เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 332 ค่าตัวถูกๆ ของหวังเจียเหยา
- Home
- เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)
- ตอนที่ 332 ค่าตัวถูกๆ ของหวังเจียเหยา
ตอนที่ 332 ค่าตัวถูกๆ ของหวังเจียเหยา!
ฉินหงเหยียนมองเย่เฉินแล้วถาม “เย่เฉินพ่อคุณอยู่ที่ไหน?”
เย่เฉินส่ายหน้า เขารู้แค่ว่าบิดาของหญิงสาวยังไม่ตายแต่ไม่รู้ว่าฉินอ้าวหมิงอยู่ที่ไหน
ผู้กำกับหลี่เองก็รู้จักฉินอ้าวหมิง เขาย้อนถามอย่างสงสัย “ทำไมทุกคนถึงได้แน่ใจนักล่ะครับว่าคุณฉินอ้าวหมิงยังไม่ตาย?”
สวี่ฉู่หมิงชี้เย่เฉิน “เขามีรูปใหม่ของพี่ฉินอ้าวหมิง”
ผู้กำกับหลี่มองเย่เฉิน “ผมขอดูหน่อยได้ไหม?”
เย่เฉินพยักหน้ารับแล้วยื่นภาพถ่ายในมือถือให้อีกฝ่ายดู เขาพยักหน้า
“เป็นคนฉินอ้าวหมิงจริงๆ ถ้าดูจากระยะเวลาแล้ว เมื่อ 11 ปีก่อนเขาอายุ 40 กว่าตอนนี้ก็น่าจะ 50 กว่าแล้ว คุณเย่ไปได้ภาพถ่ายใบนี้มาจากไหน?”
เย่เฉินย่อมไม่สามารถบอกได้ว่าคนให้มาเป็นพี่ชายของเขาจึงกล่าวต่อไปว่า “สองวันก่อนผมไปฝรั่งเศสเพื่อไปสืบเรื่องฆาตกรที่ฆ่าพ่อของฉินหงเหยียน จ่ายเงินไปห้าสิบล้านถึงได้รูปใบนี้มา”
เหตุผลนี้ใช้ได้ทีเดียว อีกทั้งเรื่องเย่เฉินจ่ายเงินไปห้าสิบล้านแค่ไปสืบก็จะเจอ
อีกทั้งในเวลานี้ สวี่ฉู่หมิงก็กล่าวต่อ “ผู้กำกับหลิว ผมตามสืบเรื่องพี่ฉินอ้าวหมิงโดนฆาตกรรมมานานแล้ว ผมมีภาพถ่ายของพี่ฉินอ้าวหมิงกับผู้ต้องสงสัยในวันที่เขาตาย แล้วคนๆ นั้นก็คือพ่อของเย่เฉิน เย่เจิ้งหนาน!”
“แล้วรูปถ่ายอยู่ไหน?” ผู้กำกับหลิวถาม
สวี่ฉู่หมิงตอบ “บ้านผม เดี๋ยวจะให้คนไปเอามาเดี๋ยวนี้”
ผู้กำกับหลิวพยักหน้าแล้วกล่าว “คุณสวี่ คุณเย่ รบกวนคุณไปสถานีตำรวจกับผมหน่อย จะได้ช่วยให้เบาะแสเรื่องการหายตัวไปของคุณฉินอ้าวหมิง”
จากนั้นผู้กำกับหลี่ก็หันไปหาฉินหงเหยียน “คุณคือลูกสาวของคุณฉินอ้าวหมิงใช่ไหม? คุณเองก็ไปกับพวกเราดีกว่า ”
“ค่ะ”
ทั้งสามคนไม่มีใครปฏิเสธ
“ฉันเองก็เป็นลูกสาวของฉินอ้าวหมิง ฉันจะไปด้วยค่ะ!”
ฉินเสี่ยวตั่วที่อยู่ข้างๆ ก็จะเดินตามพวกเขาไป
ผู้กำกับหลิวพยักหน้า “งั้นรบกวนคุณช่วยไปด้วยกันหน่อย”
พูดจบ ผู้กำกับหลิวก็เดินออกจากงาน ก่อนจะไปเขาหันไปสั่งลูกน้องของเขา “จับพวกคนที่สร้างความวุ่นวายที่นี่ไปให้หมด!”
“ครับ!”
หลังจากคนสำคัญอย่างเย่เฉิน สวี่ฉู่หมิง และฉินหงเหยียนไปแล้ว งานแต่งที่แสนครึกครื้นนี่ก็จบลงอย่างเป็นทางการ
บรรดาแขกในงานต่างก็ทยอยกลับบ้าน
ซูมู่หลินกล่าว “คุณปู่ เย่เฉินไม่ได้ทะเลาะวิวาท ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย เขาไม่ได้ทำอะไรผิดที่นี่ เรื่องของฉินอ้าวหมิง เป็นไปได้มากว่าเขาจะแสร้งทำเป็นไม่รู้ แต่คิดว่าน่าจะโดยปล่อยออกมาแน่เร็วๆ นี้ หมอนี่ไม่รู้จักอะไรเลย แถมยังดึงดันจะคบหากับฉินหงเหยียน โดยที่ไม่เห็นหัวพี่สาวผมเลย ไม่เห็นหัวตระกูลซูเลย ไม่สั่งสอนเขา ผมคงคับอกตาย!”
ซูเจิ้นหางสีหน้าดำคล้ำ เขากล่าวเสียงเรียบ “สบายใจเถอะ ! รังแกหลานสาวฉันแล้วคิดจะสะบัดตูดไปไม่รับผิดชอบ ชิ เขาฝันหวานเกินไปแล้ว!”
ซูเจิ้นหางพูดจบก็สาวเท้าเดินออกไป
ตอนที่คนตระกูลซูเดินมาที่หน้าประตู ที่จริงแล้วหวังเจียเหยารออยู่ที่หน้าประตูนานแล้ว
หวังเจียเหยายืนอยู่ตรงนั้นตัวตรง ทำท่าที่ราวสาวน้อยใสซื่อ
หล่อนสวยขนาดนั้นจึงคิดว่าตนเองน่าจะสามารถเรียกร้องความสนใจจากซูเจิ้นหางได้
ทว่าคนตระกูลซูไม่มีใครเหลือบแลหล่อน แต่เดินผ่านหล่อนไปทันที
“เฮ้อ”
ในตอนที่หวังเจียเหยาและซูมู่หลินเดินสวนทางกัน หวังเจียเหยายื่นมือเรียวยาวคว้าแขนของซูมู่หลินเอาไว้
ซูมู่หลินเองชะงักฝีเท้าปรายตามองหวังเจียเหยา หญิงสาวสบตาเขาด้วยแววตาหวานซึ้ง “ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”
สีหน้าซูมู่หลินฉายแววรังเกียจ จากนั้นก็ตะโกนกับซูเจิ้นหาง “คุณปู่กลับกันไปก่อนเลย ผมขอแวะห้องน้ำเดี๋ยวเดียวครับ”
เมื่อคนในครอบครัวเดินไปกันหมดแล้ว ซูมู่หลินจึงกล่าวอย่างไม่พอใจ “มีเรื่องอะไร?”
หวังเจียเหยากล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “คนเมื่อกี้คือปู่นายเหรอ?”
ก่อนหน้านี้ตอนที่ซูมู่หลินไปนอนกับหวังเจียเหยาที่วิลล่าของเย่เฉิน เคยเอารูปถ่ายของคุณปู่กับคนใหญ่คนโตทั้งหลายแหล่ เพื่อให้หวังเจียเหยานับถือชื่นชมตนเอง
“อืม มีอะไร?” ซูมู่หลินถามเสียงเย็น
หวังเจียเหยายิ้มหวาน “ทำไมนายไม่แนะนำคุณปู่ให้ฉันรู้จักล่ะ?”
ซูมู่หลินกล่าวอย่างไม่เกรงใจ “แนะนำคุณ? คุณคู่ควรเหรอ?”
อย่าว่าแต่คนตระกูลหวังหลุดจากตระกูลร่ำรวยไปแล้ว ต่อให้เป็นช่วงรุ่งเรืองที่สุดในยุคก่อน ก็ไม่เข้าสายตาคนตระกูลซู
หวังเจียเหยากัดริมฝีปาก เมื่อโดนแขวะแบบนี้ ก็หงุดหงิดมากทีเดียว “นายจะบอกว่าจะให้เงินฉันพันล้าน ตอนนี้นายเอาเงินให้ฉันสิ”
พูดไปจนจบแล้ว หวังเจียเหยามาไถเงินจากซูมู่หลิน
ไม่เอาเงินจะไม่ใช่สไตล์ของหวังเจียเหยา
ซูมู่หลินกล่าวพลางระบายยิ้ม “ผมเคยบอกแล้วว่าถ้าหากว่าคุณมีลูกชายให้ผม ผมจะให้เงินคุณพันล้าน แต่ตอนนี้ผมรู้แล้ว ว่าลูกสาวของผม ส่วนลูกชายเป็นของเย่เฉิน ผมไม่ชอบลูกสาว ผมไม่ได้อยากได้ลูกสาวคนนั้น คุณเก็บลูกเอาไว้เถอะ!”
ซูมู่หลินพูดพลางจะเดินหนีไป หวังเจียเหยารีบร้อนลากเขาเอาไว้ “ทำไมนายใจร้ายจังเลย? ไม่ว่ายังไงนั่นก็สายเลือดนายนะ มีลูกสาวดีจะตายไป ลูกสาวเป็นตุ๊กตาตัวน้อยของคนเป็นพ่อนะ นายรู้ไหมว่าเย่เฉินหวังว่าเด็กคนนั้นจะเป็นลูกเขามากขนาดไหน? แต่นายกลับไม่รู้จักเห็นคุณค่าเลย!
ฉันไม่สนใจ ฉันคลอดลูกสาวให้นาย ถึงนายจะไม่ให้พันล้าน ก็ให้ฉันสักห้าร้อยล้านเถอะ! นายแค่ให้เงินฉันมาห้าร้อยล้าน แล้วต่อไปเรื่องทั้งหมดของลูก นายไม่ต้องสนใจแล้ว ฉันเลี้ยงเอง”
ซูมู่หลินครุ่นคิด เงินห้าร้อยล้านสำหรับเขาไม่ได้เป็นจำนวนมากมายอะไร
ซูมู่หลินเห็นวงหน้างดงามของหวังเจียเหยา ก็อดยื่นมือไปแตะใบหน้างดงามไม่ได้
“คุณสวยขนาดนี้ ลูกสาวโตแล้วคงต้องสวยมากแน่ ก็ได้ เอาเงินไปห้าร้อยล้านแล้วกัน”
หวังเจียเหยาดีใจอย่างมาก “งั้นนายรีบโอนมาเลย!”
ซูมู่หลินยิ้มเจ้าเล่ห์ขณะมองประเมินหวังเจียเหยา “หวังเจียเหยา คุณนี่ก็หุ่นดีใช้ได้นะ ดูแล้วไม่เหมือนคนเคยคลอดลูกเลย ฮ่าๆ… เอางี้แล้วกัน คุณไปโรงแรมเป็นเพื่อนผมหน่อย ดูแลเอาใจผมหน่อย เดี๋ยวโอนเงินให้ดีไหม?”
หวังเจียเหยาลังเล คราวนี้ที่หล่อนมา เป้าหมายหลักๆ ก็คือเพื่องอนง้อเย่เฉิน
แต่ในตอนนี้เย่เฉินและฉินหงเหยียนกลับมาคืนดีกันแล้ว หล่อนก็ไม่มีหวังแล้ว
ดังนั้นหวังเจียเหยาเลยพยักหน้ารับ “ได้ฉันไปกับนายก็ได้”
ซูมู่หลินจูบหญิงสาวทันที แล้วโอบเอวหล่อน “งั้นไปกันสิ ที่รัก!”
หวังเจียเหยาหันหน้าไปมองหวังซ่าวเจี๋ย “พี่ซ่าวเจี๋ย นายช่วยเก็บความลับเรื่องนี้ให้ฉันด้วยนะ ห้ามบอกเย่เฉิน แล้วก็อย่าลืมนะตอนนี้ฉันเป็นคนที่รวยที่สุดในบ้าน!”
หวังซ่าวเจี๋ยกัดฟันกรอดอย่างไม่พอใจ แต่ก็ได้แต่ตกปากรับคำ
ทว่าซูมู่หลินเหมือนว่าจะมีเจตนาเหมือนอยากให้เย่เฉินรู้ จงใจเลือกโรงแรมที่เย่เฉินพักอยู่ อีกทั้งยังเลือกห้องเพรสซิเดนท์สูทด้วย
ในห้องหรูหรานั้น หวังเจียเหยาเรือนร่างอ้อนแอ้นบอบบาง “ที่รัก ฉันได้ยินมาว่าคุณปู่ของนายบอกว่าพ่อเย่เฉินจับใครไว้น่ะ คุณปู่ของนายไม่ชอบเย่เฉินใช่ไหม? ตระกูลซูของนายจะตั้งตัวเป็นศัตรูกับตระกูลเย่ใช่ไหม?”
ซูมู่หลินกล่าวพลางระบายยิ้ม “ถูกต้อง เย่เฉินและฉินหงเหยียนคืนดีกัน เขายั่วโมโหคุณปู่ของผมแล้ว เขาจบเห่แน่!”