เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 214 หล่อนไม่ใช่ผู้หญิงของพี่รอง!
- Home
- เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)
- ตอนที่ 214 หล่อนไม่ใช่ผู้หญิงของพี่รอง!
“ร้านกาแฟซือเฉิน? ทำไมถึงชื่อนี้ล่ะ?” เย่อัยฉีประหลาดใจ
พี่รองของพวกเขาชื่อเย่เซวียน ในชื่อของเขาไม่ได้มีคำว่า ‘เฉิน’ เสียหน่อย
ถ้าหากว่าผู้หญิงคนนั้นต้องการจะตั้งชื่อร้านกาแฟล่ะก็ ควรจะตั้งชื่อว่า ‘ร้านกาแฟซือเซวียน’ น่าจะดีกว่า
หรือว่าที่ร้านกาแฟนี้ชื่อซือเฉิน บางทีอาจเป็นเพราะว่าตัวหล่อนหรือแม่ลูกสาวตัวน้อยของหล่อนชื่อซือเฉินเหรอ?
เย่เฉินส่ายหน้า “พี่เองก็ไม่รู้ พอถึงที่นั่นเธอไปถามหล่อนสิ”
ทั้งสองคนเดินออกจาก Shanghai Swatch Art Center ตอนที่เพิ่งจะถึงปากประตู พวกเขาก็ไปเจอฉินหงเหยียนที่กำลังจะขึ้นรถก็ชะงักไป สองคนพี่น้องกะว่าจะออกเดินทางหลังจากที่รถของฉินหงเหยียนขับออกไป
เย่เฉินเห็นวัยรุ่นชายอายุ 20 กว่าปีเดินลงมาจากที่นั่งคนขับรถ หลังจากที่วิ่งไปด้านหลังของรถแล้วก็เปิดประตูให้ฉินหงเหยียน
บนใบหน้าแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มด้วยท่าทางนอบน้อม
ฉินหงเหยียนเป็นรองประธานบริษัท ย่อมต้องได้รับสวัสดิการอย่างการเปิดประตูรถ แล้วก้าวเข้าไปนั่งด้านหลังอย่างคุ้นเคย
ชายอายุน้อยคนนั้นยิ้มพลางใช้มือบังส่วนหลังคาให้หญิงสาว เพื่อระวังไม่ให้ศีรษะหญิงสวกระแทกใส่ด้านบน อากัปกริยาทั้งหมดนี้ดูแล้วเป็นปกติอย่างมาก
แต่เย่เฉินสังเกตเห็นว่าในตอนที่ขาข้างหนึ่งของหญิงสาวอยู่ในรถ แล้วกำลังจะก้าวขาอีกข้างตามไป เห็นได้ชัดเจนว่าครรลองสายตาของคนขับรถอายุน้อยคนนั้นจ้องขาของฉินหงเหยียนอยู่หลายครั้ง
เย่เฉินรู้สึกไม่ค่อยพอใจกล่าวออกมา “อัยฉี คนขับรถของหงเหยียนคนนี้หาจ้างมาจากไหน? ดูแล้วหมอนี่มันดูนิสัยแย่พิกล”
ประธานบริษัทสาวสวยแบบฉินหงเหยียนทั้งประเทศมีน้อยนิด ถ้าหากว่าผู้ชายไม่อยากมองหล่อนให้มากสักหน่อย เขาคงจะต้องมีปัญหาเรื่องเพศสภาพแน่ๆ
มีแฟนสวย เย่เฉินก็เตรียมใจจะรับเรื่องพวกนี้ได้นานแล้ว
แต่ว่าแววตาของคนขับอายุน้อยคนนี้ ดูกลับกลอกอย่างมาก เย่เฉินไม่ชอบอย่างมาก
เย่อัยฉีกล่าว “เหมือนจะเป็นญาติของรองประธานสักคน หรือเด็กเส้นสักคน พี่ก็รู้ว่าในบริษัทในประเทศทั้งหมดต่างก็เป็นเด็กเส้นทั้งนั้น ถ้าพี่ไม่ชอบเขา ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปนะคะ พี่ไม่ได้ยินที่พี่สะใภ้บอกเมื่อกี้เหรอคะว่าอีกเดี๋ยวจะไล่เขาออกเหรอคะ?”
“อืม” เย่เฉินพยักหน้ารับ ดูแล้วฉินหงเหยียนเองก็สังเกตเห็นท่าทางลามกของชายวัยรุ่นคนนี้แล้ว เขาเองก็คงไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องนี้อีก
ฉินหงเหยียนขึ้นรถ แล้วคนขับอายุน้อยที่ถูกเรียกว่าเสี่ยวหวังก็เดินย้อกลับไปประจำตรงที่นั่งคนขับรถ เพิ่งจะออกรถก็ถามฉินหงเหยียนอย่างห่วงใย
“คุณฉินครับ ทำไมออกมาเร็วจังเลยล่ะครับ ทานข้าวกับคุณอัยเป็นยังไงบ้างครับ? ได้ยินมาว่าแฟนคุณก็มาทานข้าวด้วย เขาใส่เสื้อแขนยาวสีขาวใช่ไหมครับ? เขาทำงานอะไรเหรอครับ?”
เสี่ยวหวังเปิดปากถามเป็นฉากๆ
ฉินหงเหยียนไม่ทันได้สังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายแอบดูตนเอง เพราะหล่อนรำคาญที่เขาพูดมากถึงได้ตั้งใจจะไล่เขาออก
“ขับรถของนายไปเถอะ อย่าถามเยอะแยะ” ฉินหงเหยียนกล่าวเสียงเรียบ
หล่อนรู้ว่าเสี่ยวหวังคนนี้เป็นญาติของเหอเหวินเจี้ยน เดิมทีทั้งสองคนรู้จักกันมานานาน ฉินหงเหยียนถึงไม่อยากจะแตะต้องคนของอีกฝ่าย
แต่เสี่ยวหวังคนนี้พูดมากจริงๆ บ่นไม่หยุดทุกวัน หล่อนตั้งใจจะหาเวลาเหมาะๆ ไล่เขาออก
หลังจากที่รถของหญิงสาวขับออกไปแล้ว สองคนพี่น้องนั้นถึงได้เดินออกมา เย่อัยฉีขับรถมาเอง
ถึงแม้หล่อนจะเป็นผู้บริหารแต่ก็อยู่ต่างประเทศตลอด ไม่ค่อยมีโอกาสขับรถในประเทศ ดังนั้นจึงไม่อยากได้คนขับรถ
เย่อัยฉีพาเย่เฉินขับรถไปที่ถนนหลงอวิ๋นในบริเวณนอกเมืองเทียนไห่ เทียนไห่ในช่วงที่ไกลเดือนพฤศจิกายนนี้ก็เริ่มหนาวขึ้นมาบ้างแล้ว คนจำนวนมากจึงเริ่มสวมเสื้อคลุมกันบ้างแล้ว
เย่เฉินนึกถึงตอนที่เจอกันเมื่อคราวก่อน ผู้หญิงในร้านกาแฟคนนั้นยังสวมแค่ชุดกระโปรงเพียงตัวเดียว
ไม่รู้ว่าตอนนี้เจ้าหล่อนจะสวมใส่อะไรอยู่
เมื่อผลักประตูร้านกาแฟแล้วก็เห็นผู้หญิงที่หน้าตาสะสวยพอๆ กับหวังเจียเหยาอยู่
แล้วจึงเห็นหล่อนสวมฮู้ดดี้ตัวยาว มือสองข้างของเจ้าหล่อนซุกเอาไว้ในกระเป๋า แล้วกำลังส่งยิ้มให้เด็กหญิงตัวน้อยที่ยืนอยู่บนโซฟา
แต่หล่อนไม่ได้สวมกางเกงหรือกระโปรง แต่ย่อมต้องสวมกางเกงขาสั้น แต่แจ็คเก็ตตัวนั้นยาวเกินไปจนบังกางเกงขาสั้นไว้จนมิด
ดังนั้นพอมองจากไกลๆ จึงเหมือนกับว่าหล่อนสวมแค่แจ็กเก็ตเพียงตัวเดียว
เมืองใหญ่ๆ แบบเทียนไห่ ถึงจะเป็นฤดูกาลที่เย็นสบายแบบนี้หรือกระทั่งฤดูกาลที่หนาวเย็น ก็มักจะได้เห็นเรียวขาของผู้หญิงสาวๆ เสมอ
“Hi”
เย่เฉินเป็นฝ่ายทักสาวสวยคนนั้นก่อน
“Hi” ผู้หญิงคนนั้นจำเย่เฉินได้ แล้วหันมองเย่อัยฉีที่อยู่ข้างตัวเย่เฉิน
เย่อัยฉีเห็นผู้หญิงคนนั้นก็ลอบกล่าวในใจ “หน้าตาสวยจริงๆ ด้วย”
“มาเอาของเหรอคะ?” ผู้หญิงคนนั้นกล่าวถาม
เย่เฉินส่ายหน้า “พวกเรามาดื่มกาแฟครับ”
“อ้อ” สาวสวยคนนั้นยักหน้ารับแล้วพูดกับบุตรสาว “ลูกรัก หนูนั่งอยู่ที่นี่ให้เรียบร้อยนะคะ แม่จะไปชงกาแฟให้พวกพี่ๆ เขานะจ้ะได้ไหมคะ?”
เด็กน้อยพยักหน้าอย่างว่าง่าย จากนั้นก็จ้องพวกเขาสองคน
หลังจากที่หญิงสาวคนนั้นไปชงกาแฟแล้ว เย่อัยฉีเป็นฝ่ายเดินไปหาแม่หนูน้อยแล้วเล่นกับหล่อน แล้วถาม “ฉันขออุ้มแม่หนูน้อยคนนี้ได้ไหมคะ?”
นี่คือลูกสาวของพี่รอง ในฐานะที่เป็นอา เย่อัยฉีย่อมอยากจะอุ้มหลานสาวตนเองอยู่แล้ว
หล่อนยังไม่ทันรอให้หญิงสาวคนนั้นเห็นด้วย เย่อัยฉีก็อุ้มเด็กหญิงทันที
หญิงสาวหน้าตาสะสวยเห็นบุตรสาวตนเองไม่ได้ร้องไห้ก็อนุญาต
หลังจากเย่เฉินเห็นแม่หนูน้อย ก็เอ็นดูเด็กน้อยอย่างมาก “พี่ก็อยากอุ้มบ้าง”
“ไม่ได้ค่ะ!” ผู้เป็นมารดาปฏิเสธทันที “ขอโทษด้วยนะคะคุณผู้ชาย ลูกสาวฉันกลัวคนแปลกหน้าค่ะ”
“อ้อ”
เย่เฉินจึงไม่ยื่นมือออกไป แต่แวววตาที่เด็กหญิงมองเขาก็เห็นได้ชัดเจนว่าแม่หนูไม่ได้กลัวเขา เหมือนว่าจะชอบเขาเสียด้วยซ้ำไป
เย่เฉินมองร้านกาแฟ “คนมาที่น้อยแบบนี้ตลอดเลยเหรอ? ถึงแม้ว่าจะไกลไปหน่อยแต่ที่นี่วิวดีมากเลย คนที่มาไม่น่าจะน้อยแบบนี้นะครับ”
สาวสวยตอบ “บางทีฉันคงขายแพงมั้งคะ พวกคุณสองคนจะดื่มอะไรคะ?”
“เอามัชฉะลาเต้”
“เอาลาเต้วนิลา”
เย่เฉินและเย่อัยฉีตอบ
เย่เฉินถาม “สองแก้วเท่าไหร่?”
หญิงสาวตอบ “สองร้อย”
แก้วละร้อยหยวนก็ถือว่าแพงจริงๆ…
เย่เฉินรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เปิดร้านกาแฟเล่นๆ ไม่ได้คิดจะหาเงินกับมันด้วยซ้ำ
และแล้วกาแฟสองแก้วก็เสร็จอย่างรวดเร็ว สาวสวยก็เดินมาเสิร์ฟแล้วกล่าว “ขอบคุณที่ช่วยดูลูกให้ฉันนะคะ ดูแล้วยัยหนูชอบพวกคุณมากทีเดียว”
เย่เอัยฉีกล่าวพลางยิ้ม “แน่อยู่แล้ว อย่างไรเสียก็คนในครอบครัวเดียวกัน”
“อะแฮ่ม…” เย่เฉินกระแอมอย่างเก้อเขิน
หญิงสาวคนนั้นสับสน “หมายความว่ายังไงคะ?”
เย่อัยฉีกำลังจะออกจากประเทศไปแล้วดังนั้นจึงพูดตรงๆ “งั้นเราก็ไม่ปิดบังพวกคุณแล้วนะ เราเป็นคนในครอบครัวของเย่เซวียน เขาเป็นพี่ชายคนที่สองของเรา คุณคงจะแฟนของพี่รองสินะ? ส่วนแม่หนูน้อยคนนี้น่าจะเป็นลูกสาวของเขาใช่ไหม? พี่รองนี่ก็จริงๆ เลย ทำไมถึงทิ้งพวกคุณไว้ที่เทียนไห่ หรือว่าคุณไม่อยากไปอังกฤษเหรอ?”
ใครจะรู้ว่าหญิงสาวหน้าตาสะสวยคนนั้นกลับตอบ “พวกคุณเข้าใจผิดแล้วค่ะ ฉันรู้จักเย่เซวียนจริงๆ แต่เขาไม่ใช่แฟนฉัน เด็กก็ไม่ใช่ลูกเขา ฉันกับเขาเป็นเพื่อนกัน”
“เพื่อนกันเหรอ?”
เย่เฉินและเย่อัยฉีตัวแข็งไป จบเห่กัน คราวนี้มันกระอักกระอ่วนสุดๆ แหมอุตส่าห์คิดว่าหล่อนเป็นพี่สะใภ้เสียอีก
“ใครบอกว่าฉันเป็นแฟนเย่เซวียนกัน?” หญิงสาวคนนั้นมองเย่อัยฉีอย่างไม่พอใจนัก แล้วย้อนถาม
เย่เฉินกลืนน้ำลายอย่างกังวล นิ้วโป้งถูกับนิ้วชี้ไม่หยุดแล้วคิดในใจว่า “น้องสี่เอ้ย ต้องเห็นแก่ความเป็นพี่น้องของเรานะ ไม่ว่ายังไงก็ห้ามขายพี่ชายตัวเอง!”
แต่ใครจะรู้ว่าเย่อัยฉีกลับชี้เย่เฉินแล้วตอบ “เขา!”