เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 281 ผมมีลูกสาวแล้ว
ตอนที่ 281 ผมมีลูกสาวแล้ว!
เย่เฉินชะงักค้างไป เพราะว่าซูมู่ชิงก็คือเจ้าของร้านกาแฟคนสวยในเทียนไห่ที่ช่วงก่อนเขาไปถึงสามรอบคนนั้น
หล่อนก็คือเจ้าของร้านกาแฟซือเฉิน!
ตอนนี้เองเย่เฉินถึงได้รู้ความนัยที่ซ่อนอยู่ในชื่อร้านกาแฟซือเฉิน!
ซือเฉินที่ว่าคือคิดถึงคนที่ชื่อเย่เฉิน!
เย่เซวียนพี่ชายคนที่สองของเขาจงใจทิ้งกุญแจวิลล่าของอวี๋ซานไว้ที่นั่น ที่แท้เป้าหมายของเขาคือสิ่งนี้!
ทันใดนั้นเองความคิดที่สับสนวุ่นวายก็ประเดประดังเข้ามาในหัวของเย่เฉิน
ในเมื่อเย่เซวียนจงใจให้เย่เฉินไปเจอซูมู่ชิงที่เทียนไห่ แสดงให้เห็นว่าเขาเองก็รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในห้องดำตอนที่เย่เฉินไปรบที่ซีเรีย!
เรื่องนั้นเป็นเรื่องยากที่จะเล่าให้คนอื่นฟังที่สุดในชีวิตของเขา เขาจึงไม่เคยบอกใครมาก่อน!
“ทำไมพี่รองถึงรู้เรื่องนี้! หรือว่า…วันนั้นคนที่ส่งซูมู่ชิงเข้ามาในห้องดำนี่ก็คือพี่รองเหรอ?!”
ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เสียทีเดียว!
พี่รองของเย่เฉินเป็นคนที่ชอบก่อเรื่องวุ่นวาย ทำอะไรไม่สนใจผลที่จะตามมา และไม่สนใจศีลธรรมอะไรมากที่สุดในเหล่าพี่น้อง
บางทีเขาอาจจะรู้สึกว่าเย่เฉินลำบากในสนามรบ แล้วบังเอิญไปเจอผู้หญิงสวยอย่างซูมู่ชิงตามข้างทางพอดี เลยจับหล่อนมาให้เขา เพื่อให้เขาได้หาความสุข
หมอนี่ชอบทำเรื่องทำนองนี้เป็นที่สุด!
พอมาย้อนคิดดูอย่างละเอียดแล้ว ตอนนั้นที่จู่ๆ ก็มีคนบุกเข้ามาในค่าย ออกจะบังเอิญมากเกินไปจริงๆ!
เย่เฉินสาวเท้าเข้าไปหาซูมู่ชิงและลูกสาวของหล่อนช้าๆ
ก่อนนี้เขาเองก็ตกตะลึงไปกับความงดงามของหญิงสาว เขาถึงกับชวนน้องสาวไปที่นั่นด้วยกันเพียงเพื่อจะได้เห็นหญิงสาวอีกสักครั้ง
แต่ว่าสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าหญิงงามล่มเมืองผู้นี้จะเป็นผู้หญิงของเขามาตั้งนานแล้ว!
พอคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องดำวันนั้นอีกครั้ง เย่เฉินก็รู้สึกอิ่มเอมใจขึ้นมาอย่างประหลาด!
เย่เฉินมองซูมู่ชิงพลางกล่าวถาม “คุณรู้เรื่องระหว่างเรานานแล้วใช่ไหม?”
ไม่ต้องคิดก็พอจะเข้าใจว่าที่ซู่มู่หลินเกลียดชังเย่เฉิน เป็นเพราะเรื่องที่เขาเคยทำกับพี่สาวตนเอง
ในเมื่อซูมู่หลินยังรู้ว่าเป็นฝีมือเย่เฉิน เช่นนั้นแล้วตัวซูมู่ชิงเองย่อมต้องรู้แน่นอน อีกทั้งหญิงสาวก็น่าจะเป็นคนบอกน้องชายเอง
ซูมู่ชิงพยักหน้ารับ
เย่เฉินเองก็รู้สึกเก้อเขิน คิดไม่ถึงว่าตลอดการพบกันสามครั้งที่เทียนไห่ ซูมู่ชิงรู้นานแล้วว่าเย่เฉินเป็นชายหนุ่มที่เคยย่ำยีหล่อนในสงครามคนนั้น!
แต่ว่าการพบหน้ากันสามครั้งซูมู่ชิงกลับไม่เคยแสดงท่าทีโกรธเขา ทุกครั้งยังรับรองเขาเป็นอย่างดี แถมยังชงกาแฟให้เย่เฉินด้วย
เย่เฉินหันไปมองซูมู่ชิงพลางกล่าว “ทำไมคุณถึงไม่บอกผมว่าคุณคือผู้หญิงคนนั้นที่เคยนอนกับผมตอนนั้นในสงครามน่ะ?”
ซูมู่ชิงค่อยๆ ก้มหน้าลง พลางยิ้ม ในรอยยิ้มนั้นดูอ่อนหวานและเย็นชาบอกไม่ถูก
“คุณมีแฟนหน้าตาสะสวยแถมยังรักกันมากด้วย ฉันไม่อยากจะรบกวนพวกคุณสองคน”
คำพูดนี้ของซูมู่ชิงทำให้เย่เฉินรู้สึกผิดอย่างมาก!
เย่เฉินทำผิดต่อหญิงสาวมากเหลือเกิน ทั้งปล่อยให้หล่อนเลี้ยงลูกคนเดียว ปาไปสี่ปีแล้วยังไม่สามารถแต่งงานกับชายอื่นได้ด้วยซ้ำ
แต่ที่ซูมู่ชิงเลือกที่จะไม่บอกความจริงกับเขาเพียงเพราะไม่อยากจะรบกวนวิถีชีวิตของเขา เพื่อให้เขาได้มีความสุขกับฉินหงเหยียน!
ก็จริง ถ้าหากว่าอยู่ๆ ซูมู่ชิก็ปรากฏตัวขึ้นมาบอกเย่เฉินว่าฉันเป็นผู้หญิงที่เคยนอนกับคุณ แถมยังคลอดลูกของเราแล้วด้วย
ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ววิถีชีวิตของเย่เฉินคงได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก และเรื่องนี้คงจะส่งผลต่อชีวิตรักของเขาและฉินหงเหยียนเป็นอย่างมาก
ซูมู่ชิงคนนี้จิตใจดีเหลือเกิน!
เย่เฉินกล่าวกับหญิงสาวต่อ “ตอนผมไปที่นั่นครั้งแรก คุณเจอหน้าผมอีกครั้งไม่เกลียดผมเหรอ?”
ซูมู่ชิงส่ายหน้า “เป็นอดีตหมดแล้ว อีกทั้งเรื่องเมื่อสี่ปีก่อนจะโทษคุณก็ไม่ได้”
เย่เฉินรู้สึกว่าซูมู่ชิงเข้าใจเรื่องเมื่อสี่ปีก่อนระหว่างเขาและตนเองมากกว่าเขาเสียอีก
เย่เฉินถาม “เป็นฝีมือพี่รองของผมหรือเปล่าที่พาคุณไปที่นั่น?”
ซูมู่ชิงพยักหน้ารับ
เย่เฉินตบโต๊ะตรงหน้าอย่างโมโห “เย่เซวียนคนสารเลว! ทำไมเขาต้องทำแบบนี้ด้วย!”
เย่เซวียนชอบทำเรื่องบ้าบอไร้สติแบบนี้เสมอ แต่การกระทำของเขากลับทำร้ายผู้หญิงที่น่าสงสารอย่างหญิงสาวตรงหน้า!
เย่เฉินก็เอ่ยถามอีกครั้งหลังจากที่เงียบไปครู่หนึ่ง “คุณหนูซู ผมมีเรื่องจะถาม…วันนั้นในห้องดำ คุณรู้เรื่องสถานะและตัวตนของผมหรือเปล่า?”
วันนั้นเย่เฉินไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับหญิงสาวในห้องดำคนนั้นแม้แต่น้อย รู้แค่ว่าอีกฝ่ายอายุยังน้อยเท่านั้นเอง
กลางประตูของห้องดำมีรอยแยกเป็นแสงสว่างเล็กๆ แสงลอดลงบนขาของหญิงสาว ทำให้เขารู้ว่าเจ้าหล่อนมีเรียวขาที่สวยงามและขาวนวลเนียนเป็นอย่างมาก
แต่ในเมื่อซูมู่ชิงเป็นคนที่พี่รองส่งมา หรือบางทีก่อนที่พี่รองจะส่งหล่อนมาอาจจะบอกแล้วด้วยซ้ำว่าหล่อนจะต้องไปพบใคร
ใบหน้าอีกฝ่ายซับสีเลือดอย่างรวดเร็ว หล่อนกัดริมฝีปากแล้วพยักหน้ารับ
“ใช่” ซูมู่ชิงตอบเสียงเบา
เย่เฉินตกตะลึง ที่แท้แล้ววันนั้นเมื่อสี่ปีก่อน ซู่มู่ชิงรู้อยู่แล้วว่าคนในห้องดำคือเขา!
อีกทั้งยังรู้หน้าค่าตาของเขาตั้งแต่แรกแล้วด้วย
ใบหน้าเย่เฉินถือได้ว่าค่อนข้างหล่อเหลา ถ้าหากว่าซูมู่ชิงเองรู้หน้าตาของเขาก่อนก็อาจจะพอลดทอนความเจ็บปวดที่เขาก่อไว้กับหญิงสาวลงได้เล็กน้อย ถ้าหากว่าหล่อนเป็นพวกบ้าคนหล่อล่ะก็
พูดถึงเรื่องนี้ คิดไม่ถึงว่าซูมู่ชิงจะเขินอายขึ้นมา “เรื่องนั้น…ไม่ใช่เพราะคุณหล่อเหลาอะไรหรอกฉันถึงได้…”
“ดังนั้นเพราะอะไรล่ะ?” เย่เฉินไม่เข้าใจว่าซูมู่ชิงจะสื่ออะไร
ซูมู่ชิงเขินอายจนใบหน้าแดงก่ำ รีบร้อนกล่าว “ไม่…ไม่มีอะไร”
เด็กหญิงที่นั่งเรียบร้อยบนเตียง จู่ๆ ก็ส่งยิ้มให้ซูมู่ชิงแล้วกล่าวด้วยเสียงอ้อแอ้ “คุณแม่หน้าแดงแล้ว คุณแม่ชอบคุณอาคนนี้”
พรึ่บ!
ใบหน้าที่เดิมก็แดงก่ำของซูมู่ชิง คิดไม่ถึงว่าใบหน้าของหญิงสาวจะแดงกว่าเดิมขึ้นอีกระดับ!
ซูมู่ชิงนั้นผิวพรรณดี หญิงสาวค่อนข้างขาวนวลเนียน ดังนั้นพอหน้าแดงขึ้นมาจึงเห็นชัดเจนยิ่งขึ้น
ซูมู่ชิงรีบร้อนกล่าวกับบุตรสาว “อย่าพูดเหลวไหล คุณแม่เป็นแบบนั้นที่ไหน…”
เด็กหญิงเป็นเพียงเด็กน้อยยังไม่รู้ประสา แต่ไม่ใช่วัยที่จะโกหกได้ ดังนั้นจึงหัวเราะคิกคัก “คุณแม่เคยบอกว่าจะหน้าแดงก็ต่อเมื่อเห็นหน้าคนที่ชอบนี่คะ”
คำพูดของเด็กน้อยทำให้ผู้ใหญ่สองคนได้ยินเก้อเขิน!
และในเวลานี้เองเย่เฉินก็เสสายยตามองเด็กหญิงตัวน้อย เขาเห็นวงหน้าที่น่ารักงดงาม กระทั่งน้ำเสียงยังน่ารักก็ถาม “นี่คือ…ลูกผมเหรอ?”
ในตอนแรกที่เจอเด็กหญิงคนนี้ในร้านกาแฟ เขาก็เกิดรู้สึกถูกชะตากับแม่หนูน้อยคนนี้อย่างประหลาด
อีกทั้งแม่หนูน้อยคนนี้ เอาแต่จ้องเขา ไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัว เหมือนว่าหล่อนสัมผัสได้ถึงสายสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับเย่เฉิน
ซูมู่ชิงลูบเรือนผมของเด็กหญิงแล้วพยักหน้ารับ
“ลูกของผม! แม่หนูเป็นลูกสาวผม! ผมมีลูกสาวแล้ว!”
เย่เฉินตื่นเต้นอย่างมาก คู่แฝดของหวังเจียเหยาที่เพิ่งเกิดเมื่อเดือนก่อน เขาก็คิดว่าตนเองมีลูกสาวอยู่เลย
แต่หลังจากตรวจ DNA แล้วรู้ว่าลูกของเขาคือเด็กผู้ชาย ส่วนเด็กหญิงไม่ใช่สายเลือดของเขา
ทำให้เขาเสียใจอย่างยิ่ง
คิดไม่ถึงว่าอีกหนึ่งเดือนต่อมา เขาจะมีลูกสาววัยสามขวบกว่าๆ!
“ลูกพ่อ!”
เย่เฉินปลาบปลื้ม เขาเดินตรงดิ่งไปข้างเตียงแล้วอุ้มเด็กสาวไว้ในอ้อมแขน!