เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 519 เย่เทียนช่วยรักษาโรคให้ซูมู่ชิง

ตอนที่ 519 เย่เทียนช่วยรักษาโรคให้ซูมู่ชิง!

ซูมู่ชิงพินิจมองเขามากกว่าเดิม

ซูมู่ชิงกล่าวพลางระบายยิ้ม “ขอบคุณคุณอาที่ชมนะคะ”

ทว่าตอนนี้ฮั่วอิงเหลียงกลับโบกมือข้างขวาที่กำลังถือซิการ์ของเขาแล้วกล่าว “นี่ ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก ฉันเนี่ยนะ เห็นอะไรก็พูดแบบนั้น พูดจาปลอมๆ ไม่เป็นหรอก ฉันชมว่าเธอสวยก็เพราะรู้สึกว่าเธอสวยจริงๆ ฉันว่าแล้วภรรยาของคุณชายตระกูลเย่เนี่ยสวยไม่แพ้กันเลย”

คำพูดของฮั่วอิงเหลียงทำให้ซูมู่ชิงทำหน้าไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะตอบอะไรดี

ตอนที่ซูมู่ชิงอยู่เมือหลวงนั้นไปไหนมาไหนกับคนในบ้าน เจอคนในสังคมชั้นสูงมาไม่น้อย หรือคนที่เป็นผู้นำในสังคมด้วยซ้ำ

แต่ไม่เคยเจอคนแบบฮั่วอิงเหลียง

เย่เทียนยิ้มหันไปกล่าวกับซูมู่ชิง “อังเคิลเป็นตัวของตัวเอง คุณไม่ต้องคิดมาก”

ฮั่วอิงเหลียงมองซูมู่ชิงแล้วกล่าวต่อ “ฉันเห็นสีหน้าเธอไม่ค่อยดีนะเหมือนว่าจะมีเรื่องในใจ แม่หนูโลกนี้ Easy come Easy go มีความสุขกับปัจจุบันถึงจะเป็นสิ่งสำคัญ ทำไมต้องกงัวลกับเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้นด้วยล่ะ?”

ซูมู่ชิงตกใจเล็กน้อย ฮั่วอิงเหลียงเหมือนจะมีวิชาอ่านใจ เจอหน้ากันครั้งแรกไม่ถึงหนึ่งนาทีก็เดาออกว่าซูมู่ชิงมีเรื่องในใจ

ทั้งยังเป็นเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้นด้วย

ซูมู่ชิงในตอนนี้กำลังกังวลเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่เย่เฉินเจอหน้าฉินหงเหยียนแล้ว

ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนที่รู้ว่าสามีของตนเองจะกลับไปเจอภรรยาเก่า จะให้ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ยังไง

ฮั่วอิงเหลียงหัวเราะร่วน “คิดว่าฉันเก่งเรื่องอ่านใจคนล่ะสิใช่ไหม? อ่านใจเธอออกล่ะสิ? ฉันองก็ไม่ถือว่าเก่งมาก เดี๋ยวจะแนะนำจิตแพทย์คนที่เก่งที่สุดในโลกให้เธอได้นะ แล้วยังเป็นเภสัชกรที่เก่งที่สุดในโลก ลูกสาวของฉันเอง เฮเลน”

ซูมู่ชิงถึงได้หันมองผู้หญิงหน้าตาธรรมดาแต่มีมาดอย่างมาก

“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเฮเลน ดีใจที่ได้รู้จักคุณนะคะ” อีกฝ่ายยื่นมือมาจับมือซูมู่ชิง

ซูมู่ชิงเองก็กล่าว “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อซูมู่ชิง คุณเรียกฉันว่าซินดี้ก็ได้ค่ะ”

หล่อนรู้ว่าผู้หญิงในประเทศแถบนี้ ถนัดเรียกชื่อภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงสาวๆ ไม่พูดภาษาอังกฤษกันด้วยซ้ำ

ฮั่วอิงเหลียงหันมองซูมู่ชิงแล้วถาม “จริงสิ ฉันได้ยินมาว่าเธอมีโรคประหลาด ยอมให้เย่เฉินแตะต้องได้เพียงคนเดียว ไม่สามารถมีอะไรกับผู้ชายคนอื่นจริงเหรอ?”

ซูมู่ชิงคิดไม่ถึงว่าแขกที่มาบ้านผู้นี้พอเจอหน้ากันก็ถามคำถามส่วนตัวทันที

แต่ว่าคนที่สามารถทำให้เย่เทียนเรียกคุณอาอย่างนับถือได้ แถมยังเคารพนบนอบ น่าจะเป็นเพื่อนที่สนิทของที่บ้าน

ซูมู่ชิงตอบทันที “ใช่ค่ะ”

ฮั่วอิงเหลียงหัวเราะร่วน “ฉันก็ว่าในสามคนพี่น้องเนี่ยเย่เฉินมันโชคดีที่สุดเลย! ได้เมียมาคนแถมยังภักดีแต่กับเขา ไม่สามารถจะนอกใจได้ตลอดไป ฮ่าๆ.. ซินดี้โรคนี้ของเธอไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็อยากให้เมียตัวเองเป็น”

และในตอนนี้เองลูกสาวของฮั่วอิงเหลียงก็กล่าวด้วยท่าทีเคร่งเครียด “คุณนายเย่ ฉันวิจัยโรคต่างๆ ในโลกมาค่ะ ฉันสนใจโรคของคุณมาก ถ้าคุณยินดีฉันหวังว่าจะได้ช่วยคุณรักษาโรคนี้ให้หาย ”

รักษาโรคเหรอ?

ซูมู่ชิงชะงักไป หล่อนเองก็ไม่เคยคิดว่าจะรักษาโรคนี้

ฮั่วอิงเหลียงอัดซิการ์เข้าปอด หัวเราะเจ้าเล่ห์ “เฮเลน เธอนี่ไม่รู้อะไรเลยนะ โรคนี้ดีจะตายไม่ใช่หรือไง? เย่เฉินเองก็ไม่ต้องกลัวว่าภรรยาจะนอกใจ ไปไหนก็สบายใจ เธอรักษาโรคแม่หนูนี่หายแล้ว ระวังเย่เฉินจะมาคิดบัญชีกับเธอนะ”

เฮเลนกล่าว “คุณนายเย่คะ ที่จริงฉันเคยได้ยินเรื่องคุณมาบ้าง การฝังจิตสำนึกเป็นเรื่องที่อันตราย หมอคนชาติเดียวกับคุณคนนั้นเห็นคุณเป็นหนูทดลองทั้งที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน จนเกือบทำร้ายคุณ เพื่อสุจภาพจิตใตของคุณ ฉันขอแนะนำให้คุณทำการรักษาแล้วกลับมาเป็นผู้หญิงปกติค่ะ”

และในเวลานี้เองเย่เทียนก็กล่าวว่า “จริงด้วย เธอรักน้องสามขนาดนั้นต่อให้ไม่ป่วย ก็ไม่มีทางจะทำอะไรกับคนอื่นได้ เราก็รู้ว่าเธอไม่มีทางทรยศเขา ที่รักษาหายคือโรคแต่จะส่งผลกระทบกับสุขภาพจิตของเธอ”

ซูมู่ชิงไม่รู้จะตอบอีกฝ่ายอย่างไรดี พ่อลูกสองคนนี้เหมือนมาเพื่อรักษาโรคให้เธอโดยเฉพาะ

ซูมู่ชิงจึงกล่าวว่า “คุณหนูฮั่วคะ ขอบคุณในน้ำใจนะคะ โรคของฉันมันรักษาหายได้ยากค่ะ สามีของฉันยึดครอพื้นที่ในในของฉันแล้วค่ะ…ก่อนนี้หมอเคยลองมาก่อน แต่ก็ล้มเหลว ฉันไม่เปลืองเวลาคุณดีกว่าค่ะ”

ฮั่วอิงเหลียงระบายยิ้มออกมา “หนูน้อย เธอจะเปรียบลูกสาวของฉันกับหมอในประเทศเธอได้ยังไง นี่มันเป็นการดูถูกลูกสาวฉันชัดๆ เลย ฉันต้องบอกเธอตรงนี้เลยนะว่า เธอไม่ได้รู้เรื่องหมอชั้นยอดในโลกนี้เลย!”

เฮเลนเองก็กล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “คุณนายเย่โรคนี้ของคุณ ไม่ใช่อะไร”

ซูมู่ชิงประหลาดใจจริงๆ ทำไมสองคนพ่อลูกถึงได้มีความมั่นใจขนาดนี้เหรอ?

คุณหมอกัวหมิงเยว่เองก็ทำวิจัยร่วมกับนานาชาติ ถือว่าเป็นหมอชื่อดังระดับโลก

แต่ทำไมพอเทียบกับสองพ่อลูกตระกูลฮั่วนี่กลับดูเหมือนไม่เก่งไปเสียได้นะ?

ซูมู่ชิงคุร่นคิดแล้วปฏิเสธอีกครั้ง “ขอโทษด้วยนะคะ ฉันรู้สึกเลยว่าตอนนี้สุขภาพฉันดีมากแล้ว บางทีพวกคุณอาจจะคิดว่าฉันไม่สบาย แต่ฉันชอบนะคะสภาวะที่ชอบเขาได้แค่นเดียวแบบนี้”

เห็นซูมู่ชิงแน่วแน่แบบนี้ ชายสูงวัยกว่าก็ไม่รู้จะพูดอะไรอีกเขาลุกขึ้นแล้วกล่าว “วันนี้เดวิดไม่อยู่บ้านเหรอเนี่ย ไปจิบชากับควีนหรือเปล่า? เฮเลนไว้เรามาใหม่เถอะ!”

เดวิดคือชื่อภาษาอังกฤษของเย่ฉงไห่ ถึงแม้ว่าฮั่วอิงเหลียงจะอายุน้อยกว่าเย่ฉงไห่ไม่หน่อยแต่ก็เรียกชื่อภาษาอังกฤษเขาตรงๆ

“อังเคิล เดี๋ยวผมไปส่ง”

เย่เทียนกับซูมู่ชิงพร้อมใจกันไปส่งสองพ่อลูก เมื่อกลับเข้ามาในปราสาทแล้ว ท่าทีของเย่เทียนที่มีต่อซูมู่ชิงก็เปลี่ยนไป

เย่เทียนกล่าวว่า “น้องสะใภ้ เฮเลนเป็นหมอที่เก่งที่สุดในโลกเลยนะ ยาช่วยชีวิตบางตัวที่คนในบ้านเราพกติดตัวก็มาจากหล่อน คนที่ได้รับการรักษาจากหล่อน ทั้งโลกใบนี้เกรงว่าคนยิ่งใหญ่ในโลกใบนี้ยังไม่มีสิทธิ์เลย เธอไม่ควรพลาดโอกาดีๆ แบบนี้นะ!”

ซูมู่ชิงถามกลับเขาด้วยท่าทีห่างเหินทันที “พี่ใหญ่ ทำไมถึงได้อยากให้ฉันรักษาโรคขนาดนั้นล่ะคะ? คุณเป็นพี่ชายของเย่เฉินนะคะ หวังเจียเหยาอดีตภรรยาของเย่เฉินทั้งนอกใจ มีชู้และเคยทรยศเขา จนทำให้เย่เฉินเสียใจมาก คุณก็รู้เรื่องนี้ดีนี่คะ ถ้าฉันหายแล้ว หรือคุณไม่กังวลว่าฉันจะนอกใจเย่เฉินแล้วทำให้เขาเสียใจอีกเหรอคะ?”

เย่เทียนโดนถามจนพูดไม่ออก ชะงักไปเล็กน้อยแล้วถาม “มู่ชิง เธอเป็นผู้หญิงที่ดี ฉันย่อมเชื่อว่าเธอไม่ทำแบบนี้หรอก! เธอจะทำร้ายน้องสามลงได้ยังไงล่ะ? ฉันแค่เป็นห่วงสุขภาพจิตของเธอต่างหาก! หมอคนนั้นใช้วิธีฝังจิตสำนึกอะไรไม่รู้ให้เธอเห็นน้องสามเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโลก คนที่เธอรักคือผู้ชายในจินตนาการ แต่คนเรามันแก่ได้ ย่ำแย่ลงได้ แล้วถ้าเกิดวันไหนน้องสามแย่ขึ้นมา…”

และในเวลานี้เองซูมู่ชิงก็ชิงพูด “ฉันเชื่อว่าเย่เฉินจะเป็นคนเก่งแบบนี้ไปตลอดชีวิตค่ะ เขาจะเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบที่สุดในชีวิตฉัน!”