เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 384 บุกเข้าบ้านตระกูลหลี่
- Home
- เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)
- ตอนที่ 384 บุกเข้าบ้านตระกูลหลี่
ตอนที่ 384 บุกเข้าบ้านตระกูลหลี่!
ถึงแม้ว่าหลวี่ปู้จะเป็นเหมือนลูกน้องของซูเจิ้นหาง แต่ในที่อื่นๆ ของประเทศ หรือในสายตาคนนับร้อยล้านเขาคือลูกพี่ใหญ่!
คนรุ่นหลังอย่างซูมู่หลิน กล้าพูดแบบนี้กับเขา ทำให้เขาไม่สบอารมณ์นัก
ลูกน้องของซูมู่หลินรู้ซึ้งในศักยภาพของหลวี่ปู้เป็นอย่างดี รีบร้อนกล่าว “พี่หลวี่ปู้ครับ พี่อย่าโกรธเลยนะครับ คุณชายของเราใจร้อนไปหน่อย แต่คุณชายไม่ได้คิดอะไรอย่างนั้น”
หลวี่ปู้แค่นเสียงแล้วเดินออกไป
หลังจากที่หลวี่ปู้เดินออกจากห้องไปแล้ว ลูกน้องเขากล่าวอย่างไม่สบอารมณ์นัก “คุณชายซู หลวี่ปู้อยู่นอกเมืองไม่ใช่เหรอครับ? ทำไมเขาถึงจู่ๆ กลับมาที่เมืองหลวงล่ะ?”
ซูมู่หลินระอาใจ “จริงด้วย หมอนี่เป็นเหมือนไม้ตายของคุณปู่ ปกติแล้วเขาจะกลับมาก็ต่อเมื่อที่เมืองหลวงเกิดเรื่องเท่านั้นนี่นา”
ลูกน้องเหมือนว่าจะคิดอะไรออก เขาจึงกล่าว “เหมือนผมเคยได้ยินคนพูดกันว่าเมื่อกี้ที่สนามบินเกิดเรื่องวุ่นวายนิดหน่อย เขาคงไม่ได้กลับมาที่นี่เพราะเรื่องนี้ใช่ไหมครับ?”
“ก็เป็นไปได้นะ” ซูมู่หลินเลิกคิดเรื่องนี้ “อย่าเพิ่งสนใจเรื่องพวกนี้เลย ปัญหาตอนนี้ก็คือจะต้องพาตัวซือซือกับพี่สาวฉันกลับบ้านให้ได้!”
ลูกน้องเขากล่าวอย่างลำบากใจ “คุณปู่ของคุณชายไม่ยินยอมให้เราไปแย่งตัวพวกหล่อนกลับมาหรอกนะแล้วใครจะมีปัญญาพาคุณหนูกลับบ้านล่ะครับ ไม่งั้นก็ให้คุณหนูซูทนรอไปก่อนไหมครับ ไม่ช้าหรือเร็วหล่อนก็ต้องแต่งเข้าตระกูลหลี่ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องนอมรับกฎเกณฑ์ของพวกเขา”
ซูมู่หลินหัวเสีย เขาตบหน้าลูกน้อง “สารเลว! ในโลกใบนี้ พี่สาวฉันไม่จำเป็นต้องกล้ำกลืนฝืนทนเพื่อส่วนรวม! หมอนั่นมีสิทธิ์อะไรทำแบบนี้! คนตระกูลหลี่สารเลวจะต้องรังเกียจที่พี่สาวฉันเคยมีลูกกับเย่เฉิน ดังนั้นถึงได้จงใจหาเรื่องหล่อน จริงด้วยเย่เฉินไง!”
จู่ๆ ซูมู่หลินก็คิดถึงเย่เฉินขึ้นมา เหตุการณ์ตอนนี้คือเขาไม่สามารถส่งคนตระกูลซูไปช่วยสองคนแม่ลูกแล้ว ดังนั้นถึงได้จำใจให้เย่เฉินไปแทน!
ถึงแม้ว่าซูมู่หลินไม่อยากโทรหาเย่เฉิน แต่อย่างไรเสียตอนนี้เขาต้องนอนนิ่งๆ บนเตียงตลอดเวลา เพราะเย่เฉิน
แต่เขาจำใจต้องโทรหาเย่เฉินเพราะเห็นแก่ซูมู่ชิง!
เย่เฉินในตอนนี้กำลังอยู่ในโรงแรมแถวๆ บ้านของซูมู่ชิง เขาประหลาดใจมากเมื่อได้รับสายจากซูมู่หลิน
“เขาโทรหาฉันทำไมนะ?”
เย่เฉินสงสัย แต่เขาก็รับสาย “ว่าไง”
ซูมู่ชิงไม่พูดอ้อมค้อมไร้สาระ และไม่ก่นด่าเย่เฉิน และไม่โวยวายเรื่องที่อีกฝ่ายทำร้ายตนเองแต่เข้าเรื่องทันที
“เย่เฉิน ลูกสาวนายตอนนี้โดนหลี่เฉิงเจี๋ยรังแก พี่สาวฉันเองก็โดนคนตระกูลหลี่ทำร้ายร่างกายแล้วขังเอาไว้ ถ้านายเป็นลูกผู้ชาย รีบไปช่วยพี่สาวฉันกับซือซือออกมาจากบ้านนั้นเดี๋ยวนี้เลย!”
เย่เฉินตึงเครียดทันที “อะไรนะ? ซือซือเป็นอะไรนะ?!”
ซูมู่หลินเองก็ไม่รู้สถานการณ์แน่ชัดจึงทำได้แค่พูดให้มันเวอร์เข้าไว้ “หลี่เฉิงเจี๋ยเป็นคนแบบไหน นายเองก็รู้จริงไหม? แล้วคิดว่าเขาจะทำดีกับลูกคู่หมั้นเขากับชายคนอื่นหรือไง? ตอนนี้ซือซือร้องไห้หนักมาก เอาจนเสียงแหบแห้งไปหมด ยิ่งหล่อนร้องคนบ้านนั้นก็ยิ่งตีหล่อน เพราะมีพ่อที่ไร้ความสามารถแบบนาย ซือซือถึงได้ต้องเจอเรื่องแบบนี้!”
เย่เฉินกำหมัดแน่นโมโหจนจะระเบิด!
ซือซือเป็นดังแก้วตาดวงใจของเย่เฉิน เป็นสิ่งที่เขาให้ความสำคัญที่สุด!
เด็กหญิงน่ารัก หน้าตาสะสวยขนาดนั้น เหมือนเป็นนางฟ้าลงมาจากสรวงสวรรค์ เย่เฉินทะนุถนอมให้ความสำคัญ ไม่มีทางจะยอมให้ใครแตะต้องเด็กหญิง!
ทว่าเย่เฉินเองก็กำลังกังวลว่านี่จะใช่แผนของซูมู่หลินหรือเปล่า เขาจงใจยั่วยุตนเองหรือเปล่า เพื่อให้ตนเองไประบายอารมณ์กับตระกูลหลี่ ยืมมือตระกูลหลี่มาช่วยล้างหนี้ลูกปืนนั้นแทนตนเอง
เย่เฉินกล่าว“ซูมู่หลิน จะให้ดีอย่าให้เรื่องนี้เป็นเรื่องโกหก! ผมเกลียดคนที่หลอกลวงผมที่สุด!”
ซูมู่หลินกล่าวเสียงดัง “ฉันอยากจะยิงนายคืนใจจะขาด! นายคิดว่าฉันมีเวลาว่างมาหลอกนายหรือไง! ถ้าไม่เพราะปู่ฉันส่งคนมาขวางไม่ให้ฉันออกจากโรงพยาบาล ไม่งั้นชีวิตนี้ฉันไม่มีทางเป็นฝ่ายโทรหานายก่อนหรอก! ตระกูลหลี่ฉวยโอกาสตอนที่ปู่ฉันแก่แล้ว แถมยังเป็นโรคหลอดเลือดสมองด้วย พวกเขาคิดว่าปู่ฉันน่าจะอยู่ได้ไม่นาน แต่รุ่นที่สองของตระกูลหลี่ได้ดีกว่าพ่อฉัน ดังนั้นถึงได้กล้าทำแบบนี้! เย่เฉิน เรื่องนี้นายจะเชื่อหรือไม่ก็ตามใจ อย่างไรเสียก็ซือซือก็ลูกนาย ถ้านายทนให้ลูกสาวตัวเองโดนคนบ้านนั้นสั่งสอนเหมือนหมูเหมือนหมา ก็ตามใจ!”
พูดจบซูมู่หลินก็กดวางสาย
ภายในห้องพักผู้ป่วย ลูกน้องรีบรินน้ำให้ซูมู่หลินที่กำลังเดือดปุดๆ แล้วถาม “คุณชายซู เย่เฉินคนเดียวไม่น่าผ่านเข้าประตูบ้านตระกูลหลี่ได้นะ นอกเสียจากว่าเขาจะใช้ยาน UFO ลำนั้น แต่ว่านายท่านสั่งเอาไว้ว่าถ้า UFO ลำนั้นโผล่ออกมาให้ทำลายทันที”
ซูมู่หลินดื่มน้ำอึกใหญ่ ตาค้างพลางกล่าว “ถึงฉันจะไม่ชอบเย่เฉิน แต่ฉันต้องยอมรับเลยว่าถ้ามีคนแค่คนเดียวที่จะช่วยพาตัวพี่สาวออกมาจากตระกกูลหลี่ได้ คนคนนั้นก็คือเย่เฉิน!”
……
เย่เฉินออกจากโรงพยาบาลด้วยความเร็วสูงสุด เขาพอจะฟังออกว่าซูมู่หลินไม่ได้หลอกเขา และไม่มีเหตุผลที่จะใช้สองคนนั้นมาหลอกเขา!
เพิ่งจะมาถึงที่ริมถนน ก็มีคนขับรถผู้หญิงเดินลงมาจากรถตู้ volkswagen และเรียกเย่เฉินเอาไว้
“อ้าวสุดหล่อ ฉันถอยรถไม่เก่ง นายพอจะช่วยฉันจอดรถหน่อยได้ไหม?”
เย่เฉินไม่พูดไม่จา แต่มุดเข้าไปในรถทันที
หญิงสาวยิ้มน้อยๆ อย่างซาบซึ้ง “ขอบคุณมากเลยนะสุดหล่อ ยุคแบบนี้ยังมีคนดีๆ อยู่เยอะเลย!”
ตอนที่หญิงคนขับรถกล่าวชมเย่เฉินไม่หยุด แต่ใครจะรู้ว่าเย่เฉินที่นั่งในรถจะเหยียบคันเร่ง ทันใดนั้นเองก็ขับรถออกไป
คนขับรถผู้หญิงกระพริบตา อยู่ 5 วินาที ก็ตะโกน“มีคนขโมยรถค่ะ”
เย่เฉินขับรถคันนั้นด้วยความเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนมาถึงเขตวิลล่ารุ่นเทียนอันเป็นบ้านของตระกูลหลี่
เพราะที่นี่เป็นที่พักที่หรูหราที่สุดในเมืองหลวง ยามจึงเข้มงวดอย่างมาก ถ้าไม่มีบัตรผ่านจะเข้าไปด้านในไม่ได้
เย่เฉินร้อนรนใจ เขาบีบแตรไม่หยุดเพื่อเรียกให้ยามเปิดประตู
ยามเพิ่งเดินเข้ามาแล้วกล่าวกับเย่เฉิน “นายไม่ใช่เจ้าของวิลล่าที่นี่ล่ะมั้ง? คิดจะขับรถเยินๆ เน่าๆ เข้ามาในเขตหมู่บ้านเราเหรอ?”
เย่เฉินยื่นมือมาจับยาม แล้วจับหน้าอีกฝ่ายแนบที่กระจกหลังแล้วกระโชกโฮกฮาก “รีบเปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้!”
ยามเพิ่งเคยเจอคนโหดแบบนี้เป็นครั้งแรก จึงหวาดกลัว รีบร้อนรีโมท เปิดประตูปล่อยเย่เฉินเข้าไป
จากนั้นยามก็รีบหยิบวอ.ขึ้นมาแล้วแจ้งคนอื่นๆ “มีรถ volkswagen คันหนึ่งขับเข้าไป ทุกคนรีบห้ามเขาเอาไว้!”
เย่เฉินขับรถไปที่วิลล่าของตระกูลหลี่ เพิ่งจะลงมาก็โดนคนเฝ้าประตูขวางเอาไว้
“ทำอะไรน่ะ?”
เย่เฉินกล่าวเสียงเย็น “ฉันอยากเจอลูกสาวฉัน ไสหัวไป อย่าขวางทางฉัน!”
ยามที่เฝ้าประตูกล่าวเสียงเหี้ยม “ไร้สาระ นายรู้ไหมว่าที่นี่คือบ้านตระกูลหลี่แห่งเมือหลวง! นาอยากเจอก็ได้เจอเหรอคนที่นี่น่ะ? รีบไสหัวไป”
ยามยังไม่ทันพูดจบ เย่เฉินก็ประเคนหมัดจนอีกฝ่ายล้มลงบนพื้น!
“ไม่มีใครห้ามไม่ให้ฉันเจอลูกสาวฉันได้!”