เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 491 หวังเจียเหยามาที่ประเทศอังกฤษ
- Home
- เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)
- ตอนที่ 491 หวังเจียเหยามาที่ประเทศอังกฤษ
ตอนที่ 491 หวังเจียเหยามาที่ประเทศอังกฤษ!
คราวก่อนที่เย่เทียนมาร่วมงานแต่งของเย่เฉินเคยมาสืบเรื่องของซูมู่ชิง แล้วเขายังเคยว่าหล่อนเป็นผู้หญิงสารเลว ไปแอบมีอะไรกับผู้ชายคนอื่น
เรื่องนี้เกือบทำให้เย่เฉินหย่ากับซูมู่ชิง!
เพราะเคยโดนหวังเจียเหยาทรยศหักหลัง เย่เฉินถึงได้อ่อนไหวกับเรื่องแบบนี้เป็นอย่างมาก!
เย่เฉินหัวเราะแล้วกล่าว “จะเป็นไปได้ยังไงล่ะครับพี่ใหญ่ พี่ก็หวังดีกับผมทั้งนั้น”
เย่เฉินรู้ว่าเย่เทียนก็โดนเย่เซวียนหลอกเหมือนกันกับเขา
เย่เทียนชนแก้วเหล้ากับเย่เฉินก่อนจะยกดื่มจนหมด ชี้ไปที่ซูมู่ชิงที่ที่กำลังร้องเพลงแล้วกล่าวกับเย่เฉิน
“มู่ชิงเป็นผู้หญิงที่ดี หน้าตาก็สะสวย ร้องเพลงก็เพราะดี โดยเฉพาะจิตใจที่รักคุณแน่วแน่ นายต้องทะนุถนอมดูแลหล่อนให้ดีๆ รู้ไหม”
เย่เฉินพยักหน้า “ครับ”
ซูมู่ชิงร้องเพลงติดต่อกันสองเพลงแต่ว่าหล่อนก็รู้สึกไม่สบายตัวอน่างรวดเร็ว อยากจะอาเจียน เย่เฉินจึงพาหล่อนไปที่ห้องน้ำจากนั้นก็พาหญิงสาวกลับไปพักผ่อนที่ห้อง
ในห้องอาหาร เย่ฉงไห่ก็ชันตัวลุกขึ้นแล้วเดินออกไป ส่วนเย่เทียนและภรรยาก็แยกย้ายกลับไปพักผ่อนที่ห้องเช่นกัน
และหลังจากที่อาของเย่เฉินลุกขึ้นเพื่อจะกลับห้องนั้นเอง จู่ๆ ซูหมิงเจ๋อก็เป็นฝ่ายผุดลุกยืนขึ้น ใบหน้าแดงน้อยๆ แล้วมีท่าทีตื่นเต้นเหมือนหนุ่มน้อยอย่างไรอย่างนั้น
“คุณหนูเย่…”
“คุณซู มีอะไรไหมคะ?”
“ไม่ได้พบกันมายี่สิบปี คุณยังคงสวยเหมือนเดิมเลย ผม…พอจะคุยกับคุณเป็นการส่วนตัวได้ไหมครับ?”
……
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ณ ห้องของเย่ฉงไห่
เย่เฉินเห็นซูมู่ชิงที่หลับไปแล้วก็เดินมายังห้องของคุณปู่
“คุณปู่”
เย่ฉงไห่ยังไม่หลับ เขาเดาได้ว่าหลานชายจะต้องหาหา
เย่เฉินถาม“คุณปู่ครับ คุณปู่คิดว่าซูมู่ชิงเป็นยังไงบ้าง?”
เย่ฉงไห่ยิ้มกว้าง “เป็นเด็กผู้หญิงที่ดีมากคนหนึ่งเลยล่ะ แต่ว่านะปู่รู้ว่าผู้หญิงที่หลานรักที่สุดในใจหลานไม่ใช่หล่อนแต่เป็นฉินหงเหยียนใช่ไหม?”
เย่เฉินถอนหายใจ “ครับ คุณปู่ ตอนนี้ผมอยากจะผ่านแบบทดสอบของตระกูลเราให้ได้ไวๆ จะได้รู้ว่าทำไมตระกูลเย่ของเราจะต้องไปจับพ่อของฉินหงเหยียนมาด้วย ผมอยากจะเจอหล่อนเร็วๆ ผมไม่มีหล่อนไม่ได้ ตอนแรกที่ผมแต่งงานกับซูมู่ชิงก็เพื่อสืบข่าวของฉินหงเหยียนด้วยซ้ำไปครับ!”
เย่เฉินยอมรับว่าตนเองรักซูมู่ชิง แต่ว่าคนที่ตราตรึงอยู่ในใจเขาก็คือฉินหงเหยียน!
ในวันที่เขาตกต่ำอย่างถึงที่สุดมีฉินหงเหยียนคอยเดินเคียงข้างเขา!
เย่เฉินถาม “คุณปู่ครับ ผมเพิ่งผ่านการทดสอบในด่านธุรกิจ ยังมีการทดสอบอื่นอีกไหมครับ?”
เย่ฉงไห่กล่าว “หลานเอ้ย หลานเพิ่งจะกลับบ้าน เรื่องทดสอบเดี๋ยวไว้ค่อยบอกหลานอีกที ช่วงนี้หลานพาซูมู่ชิงเที่ยว อยู่กับแม่ ปู่กลัวว่าาเดี๋ยวพอรู้ว่าแบบทดสอบคืออะไรพรุ่งนี้หลานก็จะเผ่นแน่บไปแล้ว”
เย่เฉินพยักหน้ารับ “ครับ งั้นคุณปู่รีบผักพ่อนนะครับ ผมกลับห้องก่อน”
……
เช้าตรู่วันต่อมา ซูมู่ชิงเริ่มได้สติจากฤทธิ์สุราเมื่อคืน
เย่เฉินเองก็ตื่นแต่เช้า เขาหันยิ้มขณะมองหน้าภรรยา “`คุณนักร้องฟื้นแล้วเหรอครับ?”
ซูมู่ชิงนวดดวงตาความสงสัยฉายชัดเต็มไปหน้า “หา? ใครคือคุณนักร้องคะ?”
เย่เฉินกล่าว “คุณไงครับ ที่จริงแล้วคุณร้องเพลงเพราะขนาดนี้เลยนะเนี่ย”
ซูมู่ชิงตกใจ “เมื่อวานฉันร้องเพลงเลยเหรอคะ?”
ซูมู่ชิงดื่มหนักแน่ๆ เพราะเจ้าหล่อนลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานไปจนหมด
เย่เฉินกล่าวพลางระบายยิ้ม “ร้องสิครับ คุณร้องเพลง ‘วิหคกับจั๊กจั่น’ แถมยังร้องเพลงเกาหลีเพลง When we disco ด้วย ทั้งร้องทั้งเต้น คุณยังลากให้คุณปู่ผมเต้นด้วยอยู่เลย มีทั้งเต้นเปลื้องผ้าทั้งเต้น pole dance ที่รัก คิดไม่ถึงเลยนะครับว่าคุณตะมีด้านที่ร้อนแรงแบบนี้ด้วย!”
ซูมู่ชิงเองยืนตัวแข็ง ไม่รู้ว่าเย่เฉินพูดจริงหรือล้อเล่นกันแน่
หล่อนรีบร้อนมุดตัวเข้าไปในผ้าห่ม แล้วกล้าสู้หน้าใคร “โอ้ย! ฉันขายขี้หน้าจัง ฉันอยากฆ่าตัวตาย ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วค่ะ ฉันไม่มีหน้าไปเจอคนในบ้านคุณอีกแล้ว!”
ซูมู่ชิงเป็นลูกคุณหนูที่สำรวมอย่างมาก คิดไม่ถึงว่ามาบ้านสามีเป็นครั้งแรกจะทำเรื่องงามหน้าแบบนี้ หล่อนเกิดอยากตายขึ้นมาจริงๆ แล้ว
เย่เฉินยิ้มพลางปลอบหล่อน “เด็กโง่ ผมล้อเล่น คุณแค่ร้องเพลงไปสองเพลงเท่านั้นเอง ไม่ได้เต้น แต่คุณร้องเพลงเพราะมาก ผมอัดคลิปไว้ด้วยนะ อยาดูไหมครับ?”
“ไม่เอาค่ะ ไม่อยากดู” ซูมู่ชิงที่ซ่อนตัวอยู่ในผ้าห่มกรีดร้อง
เย่เฉินส่ายหน้า เขารู้ว่าหญิงสาวไม่มีทางกล้าออกมาพบหน้าใคร
จนถึงเวลาอาหารเที่ยง หญิงสาวถึงยอมปรากฏกายขึ้น ด้วยท่าทีเรียบร้อย แถมไม่ยอมแตะเหล้าสักหยด
ตอนบ่ายเย่เฉินจึงพาหญิงสาวไปเดินเล่นในปราสาท
ตอนที่ทั้งสองคนกำลังเดินเล่นอยู่ในปราสาทชมสวน โทรศัพท์ของเย่เฉินก็ดังขึ้น
“หวังเจียเหยาเหรอ?”
เย่เฉินปรายตามองจอแล้วพบว่าสายโทรเข้ามาคือหวังเจียเหยา
เย่เฉินไม่อยากจะอารมณ์เสียเพราะหวังเจียเหยาเลยไม่รับสาย
แต่อีกฝ่ายกลับกดโทรหาไม่หยุด
เย่เฉินเองก็จนปัญญาจนต้องกดรับสาย
“มีอะไร?” เย่เฉินถามเสียงเย็นชา
หวังเจียเหยากล่าว “เย่เฉิน บ้านนายอยู่ไหน?”
เย่เฉิน “ถามทำไม?”
หวังเจียเหยา “ฉันมาอังกฤษ ตอนนี้อยู่ที่จัตุรัสทราฟัลการ์ ฉันอยากไปบ้านนาย มารับหน่อยสิได้ไหม?”
เย่เฉินพูดไม่ออก คิดไม่ถึงว่าหวังเจียเหยาจะดอดมาอังกฤษ!
ตอนนี้หล่อนก็ไม่ใช่ภรรยาของเขา หล่อนมาที่นี่ทำไม!
เย่เฉินตอบกลับ “คุณฝันหวานอะไรเนี่ย หวังเจียเหยา? ทำไมผมต้องพาคุณมาที่บ้านผมด้วย? คุณช่วยเข้าใจหน่อยนะว่าคุณไม่ใช่ภรรยาของผม! เราหย่ากันแล้ว!”
เย่เฉินเคยรับปากหญิงสาวว่าตอนมาที่ประเทศอังกฤษแล้วจะพาหล่อนมาที่ปราสาทเพื่อมาพบคุณปู่ก็จริง
แต่นั่นเป็นตอนที่เขายังรักเจ้าหล่อนอยู่
ตอนนี้เขาได้รู้จักกับฉินหงเหยียนและซูมู่ชิง ทำให้ความรักที่เขามีต่อหวังเจียเหยาสลายหายไปเป็นผุยผงไปแล้ว!
หวังเจียเหยากล่าว “สรุคือฉันจะไป! นายไม่มารับฉันก็จะรอนายอยู่ที่นี่! จะไม่ไปไหนทั้งนั้น!”
เย่เฉินหัวเราะ “ตามใจเลย อยากรอนานแค่ไหนก็เชิญ!”
หวังเจียเหยากล่าว “ฉันไม่ได้มาคนเดียว! ฉันพาลูกของเรามาด้วย ลูกของเราอยู่ข้างๆ เนี่ย นายไม่เป็นห่วงฉัน ก็คงจะเป็นห่วงเลือดเนื้อเชื้อไขตัวเองบ้างล่ะมั้ง?”
เย่เฉินหัวเสีย “นี่ลูกยังเด็กขนาดนี้ คุณไม่อยู่บ้านเลี้ยงลูกยังจะมีหน้าพาเขามาต่างประเทศอีก!”
หวังเจียเหยากล่าว “ฉันเอาลูกมาด้วยแล้ว ฉันอยากเจอคุณปู่ของนาย นายรีบมารับฉันเลยเร็วๆ”
และในตอนนี้เอง ซูมู่ชิงที่สวมกระโปรงลายๆ เห็นสามีหัวเสียเลยถามเสียงแผ่ว “ที่รัก คุณเป็นอะไรคะ?”
เย่เฉินเอามือปิดไมค์แล้วกล่าวกับซูมู่ชิง “หวังเจียเหยาครับ หล่อนพาลูกมาที่นี่”
“คะ?” ซูมู่ชิงแปลใจ
เย่เฉินกล่าว “แบบนี้ก็ดี เดิมที่ตระกูลเย่ก็กะจะไปรับตัวเด็กมาพอดี คุณสบายใจเถอะนะครับ ผมจะไม่ให้หล่อนมาสร้างความวุ่นวายในชีวิตเราสองคนเด็ดขาด”
พอกล่าวกับซูมู่ชิงจบ เย่เฉินก็กล่าวกับหวังเจียเหยาที่อยู่ปลายสาย “ก็ได้ คุณรออยู่ที่นั่นนะ เดี๋ยวผมส่งคนไปรับ”
หวังเจียเหยาลิงโลด “เย่เฉิน ฉันอยากให้นายเอาราชรถทองคำที่นายกับซูมู่ชิงนั่งเมื่อวานมารับฉัน ฉันอยากนั่งรถม้าทองคำคันนั้น!”