เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 19 พักที่โรงแรมห้าดาว!
เย่เฉินผ่อนลมหายใจยาวเมื่อเห็นสมุดที่มีคำว่า ‘หนังสือสำคัญการหย่า’ ก็รู้สึกว่าความคับแค้นตลอดสามปีที่ผ่านมาหายไปราวควัน
ในที่สุดฉันก็ไม่ใช่เขยที่แต่งเข้าอีกต่อไป
เย่เฉินเดินออกจากสำนักกิจการพลเรือนแล้วก็อดทอดถอนใจไม่ได้
ด่านเคราะห์ต่อไปที่ต้องเผชิญก็คือเคราะห์ทางธุรกิจ เขาต้องการทุ่มเททุกอย่างไปกับการทำงาน!
ในเวลานี้เองหวังเจียเหยากลับพูดถากถางเขา ใช่ นายไม่ใช่เขยที่แต่งเข้าอีกแล้วนายคือเขยที่โดนทิ้ง! น่าขายหน้ากว่าเขยที่แต่งเข้าเยอะ!
เขยที่โดนทิ้ง?
คือเขยแต่งเข้าแล้วหย่าน่ะเหรอ?
แล้วแต่จะพูดเถอะ!
เย่เฉินไม่อยากจะเสวนากับผู้หญิงบ้าเงินคนนี้ต่อแม้แต่ประโยคเดียว จึงเรียกรถส่งๆ แล้วออกเดินทาง
ส่วนหวังเจียเหยายังไม่ยอมเลิกรา ทั้งที่รู้ว่าตนเองเป็นฝ่ายผิดแต่กลับรู้สึกว่ายังด่าสามีขยะผู้นี้ไม่พอ
หวังเจียเหยาขึ้นรถของฟางเชาแล้วกล่าว ขับรถตามเขาไป ดูว่าเขาจะออกไปจากเมืองอวิ๋นโจวไหม
ฟางเชาเหยียบคันเร่งตามรถแท็กซี่ที่เย่เฉินนั่งไปแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม
จะต้องนั่งรถไฟออกจากอวิ๋นโจวแน่นอน ก็เขาหมดหนทางจะทำมาหากินในอวิ๋นโจวแล้ว เงินฝากก็ไม่มีถ้าไม่ไปจะให้อดอยากตายอยู่ที่อวิ๋นโจวเหรอ?
หวังเจียเหยาเองก็รู้สึกว่าเย่เฉินน่าจะเลือกออกจากอวิ๋นโจว แต่จากแววตาของอีกฝ่ายทำให้หล่อนรู้สึกว่าเรื่องไม่น่าง่ายอย่างนั้น
ฟางเชาขับรถไปพลางมองใบหย่าในมือของหวังเจียเหยาแล้วกล่าว
ทำไมใบหย่าถึงเป็นสีม่วงล่ะ เมื่อก่อนไม่ใช่สีม่วงหรอกมั้ง?
หวังเจียเหยาผงกศีรษะ เปลี่ยนแล้วล่ะ สีม่วงดีออกจะตาย ฉันหย่ากับเขาถือเป็นเรื่องดีกับพวกเราไม่ใช่เหรอ?
ฟางเชาหัวเราะหึหึ ก็จริง แต่น่าจะใช้ให้สีเขียว[1]หมอนั่นนะ เหมาะกับเขาดี
หวังเจียเหยายิ้มแล้วทุบฟางเชาเบาๆ นายมันตัวร้าย
ผ่านไปสักพักจู่ๆ ฟางเชาก็เริ่มหงุดหงิด มันไม่ใช่ทางไปสถานีรถไฟนี่?
หวังเจียเหยาก็มึนตึงขึ้นมา ใช่ทางไปสนามบินไหม?
ฟางเชาส่ายหน้า ไม่ใช่ นี่เป็นทางไปเขตซีหู
หวังเจียเหยาเสยผม หรือว่าเขาไม่คิดจะออกไปจากอวิ๋นโจวนะ?
ฟางเชาแค่นเสียง หมอนี่คงจะไปเปิดโรงแรมนอนแต่สบายใจได้ ด้วยเส้นสายในวงการโรงแรมของครอบครัวฉัน ฉันรับรองได้เลยว่าเขาเข้าพักในโรงแรมสี่ดาวลงไปไม่ได้สักแห่งแน่!
อืม หวังเจียเหยาอยากจะให้สามีเก่ารีบหายไปจากอวิ๋นโจวเร็วๆ เท่านั้น
ผ่านไปสักพักในที่สุดรถแท็กซี่ที่เย่เฉินนั่งก็หยุดลง
ทว่ารถกลับไปหยุดอยู่ที่โรงแรมห้าดาวที่หรูหราที่สุดของอวิ๋นโจว ‘โรงแรมโฟร์ซีซั่นสาขาซีจื่อหู’
จากนั้นฟางเชาและหวังเจียเหยาเห็นกับตาตัวเองว่าเย่เฉินลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในโรงแรม
แหม! เจ้าเด็กเย่เฉินนี่มาสมัครเป็นพนักงานโรงแรมแล้ว!
ฟางเขาโกรธจนตบพวงมาลัยรถตนเอง
หวังเจียเหยาเองก็โกรธมาก เมื่อครู่ที่งานเลี้ยงพวกเราตระกูลหวังได้ห้ามไม่ให้เขาเป็นพนักงานโรงแรม คิดไม่ถึงว่าเขาจะมาสมัครงาน เขาไม่เห็นตระกูลหวังเราอยู่ในสายตาชัดๆ
ฟางเขาเองก็หัวเสีย หมอนี่ไม่เชื่อในความสามารถฉันเหรอ! เดี๋ยวคอยดูนะ ฉันขอโทรศัพท์สักหน่อย
ฟางเชาหยิบโทรศัพท์ออกมา ค้นบันทึกรายชื่อสักพักก็กดโทรออก
ฮัลโหล เสี่ยวเฉียง ยังเป็นผู้จัดการอยู่ที่โฟร์ซีซั่นที่ซีจื่อหูไหม? ฉันมีเรื่องให้นายจัดการหน่อย มีคนไปสมัครงานที่โรงแรมนายชื่อเย่เฉิน อย่ารับล่ะ โอเคแค่นี้นะ
วางสายแล้วฟางเชาก็ยืดอกรับรอง จัดการเรียบร้อยแล้ว อีกประเดี๋ยวขยะอย่างเย่เฉินจะต้องโดนเตะออกมาแน่นอน
หวังเจียเหยาชมเชยอีกฝ่ายอย่างดีใจ นายนี่รู้จักคนเยอะจริงๆ รู้จักไปหมด
ฟางเชากล่าวอย่างดีใจ ก็น้องๆ เด็กๆ ทั้งนั้น ฮ่าๆ ที่ฉันสั่งให้พวกเขาจัดการนี่นั่นให้ พวกเขายังรู้สึกขอบคุณฉันเลยด้วยซ้ำไป
ผ่านไปห้านาที ฟางเชาเห็นเย่เฉินยังไม่ออกมาจากโรงแรมก็ทนไม่ไหว จึงโทรหาผู้จัดการโรงแรมคนนั้น
ฮัลโหล เสี่ยวเฉียง เรื่องที่สั่งให้นายไปจัดการเป็นไงบ้าง? ทำไมยังไม่ไล่ตะเพิดหมอนั่นออกมา? เขาโวยวายไม่ยอมใช่ไหม? เรียกรปภ.สิ! อ้อ รปภ.คงไม่ได้เรียกตำรวจแล้วกัน!
เสี่ยวเฉียงกลับตอบกลับมาในสาย พี่เชา ไม่มีคนมาสมัครงานที่โรงแรมนะครับ ผมถามเพื่อนที่ทำงานหลายคน แต่พวกเขาก็บอกว่าไม่มี
อะไรนะ? ฟางเชางุนงงไปทันที
ถ้าหากว่าเย่เฉินไม่ได้ไปสมัครงานแล้วเขาเข้าไปทำอะไรข้างใน?
ไม่ใช่ว่าเย่เฉิน…ไปเปิดห้องใช่ไหม! หน้าฟางเชาเปลี่ยนสีทันที
หวังเจียเหยาเองก็ตกใจเช่นกัน เป็นไปไม่ได้! โรงแรมที่นี่ราคาเริ่มต้นคืนละหกพันหยวน เมื่อครู่ตอนที่หย่ากัน ฉันเก็บบัตรธนาคารของเขาเอาไว้ เขามีเงินสดแค่ไม่กี่ร้อยแล้วก็มียอดในแอพอยู่แค่สองพันหยวนเอง
ฟางเชากล่าว พวกเราเข้าไปดูกัน
ทั้งสองคนลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในล็อบบี้โรงแรมซีจื่อหู
สวัสดีค่ะ คุณผู้ชาย คุณผู้หญิง จะจองห้องเหรอคะ? พนักงานต้อนรับถามด้วยรอยยิ้ม
ฟางเชาถาม เมื่อครู่มีคนชื่อเย่เฉินมาเปิดห้องที่นี่เหรอ?
พนักงานต้อนรับกล่าว ขอโทษด้วยค่ะ พวกเราไม่สามารถเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าได้
แม่งเอ๊ย ฟางเชาโกรธจนตะโกนกลางล็อบบี้ เสี่ยวเฉียง! เสี่ยวเฉียง! มานี่หน่อย!
ไม่นานนักคนที่ถูกเรียกว่าเสี่ยวเฉียง อันที่จริงแล้วเขาเป็นผู้จัดการของโรงแรมซึ่งอยู่ในวัยกลางคนก็เดินมา
พี่เชา เสี่ยวเฉียงกล่าวอย่างนอบน้อม
ฟางเชากล่าวอย่างหัวเสีย รีบค้นข้อมูลให้หน่อย ว่าคนชื่อเย่เฉินอยู่ที่นี่หรือเปล่า!
เสี่ยวเฉียงส่งสายตาบอกพนักงาน แล้วพนักงานคนดังกล่าวถึงได้ยอมเปิดปาก ใช่ค่ะ
[1] 戴绿帽 ถ้าแปลตรงๆ ตามตัวอักษรก็คือ สวมหมวกเขียว แต่ความหมายของประโยคนี้จริงๆ คือ ถูกสวมเขาเนื่องจากภรรยามีชู้