี้หลิ่วอวี่เจ๋อดีใจอย่างมาก เขาโค่นเย่เฉินลงจากตำแหน่งประธานบริษัทแล้วทำให้เขากลายเป็นยาจก
อีกทั้งยังทำให้เย่เฉินและหวังเจียเหยาที่ตนเองประทับใจหย่ากัน และยังแย่งหญิงสาวมาได้สำเร็จ
ผลลัพธ์แบบนี้เป็นมาตรฐานตอนจบของคุณชายตระกูลหลิ่ว
หลายปีมานี้เขาไม่เคยพ่ายแพ้ในสนามความรักมาก่อน
เสียดายก็แค่นิ้วของเขาพิการไปสองนิ้วก็เท่านั้น
แต่สองนิ้วพิการที่ใช้ไม่ได้นั้น ไม่ได้สงผลอะไรมากมายขนาดนั้นกับหลิ่วอวี่เจ๋อ
ไม่ได้ส่งผลกระทบกับการกินการดื่มของเขา เพราะเขาเคยหัดใช้ทั้งมือซ้ายและขวา
และไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับการเล่นเกมเล่นโทรศัพท์ของเขาเช่นเดียวกัน
หลิ่วอวี่เจ๋อและหวังเจียเหยาโทรคุยกันเล็กน้อย รอจนฉีดยาเข้าสายน้ำเกลือเสร็จ หลิ่วอวี่เจ๋อก็ชวนหวังเจียเยหาเล่นเกม King of glory ด้วยกัน
นิ้วชี้และกลางข้างขวาของหลิ่วอวี่เจ๋อขยับไม่ได้ แต่ว่าโชคดีที่เขาต้องใช้แค่นิ้วโป้งขวาเท่านั้น
หลิ่วอวี่เจ๋อเลือกเล่นฮีโร่จงขุย ส่วนหวังเจียเหยาเลือกใช้แองเจลล่า
หลิ่วอวี่เจ๋อรับผิดชอบล่อศัตรูมา แล้วให้หวังเจียเหยาหลบลอยู่ด้านหลังเขา แล้วใช้สกิลสอง หนึ่งและสามเพื่อเก็บคิล
เพิ่งเริ่มตาแรกๆ ทั้งสองคนก็เล่นเข้ากันได้เป็นอย่างดี จนชนะติดต่อกัน
แต่ว่าเล่นไปเล่นมา หลิ่วอวี่เจ๋อก็ไม่ค่อยสบาย สกิลสองที่เป็นตะขอก็เล็งไม่ตรงเป้า จนบางครั้งถึงขั้นที่เบี้ยวไปไกล
หวังเจียเหยาที่เล่นเกมอยู่สังเกตเห็นจึงถาม “ที่รักนายเหนื่อยหรือเปล่าเนี่ย?”
หวังเจียเหยาหย่ากับเย่เฉินไปเมื่อตอนกลางวัน กลางคืนก็เรียกผู้ชายคนอื่นเป็นที่รักหน้าตาเฉย
เหล่าสาวสวยก็เป็นแบบนี้
ผู้ชายมีเยอะกว่าผู้หญิง ทำให้ข้างกายคนสวยๆ มักมีตัวสำรองเผื่อไว้เสมอ
สำหรับพวกหล่อนนอกเสียจากว่าจะตั้งใจว่าจะไม่มีความรักแล้ว
มิฉะนั้นบรรดาหญิงสาวไม่มีทางว่าง ไม่มีช่วงโสดสนิท เมื่อเลิกกับอีกคน ก็จะด่าว่าอีกฝ่ายเจ้าชู้ แล้วไปมีคนคุยใหม่อย่างรวดเร็ว
เสียดายผู้ชายอย่างเย่เฉินที่ตอนแต่งงานไม่เคยไปโปรยเสน่ห์ที่ไหน ไม่มีแม้แต่เพื่อนต่างเพศด้วยซ้ำไป
หลังจากแต่งงานแล้วทุกคนก็รู้ว่าเขาไม่มีเงิน ไม่มีผ้หญิงคนไหนอยากจะเข้าหาเขา
มีแค่หวังหยวนหยวนที่เสนอตัว เพราะคิดว่าเขายังเป็นหลานชายของตระกูลเย่
หลิ่วอวี่เจ๋อตอบกลับด้วยเสียงในเกม “ไม่รู้ทำไมเหมือนจู่ๆ ก็ปวดหัวขึ้นมาหน่อยๆ”
หวังหยวนหยวนเป็นห่วงหลิ่วอวี่เจ๋อจึงกล่าว “เล่นจบเกมนี้ นายไปพักเถอะ ดึกมากแล้ว”
“ก็ได้”
เดิมทีหลิ่วอวี่เจ๋อตั้งใจจะนอนดึกๆ รอให้ซีกวาตัดนิ้วเย่เฉินแล้วดื่มเหล้าเพื่อฉลองสักหน่อย
แต่ว่าร่างกายเขายิ่งไม่สบายหนักขึ้นไปทุกที หลังจากเล่นเกมเสร็จแล้วก็ปิดไฟเข้านอน
นอนไปได้แค่ชั่วโมงสองชั่วโมง จู่ๆ หลิ่วอวี่เจ๋อก็ผุดลุกขึ้นแล้วอาเจียนออกมา เขารู้สึกว่าเวียนหัว ตัวร้อน เหมือนจะเป็นลม
“พยาบาล! พยาบาล! มานี่หน่อย!”
หลิ่วอวี่เจ๋อกดสวิตช์เรียกพยาบาลตรงหัวเตียง แล้วร้องโหยหวนอย่างไร้เรี่ยวแรง
ผ่านไปไม่นาน พยาบาลสองคนก็เดินมาหา แต่ไม่ใช่พยาบาลคนที่ฉีดยาให้เขา
เห็นหลิ่วอวี่เจ๋อจู่ๆ ป่วยหนัก พยาบาลจึงเข็นเขาไปที่ห้องป่วยฉุกเฉิน
เวลาสองชั่วโมงเต็มๆ ผ่านไป อาการป่วยของหลิ่วอวี่เจ๋อก็ค่อยๆ ดีขึ้น
เขาเริ่มหายใจสบายตัวขึ้น อาการอาเจียน ตัวร้อนก็ลดลงไปไม่น้อย
และในตอนนี้หลิ่วเฟิงก็มาถึงโรพงยาบาล
หลิ่วเฟิงถามหมอที่เป็นคนดูแลหลัก “น้องผมเป็นอะไร? ทำไมเขาถึงตัวร้อนอาเจียน? นิ้วเขาบาดเจ็บ ไม่ควรจะมีอาการป่วยแบบนี้สิ!”
หมอกล่าวว่า “คุณพูดถูกแล้วล่ะ อาการป่วยนี้ไม่ได้เกิดเพราะนิ้วที่บาดเจ็บแต่เป็นเพราะโดนวางยา โชคดีที่เขาอยู่โรงพยาบาลเลยช่วยได้ทันเวลา ไม่อย่างนั้นถ้าป่วยหนักกว่านี้ ต่อให้ช่วยได้ก็จะกลายเป็นคนพิการ”
หลิ่วเฟิงตกใจหน้าซีด “คุณหมอกำลังจะบอกว่าเป็นอาการจากการโดนวางยาเหรอ?”
คุณหมอกล่าวว่า “ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวก็หายแล้ว หลังจากหายแล้ว ความว่องไว สมรรถภาพต่างๆ ก็ไม่มีอะไรต่างไปจากเดิม เพียงแต่ว่า…”
“เพียงแต่ว่าอะไร!” หลิ่วเฟิงตาถลนมองหมอ
หมอถอนหายใจแล้วกล่าว “พวกเราพบว่ายาพิษนี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเพศชาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการสืบพันธุ์…
หลิ่วเฟิงคว้าเข้าที่คอเสื้อกาวน์หมอ “หมอจะบอกว่าน้องชายผมจะมีลูกไม่ได้อีกเหรอ?”
ช่วงนี้คนแจ้งความหมอค่อนข้างเยอะ หนำซ้ำตระกูลหลิ่วก็เป็นตระกูลใหญ่ หมอก็ลนลาน
“ไม่ครับ นี่เป็นแค่การวิเคราะห์เท่านั้น ส่วนรายละเอียดแน่ชัดยังไง ยังต้องลองศึกษาวิจัยอีกครั้ง”
หลิ่วเฟิงรู้ว่าหมอกลัวตนเองดังนั้นถึงได้ประนีประนอมแบบนี้
เช้าวันที่สองหลิ่วอวี่เจ๋อก็ค่อยๆ เปิดตาออก พบว่าหลิ่วเฟิงนั่งอยู่ข้างๆ ด้วยท่าทางเศร้าสร้อย
“เฮ้อ ในที่สุดก็ตื่นสักที พี่เฝ้าผมมาทั้งคืนเลยใช่ไหมครับ? ผมไม่เป็นอะไรแล้ว สบายตัวมากเลยครับ ตอนนี้รู้สึกเหมือนจะกระโดดได้แล้ว!”
หลิ่วอวี่เจ๋อพูดกับหลิ่วเฟิง
หลิ่วเฟิงแหงนหน้ามองแล้วกล่าว “อวี่เจ๋อสองวันมานี้ นายได้เจอใครมาบ้าง? มีคนทำร้ายนาย!”
“ทำร้ายผม? นอกเสียจากพวกพี่กับคนในโรงพยาบาลก็มีหวังเจียเหยา” หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าว
หลิ่วเฟิงหัวเสียอย่างมากเขาผุดลุกขึ้น “งั้นต้องเป็นผู้หญิงสารเลวอย่างหวังเจียเหยาวางยานาย!”
หลิ่วอวี่เจ๋อมองท่าทางของหลิ่วเฟิง เหมือนว่าจะไปคิดบัญชีของหวังเจียเหยา จึงรั้งพี่ชายเอาไว้แล้วกล่าวกับเขาว่า
“พี่ครับ ไม่หรอกครับ หล่อนมาหาผมไม่เคยส่งน้ำหรือของกินอะไรให้ผมด้วยซ้ำ อีกทั้งตั้งแต่วินาทีแรกที่หล่อนเข้ามาในห้องผมก็จับมือหล่อนตลอด จูบหล่อนมั่ง หล่อนไม่มีเวลาวางยาผมหรอกครับ อีกทั้งไม่มีเหตุผลให้ทำอย่างนั้นด้วย!”
หลิ่วอวี่เจ๋อไม่เชื่อว่าหวังเจียเหยาจะทำร้ายตนเอง
ทันใดนั้นเองหลิ่วอวี่เจ๋อคิดถึงพยาบาลแปลกหน้าหน้าตาสวยคนนั้น เขากล่าว
“จริงสิ พี่ครับ เมื่อคืนวานตอนผมใกล้นอน มีพยาบาลแปลกหน้าคนหนึ่งฉีดยาให้ผม พอฉีดยาเสร็จแล้วผมก็ปวดหัว!”
ประกายวิบวับพาดผ่านในดวงตาหลิ่วเฟิง “นายคอยก่อน!”
ผ่านไปยี่สิบนาที หลิ่วเฟิงก็เรียกพยาบาลประจำชั้นนั้นมารวมตัวกัน เพื่อให้หลิ่วเฟิงชี้ตัว
แต่หลิ่วอวี่เจ๋อส่ายหน้า
หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าว “ไม่ใช่สักคนเลย ถึงพยาบาลคนนั้นจะใส่แมสก์ แต่ตาหล่อนสวยมากจะต้องเป็นสาวสวยแน่ๆ”
หลิ่วอวี่เจ๋อจดจำผู้หญิงหน้าตาสวยๆ ได้อย่างแม่นยำ ดังนั้นเขาจึงแน่ใจในเรื่องนี้มาก
“หรือจะบอกว่าเมื่อคืนมีคนปลอมตัวเป็นพยาบาลงั้นเหรอ?” หลิ่วเฟิงเริ่มเดาออก
หลิ่วอวี่เจ๋อจึงเริ่มหวาดกลัว “จะใช่เย่เฉินจ้างคนมาทำร้ายผมหรือเปล่า! เพราะผมตัดนิ้วเขาดังนั้นเขาก็เลยมาแก้แค้นผม”
หลิ่วเฟิงหัวเสียทันที “อวี่เจ๋อคนชื่อซีกวาไม่ได้ตัดนิ้วเย่เฉินหรอกนะเมื่อวานน่ะ พวกเขาบอกว่าตอนที่เขาเพิ่งจะถึงหน้าโรงแรมก็ถูกตำรวจจับ พี่ว่าอย่าไปหวังกับพวกเขาเลย”
“แม่ง! หมอนั่นรอดตัวไปได้!” หลิ่วอวี่เจ๋อหงุดหงิด
ทว่าหลังจากนั้นหลิ่วอวี่เจ๋อก็หัวเราะออกมา “ไม่เป็นไรครับ ตัดนิ้วเขาไม่ได้ แต่ผมฆ่าลูกในท้องของเขาได้ วันนี้ผมบอกให้หวังเจียเหยาไปทำแท้งแล้วเดี๋ยวผมโทรหาหล่อนว่าหล่อนอยูที่โรงพยาบาลหรือยัง ”
ใครจะรู้ว่าตอนที่หลิ่วอวี่เจ๋อเพิ่งหยิบโทรศัพท์ออกมาก็โดนหลิ่วเฟิงคว้าไป