เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 204 ฉินหงเหยียนกลับมาเป็นรองประธานบริษัทอีกครั้ง!
- Home
- เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)
- ตอนที่ 204 ฉินหงเหยียนกลับมาเป็นรองประธานบริษัทอีกครั้ง!
ที่จริงแล้วสองวันมานี้หวังเจียเหยาโทรหาเย่เฉินสองรอบแล้ว
แต่ว่าเย่เฉินอยู่ในทะเล โทรศัพท์ไม่มีสัญญาณ
ส่วนตาบ้า Bill Gates ที่ให้เขายืมเรือฟรีแต่ดันไม่ยอมบอกรหัส Wifi บนเรือกับเขา
ดังนั้นหวังเจียเหยาถึงโทรหาเย่เฉินไม่ได้
ทันใดนั้นเอง เย่เฉินก็ได้รับข้อความ “อยู่ไหม? สะดวกรับสายหรือเปล่า?”
หลังจากเย่เฉินเห็นข้อความก็สวมรองเท้าแล้วแสร้งเดินไปห้องน้ำ
พอถึงห้องน้ำก็ตอบกลับ “มีอะไร?”
หวังเจียเหยารีบโทรกลับมาอย่างรวดเร็ว
“นายอยู่ไหน?” ปลายสายโพล่งถามทันที
“โตเกียว” เย่เฉินตอบอย่างไม่ปิดบัง
หวังเจียเหยาประหลาดใจ “นายไปญี่ปุ่นกับฉินหงเหยียนเหรอ? พวกนายไปกินข้าวกับ Bill Gates เหรอ?”
“ใช่ ทำไม?”
เย่เฉินรู้ว่าหวังเจียเหยาจะต้องอิจฉาแน่ๆ หล่อนชอบคนมีเงินระดับแบบ Bill Gates ที่สุดแล้ว
แต่ว่าต่อให้ตอนนี้ตระกูลหวังกลายเป็นตระกูลลำดับต้นๆ ในอวิ๋นโจว ต่อให้หล่อนแต่งงานกับตระกูลหลิ่ว แต่จะไปเที่ยวกับคนอย่าง Bill Gates ยังห่างไกลอีกหลายขุม!
หวังเจียเหยาถาม “ฉินหงเหยียนไม่ได้เลิกกับนายเหรอ?”
เย่เฉินตอบพลางระบายยิ้ม “อยู่กันดีๆ ทำไมหล่อนต้องเลิกกับผม?”
หวังเจียเหยาตอบ “นายอย่าเชื่อมั่นในตัวเองให้มากเกินไป สวี่ฉู่หมิงอยากจะแต่งงานกับฉินหงเหยียน หล่อนต้องเลือกเขาไม่เลือกนายแน่ๆ ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็ต้องเลือกแบบนั้น! พวกนายไปดูการแข่งโอลิมปิกกันที่ญี่ปุ่นใช่ไหม? ฉันเดาว่าหล่อนคงกะจะทิ้งนายหลังจากที่ดูโอลิมปิกเสร็จ การท่องเที่ยวคราวนี้คาดว่าเป็นการชดเชยที่จะทิ้งนาย !”
ถ้าหากว่าตอนนี้หวังเจียเหยาเป็นฉินหงเหยียน หล่อนจะเลือกสวี่ฉู่หมิงและขอเลิกกับเย่เฉิน
และเพื่อจะชดเชยให้เขา บางทีหล่อนอาจจะพาเขาออกไปเที่ยวต่างประเทศบ้าง เพื่อชมความสวยงามของโอลิมปิก
ผู้หญิงสวยๆ ต่างก็เห็นแก่ตัวแบบนี้
เย่เฉินยิ้มเย็น “ขอบคุณที่เป็นห่วง เรื่องของผมกับหงเหยียนควรไม่ลำบากให้คุณต้องมาเป็นห่วง ถ้าไม่มีอะไรจะวางละนะ”
แล้วเขาก็กดตัดสายทันที
“เย่เฉินไอ้คนหน้าโง่!”
หวังเจียเหยาเดือดปุดๆ หล่อนปักใจไปแล้วว่าเย่เฉินโดนฉินหงเหยียนปั่นหัว เหมือนกับที่หล่อนปั่นหัวเขา
หล่อนไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีอะไร ดังนั้นจึงคิดว่าคนอื่นจะเป็นเหมือนตัวเอง
ดังนั้นหวังเจียเหยาก็โทรหาสามี “ที่รัก ฉันอยากไปดูโอลิมปิกที่ญี่ปุ่น!”
……
ณ โรงแรม Aman Tokyo เวลาเที่ยงคืน
ที่นี่เป็นโรงแรมที่หรูหราที่สุดในโตเกียว ถูกขนานนามว่าเป็นสถานที่พักผ่อนกลางฟ้า ที่นี่ไม่ว่าจะห้องโถง ระเบียงทางเดินไปจนถึงห้องพักไม่เหมือนโรงแรมด้วยซ้ำไป
ห้องชุดที่เย่เฉินและฉินหงเหยียนเข้าพักนั้นเป็นห้องพักที่หรูหรา อีกทั้งที่นี่เป็นสไตล์เรียบๆ ที่เย่เฉินและฉินหงเหยียนต่างก็ชอบอย่างมาก
ห้องน้ำมี furo ซึ่งก็คือการแช่ตัวอยู่ในบ่อน้ำที่มีน้ำรเอนของญี่ปุ่น เพื่อผ่อนคลาย แล้วชมวิวผ่านทางหน้าต่างที่ยาวจรดพื้น เหมือนเช่น้ำอยู่กลางอากาศ!
แน่นอนที่พวกนี้ล้วนแต่เป็นการรับรองจาก Bill Gates
หลายวันหลังจากนี้ เย่เฉินและฉินหงเหยียนตั้งใจจะไปเที่ยวในโตเกียวกับครอบครัวนี้ รองานโอลิมปิกเริ่มขึ้น
ทว่าให้เที่ยวอย่างเดียวก็ออกจะเปลืองเวลาเกินไป เย่เฉินอยากจะเที่ยวไปพร้อมกับทำธุระไปด้วย
นั่นก็คือรับสมัครผู้หญิงจากญี่ปุ่นไปทำงานเป็นคนส่งของ เพื่องัดข้อกับชุนเฟิงเอ็กซ์เพรสของตระกูลหลิ่ว
ฉินหงเหยียนเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากอาบน้ำเสร็จ เย่เฉินกล่าว “หงเหยียนเมื่อกี้มีสายเข้า”
“ค่ะ”
ฉินหงเหยียนหยิบโทรศัพท์มาดู แล้วก็พบว่าคนที่โทรมาคือเหอเหวินเจี้ยน
“ใครครับ? ไม่โทรกลับไปเหรอ?” เย่เฉินเห็นฉินหงเหยียนไม่มีทีท่าจะโทรกลับไปหาอีกฝ่าย
ฉินหงเหยียนตอบ “อ๋อ คนจากบริษัทไป๋ลี่ค่ะ ก่อนนี้ฉันเคยไปสัมภาษณ์ที่นั่นไงคะ”
เย่เฉินเดาว่านี่อาจจะเป็นคนที่น้องสาวคนที่สี่ของเขาส่งมาให้ติดต่อหญิงสาวไปทำงาน จึงรีบร้อนกล่าว “งั้นคุณก็โทรกลับไปสิไป”
ฉินหงเหยียนส่ายหน้า “ก่อนนี้ฉันไปสมัครงานกับฝ่ายบุคคลมา พวกเขาไม่ยอมรับฉัน ตอนนี้ฉันไม่อยากไปแล้วค่ะ”
ที่จริงแล้วที่หล่อนไม่อยากไปทำงานที่บริษัทไป๋ลี่นั้น เหตุผลที่สำคัญที่สุดก็คือเหอเหวินเจี้ยน ผู้ชายคนนี้คิดเหลวไหลกับตนเอง
แต่เย่เฉินไม่ได้รับรู้เรื่องพวกนี้จึงโน้มน้าวหล่อน “ไป๋ลี่เป็นบริษัทที่ดีมากเลยนะครับ ตอนนี้เปลี่ยนผู้บริหารแล้ว ผมว่าอนาคตพวกเขาอาจจะทำงานใหญ่ก็ได้ คุณน่าจะลองพิจารณาบริษัทนี้ดู”
ฉินหงเหยียนครุ่นคิดแล้วถาม “คุณอยากให้ฉันไปทำงานที่ไป๋ลี่จริงๆ เหรอคะ?”
เย่ฉินพยักหน้า เขาย่อมต้องอยากให้หญิงสาวไปทำงานที่นั่น เพราะเขาซื้อบริษัทให้หล่อน ตอนนี้แค่รอให้เจ้าหล่อนไปทำงาน!
“งั้นฉันถามเขาดูก็ได้”
ฉินหงเหยียนหยิบมือถือขึ้นมาโทรกลับไปหาเหอเหวินเจี้ยน
“คุณเหอ ขอโทษด้วยนะคะ เมื่อกี้ฉันอาบน้ำเลยไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ค่ะ โทรมาดึกๆ มีอะไรไหมคะ?” หญิงสาวถามอย่างมีมารยาท
เหอเหวินเจี้ยนเบิกบานใจอย่างมาก “ข่าวดีครับ ข่าวดี! หงเหยียน ต่อไปคุณมาทำงานตำแหน่งรองประธานพร้อมกับเป็นเลขาของบริษัท!”
“อะไรนะคะ? ฉันสามารถทำงานตำแหน่งรองประธานควบเลขาที่บริษัทคุณได้เลยเหรอ?”
หญิงสาวตกใจ หล่อนเดาได้ว่าเหอเหวินเจี้ยนคงจะอยากชวนหล่อนไปทำงานที่ไป๋ลี่แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะให้ตนเองรับตำแหน่งรองประธาน
หญิงสาวย้อนถามอย่างตกใจ “เป็นไปไม่ได้มั้งคะ? ถ้าฉันจะรับตำแหน่งรองประธาน ต้องได้รับความยินยอมจากประธานคนใหม่ก่อนถึงจะได้มั้ง? คุณแนะนำฉันกับประธานคนใหม่เหรอคะ?”
อันที่จริงในที่ประชุมคณะกรรมการของไป๋ลี่ที่เพิ่งจัดขึ้นนั้น น้องสาวคนที่สี่ของเย่เฉินเป็นคนตัดสินใจให้ฉินหงเหยียนมารับตำแหน่งรองประธานบริษัทเอง
เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเหอเหวินเจี้ยนแม้แต่น้อย
แต่เหอเหวินเจี้ยนกลับตอบว่า “ใช่ครับ ผมเป็นคนแนะนำคุณให้กับคุณอัยฉีประธานคนใหม่เอง! พอดีกับที่คุณอัยเองก็อยากได้ผู้หญิงที่แข็งแกร่ง ทำงานเก่งเหมือนกับตัวเองมาช่วยหล่อนด้วย ผมก็เลยแนะนำคุณ! หงเหยียน ผมน่ะเปลืองน้ำลายไปตั้งเยอะเลยนะกว่าจะทำให้คุณได้ตำแหน่งรองประธานน่ะ ผมอ้อนวอนคุณอัยตั้งนาน แถมยังเสนอผลประโยชน์ไปให้คณะกรรมการคนอื่นๆ ไปตั้งเยอะกว่าพวกเขาจะยอมน่ะ”
ฉินหงเหยียนได้ยินก็ตื้นตันใจ หล่อนรู้ว่าอีกฝ่ายชื่นชอบตนเอง ดังนั้นเขาทำแบบนนี้ก็ไม่ถือว่าแปลกประหลาดอะไร
แต่ว่าฉินหงเหยียนกลับลำบากใจอย่างมาก “คุณเหอ ฉันเองก็สนใจตำแหน่งรองประธานของไป๋ลี่มากจริงๆ นะคะ แต่ว่า…”
ฉินหงเหยียนอยากจะบอกว่าแต่ตนเองมีแฟนแล้ว หล่อนไม่มีทางยอมรับปากทำข้อตกลงแลกเปลี่ยนเรื่องที่จะแอบไปคบหากับเขาเวลาไปทำงานต่างจังหวัดแน่นอน!
เหอเหวินเจี้ยนจับน้ำเสียงหญิงสาวออก จึงรีบกล่าว “หงเหยียน คุณสบายใจได้ ผมไม่มีเงื่อนไขอะไรทั้งนั้น คุณไม่ต้องรับปากอะไรผมทั้งนั้น”
“จริงเหรอคะ? งั้นก็ดี ฉันตกลลงไปทำงานที่ไป๋ลี่ค่ะ!” ฉินหงเหยียนรับปากทันที
เหอเหวินเจี้ยนกล่าว “ได้ งั้นเดี๋ยวผมจะส่งเบอร์โทรศัพท์กับวีแชทของคุณอัยไปให้นะ แล้วคุณก็เป็นฝ่ายติดต่อหล่อนไปเองแล้วกัน”
จากนั้นฉินหงเหยียนก็เพิ่มวีแชทน้องสาวคนที่สี่ของเย่เฉิน เพิ่งจะพิมทักทายไปแต่ฝั่งปลายสายก็โทรวีดีโอคอลกลับมาทันที
“คุณอัยสวัสดีค่ะ” ฉินหงเหยียนเองก็ประหลาดใจน้อยๆ รีบร้อนทักทายหัวหน้าที่อายุน้อยคนนี้
เย่อัยฉีไม่ได้สวยสะกดตาแบบหวังเจียเหยาและฉินหงเหยียน แต่ก็มีกลิ่นอายของลูกคุณหนูคนร่ำรวยอยู่เต็มเปี่ยม
“สวัสดีคุณฉิน” เย่อัยฉีเองก็โบกมือทักทายฉินหงเหยียนอย่างสนิทสนม ทันใดนั้นเองก็ถามอย่างสงสัย “เอ้อ ผู้ชายด้านข้างคุณคือใคร?”