เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 135 แผนการของหลิ่วอวี่เจ๋อ!
- Home
- เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)
- ตอนที่ 135 แผนการของหลิ่วอวี่เจ๋อ!
“ทำไมเหรอครับ พี่?”
หลิ่วอวี่เจ๋อมองหลิ่วเฟิงด้วยใบหน้างุนงง พวกเขาสองคนพี่น้องเข้าอกเข้าใจกันดีมาตลอด
หลิ่วอวี่เจ๋อพบว่าหลิ่วเฟิงดูเศร้าสร้อยอย่างเห็นได้ชัด หนำซ้ำยังเหมือนว่าเขาร้องไห้มาก่อนด้วย
หลิ่วเฟิงถอนหายใจก่อนจะตอบน้องชาย “อวี่เจ๋อ พี่ว่าพี่บอกนายก็แล้วกัน ตอนนี้ถึงอาการป่วยของนายจะดีขึ้น แต่ว่าก็จะยังมีอาการอื่นหลงเหลืออยู่ คุณหมอบอกว่าอาจจะส่งผลกระทบกับระบบสืบพันธุ์ของนาย!”
หน้าหลิ่วอวี่เจ๋อเปลี่ยนสีทันที จากนั้นใบหน้าก็ซีดเผือด!
ชายหนุ่มคนหนึ่งนิ้วด้วนก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่โต!!
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเกียรติยศของลูกผู้ชาย!
แต่ตอนนี้ถึงหลิ่วอวี่เจ๋อจะร่างกายครบถ้วน แต่กลับไม่มีความสามารถในการสืบพันธุ์แล้ว!
นั่นแปลว่าทั้งชีวิตนี้เขาอาจจะไม่มีลูกเป็นของตัวเองอีกแล้ว!
หลิ่วอวี่เจ๋อคว้าหลิ่วเฟิงด้วยท่าทางแตกตื่น“พี่ว่ายังไงนะครับ? พี่บอกว่าผมจะมีลูกไม่ได้ไปตลอดชีวิตเหรอ?”
หลิ่วเฟิงปลอบใจน้องชาย “นายอย่าเพิ่งตื่นเต้นไป ก็แค่อาจจะมีผลเฉยๆ อีกอย่างการแพทย์ของอวิ๋นโจวก็ไม่ได้พัฒนามากมาย อาจจะวินิจฉัยผิดพลาด เดี๋ยวพี่จะพานายกลับเทียนไห่ พวกเรากลับไปตรวจกันที่เทียนไห่อีกรอบ บางทีอาจจะ
หลิ่วอวี่เจ๋อหมดอาลัยตายอยาก ปกติแล้วเทคโนโลยีทางการแพทย์ของอวิ๋นโจวด้อยกว่าเทียนไห่มาก
แต่เทียบกับทั้งประเทศแล้วก็ถือว่าชั้นยอด เรื่องแบบนี้จะวินิจฉัยผิดพลาดได้ยังไง!
“โอ้ย!!”
หลิ่วเฟิงเหวี่ยงแขนซ้ายไปมา กวาดแก้วน้ำ อาหารทั้งหมดที่วางอยู่บนโต๊ะลงพื้น แถมยังชกกระจกด้วยโทสะ
“เย่เฉิน! ฉันจะฆ่าแก!”
มือขวาหลิ่วอวี่เจ๋อยังบาดเจ็บอยู่ หลิ่วเฟิงรีบร้อนเข้าไปกอดน้องชายเอาไว้เพื่อไม่ให้เขาทำร้ายตัวเองอีก
“อวี่เจ๋อใจเย็นๆ!”
หลิ่วเฟิงเห็นน้องชายตนเองมีสภาพแบบนี้ เขาก็เจ็บปวดใจอย่างยิ่ง
ตระกูลใหญ่ๆ จำนวนมากแย่งชิงทรัพย์สมบัติกันอย่างหนัก ถ้าหลิ่วอวี่เจ๋อไม่สามารถมีลูกได้ ถือว่าเป็นผลดีกับหลิ่วเฟิงโดยไม่ต้องสงสัย
แต่ว่าหลิ่วเฟิงและหลิ่วอวี่เจ๋อรักใคร่กลมเกลียวกันมาตลอด ไม่เคยทะเลาะกันเรื่องทรัพย์สมบัติมาก่อน
หลิ่วอวี่เจ๋อทรุดนั่งลงบนพื้นเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงเต็มๆ
ในระหว่างนั้นเขาก็โทรหาแฟนเก่าทุกคนที่เคยคบหา ทันทีที่อีกฝ่ายรับสายเขาก็ถามพวกหล่อนทันทีว่ามีใครท้องบ้างหรือไม่
แต่พวกหล่อนต่างก็ปฏิเสธกันหมด
หลิ่วอวี่เจ๋อก็ค่อยๆ ร่ำไห้ออกมาช้าๆ ผู้ชายอายุยี่สิบกว่าๆ ความสามารถในการรับแรงกดดันต่างๆ อาจจะไม่ดีมากนัก
แล้วในทันใดนั้นเองสีหน้าหลิ่วอวี่เจ๋อก็ค่อยๆ โหดเหี้ยมขึ้นมา
“ผมจะให้หวังเจียเหยาทำแท้งไม่ได้! นั่นเป็นลูกชายของเย่เฉิน! ผมจะต้องให้หล่อนคลอดเด็กออกมาให้ได้!”
หลิ่วอวี่เจ๋อมีลูกไม่ได้ แต่เขากำลังจะแต่งงานกับหวังเจียเหยาซึ่งบังเอิญที่หล่อนก็กำลังท้องพอดี ที่บังเอิญอย่างมากก็คือเพิ่งจะตั้งท้องได้หนึ่งเดือนเท่านั้น
ถ้าหากว่าทั้งสองคนแต่งงานกันในตอนนี้แล้วไม่บอกความจริงกับคนอื่น
หลังจากตั้งท้องครบสิบเดือน หวังเจียเหยาคลอดลูก เพื่อนๆ ก็จะพากันคิดว่าเด็กคนนี้เป็นสายเลือดของหลิ่วอวี่เจ๋อ
วงสังคมของหลิ่วอวี่เจ๋อต่างก็เป็นสังคมระดับสูง คนในเมืองเล็กๆ อย่างเมืองอวิ๋นโจว เช่นเย่เฉิน ฉินหงเหยียน พวกเขาไม่รู้จักด้วยซ้ำไป และไม่อยากจะรู้จัก ไม่แม้แต่จะสืบเรื่องของพวกเขาด้วยซ้ำไป
หลิ่วอวี่เจ๋ออ้อนวอนหลิ่วเฟิง “พี่ครับถ้าผมมีลูกไม่ได้อีกขึ้นมาจริงๆ พี่ห้ามบอกคนอื่นนะครับ ตอนนี้จะพ่อแม่หรือคุณปู่พี่ก็อย่าบอกนะครับ! ถ้ามีคนอื่นรู้เรื่องนี้เข้า ผมคงไม่มีหน้าอยู่ที่เทียนไห่แล้วล่ะครับ!”
หลิ่วเฟิงเองก็พอจะรู้ว่าหน้าตาสำคัญกับลูกผู้ชายมากกว่าเรื่องใดๆ
หลิ่วเฟิงกล่าว “นายสบายใจได้ พี่ไม่บอกใครหรอก ทั้งหมอและพยาบาลในโรงพยาบาลที่รู้เรื่องนี้ พี่ก็จะปิดปากพวกเขา ไม่ให้พวกเขาเอาเรื่องนี้ไปเล่าต่อ”
หลิ่วอวี่เจ๋อพยักหน้าแล้วบอกความคิดของตัวเองออกมา
“พี่ครับผมจะแต่งงานกับหวังเจียเหยา”
หลิ่วเฟิงตกใจไปเล็กน้อย “นายบอกว่านายจะแค่เล่นๆแล้วจะสลัดหล่อนทิ้งไม่ใช่เหรอ?”
ถึงแม้ว่าหลิ่วอวี่เจ๋อจะเคยรับปากกับหวังเจียเหยา บอกว่าจะแต่งงานกับหล่อน ให้หล่อนกลายเป็นสะใภ้ของตระกูลหลิ่ว
แต่ในความเป็นจริงแล้วนี่เป็นเพียงคำลวงของหลิ่วอวี่เจ๋อเท่านั้น
และเป็นเหมือนที่เย่เฉินเคยพูดเอาไว้ ตระกูลร่ำรวยหรูหราไม่ใช่ว่าจะเข้าร่วมวงศ์ตระกูลได้ง่ายๆ ยิ่งไปกว่านั้นหวังเจียเหยาเคยแต่งงานมาก่อนเรียกได้ว่าแต่งงานมาสามรอบแล้วด้วยซ้ำไป
หลิ่วอวี่เจ๋อเดิมทีตั้งใจจะรอให้หวังเจียเหยาทำแท้งแล้วนอนกับหญิงสาวสักช่วงหนึ่ง แล้วค่อยสลัดหล่อนทิ้ง
เพื่อให้หล่อนได้ลิ้มรสความรู้สึกของโดนผู้ชายเจ้าชู้หลอกฟัน
ทว่าตอนนี้แผนของหลิ่วอวี่เจ๋อเปลี่ยนไปแล้ว
เขาต้องการหวังเจียเหยาและเด็กในท้องของหญิงสาว
ในฐานะที่เป็นลูกผู้ชาย เด็กในท้องของหวังเจียเหยาจะช่วยกอบกู้ศักดิ์ศรีและหน้าตาของเขากลับมา
หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าว “ผมไม่มีทางให้คนอื่นรู้ว่าผมมีลูกไม่ได้ ผมภูมิใจในตัวเองมาหลายปี ศักดิ์ศรีสำคัญกว่าชีวิตผมเสียอีก! ผมตั้งใจจะหลอกทุกคน ให้พวกเขาคิดว่าลูกของหวังเจียเหยาเป็นลูกของผม ผมจะให้หวังเจียเหยาคลอดเด็กคนนี้ ผมจะเลี้ยงเด็กคนนี้เอง!”
หลิ่วเฟิงเข้าใจนิสัยน้องชายเป็นอย่างดี เขารู้ว่าทำไมอีกฝ่ายจึงเลือกทำเช่นนี้
หลิ่วเฟิงกล่าวพลางพยักหน้า “ก็ได้ ลูกของนายกับหวังเจียเหยา แต่ถ้านายจะให้เขามีสิทธิ์ในมรดกของครอบครัวเราด้วย พี่ไม่มีปัญหาอะไรหรอกนะ เพียงแต่รู้สึกว่าลูกของเย่เฉินจะสบายเกินไปหน่อย”
หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าวต่อ “พี่เข้าใจผิดแล้วครับ! ผมบอกว่าผมจะเลี้ยงลูกของเย่เฉินกับหวังเจียเหยา แต่ไม่ได้บอกว่าผมจะเลี้ยงเขาเหมือนลูกแท้ๆ เสียหน่อย เชื้อสายของเย่เฉินไม่คู่ควรจะได้ครอบครองเงินของพวกเราแม้แต่แดงเดียว!
ผมตั้งใจเอาไว้แบบนี้ครับ ถ้าลูกของหวังเจียเหยาเป็นเด็กผู้ชาย ผมจะส่งเขาไปเป็นแรงงานที่ทวีปแอฟริกา ส่วนถ้าเป็นเด็กผู้หญิงล่ะก็ ฮ่าๆ หวังเจียเหยาสวยขนาดนั้น เย่เฉินมันก็หน้าตาใช่ย่อย ลูกของพวกเขาจะต้องสวยมากแน่ๆ”
พูดถึงตรงนี้ในแววตาของหลิ่วอวี่เจ๋อก็ฉายแววหื่นกระหาย!
หลิ่วเฟิงพอจะฟังออกแล้วว่าน้องชายคิดจะระบายความแค้นกับลูกสาวของเย่เฉิน!
“ผมจะเลี้ยงลูกเขาจนอายุครบสิบแปด แล้วผมจะทำให้หล่อนมีประสบการณ์วัยรุ่นที่ไม่มีทางลืมเลือน แล้วค่อยให้หล่อนไปเป็นสาวขายบริการ! ให้หล่อนโดนผู้ชายเป็นหมื่นปู้ยี่ปู้ยำ! มีเพียงแค่วิธีนี้เท่านั้นถึงจะระบายความโกรธที่ผมมีในใจได้!”
……
หนึ่งชั่วโมงต่อมาหวังจียเหยาก็มาถึงห้องพักผู้ป่วย VIP
เมื่อเห็นหวังเจียเหยามาถึง หลิ่วอวี่เจ๋อก็กุลีกุจอเดินมาหาเจ้าหล่อน “ที่รัก คุณมาได้สักที เมื่อครู่ผมโทรหาคุณแล้วทำไมคุณไม่รับล่ะครับ?”
พอหวังเจียเหยามาถึงหล่อนก็วางกระเป๋าของตนเองลงแล้วกล่าว “อ้อ เมื่อกี้กำลังตรวจร่างกายอยู่ไม่ได้เอาโทรศัพท์เข้าไปด้วย”
หลิ่วอวี่เจ๋อรีบร้อนกล่าว“ตรวจร่างกาย? ตรวจร่างกายก่อนทำแท้งเหรอ? คุณเอาเด็กออกหรือยัง?”
ถ้าหวังเจียเหยาเอาเด็กออกแล้วล่ะก็แผนการทั้งหมดของเขาก็คงล่มไม่เป็นท่า!
วินาทีนี้หลิ่วอวี่เจ๋อร้อนรนเสียยิ่งกว่าเย่เฉินเสียอีก!
หวังเจียเหยาส่ายหน้า “เดิมทีนัดหมอแล้วว่าจะทำแท้งวันนี้ค่ะ แต่ไม่รู้ว่าทำไมให้ฉันไปตรวจร่างกายอีกรอบ แล้วยังบอกว่าสภาพร่างกายฉันตอนนี้ทำแท้งไม่ได้ ให้ฉันรออีกหน่อย”
หลิ่วอวี่เจ๋อผ่อนลมหายใจยาว
ความเป็นจริงแล้วเย่เฉินจ้างคนมาจัดการ
ตอนนี้ไม่ว่าหวังเจียเหยาคิดจะไปทำแท้งที่โรงพยาบาในอวิ๋นโจวก็ไม่ได้ทั้งนั้น
คุณปู่ของเย่เฉินสั่งเอาไว้แล้วว่าเขาต้องการเด็กคนนี้ ไม่ว่าใครก็แย่งหลานของเขาไปไม่ได้
หลิ่วอวี่เจ๋อจับมือหวังเจียเหยากล่าวอย่างซาบซึ้งใจ “ที่รัก คุณอย่าเอาเด็กคนนี้ออกเลย ผมจะยอมเป็นพ่อของเด็กคนนี้เอง!”